บทที่ 4
บ้านใหม่กับยัยปีศาจ
มื้อเช้าของวันนี้ดูท่าจะถูกปากพ่อของลูกเป็นพิเศษ คุณแม่ลูกสองเลยได้ใจ ตักโจ๊กเพิ่มให้เขาเป็นรอบที่สาม
“โอ...แองจี้ ฉันยังไม่อยากอ้วนเป็นหมูนะ”
โจนาธานโอดครวญท่ามกลางเสียงหัวเราะของเจสสิก้าและเจค็อบ แต่กระนั้นก็ยังตักโจ๊กเนื้อเนียนเข้าปากคำแล้วคำเล่า
“อ้วนก็ดีสิจะได้ไม่มีใครมาแย่ง”
นิลอรพึมพำเบาๆ ทว่าสามีคนดีก็ได้ยิน เขาอมยิ้มอย่างสุขใจ จนใบหน้าแลเห็นริ้วรอยชัดเจนตรงหางตา
“ยิ้มอะไรยะ ดูสิหนังเหี่ยวหมดแล้วตาแก่เอ๊ย”
พอโดนว่า สามีเลยจำต้องอิ่มไปโดยปริยาย ว่าอะไรก็พอจะรับได้ แต่พอว่าเรื่องชราแล้วละก็ มันจะเจ็บจี๊ดๆ ในใจจนกระเดือกข้าวไม่ลง
“แด็ดดีแก่มากๆ เลยหรือเจค เจสซี่?”
เขาถามลูกๆ ขณะที่นิลอรเก็บเอาชามที่พ่อกับลูกกินเสร็จ ไปใส่อ่างล้าง และพอสังเกตเห็นเปียคู่ที่คนเป็นเมียถักมา เขาก็อยากจะฆ่าตัวตายนัก ผมเปียคู่ของหล่อนช่วยทำให้ใบหน้าหล่อนอ่อนวัยลงไปอีกหลายปี แล้วดูหน้าลูกแต่ละคนสิ ไม่มีคนไหนผิวสีน้ำผึ้งเหมือนนิลอรสักคน เจคน้อยก็ผิวขาวตาคมผมดำราวกับลูกครึ่งฝรั่งกับแขกเสียอย่างนั้น ส่วนเจสสิก้าก็ฝรั่งจ๋าเต็มตัว ผมบลอนด์เหมือนมารดาเขาไปอีก เฮ้อ...ลูกหนอลูก เกิดมาเพื่อจะเป็นลูกเขาโดยแท้ ไม่มีส่วนไหนเหมือนแม่สักนิดเดียว
“ม่ายยย...” เจสสิก้าคนสวยรีบปฏิเสธ แม่หนูรีบลงจากเก้าอี้ตัวเอง เพื่อจะได้ปีนไปนั่งบนตักอุ่นๆ ของบิดา
“แด็ดดีรักเจสซี่ที่สุดเลย” โจนาธานหยอดคำหวาน ขณะที่เจ้าลูกชายส่ายหน้าดิก
“แด็ดดีลู้ปะว่าเจสเก่งเลื่องอาลายที่ฉุด”
เจค็อบเปรยออกไปแล้วโมโหตัวเองที่ออกเสียงไม่ชัดเสียที เขายังเด็กเกินไป หรือเป็นเพราะฟันคู่หน้าสองซี่ที่หลุดออกไปก่อนหน้านี้นะ
“หืม...คนสวยของแด็ดดีเก่งเรื่องอะไร บอกแด็ดดีเร็วเข้า” โจนาธานได้ทีอ้อนคนสวยที่นั่งอยู่บนตัก แต่คนสวยไม่ตอบ กลับส่งยิ้มอายๆ มาให้
“เจสเก่งเลื่องโกหก ฮ่าๆๆ”
เจ้าเจคตัวแสบหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นหน้าจ๋อยๆ ของผู้เป็นบิดา และก่อนที่บิดาจะน้อยใจมากไปกว่านี้ เขาก็รีบลงจากเก้าอี้ของตัวเองเพื่อปีนขึ้นไปนั่งบนตักของบิดาอีกคน
“โอ๊ย! ม่ายเอา เจสจานั่งตักแด็ดดีเจคขึ้นมาไม่ได้” หนูน้อยผู้หวงตักพ่อ ส่งเสียงโอดโอยเมื่อโดนเบียดจากแฝดผู้พี่
“ไม่เป็นไรจ้าคนเก่ง เป็นพี่น้องกันต้องแบ่งปันกันนะครับลูก”
โจนาธานสั่งสอนหนูน้อยทั้งสองที่น้ำหนักตัวไม่ได้น้อยเลยสักนิด
“ค้าบ / ค่า”
สองแฝดขานรับพร้อมกันแล้วหันมาโอบเอวพ่อไว้คนละข้าง
นิลอรที่เพิ่งล้างชามเสร็จเดินออกมาจากในครัว และภาพที่เห็นก็ทำเอากระบอกตาร้อนผ่าว มิน่าเล่าโบราณถึงบอกว่าเลือดนั้นข้นกว่าน้ำ ขนาดลูกทั้งสองไม่เคยพบเจอหน้าบิดา แต่กลับเปิดใจรับบุรุษผู้นี้เข้ามาในหัวใจอย่างง่ายดาย ช่างน่าอัศจรรย์ใจนัก แล้วถ้าเมื่อวานเธอไม่ได้บอกเขาล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น พ่อลูกคงพบหน้ากัน พูดคุยกัน แต่คงไม่ได้โอบกอด ส่งสายใยแห่งความรักและความอบอุ่นผ่านอ้อมแขนของพวกเขา เธอคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น เก็บลูกไว้กับตัว
“โอ...ตายแล้ว เจคกับเจสนั่งตักแด็ดดีอย่างนี้ แล้วแฟนแด็ดดีจะนั่งตรงไหนน้า”
หนุ่มใหญ่พูดพร้อมกับส่งสายตาทะเล้นมาให้นิลอร จนคุณแม่ลูกสองต้องส่ายหน้าระอา อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ยังมาทำตาหวานแพรวพราวอยู่ได้ น่าหมั่นไส้
“มามี้! เจสจานั่งตักมามี้” เจสสิก้าดิ้นลงจากตักพ่อ เส้นผมสีบลอนด์ทองสยายเต็มแผ่นหลังน้อยๆ และสะบัดพลิ้วไปตามแรงก้าวเดิน
“ไม่เอาค่ะ เจสซี่เพิ่งกินข้าวเสร็จ ตัวหนักเป็นแม่หมู มามี้ไม่ให้นั่งตักหรอก” นิลอรทำหน้ายู่พลางเดินไปเปิดสมาร์ตทีวีแล้วนั่งลงบนผืนพรมด้านหน้าแทนที่จะนั่งบนโซฟา เธอเปิดการ์ตูนใน YouTube ให้เด็กๆ ดูฆ่าเวลา กะว่าอีกสักชั่วโมงค่อยออกไปทำธุระนอกบ้าน ไปกันทั้งหมดนี่แหละ ไหนๆ เด็กๆ ก็ไปโรงเรียนไม่ทันแล้ว มันสายมากแล้วจริงๆ
เสียงเพลงก่อนเข้าการ์ตูนเรื่องโปรดของเจค็อบ ดังออกจากจอโทรทัศน์ และเพียงไม่กี่วินาที เจ้าตัวและคู่แฝดก็มาเสนอหน้าอยู่หน้าจอเรียบร้อย
“เจคเอาไอ้เข้สีเขียวห้ามแย่งน้า!” เจ้าหนูรีบบอกขณะลุกไปหยิบหมอนรูปจระเข้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจสสิก้าลุกไปหยิบเจ้าหมอนรูปแมวชมพูของตัวเอง
นิลอรยิ้มให้สองแสบที่กำลังดูการ์ตูนเรื่องโปรด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เคลียร์รายการธุระปะปังที่ต้องไปทำในวันนี้เลย เธอลุกไปหยิบสมุดโน้ตออกจากกระเป๋าเพื่อดูว่าเมื่อวานลืมทำอะไรหรือเปล่า และนั่นไง บรรทัดเกือบสุดท้าย ค่าน้ำค่าไฟยังไม่ได้จ่ายจริงๆ ด้วย
คุณแม่ลูกสองบ่นพึมพำให้ตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าจากสมุดโน้ตเพื่อมองคนที่กำลังจ้องเธออยู่
“มองอะไรลุง” แกล้งถามแล้วยิ้มสวยส่งให้ โจนาธานหน้าบึ้งอีกระลอก ถึงแม้ว่าคำว่า ‘ลุง’ มันจะดูแก่น้อยกว่าคำว่า ‘ตา’ แต่กระนั้นมันก็ไม่พ้นคำว่าแก่อยู่ดี
“ฉันจะไปฉีดโบท็อกซ์!” หนุ่มใหญ่ว่าอย่างไม่อาย
“โบท็อกซ์เลยเหรอ อย่าเลยน่า...เก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอมลูกๆ เถอะ”