...สองชั่วโมงต่อมา
ตุ๊กตาหลายตัวที่นิลอรวางพิงไว้ที่หัวเตียง บัดนี้หล่นลงมากองบนพื้นห้อง เสื้อผ้าอาภรณ์ของคนทั้งสองตกเรี่ยราดอยู่ข้างเตียงเช่นกัน ตอนนี้แขนแกร่งกำยำของบุรุษผู้รักษาสุขภาพดีอยู่เสมอ วางพาดอยู่กับเอวคอดของคุณแม่ลูกสอง ที่เขาแน่ใจแล้วว่าหล่อนคนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นภรรยาของเขาจนวันสุดท้ายที่มีลมหายใจ
“แองจี้...”
“คะ” เธอขานรับเบาๆ ขณะที่มือลูบไล้ไปบนแผงอกหนั่นแน่นซึ่งมีไรขนอ่อนๆ ขึ้นอยู่ประปราย วันนี้ตาแก่โจนาธานได้เติมเต็มเรื่องที่เธอขาดหายมากว่าสี่ปี มาให้จนล้น ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าเขาจะแข็งแรงขนาดนี้ทั้งที่อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว
“มีความสุขหรือเปล่า” เขาถามพลางเชยคางมนขึ้นมาแล้วประกบเรียวปากหยักหนาอันรุ่มร้อนลงไปอย่างมิอาจหักห้าม กี่ปี่ๆ นิลอรก็ยังดึงดูดเขาให้เข้าหาเจ้าหล่อนได้อยู่เสมอ และดูเหมือนว่าแรงดึงดูดดังกล่าวจะมากขึ้นตามเวลาที่หมุนผ่านเสียด้วย
“ค่ะ...มากๆ เลย...คุณ...เก่งมาก” นิลอรตอบเขินๆ เธอกับเขามักมีช่วงเวลาอ่อนหวานร่วมกันเสมอเวลาที่อยู่บนเตียง และมันก็ถูกทำลายลงเพราะผู้หญิงที่ชื่อ เอลิซ เกรย์
“คุณ...เลิกกับภรรยาแน่แล้วนะคะ” เธอถามต่ออย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก
“แน่นอนที่รัก ฉันไม่เคยมีใครตั้งแต่ได้เจอเธอ คนสวย..”
เขาสารภาพแล้วขบเม้มติ่งหูบอบบางของคุณแม่ลูกสองอย่างยั่วกิเลสในร่างอรชรให้ก่อเกิดอีกหน
“แล้ว...ทำไมเอลิซถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ฉันไม่ได้โกหกนะ เธอพูดจริงๆ ไม่งั้นฉันจะโกรธจนหนีคุณมาเหรอ”
โจนาธานกลับไปนอนหงายอย่างระอาในสิ่งที่ได้ฟัง เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว แต่ดูแม่ของลูกสิ รู้สึกว่าหล่อนจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะหาทางพิสูจน์ได้ว่าหล่อนพูดความจริง
“เอลิซไม่ใช่คนอย่างนั้นนะแองจี้ ฉันอยู่กับหล่อนตั้งหลายปีก่อนที่เราจะเลิกรากัน”
นิลอรผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมๆ กับโทสะที่เริ่มเดือดปุดๆ
“แล้วไงคะ คุณเลยเลือกที่จะเชื่อว่าฉันแต่งเรื่องมาโกหกคุณงั้นเหรอ ใช่สิ! ฉันมันแค่นางบำเรอนี่นา จะมีค่าอะไรให้คุณเชื่อใจล่ะ ฉันมันโง่จริงๆ ที่ได้แต่หวังว่าคุณจะตามหาฉันกับลูก แต่ฉันคิดผิด ขณะที่ฉันกำลังลำบากคุณคงมีความสุขอยู่กับการให้อดีตภรรยาปลอบใจละมั้ง” ประชดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ปีนลงจากเตียงในสภาพเปลือยล่อนจ้อน มิได้อนาทรร้อนใจต่อสายตาคมของเขาแม้แต่น้อย
“โธ่...แองจี้ ฉันไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจหรอกนะ แต่ฉันก็ไม่อยากโกหกเพราะตอนนั้นมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่สาบานให้ตายว่าฉันกับเอลิซจบลงไปแล้วจริงๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้เอลิซจะเป็นม่ายเพราะสามีเธอเสียไปแล้ว แต่ฉันก็ไม่มีวันกลับไปคืนดีกับเอลิซแน่นอน” โจนาธานอธิบาย
นิลอรเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่ข้างเตียง ก่อนจะส่งยิ้มเย้ยมาให้เขาอย่างไม่มีปกปิด ร่างสูงหนาที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตามเนื้อตัวมีรอยเล็บของเธอข่วนเต็มไปหมด แต่เชื่อไหมละว่าใบหน้านั้นกลับอิ่มเอิบด้วยความสุขจนน่าหมั่นไส้
“แต่ดูเหมือนว่าเอลิซจะไม่คิดอย่างนั้นน่ะสิ เจ้าหล่อนพร้อมที่จะกลับมาเป็นศรีภรรยาของคุณอยู่ทุกๆ วินาทีทีเดียว บางทีอาจจะตั้งแต่สามีหล่อนยังอยู่ก็ได้” นิลอรมั่นใจเหลือเกินในข้อนี้
“โอ...แองจี้ เธอพูดบ้าอะไรเนี่ย เลิกพูดจาอย่างนั้นเสียที ฉันไม่อยากเห็นเธอเป็นนางมารร้ายเที่ยวระรานใครไปทั่ว แม้แต่กับคนตายก็ไม่เว้น”
เขาว่าหล่อนอย่างเหลืออด บางทีความเป็นเด็กในตัวนิลอรก็น่าจับเจ้าหล่อนมาทำโทษด้วยการตีที่ก้นแรงๆ สักสองสามที
“ช่วยไม่ได้ในเมื่อฉันมันนางมารร้ายจริงๆ นี่ คุณเป็นคนพูดกรอกหูฉันเองนะ!” นิลอรถลึงตาใส่พ่อของลูกขณะประกาศประโยคที่เป็นเหมือนหลักฐานยืนยันออกไป เขาเป็นคนพูดเองนี่นาว่าเธอคือนางมารร้าย แล้วจะมาโอดโอยเอาอะไรมิทราบ
ครืดๆ ครืดๆ
เสียงโทรศัพท์ครางครืดๆ ดังแทรกการปะทะคารม ทำให้คนทั้งคู่ต้องหยุดสิ่งที่ทำอยู่แล้วแลหาต้นตอของเสียง และนิลอรก็คว้ากางเกงของเขาที่หล่นอยู่บนพื้นได้ก่อนที่เขาจะคว้ามันไป ในระหว่างนั้นโทรศัพท์เจ้ากรรมก็ยังส่งเสียงไม่หยุด
“ไม่ต้องเลยนะ! ฉันจะรับเอง” นิลอรชี้มือใส่สามีทางพฤตินัย ลางสังหรณ์บอกว่าคนที่โทรมาอาจจะเป็นเอลิซ และเธอขอฉะกับยัยปีศาจสักตั้งเถอะ โทษฐานบ่อนทำลายครอบครัวชาวบ้านได้อย่างหน้าด้านๆ
“อะแฮ่ม!” แม่สาวผิวสีน้ำผึ้งส่งเสียงกระแอมก่อนจะกดรับสาย ใช่แล้ว เป็น เอลิซ เกรย์ จริงๆ ที่โทรเข้ามา ยัยป้ามหาภัยตัวแสบ “สวัสดีค่ะ มิสซิสเกรย์” นิลอรทักทายเป็นภาษาอังกฤษช้าๆ ดูเหมือนว่าปลายสายจะประหลาดใจไม่น้อยเพราะเจ้าหล่อนบ่นพึมพำเชียวละว่าอาจต่อสายผิด
“คุณไม่ได้โทรผิดหรอก ถ้าคุณตั้งใจโทรหามิสเตอร์คิงส์ ตอนนี้เขา...ไปเข้าห้องน้ำค่ะ” นิลอรหรี่ตาลงอย่างเจ้าเล่ห์ขณะเอ่ยวาจาโป้ปดมดเท็จ เธอเดินมานั่งบนเตียงที่โจนาธานนั่งอยู่ เขายกมือขอยอมแพ้ตั้งแต่ที่เธอคว้าโทรศัพท์ได้ก่อนเขาแล้ว
‘เธอเป็นใคร คู่นอนคนใหม่ของคิงส์เหรอ’
คุณแม่ลูกสองส่งสายตาอาฆาตมาให้พ่อของลูกอีกครั้งหนึ่ง ยัยป้ามหาภัยบอกว่าคู่นอนคนใหม่ แสดงว่าตอนนี้เขามีคู่นอนคนเก่าไม่เว้นแต่ละวันสินะ
โจนาธานส่ายหน้าเอาตัวรอดไว้ก่อน ไม่ว่าเรื่องอะไรที่แองจี้ทำตานางสิงห์ใส่เขา เขาเดาไว้ก่อนว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดี และควรจะปฏิเสธไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
“เกรงว่าฉันจะไม่ใช่คู่นอนของเขานะ เพราะฉันเป็นแม่ของลูกเขาย่ะ!”
ตู๊ดดด!
ปลายสายชิ่งหนีไปเสียแล้ว นิลอรเบะปากใส่อย่างรังเกียจ ขณะที่โจนาธานปรบมือให้เปาะแปะอย่างเสียมิได้ แม่ตัวร้ายยังร้ายเสมอ ป่านนี้เอลิซคงประหลาดใจเป็นล้นพ้นกระมังที่ได้ยินเช่นนั้น
“หมดเรื่องแล้วใช่ไหมแองจี้ ฉันจะนอนแล้วนะ ฉันแก่แล้วและ...ฉันเพลีย...”
นิลอรอยากจับคนที่ไถลร่างไปซุกใต้ผ้านวมมาเขย่าให้หัวคลอนจริงๆ ตาแก่โจนาธานยังไม่ได้อาบน้ำอาบท่าเลยนะ
“นี่คุณ ลุกมาอาบน้ำเดี๋ยวนี้นะ!”
แล้วนิลอรก็ปราดเข้าไปยื้อยุดฉุดกระชากร่างคิงคองของสามีทางพฤตินัยออกมาจากกองผ้านวม แต่ไม่รู้ว่าดึงรั้งกันท่าไหน ไปๆ มาๆ แม่แองจี้น้อยของโจนาธานก็เข้าไปอยู่ใต้ผ้านวมอีกคน และบทเพลงสวาทที่ร้างราไปนานก็บรรเลงขึ้นอีกครั้งท่ามกลางหยาดพิรุณที่โปรยปรายอยู่นอกหน้าต่าง ชุ่มฉ่ำและสดชื่นสุดพรรณนา