EP 1/2 สุดแค้นแสนรัก

1202 Words
ร่างกำยำสูงใหญ่ย่อตัวลงไปเก็บกุญแจรถที่หล่นอยู่บนพื้น ก่อนจะลุกมาอุ้มร่างอรชรพาดบ่า เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้น แทบจะฆ่าหนุ่มใหญ่ให้ตายได้เลยทีเดียว เขารีบเดินไปเปิดประตูรถแล้วยัดหล่อนเข้าไปในนั้น ปิดล็อกเรียบร้อยไม่ปล่อยให้เจ้าของได้มีโอกาสหลบหนี “เวลาเล่นไล่จับของเราหมดแล้วแองจี้ ต่อไปนี้เธอต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอทำไว้กับฉัน ผู้หญิงร่าน!” ภายในรถยนต์ยี่ห้อหรูซึ่งตีตราความมั่งคั่งด้วยสัญลักษณ์รูปธนบัตรหลายสิบตั้งของธนาคารคิงส์กรุ๊ป ปรากฏร่างของหนุ่มใหญ่ผู้เป็นเจ้าของ นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ที่เบาะหลังของรถ ข้างๆ กันมีหญิงสาวหน้าคมผมดำนามว่านิลอรนั่งอยู่ด้วย “คุณจะพาฉันไปไหน?” เธอถามเสียงห้วนจัด กระถดกายไปติดประตูด้านหนึ่งของห้องโดยสาร ด้วยว่าไม่อยากใกล้ชิดคนที่นั่งข้างๆ เพราะมันจะทำให้ปวดแปลบที่ส่วนลึกของจิตใจ ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ลานจอดรถชั้นล่างสุดของอาคารคิงส์ทาวเวอร์ เขาขับรถเธอมาจอดที่นี่แล้วลากเธอมานั่งรถคันนี้ของเขา รถมีคนขับรถนั่งรอท่าอยู่ “อย่าถามมาก เธอมีหน้าที่นั่งเฉยๆ ก็พอ ชาร์ลส์ นายขับรถคันสีขาวนั่นกลับไปรอที่บ้านได้เลย ฉันมีธุระต่อกับผู้หญิงคนนี้” ตอนท้ายเขาสั่งความกับบุรุษที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยแล้วยื่นกุญแจรถของนิลอรให้ ชาร์ลส์ทำตามคำสั่งในทันที “คุณจะทำอะไรของคุณกันแน่ จะตามรังควานฉันไปถึงไหน เท่าที่ผ่านมามันยังไม่พอหรือยังไง!” “เธอพูดเรื่องอะไรของเธอ ที่ผ่านมาอะไร? ถ้าเรื่องความเจ็บปวดที่ผ่านมาละก็ ฉันขอล่ะ เพราะฉันต่างหากที่ต้องพูดคำนั้น” เขาเยาะเย้ยอยู่ในทีก่อนจะเปิดประตูรถเพื่อเปลี่ยนไปนั่งหลังพวงมาลัย “ทุเรศ! อย่ามาโยนความผิดให้ฉันนะ!” นิลอรปีนมานั่งข้างเบาะคนขับ เขาจะมาโยนความผิดในเรื่องนี้ให้เธองั้นเหรอ ทุเรศเกินไปแล้ว “นั่งเงียบๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้ปากเธอเงียบด้วยปากของฉัน หึๆๆ” โจนาธานสั่งพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะสตาร์ทเครื่องแล้วเคลื่อนรถออกนอกตัวอาคาร จุดหมายปลายทางในครั้งนี้ไม่ใช่บ้านของเขา แต่เป็นบ้านของหล่อน ในเมื่อโชคชะตานำพาให้เขามาเจอนิลอรอีกครั้ง เขาก็ยินดีที่จะรับเอาความโชคดีนั่นไว้ แล้วตอบแทนคนที่ก่อความทุกข์ใจให้เขาอย่างสาสม สี่ปีที่ไม่ได้พบพาน ไม่ได้ยินเสียง มันไม่ได้ทำให้นิลอรเปลี่ยนไปเลย หล่อนยังดื้อรั้นและหัวแข็งอยู่เช่นเดิม จะมีก็แต่รูปร่างที่อวบอิ่มขึ้นของหล่อนเท่านั้นที่มันฟ้องสายตาว่าเปลี่ยนไป...เปลี่ยนไปมากจริงๆ รถยนต์สมรรถนะสูงเคลื่อนฝ่าการจราจรอันแน่นขนัดด้วยความเชื่องช้า ตอนนี้นิลอรไม่ได้โกรธเขาเลยสักนิดเดียว เพราะนาฬิกาที่บอกเวลาว่าเกินสองทุ่มมาเล็กน้อยนั่น กำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า “คุณจะพาฉันไปไหนกันแน่!” เธอถามสารถีจำเป็นด้วยเสียงห้วนจัด เขาคงไม่บ้าจับเธอไปขังไว้กลางป่ากลางเขาเหมือนในละครหรอกนะ โจนาธานจำต้องละสายตาจากไฟท้ายของรถยนต์คันหน้า เพื่อหันมาตอบ ‘อดีตนางบำเรอ’ “ฉันก็จะพาเธอกลับสิงคโปร์น่ะสิ เธอต้องรับผิดชอบที่ทิ้งฉันไปด้วยการกลับไปทำลูกให้ฉัน!” เขาบอกเสียงดังฟังชัด นิลอรกัดฟันกรอดๆ นี่เขายังไม่ล้มเลิกความคิดสกปรกนี่อีกหรือ “ฉันเกลียดคุณ! คนสารเลว!” “นิลอร! หุบปากซะถ้ายังอยากกลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้า” คราวนี้นิลอรหุบปากฉับไม่ใช่เพราะเธอกลัว แต่เพราะเธอกำลังรอต่างหาก รอว่าเขาจะทำอย่างไร ถ้าไม่รู้ทางไปบ้านของเธอ “บ้านใหม่เธออยู่ไหน?” นิลอรคลี่ยิ้มอย่างคนรู้ทัน ก่อนจะตอบกลับแบบกวนๆ “อยู่บนดิน...” โจนาธานพยายามข่มอารมณ์โกรธที่ปะทุขึ้นทีละน้อย อยากจับนิลอรมาฟาดก้นแรงๆ ให้สมกับนิสัยของหล่อน “ฉันรู้แล้วว่าบ้านเธออยู่บนดิน แต่ที่ฉันถามก็เพราะว่าฉันอยากรู้ว่ามันไปทางไหน” สองมือที่กำพวงมาลัยชื้นเหงื่อไปหมดเพราะต้องรวบรวมพลังต่อสู้กับความร้อนด้วยเพลิงโทสะ และดูเหมือนว่าอดีตนางบำเรอจะเข้าใจ “ไปทางบริษัทจตุรศิลป์นั่นแหละ เลี้ยวขวาตรงซอยห้าก่อนถึงบริษัท บ้านฉันอยู่หลังที่สาม หน้าบ้านเป็นร้านกาแฟ” คราวนี้โจนาธานเลิกคิ้วสูง หล่อนเปิดร้านกาแฟอย่างนั้นหรือ เมื่อก่อนหล่อนทำงานเป็นเลขาฯ ในบริษัทจตุรศิลป์นี่นา แล้วทำไมถึงมาเปิดร้านกาแฟได้ล่ะ “เธอเปิดร้านกาแฟ?” เขาถามพลางหมุนพวงมาลัยเพื่อให้รถเคลื่อนไปตามท้องถนนอันแสนแออัด “อืม...ทำไม? คนจนอย่างฉันอยากเป็นเจ้าของกิจการบ้างไม่ได้เหรอ” นิลอรค่อนขอด สองมือยกกอดอกอย่างขัดใจ “ก็เปล่านี่ แค่สงสัยว่าทำไมเลขาฯ เก่งๆ อย่างเธอถึงได้มาเปิดร้านกาแฟ ไม่เห็นจะเข้าท่า” เขาแสดงความคิดเห็น สองมือและสองตายังจับจ้องอยู่กับท้องถนนเบื้องหน้า “ก็...เหตุการณ์มัน...พาไปละมั้ง” ท้ายประโยคสั่นเครือจนโจนาธานต้องหันมามองคนที่นั่งข้างๆ แล้ววินาทีที่นิลอรควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋า เขาก็ได้เห็นว่าหล่อนกำลังร้องไห้ “หึๆ ช่วยไม่ได้ เธออยากหนีไปทำไม” เขาวกเข้าเรื่องเดิมๆ พร้อมกับลอบมองคนที่กำลังใช้ผ้าผืนบางซับหยดน้ำตา แก้มบางช่างน่าจับน่าจูบนักแม้จะเปรอะเปื้อนด้วยหยาดน้ำตาก็ตาม “ฉันขอยืนยันว่าไม่ได้หนี ฉันอยู่รอคุณตามที่คุณบอก แต่พอครบกำหนดคุณกลับส่งคนมาบอกให้ฉันเก็บเสื้อผ้าออกจากคอนโดฯ ของคุณซะ! ถ้าคุณเป็นฉันคุณจะทำยังไง! ฉันถามหน่อยเถอะ!” นิลอรพรั่งพรูคำสารภาพออกมาพร้อมน้ำหูน้ำตา นาทีนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจะบอกความจริงทั้งหมดเพื่อที่เขาจะได้เลิกกล่าวหาว่าเธอเป็นคนผิดเสียที ***นิยายเป็นภาคต่อ ของนิยายเรื่อง นางบำเรอตีทะเบียน วางขาย EBOOK บน MEB แล้ว ราคา 299 บาท หนังสือตีพิมพ์ครั้งที่ 3 หมดแล้วค่ะ ไฟล์นิยายบน MEB หรือ เว็บขายอีบุ๊กอื่นๆ ยังไม่อัปเดตเวอร์ชันล่าสุด ที่นักอ่านได้อ่านในเว็บ รี้ด ดรีม เด็กดี ในช่วงมีนาคม 2567 เป็นต้นไป จะเป็นฉบับรีไรท์ล่าสุด เมื่อรีไรท์เสร็จ อัญจะอัปไฟล์ขึ้นเว็บอีบุ๊กต่างๆ อีกครั้งค่ะ ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการรีไรท์อีกรอบ การอัปรายตอนเลยออกจะช้าไปหน่อย ขออภัยล่วงหน้าค่ะ นิยายยาวมาก พยายามเกลาสำนวนให้มันกระชับขึ้นค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD