EP 7/7 รักสาม (สี่) เส้า

1134 Words
“นี่คุณ! คุณชาร์ลส์!” ร้องเรียกเสียงดังเพื่อให้ชายหนุ่มลืมตาตื่น แต่เขาก็ยังนอนเฉย แสดงว่าเขาหลับแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเธอจะได้ออกไปเอาผ้าเช็ดตัวได้ถนัดหน่อย เธอย่องออกมาหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่บนราวไม่ไกลนัก ก่อนจะเผ่นเข้าห้องน้ำอีกรอบเพื่อสวมชุดนอนที่ถอดออกก่อนอาบน้ำ หารู้ไม่ว่าคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง มองเห็นการกระทำของหญิงสาวแทบทุกฝีก้าว และแน่นอนว่าเขาจดจำร่างขาวโพลนของเจ้าหล่อนได้ทุกกระเบียดนิ้วทีเดียว “เฮ้ย! นี่คุณไม่ได้หลับเหรอ!?” ครูสาวโวยวายยกใหญ่ขณะเดินเร็วๆ ออกจากห้องน้ำ ไม่สนแล้วว่าชุดของตัวเองจะล่อแหลมแค่ไหน ขอแค่ให้ได้ทาน้ำผึ้งบนผื่นลมพิษนี่ก่อน ไม่อย่างนั้นคืนนี้ไม่ได้นอนแน่ๆ ชาร์ลส์เผลอสูดกลิ่นครีมอาบน้ำของอรุณฉัตรเข้าเต็มปอด ตอนนี้หล่อนนั่งอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่มือคว้าเท่านั้น ผิวหล่อนขาวเนียนแต่มีรอยผื่นแดงเห่อไปทั่วตัวจนน่ากลัว เขาลุกขึ้นนั่งหลังจากเอนร่างแผ่หลาเพื่อสงบอารมณ์อันพลุ่งพล่าน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ลดลงเลย ไอ้เจ้าความพลุ่งพล่านนี่เขารู้สึกว่ามันจะพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ยิ่งเจ้าหล่อนมานั่งไกลๆ ได้เห็นด้วยตา ได้ดมกลิ่นหอมๆ จะเหลือก็เพียงแค่สัมผัสเท่านั้น “ฉันมั่นใจว่าฉันไม่ได้หลับนะ เธอเข้าใจผิดไปเอง” เขาว่าแล้วเบะปากนิดหนึ่งอย่างเห็นเป็นเรื่องสุดวิสัย ก่อนจะถามต่อด้วยความสงสัย “เธอทำอะไร” หญิงสาวไม่ตอบแต่เอาถ้วยใบเล็กๆ ออกมาจากในลิ้นชัก รินน้ำในขวดพลาสติกที่วางอยู่บนโต๊ะลงไปเล็กน้อยแล้วเติมบางอย่างลงไปอีก ชายหนุ่มรอจนหญิงสาวปิดฝาเจ้าขวดสีน้ำตาลยาวเท่าฝ่ามือ แล้วจึงหยิบมาดู “น้ำผึ้ง? เธอจะกินเหรอ” เขาถามต่อแต่อรุณฉัตรก็ยังไม่ใส่ใจตอบ เธอเอามือแกว่งๆ ในน้ำผสมน้ำผึ้ง เมื่อแน่ใจว่าทั้งสองเข้ากันเรียบร้อยก็เอาป้ายตามผิวกายที่เริ่มเห่อแดงขึ้นมาด้วยอาการของลมพิษ “เธอทาเจ้านั่นทำไม แล้วนั่นเธอไปทำอะไรมา ทำไมถึงได้...” “พูดมากจริงๆ ฉันอยากรู้จังว่าปกติคุณพูดมากอย่างนี้ไหมชาร์ลส์” อรุณฉัตรแขวะจนชายหนุ่มยกมือขอยอมแพ้ เขามองหล่อนป้ายยาไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งแขนขาทั้งน่องเรียว แม้แต่เนินหน้าอกอวบๆ ก็ยังไม่เว้น เอาเป็นว่าที่ไหนมีรอยแดง หล่อนก็ป้ายเจ้าน้ำผึ้งผสมน้ำจนตัวเปียกไปหมด “ฉันว่าถ้าไม่หาย เธอก็คงถูกมดกันตายแน่ๆ เอลลี่” อรุณฉัตรไม่ได้โกรธเขาแต่นึกขำตามไปด้วยซ้ำ เวลาที่ลมพิษขึ้นเธอมักจะเอาน้ำผึ้งมาเจือจางด้วยน้ำแล้วทาเพื่อบรรเทาอาการ มันช่วยได้เยอะทีเดียวเพราะเธอไม่ชอบกินยาแก้แพ้ ไม่ชอบให้ตัวเองต้องกินยาเป็นคนป่วยอยู่ตลอดเวลา ชาร์ลส์นั่งมองผิวเนื้อที่แวววาวด้วยน้ำผึ้งผสมน้ำแล้วอมยิ้มน้อยๆ มันจะเป็นอย่างไรนะหากเขาได้ชิมรสของน้ำผึ้งที่ถูกป้ายบนผิวของหล่อน “นี่คุณ! มองอะไรนักหนา ออกไปจากห้องฉันเลยนะ!” อรุณฉัตรตวาดแหว เตือนสติชายหนุ่มว่าไม่ควรมาอยู่ในห้องของเธอในเวลานี้ แต่ชาร์ลส์กลับส่ายหน้าแล้วเอาถ้วยเล็กๆ ที่เธอถืออยู่ไปถือไว้เสียเอง “นั่นคุณจะทำอะไร? เอาคืนมานะ ฉันคันจะแย่แล้ว” “ฉันช่วยทา หันหลังมาสิ” ชาร์ลส์บอกหน้าตายแต่อรุณฉัตรหน้าแดงก่ำ เขาจะบ้าไปแล้วหรือถึงได้อาสา แม้ว่าเธอจะทามันไม่ถึง แต่ขอคันต่อไปน่าจะปลอดภัยกว่า “ไม่มีทาง จะให้ฉันเปิดเสื้อให้คุณทายาเหรอ ฉันคงบ้าไปแล้ว” เธอชี้แจงก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ต้องรีบเอาหมอนมาปิดบังยอดทรวงที่ไม่ได้สวมเสื้อชั้นใน “ฉันสิบ้ากว่า เพราะยอมปล่อยเธอให้หลุดเงื้อมมือแล้วมานั่งเถียงฉันคอเป็นเอ็นอยู่ได้ เพราะฉะนั้นช่วยระลึกไว้สักนิดสาวน้อย ว่าถ้าฉันจะทำอะไรเธอจริงๆ เธอไม่รอดเงื้อมมือฉันหรอก หึๆ นอนคว่ำลงเร็วเข้า ก่อนที่เจ้าผื่นลมพิษมันจะลามไปเห่อในลูกตาของเธอ” เขาประชดประชัน อรุณฉัตรทำอะไรไม่ได้นอกจากเลยตามเลย เขาบังคับให้เธอนอนคว่ำหน้าลงด้วยมือเพียงข้างเดียว แน่นอนว่าบังคับให้ถอดเสื้อด้วย อรุณฉัตรนอนนิ่งเกร็ง สองแขนแนบสนิทกับลำตัวด้วยกลัวว่าเขาจะเห็นผิวทรวงของตน “อีตาบ้าเอ๊ย! พลังช้างสารหรือไงยะ ถ้ากระดูกฉันหักแม้แต่ท่อนเดียวคุณได้รับเลี้ยงฉันชั่วชีวิตแน่ๆ” ตีโพยตีพายกลบเกลื่อนอารมณ์พิศวาสที่ถูกกระตุ้นด้วยความเย็นของน้ำผึ้งเจือจางที่ถูกทาเบาๆ ด้วยนิ้วอุ่นร้อนของเขา ชาร์ลส์ไม่ได้โต้ตอบครูสาว เขายังทาน้ำผึ้งไปเรื่อยๆ ทั่วแผ่นหลังเปล่าเปลือย “ฉันไม่ถอดกางเกงเด็ดขาด” อรุณฉัตรร้องบอกก่อนที่ชาร์ลส์จะจับขอบกางเกงชั้นในของเธอ เพราะแค่นี้ก็แทบจะล่อนจ้อนต่อหน้าเขาแล้ว “ฉันไม่ได้ถาม และเธอก็ไม่ต้องถอดหรอกกางเกง เพราะฉันจะถอดมันเอง” อรุณฉัตรใจหายวูบ เพราะเขาไม่ได้พูดเล่นๆ แต่ดึงกางเกงเธอลงจนส่วนที่ไม่ควรเอ่ยถึงสัมผัสกับความเย็นของผ้าปูที่นอนอย่างสนิทชิดเชื้อ “โอย...ชาร์ลส์! ถ้ามีคนรู้เรื่องนี้ฉันต้องขายไม่ออกแน่ๆ ฮือออ...” หญิงสาวคร่ำครวญ ยกหน้าผากโขกกับหมอนนุ่มๆ ไปหลายที ขณะที่ชาร์ลส์ต้องควบคุมอารมณ์อย่างหนักไม่ให้ตัวเองเผลอใจทำมากกว่าสิ่งที่กระทำอยู่ ห้านาทีถัดมา ภารกิจของเขาก็ลุล่วงไปได้ แม้ว่ามันจะเป็นไปอย่างทุลักทุเลก็ตาม “คุณ...ช่วยเอาอะไรพัดๆ ให้มันแห้งเร็วๆ หน่อยสิ ฉันคันนะ” ร้องสั่งเขาราวกับว่าชายหนุ่มเป็นพี่เลี้ยงของตัวเอง ตอนอยู่บ้าน คนที่จะช่วยเธอในทุกๆ ครั้งที่มีอาการลมพิษก็คือพี่เลี้ยงสาวคนสนิท ชาร์ลส์อยากจะบ้าตาย เขาหยิบเอาเสื้อคลุมของหล่อนนั่นแหละมาพัดวีให้เกิดลมเย็นๆ เพื่อช่วยให้น้ำผึ้งซึมลงไปในผิวเนื้อเจ้าหล่อนให้เร็วที่สุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD