บทที่ 3/5 คุณแม่ตัวร้าย

1410 Words
นิลอรอ้าปากค้างด้วยความงุนงง เธอไม่เคยสั่งเจ้าแสบสองตัวให้ลุกอาบน้ำแปรงฟัน โดยที่เธอไม่ต้องกรีดร้องแทบจะเป็นบ้าได้เลย สองแสบมีความสามารถป่วนประสาทคนเป็นแม่ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เขา...ตาแก่โจนาธาน เขาสามารถทำให้ลูกคิงคองของตัวเองอยู่ในโอวาทได้ในเวลาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง “ค่อยๆ ลุกนะแองจี้” สามีสูงวัยแต่หัวใจละอ่อน บอกภรรยาที่รัก ขณะพยุงร่างหล่อนไปนั่งบนเตียงที่ตอนนี้ความสูงลดระดับเหลือไม่ถึงครึ่งน่องด้วยเพราะว่าขาเตียงมันหายไป “โอ๊ะๆ โอ๊ย...เจ็บ!” นิลอรส่งเสียงโอดโอย เธอเคล็ดไปหมดแล้ว แก้มก้นนี่ระบมเพราะกระแทกกับพื้นตอนกลิ้งตกลงมา ถ้าไม่ตกใจจนลืมตัวก็คงไม่เสียศูนย์อย่างนี้หรอก น่าโมโหตัวเองจริงๆ “ให้ฉันนวดให้ไหมแองจี้” สามีวัยเลยหนุ่มถามภรรยาสาวด้วยความห่วงใย แต่ฝ่ายภรรยากลับถลึงตาใส่จนนัยน์ตาดำๆ แทบกระเด็นออกมานอกเบ้า “ฉันเกลียดคุณที่สุดเลย ตาแก่จอมหื่น!” ประชดประชันด้วยสิ่งที่รู้ว่าเขาไม่ชอบใจ แต่แทนที่เขาจะโกรธกลับทำหน้าเศร้าเพียงเท่านั้น เขานั่งยองๆ กับพื้น เพื่อจะได้สำรวจดูคนที่นั่งอยู่บนฟูกว่ามีรอยแผลตรงไหนหรือเปล่า “ที่เธอไม่ยอมแต่งงานกับฉันเพราะอย่างนี้หรือแองจี้ ฉัน...แก่จริงๆ เหรอ?” ถามแล้วนั่งลงขัดสมาธิบนพื้นห้อง บางทีเขาอาจจะแก่เกินไป หล่อนก็เลยไม่อยากได้เขาเป็นสามี นิลอรอยากบอกเขาเหลือเกินว่าเขาไม่แก่เท่าไหร่เลย ออกจะดูภูมิฐานน่าคบหาด้วยซ้ำ แต่เธอจะไม่พูดให้เขาได้ใจหรอก แค่นี้เขาก็เหลิงในความฟิตจัดของตัวเองจนทำเตียงพังไปหลังแล้ว ถ้าขืนยอว่ายังหล่อเฟี้ยวมีหวังพรุ่งนี้เธอไม่ต้องลุกจากเตียงพอดี “ไม่รู้ไม่ชี้ โอย...เจ็บๆๆ” เธอบีบนวดแก้มก้นแรงๆ มันเจ็บอยู่ข้างในไม่หายสักที แล้วจู่ๆ มือร้อนๆ ของใครบางคนก็อาสามาช่วยนวด มันรู้สึกดีมากๆ เพราะแรงที่เขาใช้ช่วยลดทอนอาการเจ็บปวดได้อย่างพอเหมาะ นิลอรค่อยๆ นอนคว่ำไปกับฟูกหนา เพื่อที่สามีทางพฤตินัยจะได้นวดบั้นท้ายและแก้มก้นให้ได้อย่างถนัด แต่ทว่าสองนาทีผ่านไป ฝ่ามือที่นวดเฟ้นบรรเทาอาการเจ็บ ก็เลื่อนขึ้นมาเหนือเอว ไต่ยุบยับขึ้นมากลางแผ่นหลังแล้วเลื่อนมาด้านหน้ากอบกุมทรวงอกอวบหยุ่นของเธอไปบีบเคล้นอย่างหน้าด้านๆ “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ! ตาแก่บ้ากาม!” คุณแม่ลูกสองอยากตะกุยหน้าหล่อๆ ของพ่อของลูกนัก แต่เธอทำไม่ได้เพราะตอนนี้เขาได้เอนร่างคิงคองมาทับร่างเธอไว้เรียบร้อย “ห้ามว่าฉันแก่อีกนะแองจี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะพิสูจน์ให้ดูว่าฉันยังไม่แก่สักนิด” เขาขู่ด้วยเสียงจริงจัง ปลายจมูกโด่งคมคลอเคลียซอกคอเนียนๆ สีน้ำผึ้งยวนตา จงใจปล่อยลมหายใจราดรดใบหูจนนิลอรขนลุกซู่ “จะข่มขืนฉันเหรอ เอาสิ! ฉันมันไม่มีเคยมีค่าอยู่แล้วนี่ คิดจะทำอะไรก็ทำเลย อยากจะปล้ำฉันตรงนี้ตอนที่เนื้อตัวยังเคล็ดขัดยอกก็เอาเลย เพราะในสายตาคุณ ฉันก็เป็นได้เพียงเครื่องบำเรอความใคร่เท่านั้น จริงไหม!” เธอหายใจคล่องขึ้นเมื่อประโยคนั้นหลุดออกจากปากจนจบ เขาพลิกตัวออกห่างเธอทันทีราวกับว่านอนทับถ่านไฟแดงๆ ที่กำลังคุแรงอยู่ในเตา “ฉันขอโทษนะแองจี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอคิดถึงเรื่องนั้นอีก ฉันรักเธอจริงๆ นะ และฉันจะบอกรักเธอทุกวันจนกว่าเธอจะใจอ่อนแล้วยอมแต่งงานกับฉัน” เขาบอกแล้วดึงหล่อนขึ้นไปกอด ก่อนจะจูบหน้าผากหล่อนซ้ำๆ “ฉันหยุดแตะต้องเธอไม่ได้ ถ้าเธออยู่ใกล้ฉันเกินห้านาที เอาละ...ฉันคิดว่าฉันควรไปดูลูกๆ จะดีกว่า ก่อนที่ฉันจะกลายเป็นสามีที่ปล้ำเมียตัวเอง” ฟอด! ฟอด! โจนาธานสูดดมพวงแก้มภรรยาที่รักข้างละหน ก่อนจะผละไปดูเด็กๆ ที่อยู่อีกห้อง ทิ้งให้ภรรยาสาวต้องนอนถอนหายใจเฮือกๆ เพราะหัวใจจะละลายกับสามีที่ขยันหยอดคำหวาน เขาเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน บางทีช่วงเวลาสี่ปีที่จากกัน มันทำให้เขาตระหนักรู้กระมังว่าคิดกับเธอมากกว่านางบำเรอ แต่มันจะใช่ความรักแน่หรือ เพราะขนาดผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่างอย่างเอลิซ เกรย์ ยังต้องเตียงหักรักร้าวกันไป เธอไม่มั่นใจอะไรเลย เช้าวันนี้ เด็กๆ อดไปโรงเรียนไปโดยปริยาย เพราะว่ามันสายเกินกว่าที่จะขับรถไปส่งทั้งคู่เข้าโรงเรียน นิลอรถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อย ขณะคนโจ๊กสำเร็จรูปที่กำลังเดือดปุดๆ ในหม้อ หมับ! “ว้าย! ตกใจหมดเลย คุณจะบ้าเหรอ!” เธอเกือบจะเอาทัพพีที่ถืออยู่เคาะกบาลตาแก่คิงคอง แต่พอคิดได้ว่าไม่สมควรก็รีบวางมันลง ก็เขาเล่นเข้ามากอดเธอจากด้านหลังไม่ให้สุ้มให้เสียง ใครไม่ตกใจก็บ้าแล้ว “โอ...ขอโทษจ้ะที่รัก แค่เห็นเมียทำกับข้าวแล้วมันอดใจไม่ไหว เธอน่ารักมากๆ ตอนที่มีผ้ากันเปื้อนอยู่บนตัวและกำลังถือเจ้านี่” เขาชี้ไปยังทัพพีที่หล่อนวางไว้ ก่อนจะชะโงกหน้าไปมองสิ่งที่อยู่ในหม้อแกง “อย่าบอกนะว่าเธอเลี้ยงลูกด้วยโจ๊กสำเร็จรูปทุกเช้า” โจนาธานอยากจะร้องไห้ ลูกๆ ควรได้รับอะไรที่มากกว่านี้ในมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน “ช่วยไม่ได้ก็ฉันรีบนี่นา ปกติแวะซื้อขนมปังที่เซเว่นฯ ให้เด็กๆ ด้วยซ้ำ ระหว่างทางที่ไปส่งพวกแกที่โรงเรียน” บอกแล้วรวบซองโจ๊กสำเร็จรูปที่วางอยู่ข้างเตาทิ้งลงถังขยะ หนุ่มใหญ่สะท้อนในอก เขาผิดมากเหลือเกินที่ไม่ได้ออกตามหานิลอรตั้งแต่วันแรกที่หล่อนจากมา ไม่อย่างนั้นเรื่องพวกนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่ๆ “เราจะไปสิงคโปร์ด้วยกันใช่ไหมแองจี้ ถ้าเธอไม่อยากแต่งงานก็ไม่ต้องแต่ง ฉันอยากให้เธอกับลูกมีชีวิตที่สุขสบาย ไม่ต้องดิ้นรนหาเงินหาทอง ฉันเลี้ยงดูเธอกับลูกได้นะ ส่วนเอลิซ ฉันจะหาทางประนีประนอมให้หล่อนย้ายไปอยู่คอนโดฯ เอง เพื่อความสบายใจของเธอ” คราวนี้นิลอรนิ่งเงียบไป เธอผละจากอ้อมแขนของเขาเพื่อไปหยิบกุ้งที่ลวกแล้วแช่เย็นไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เธอใส่มันลงไปในหม้อที่มีโจ๊กเนื้อเนียนเดือดปุดๆ ก่อนจะปิดแก๊สเมื่อกะว่ากุ้งที่ใส่ลงไปคงอุ่นพอดี “ฉันยังไม่แน่ใจว่าคุณจะทำสำเร็จเรื่องเอลิซ แต่ฉันมั่นใจว่าฉันจะไปสิงคโปร์กับคุณ” นิลอรเห็นนัยน์ตาสีฟ้าครามเบิกกว้างด้วยความดีใจ และก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร เขาก็ก้มลงมาประทับเรียวปากร้อนๆ กับริมฝีปากเธอเพื่อฉลองความดีใจหนนี้ “แองจี้...ฉัน...ฉันดีใจเกิน ฉันดีใจมากๆ ดีใจที่สุด เราจะกลับสิงคโปร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอกับลูกๆ อย่างดีที่สุด ฉันจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจหรือร้องไห้อย่างแน่นอน ฉันสัญญา...แองจี้...ฉันรักเธอเหลือเกิน” แล้วบุรุษร่างหนาก็ดึงกายภรรยาเข้ามากอดด้วยความดีใจสุดประมาณ เขาได้หล่อนคืนมาแล้ว ได้แม่แองจี้ที่รักของเขากลับคืนมา ได้แม่ของลูกๆ กลับสู่อ้อมแขนอีกครั้ง “จำคำสัญญาของคุณไว้นะคะ คุณจะไม่ทำให้ฉันเสียใจและร้องไห้ คุณจำคำของตัวเองเอาไว้ให้ดีๆ” หนุ่มใหญ่พยักหน้ารัวเร็ว ขณะที่นิลอรส่งยิ้มละไมให้เขา ไม่ว่าอะไรจะรอเธออยู่ที่สิงคโปร์ เธอจะเดินหน้าสู้กับมัน เพื่อครอบครัวเล็กๆ ที่สมบูรณ์ เพื่อครอบครัว ที่เธอไม่เคยมี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD