bc

ทะเลอ้อนลม

book_age18+
159
FOLLOW
1K
READ
one-night stand
HE
age gap
boss
mafia
sweet
bxg
brilliant
childhood crush
like
intro-logo
Blurb

ทะเลอ้อนลม

ซีรีส์ ทะเลอ้อนรัก

'กอหญ้า' สาวสวยซื่อบื้อ แต่แอบหื่นชอบดูหนังอีโรติกเป็นชีวิตจิตใจ หนีเจ้านายไปพักร้อนและเผลอปล่อยใจ (เกือบปล่อยตัว) ให้กับหนุ่มลูกเสี้ยวตาสวยอย่าง 'พี่พายุ' กว่าจะรอดจากความขาวอมชมพูมาได้ก็แทบหืดขึ้นคอ แต่พอเข้าบริษัทกลับพบว่าผู้ชายที่จ้องจะกินตับกัน ดันกลายเป็นบอสใจร้ายที่อยากจะไล่เธอออก!

กอหญ้าเอ๊ย ซวยกว่านี้มีอีกไหมเนี่ย!!!

chap-preview
Free preview
บทนำ
บนหาดทรายสีขาวเนียนละเอียด มีแสงอาทิตย์สอดส่องรำไรผ่านกิ่งก้านใบของต้นมะพร้าวที่ตั้งเรียงรายเป็นทิวแถวสวยงาม ห้าสาวในชุดเบาสบายหลากหลายสีสันนั่งและนอนดื่มด่ำบรรยากาศ สายตามองไกลออกไปถึงเส้นขอบฟ้าของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่แสนสบายตา นั่งโง่ ๆ นอนโง่ ๆ ชมนกชมไม้ราวกับคนไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องคิด ทว่าความจริงแล้วภายในใจของแต่ละคนกลับเต็มไปด้วยความว้าวุ่นแตกต่างกันออกไป ทุกคนล้วนมีเรื่องราวที่ทำให้หนักอกหนักใจจนต้องเก็บเสื้อผ้าแล้วบินมาพักกายพักใจไกลถึงจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ทะเลโอบกอดและเยียวยาจิตใจให้ผ่อนคลายขึ้น ทริปนี้ถือเป็นการรวมตัวกันอีกครั้งของห้าสาวหลังจากเรียนจบและแยกย้ายกันไปเติบโตในแบบของตัวเอง หากแล้วบนเส้นทางชีวิตของทุกคนก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เมื่อครั้งหนึ่งมีสุข ก็ย่อมมีจังหวะทุกข์เป็นธรรมดา และเมื่อความทุกข์ของทั้งห้าสาวเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันราวกับนัดกันมา จึงทำให้เกิดเป็นทริปเล็ก ๆ ที่เข้าคอนเซปต์ที่หลาย ๆ คนเคยพูดเอาไว้... ‘เมื่อใจมันเซ...ทะเลก็คือจุดหมาย’ “เฮ้อ…” เสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยใจของ ‘จันทร์เจ้า’ ไกด์สาวในชุดสายเดี่ยวผูกโบข้างหน้ากับกางเกงขาสั้นสีขาวที่นั่งอยู่ตรงกลาง เรียกให้เพื่อนสาวอีกสี่คนที่นั่งและนอนอยู่บนเตียงอาบแดดทั้งสองฝั่งต้องหันหน้าไปมองอย่างสงสัยใคร่รู้ หากยังไม่มีใครได้เอ่ยถามอะไรออกไป เจ้าตัวก็ผุดตัวขึ้นมานั่งขัดตะหมาดบนเตียงของตนเองพร้อมกับถอดแว่นกันแดดสีชาออก เผยให้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มที่ฉายความเซ็งออกมาทางสีหน้าเต็มที่ “ชีวิตคนเราก็เปรียบเหมือนทะเล มีขึ้นก็ต้องมีลง มีผิดหวัง สมหวังปะปนกันไป บางครั้งทะเลก็ราบเรียบ แต่บางครั้งก็มีคลื่นโหมกระหน่ำ สาดซัดเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้จะหายไปเมื่อไหร่...” “เป็นอะไร” ‘กอหญ้า’ สาวนักออกแบบแห่งบริษัทจิวเวลรีชื่อดังในชุดบิกินีสีเนื้อสุดวาบหวิวที่นั่งเตียงอาบแดดริมฝั่งซ้ายสุดถามออกไป เมื่ออยู่ ๆ เพื่อนสนิทก็เวิ่นเว้อขึ้นมาอย่างกับคนมีเรื่องทุกข์ใจหนักหนา “อกหักเหรอ” “ไม่ใช่ แกก็รู้ว่าฉันไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แล้วแฟนก็ไม่มี จะเอาอะไรมาอกหัก” จันทร์เจ้าตอบก่อนจะบุ้ยหน้าไปยังเพื่อนอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงอาบแดดตรงกลางระหว่างตนกับกอหญ้า “ไอ้ดาวนู่นที่อกหัก” ‘ปลาดาว’ แม่สาวโลกสวยจอมเพ้อประจำกลุ่มรีบหันขวับไปมองทันทีที่ถูกพาดพิงถึง แล้วใบหน้าหวานก็ต้องสลดลงเมื่อมองผ่านจันทร์เจ้าไปยังเตียงอาบแดดตัวถัดไปแล้วได้สบตากับเพื่อนสนิทอีกคนอย่าง ‘มาริน’ ที่กำลังมองมาที่ตนอยู่เช่นกัน “บะ...บ้าเหรอ ฉันเนี่ยนะจะอกหัก อกหักทิพย์ละสิไม่ว่า” ว่าจบก็หัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกหน่วงลึกในใจ “เห็นพี่ ๆ คุยกันในไลน์กลุ่มวันนั้น บอกว่ามีเรื่องเครียดก็เลยชวนกันมาเที่ยว มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ” ‘ฟองคลื่น’ สาวรุ่นน้องวัยสิบเก้าย่างยี่สิบปีที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อสามวันก่อนเธอเห็นพี่ ๆ ชวนกันในแชตกลุ่มว่าจะมาทะเลเพราะมีเรื่องเครียด ด้วยเป็นเจ้าถิ่นกอปรกับตอนนั้นเธอเองก็คิดถึงทุกคนเหมือนกันและมีอารมณ์เหงา ๆ จึงรีบขันอาสารับหน้าที่เป็นคนจัดการทริปทั้งหมด และให้ทุกคนพักที่โรงแรมของตนเองในราคาสุดพิเศษ จึงไม่ได้ถามว่าเรื่องเครียดที่ว่าของแต่ละคนมันคือเรื่องอะไร ฟองคลื่นเป็นนักศึกษาสาวปีสาม บังเอิญได้มาสนิทและได้อยู่แก๊งเดียวกันกับพี่ ๆ ผ่านกิจกรรมประกวดดาวเดือนของทางมหา’ลัย จับพลัดจับผลูได้มาอยู่ในแก๊ง ‘รวมดาว’ กับอีกสี่สาวแบบงง ๆ แต่ด้วยนิสัยและอะไรหลาย ๆ อย่างที่เข้ากันได้ดีอย่างหน้าประหลาด หรือจะเรียกว่า ‘ศีลเสมอกัน’ ก็ว่าได้ จึงทำให้เธอสนิทและเข้ากับทุกคนไปโดยปริยาย กระทั่งพี่ ๆ เรียนจบและแยกย้ายกันออกไปทำงาน ความสนิทนั้นก็ไม่เลือนหายไป “พี่มารินก่อนเลย ตัวตั้งตัวตีของทริปนี้ มีเรื่องเครียดอะไรเหรอคะ” เมื่อเห็นว่าคนอื่น ๆ เอาแต่นั่งนิ่ง ฟองคลื่นจึงเลือกถามแบบเฉพาะเจาะจงโดยเลือกคนที่นั่งใกล้ตัวเองมากที่สุดก่อน ซึ่งก็คือมาริน “เอ่อ...คือพี่” คนถูกถามมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย เหล่ตาไปมองจันทร์เจ้าที่รู้เรื่องราวของตนเพื่อขอความช่วยเหลือ หากสิ่งที่ได้กลับมามีเพียงแค่แววตาเห็นใจ เพราะอีกฝ่ายก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรเช่นกัน “เห็นว่าเรื่องงานก็ไปได้ดีเลยนี่ ไม่เห็นมีเรื่องอะไรให้ต้องเครียด” กอหญ้าถามขึ้นมาอย่างอดรนทนไม่ไหว สังเกตเห็นสีหน้าและแววตาเศร้า ๆ ของเพื่อนตั้งแต่เจอกันที่สนามบินแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามอะไร “หรือว่าแกอกหักเหรอวะ” “นั่นสิคะ หรือว่าโดนหนุ่ม ๆ ที่ทำงานหักอกมา” คำถามกึ่งเย้าแหย่ของสาวรุ่นน้อง ทำให้มารินแทบไปต่อไม่ถูก ด้วยเหตุที่ทำให้เธอต้องหนีมาไกลถึงทะเล ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่นั่นแหละ “บ้าบอ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ก็แค่อยากมาเฉย ๆ เอาเรื่องของแกดีกว่าไอ้กอหญ้า เป็นไงมาไงถึงโดนไล่ออก” ‘มาริน’ สถาปนิกสาวตอบแบบปัด ๆ แล้วรีบเฉไฉไปที่เรื่องของคนอื่นทันที เพราะการมีใจให้ผู้ชายที่เพื่อนชอบคงไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดสักเท่าไร อีกทั้งเพื่อนคนนั้นก็นั่งร่วมวงสนทนาอยู่ตรงนี้ด้วย... “อ้าว...ยัยนี่ ปากเสีย ยังไม่โดนไล่ออกโว้ย แค่บริษัทโดนเทกโอเวอร์ ผลงานของฉันไม่เข้าตาเจ้านายคนใหม่” นึกถึงเรื่องนี้แล้วนักออกแบบสาวที่แสนอารมณ์ดีและเป็นที่รักของทุกคนก็ได้เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเจ้านายใหม่อยู่ในใจ ด้วยเพราะมีเรื่องให้ปะทะกันไม่เว้นแต่ละวัน “แล้วพี่จันทร์เจ้าล่ะคะ แว่ว ๆ ว่าก็เครียดเรื่องงานเหมือนกันใช่ไหม” ฟองคลื่นชะโงกหน้าออกไปถามคนที่นั่งถัดจากมาริน “อือ...” ไกด์สาวจอมแสบพยักหน้ารับเซ็ง ๆ “เผลอไปต่อยหน้านักท่องเที่ยวที่เป็นลูกทัวร์จนเลือดกำเดาไหล เลยโดนเจ้านายสั่งพักงานยาว เศรษฐกิจยิ่งไม่ดีต้องมาโดนพักงานอีก คอนโดฯ กับรถก็ยังผ่อนไม่หมด เงินเก็บก็มีเท่าหอยมด” ปลาดาวยื่นมือมาบีบขาเพื่อนอย่างให้กำลังใจ เพราะเธอได้เจอกับเพื่อนคนนี้ค่อนข้างบ่อย จึงได้แชร์เรื่องราวต่าง ๆ สู่กันฟังบ้าง ต่างจากกอหญ้าที่ถึงแม้จะทำงานที่กรุงเทพฯ เหมือนกัน แต่รายนั้นกลับงานยุ่งจนไม่ค่อยมีเวลามาเจอเพื่อน “มีเรื่องอะไรที่ฟองคลื่นช่วยได้ก็บอกได้เลยนะคะ” สาวน้อยส่งกำลังใจมาให้ผ่านรอยยิ้มอันแสนน่ารัก “ขอบใจจ้ะ” จันทร์เจ้ายิ้มรับ “แล้วพี่ปลาดาวล่ะคะ มีเรื่องอะไรเหรอคะ หรือว่าอกหักอย่างที่พี่จันทร์เจ้าบอก” “ใช่ พี่อกหัก...” ครั้งนี้ปลาดาวยอมรับออกมาแต่โดยดี สายตาจดจ้องไปที่สถาปนิกสาวในชุดวันพีชสีเหลืองที่กำลังมองมาที่ตนเช่นกัน ครั้นเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์บาดตาบาดใจที่ตนบังเอิญไปรู้ไปเห็นมาเมื่อสามวันก่อน ก็เกิดความรู้สึกเจ็บใจขึ้นมา ส่งให้เธอใจกล้า แล้วเลือกจะพูดทุกอย่างที่เก็บไว้ออกไปตรง ๆ “พี่ชอบผู้ชายอยู่คนนึง ชอบมานานมาก ทุกคนรู้กันหมดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่เหมือนว่าจะมีคนบางคนไม่รู้ ไปยืนจูบ...” “ไอ้ดาว!!” เสียงของจันทร์เจ้าดังแทรกขึ้นมาก่อนที่ปลาดาวจะได้พูดจบ ด้วยรู้ว่าสิ่งที่เพื่อนจะพูดต่อไปนั้นคืออะไร และแน่นอนว่าการกระทำนี้ของไกด์สาวสร้างความแปลกใจให้อีกสองคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเป็นอย่างมาก “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” ฟองคลื่นถามด้วยความไม่เข้าใจ ตามมาด้วยกอหญ้าที่ถามแล้วมองหน้าเพื่อนสลับกันงง ๆ “เออดิ เป็นอะไรกันวะ” “นะ...นั่นสิ เกิดอะไรขึ้นวะ” มารินถามกลั้วหัวเราะ ทั้งที่ในใจแทบจะหยุดเต้นไปแล้วในวินาทีที่ปลาดาวมองเธอและพูดเหมือนไปรู้อะไรมา อะไร...ที่เธอพยายามหนีและปิดเงียบมาโดยตลอด “ไม่มีอะไรหรอกแก ไอ้ดาวมันก็บ้า ๆ แบบนี้อยู่แล้วปะวะ อย่าไปถือสามันเลย” จันทร์เจ้าเอ่ยขึ้นและหัวเราะ พยายามแก้สถานการณ์ตอนนี้ให้มันดีขึ้น “นี่ก็เย็นมากแล้ว ฉันว่าเราแยกย้ายกันเข้าโรงแรมเถอะ รีบอาบน้ำแต่งตัวตอนเย็นเรามีปาร์ตี้กันอีกนะอย่าลืม” “เอ่อ...พี่ ๆ คะ ฟองจะบอกว่าเย็นนี้ฟองคงไปด้วยไม่ได้นะคะ พอดีติดธุระกับที่บ้านน่ะค่ะ แต่เดี๋ยวฟองจัดเตรียมรถไว้ให้ พี่ ๆ อยากไปไหนก็บอกคนขับรถได้เลยนะคะ” แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไป ใครมีเรื่องกันก็เคลียร์ต่อ...

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.9K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.4K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook