เธอเข้ามาในบริษัทในเวลาบ่าย แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานประจำของเธอ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเธอได้หยุดตรงหน้ารุ่นน้องคนสนิทที่นั่งทำงานอย่างตั้งใจ
เอม : เช็คจ่ายซัพ ฯ เสร็จยังจ๊ะฝ้าย
ฝ้าย : เสร็จแล้วค่ะ ...ว่าแต่มือพี่เอมไปโดนอะไรมา
เอม : อุบัติเหตุนิดหน่อยจ๊ะ...ไม่มีไร งั้นวานเอาเข้าไปให้พี่ด้วยนะ
ฝ้าย : ค่ะ
จากนั้นผู้จัดการสาวก็เปิดประตูเข้าไปยังห้องทำงานของเธอ พร้อมวางสัมภาระให้เข้าที่แล้วนั่งรองานจากรุ่นน้องคนสนิทอย่างจดจ่อ
ก๊อก ๆ ๆ เจ้าของเสียงเคาะประตู ห้องเปิดประตูเข้า พร้อมกับงานที่เธอต้องการที่เต็มพะรุงพะรัง
ฝ้าย : เดือนนี้เช็คเยอะกว่าเดือนที่แล้วนะคะ
เอม : ...ขอบใจจ๊ะ
ฝ้ายทำหน้าที่ของเธอเสร็จก็เดินออกไป...แต่แล้วไม่ถึงนาทีก็มีคนใหม่ผลักประตูเข้ามาโดยที่เธอไม่ทันได้เงยหน้าจากเอกสารมองบุคคลนั้นเพราะคิดว่าคงจะเป็นคนเดิมก่อนหน้า
เอม : ลืมอะไรจ๊ะฝ้าย...(เธอเอ่ยถามออกไปโดยไม่มองเพราะนึกว่าเป็นรุ่นน้องคนสนิท เมื่อไม่มีเสียงตอบรับออกมา เธอถึงได้เงยหน้าจากเอกสารเพื่อดูว่าเป็นใครทำไมถึงได้แต่เงียบ แต่ก็ต้องรีบเปลี่ยนสีหน้านิ่งเมื่อรู้ว่าเขานั้นคือใคร
...: ดื้อ (เขาเดินเข้าหาหญิงสาวที่นั่งอยู่โต๊ะทำงาน)...รั้นเป็นที่สุด (สองแขนแกร่งค้ำโต๊ะ พร้อมจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง ใบหน้าคมโน้มสบตากับเธอดวงตาที่ดูเหมือนเกรี้ยวกราดแต่แอบแฝงด้วยความห่วงใย)
เอม : คุณชิน...จะทำอะไร
ชินกิ : ผมบอกว่าไม่ต้องมาทำงาน
เอม : ถ้าจะคุยก็กรุณา ขยับออกค่ะ ห้องเอมเป็นกระจกคนด้านนอกมองเข้ามาจะดูไม่ดี
ชินกิ : ช่างหัวมันสิ
เมื่อปรามไม่ได้หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายลุกจากตรงนั้นแล้วเดินมานั่งตรงโซฟารับรองด้านข้าง...ซึ่งนั่นได้ผลเพราะชายหนุ่มกลับเดินตามเธอมานั่งจุดเดียวกัน แต่คนละฝั่งเท่านั้น
ชินกิ
ผมอยากจะจับยัยดื้อตีก้นซักสิบที ทำไมเธอดื้อกับผมนัก สั่งอะไรไม่ได้ เถียงทุกคำ ผมมานั่งตรงข้ามกับเธอตรงโซฟา เหลือบเห็นมือถือใส่บล็อคข้อมือไว้...ผมรู้สึกหงุดหงิด เห็นเธอมีบาดแผลแบบนั้นผมไม่ชอบเลย...เห็นแล้วอยากทุบไอ้กระจกรถนั่นทิ้ง
ชินกิ : มือเป็นไงบ้าง (เขาถามเสียงอ่อนลง เมื่อเห็นบาดแผลที่โชว์หลาตรงแขนเรียว)
เอม : ไม่เป็นไรมากค่ะ ไม่กี่วันก็หายหมอบอก
ชินกิ : ผมต้องรออีกนานแค่ไหน
เอม : ???? (คำถามที่เขาเอ่ยจนเธอนั้นงง เพราะไม่รู้หมายถึงอะไร)
ชินกิ : หัวใจของคุณ...ผมต้องรออีกนานแค่ไหนมันถึงจะมีผมอยู่ในนั้น
ชายหนุ่มเอ่ยปากถามเธออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสนจะอ่อนโยน
เอม : เอมตอบตอนนี้ไม่ได้ค่ะ...คุณเพิ่งถามเอมเมื่อวานเองนะ และเอมก็เพิ่งเจอคุณไม่กี่ครั้งเอง
ชินกิ : ผมเข้าใจนะ
เอม : เข้าใจแล้วทำไมถามอีกล่ะคะ ไหนคุณบอกจะพิสูจน์ตัวเองไง เอ๊ะ !! หรือว่าถอดใจแล้ว
ประโยคหลังที่หญิงสาวเอ่ย ทำเอาคนฟังนั่นรีบตอบแบบไม่ต้องคิด
ชินกิ : ไม่มีทาง !...ผมไม่เคยถอยหลังอะไรง่ายๆ ถ้าผมคิดจะก้าวขาเดินหน้า
เอม : ...งั้นหรอ
(" นาฬิกาอาจจะไม่มีปาก แต่มันสามารถบอกเวลาได้ดีที่สุด " )