ในขณะเดียวกัน
ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยมองโทรศัพท์มือถือที่อยู่ตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มเย็นยะเยือก เมื่อแผนการของเขาเริ่มต้นขึ้นและกำลังเป็นไปด้วยดี ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของโลแกน อาเชอร์ แสยะยิ้มเหยียดเมื่อคนที่ต้องการติดกับดักแรกที่วางเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่มีวันปฏิเสธได้
“ผู้หญิงหิวเงินก็ต้องเอาเงินหลอกล่อมันถึงจะใช้ได้ผล เงินหนึ่งล้านดอลลาร์มีหรือที่ผู้หญิงแบบนี้จะไม่รับ”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมหัวเราะเยาะอยู่ในลำคอ
“แต่ผมคิดว่ามันแปลกอย่างไงชอบกลอยู่นะครับนาย”เสียงของคนสนิทผู้ซื่อสัตย์กล่าวย้อนแย้งออกมาโดยพลัน
“มันแปลกอย่างไงโนอาร์”ผู้เป็นนายหันกลับไปมองหน้าคนสนิทของเขาทันที
“ก็จะไม่ให้แปลกใจได้อย่างไงละครับ ปกติแล้วผู้หญิงที่เห็นแก่เงินเป็นใหญ่จะไม่เสียเวลามารับงานและทำงานอะไรแบบนี้แน่นอน เหตุผลก็คือพวกหล่อนรักสบาย สู้นอนรอเงินจากคนที่เลี้ยงดูพวกเธอ ไม่ต้องมาเหนื่อยหรือต้องออกแรงทำงานแม้แต่น้อย และอีกเหตุผลก็คือพวกเจ้าหล่อนเป็นผู้หญิงขี้เกียจที่สุด และชอบปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับคุณลีย่าอย่างสิ้นเชิงจากที่นักสืบของเราไปสืบค้นประวัติมาอย่างละเอียด”
คำกล่าวของโนอาร์ทำให้มหาเศรษฐีหนุ่มเงียบงันเมื่อได้ยินเช่นนั้น หากแต่เพียงครู่เดียวความคิดของเขาพลันตอบโต้กลับไปทันที
“ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน อย่าลืมนะว่าแม่ผู้หญิงพวกนี้ถนัดในการสร้างภาพปิดบังสันดานอันแท้จริงของตัวเอง ข้อมูลที่นักสืบของเราไปสืบค้นได้มามันก็คือหน้ากากที่แม่ผู้หญิงคนนั้นสร้างขึ้นมาให้ตัวเจ้าหล่อนเองดูดีมีคุณค่าและมีราคามากขึ้น”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมเบ้ปาก ครั้นเมื่อกล่าวถึงหญิงสาวที่ตนกำลังพูดถึง
“แต่ถึงกระนั้นผมก็คิดว่ามันแปลกอยู่ดีเจ้านาย”โนอาร์ไม่วายกล่าวแย้งราวกับว่าตัวเขาเองกำลังติดใจอะไรบางอย่าง
“อุ๊วะ! มันแปลกอะไรหนักหนาไหนพูดออกมาสิ!”เศรษฐีหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงห้วน
“อันที่จริงเรื่องติดต่อกับคุณลีย่าเพื่อให้มารับงานตามแผนการนั้น สามารถให้ใครทำก็ได้ไม่จำเป็นที่นายท่านต้องโทรติดต่อไปด้วยตัวเองเลยแม้แต่น้อยสำหรับเรื่องเล็กน้อยเพียงแค่นี้นะครับ แต่เจ้านายลงทุนโทรติดต่อด้วยตัวเอง เจ้านายกำลังคิดอะไรอยู่อย่างนั้นหรือครับ เจ้านายไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย”
คำกล่าวของคนสนิททำให้ชายหนุ่มนั่งนิ่งเงียบไปทันที ไม่คาดคิดว่าการกระทำของเขาโนอาร์จับข้อสังเกตทุกจุด
“นั่นนะสิ!แล้วทำไมเราต้องติดต่อกับแม่นั้นด้วยตัวเอง ทำไมไม่ให้คนอื่นจัดการ”โลแกนรำพึงอยู่ภายในใจพร้อมเสียงของโนอาร์แทรกดังขึ้น
“เจ้านายเริ่มพึงพอใจคุณลีย่าใช่ไหมครับ”โนอาร์พูดโพล่งถามเจ้านายของเขากลับไปทันที
และคำถามดังกล่าวกระแทกใจมหาเศรษฐีหนุ่มเข้าให้อย่างจัง เมื่อคนสนิทของเขากล่าวออกมาเช่นนั้น ทว่าดั่งผู้ร้ายปากแข็งถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขามีหรือจะยอมรับ
“ผู้ชายก็ต้องชอบผู้หญิงสวย ก็ไม่แปลกถ้าฉันจะมีจิตพิศวาสแม่ผู้หญิงคนนั้น ความสวยของเจ้าหล่อนมันทำให้ผู้ชายทุกคนพึงพอใจ จนเป็นบ้า! หลงใหลจนหัวปักหัวปำฉันเองก็ชอบผู้หญิงสวยๆ ไม่บ้าจี้ชอบผู้หญิงขี้เหล่หรอก ก็แค่อยากฟังลีลาการพูดว่ามีจริตมากแค่ไหน มันก็แค่นั้น”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมยักไหล่ทั้งสองข้างพร้อมกัน ก่อนจะกล่าวสำทับ
“แต่ถ้าจะให้มาเป็นเจ้าของหัวใจ เป็นเจ้าชีวิตของฉันจนขาดหล่อนแล้ว ชีวิตไม่มีความหมายเหมือนคนไร้สิ้นชีวิตจิตใจอะไรแบบนั้น ขอบอกเลยนะว่าเจ้าหล่อนไม่มีทางที่จะมีอิทธิพลเหนือคนอย่างโลแกน อาเชอร์เด็ดขาด! เพราะสถานะที่เจ้าหล่อนจะได้รับนั้นก็คือ นักโทษ!”ชายหนุ่มกล่าวน้ำเสียงเน้นหนัก
“แต่ว่าเจ้านาย...”โนอาร์กล่าวได้เพียงแค่นั้น พลันต้องเงียบเสียงลงทันที เมื่อเสียงของผู้เป็นนายดังกระหึ่มแทรกขึ้นมา
“พอได้แล้ว! ตกลงนายกำลังอยู่ข้างใครกันแน่ ถึงได้มีความเห็นแตกต่าง คิดเห็นไม่เหมือนกัน ผู้หญิงคนนั้นมีอิทธิพลกับนายอย่างนั้นหรือไง!”ชายหนุ่มตวาดกลับไป ดวงตาคู่สวยจ้องใบหน้าคนสนิทของเขาด้วยอารมณ์ที่เริ่มขุ่นมัว
โนอาร์ ปิดปากตัวเองทันที โรคขี้สงสัยและช่างสังเกตดับสวิทซ์โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามหนุ่มใหญ่ซึ่งมีหน้าที่ดั่งเช่นพ่อบ้านประจำตระกูล คอยรับใช้สองพี่น้องตระกูลอาเชอร์มาโดยตลอดตั้งแต่ทั้งคู่ยังอยู่ในวัยเยาว์จวบจนถึงปัจจุบัน
หนุ่มใหญ่ซึ่งปีนี้ย่างเข้า 52 มีอายุมากกว่าเฮนรี่ 7 ปีและมากกว่าโลแกน 17 ปี มีหรือจะดูไม่ออกว่าเจ้านายของเขากำลังมีความรู้สึกพิเศษกับว่าที่เจ้าสาวของหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางตะวันออกกลาง เพียงแต่จะมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ก่อนจะได้ยินเสียงของผู้เป็นนายกล่าวย้ำเตือน
“จำเอาไว้เลยว่า ผู้หญิงที่ทำให้เฮนรี่ต้องตายคือใคร! ฉันไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไงและมองเจ้าหล่อนว่าเป็นแบบไหน แต่สำหรับฉันแล้วแม่นั่นคือฆาตกร! หล่อนเป็นสาเหตุที่ทำให้เฮนรี่ต้องตาย!”โลแกนกล่าวเสียงเข้มหากแต่เย็นยะเยือก
ร่างสูงใหญ่ลุกจากโซฟาในโซนห้องน้องเล่น ตรงไปยังประตูห้องนอนด้วยความขัดเคืองใจ ยามเมื่อคนขัดใจและมีความเห็นแตกต่างไปจากตน
เฮ้อ! เสียงถอนหายใจออกมาของหนุ่มใหญ่บ่งบอกได้ว่ากำลังระอากับอารมณ์ของเจ้านายของเขาอยู่มิใช่น้อยเลยทีเดียว ศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมสีเงินยวงส่ายไปมาช้าๆ
“เป็นแบบนี้ทุกที ใจร้อนหุนหันพลันแล่นตลอด นักสืบก็ยังสืบรายละเอียดไม่หมดเลย จะใช่คุณลีย่าที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณเฮนรี่ต้องตายจริงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เจ้านายนะเจ้านายไม่เชื่อที่เตือนกันบ้างเลย เกิดมันไม่ใช่อย่างที่คิดจะทำอย่างไง ผู้หญิงเป็นถึงคู่อภิเษกของเจ้าชายฮาคิมเสียด้วย”
โนอาร์กล่าวอย่างกลัดกลุ้ม ดวงตาสีเขียวมองไปที่ประตูห้องนอนของผู้เป็นนายพลางส่ายศีรษะไปมาติดๆกัน
ดูไบ มารีน่า Dubai Marina
“วะ...ว้าว!...สวยจัง”เสียงอุทานด้วยความตื่นตาตื่นใจของหญิงสาวแสนสวยที่ดังออกมานั้น
สร้างความประหลาดใจให้กับคนรอบข้างอยู่มิใช่น้อย เมื่อเห็นเธอกำลังดื่มด่ำกับความหรูหราอลังการต่อเรือสำราญที่จอดนิ่งสงบอยู่ตรงหน้าเธอ
“ดูเหมือนเรือสำราญลำนี้ทำให้คุณลีย่าอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะครับ”เสียงของหนุ่มใหญ่เอ่ยถามกลับไป คำถามของเขากำลังถามนำเพื่อเจาะลึกลักษณะพิเศษของหญิงสาวตรงหน้าในขณะนี้
“ฉันไม่เคยเห็นเรือสำราญที่ไหนตกแต่งหรูหราอลังการงานสร้างแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ ทั้งใหญ่โตและออกแบบตกแต่งได้ยอดเยี่ยมมากๆ นับถือคนออกแบบจริงๆ คิดได้อย่างไงเนี่ย”หญิงสาวกล่าวชื่นชมตรงไปตรงมา
“ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลยนะครับ เรือสำราญที่ขออนุญาตเข้ามาดำเนินกิจการในแถบคาบสมุทรอาหรับปกติก็ตกแต่งหรูหรากันแบบนี้ทุกลำ เจ้าชายฮาคิมทรงมีหุ้นในบริษัทเรือสำราญทุกบริษัทที่เปิดกิจการอยู่ในแถบภูมิภาคนี้ทั้งหมด จะเป็นไปได้หรือว่าพระองค์จะไม่เคยนำว่าที่เจ้าสาวขึ้นเรือระดับนี้ และดูเหมือนทำราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นเรือสำราญระดับเฟิรส์คลาสแบบนี้เสียด้วย”
หนุ่มใหญ่ตัวมหึมาซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างๆ เธอในเวลานี้กำลังตั้งคำถามที่แฝงเร้นความนัยเอาไว้ลึกๆ ตามลักษณะนิสัยส่วนตัวของเขา
“โอ๊ย! ไม่เคยขึ้นหรอกค่ะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกของลีย่าเลยนะคะที่ได้มีโอกาสขึ้นเรือหรูหราอลังการแบบนี้ เจ้าชายก็ส่วนเจ้าชายลีย่าก็ส่วนลีย่าชีวิตของใครของมันไม่ยุงเกี่ยวกัน”
คำตอบของหญิงสาวทำให้โนอาร์ขมวดคิ้วหนาเข้าหากัน เมื่อได้ยินเช่นนั้น
“คู่แต่งงานพิลึก ชีวิตใครชีวิตมันอย่างนั้นเหรอประเพณีของชาวอาหรับที่เคยรู้มาไม่ใช่แบบนี้มิใช่รึ อยู่ใครอยู่มันแบบนี้แล้วจะแต่งงานไปเพื่ออะไร”หนุ่มใหญ่รำพึงอยู่ภายในใจ
และดูเหมือนว่าเสียงรำพึงที่อยู่ในใจของโนอาร์จะส่งไปถึงหญิงสาวทำให้เจ้าตัวนึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรออกไปที่ทำให้ผิดสังเกตเข้าให้จนได้
“เออ...ดิฉันหมายถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเจ้าชายกับลีย่าก่อนที่จะมาคบหาดูใจกันจะเป็นเชิงลักษณะแบบนั้นค่ะ แต่พอเราทั้งคู่เลือกที่จะมาเป็นคู่รักกันแล้ว ทุกเรื่องไม่ว่าอะไรก็ตามต่างแชร์กันมาโดยตลอด เจ้าชายก็เคยชวนดิฉันมาเปิดหูเปิดตา แต่บังเอิญว่าเวลาของเราสองคนไม่เคยตรงกันก็เลยไม่ค่อยได้ไปไหนกับเจ้าชาย และอีกอย่างลีย่าไม่อยากที่จะตกเป็นเป้าหมายของนักข่าวที่ชอบตามติดสืบเสาะหาข่าวไปเขียนอะไรต่อมิอะไรจนเกินความจริงไป”
หญิงสาวตอบกลับไปเพื่อเลี่ยงประเด็น หากแต่ยิ่งตอบทำให้หนุ่มใหญ่ที่กำลังยืนตั้งใจฟังอยู่ในขณะนี้กลับยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก
“แหม....บุตรสาวของเอกอัครราชทูตไทย มีเวลาที่จะไปไหนมาไหนกับเจ้าชายขวัญใจสาวๆ ตลอดเวลาอยู่แล้วละครับ ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณลีย่าไม่เปิดโอกาสให้พระองค์หรืออีกประเด็นหนึ่งนั้นก็คือยังสนิทสนมกันไม่พอด้วยหรือเปล่า...”
โนอาร์เจาะจงถามตรงๆ ทำเอาเจ้าตัวหันกลับมามองผู้ชายตัวโตที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ เธอด้วยความแปลกใจ
“รู้สึกว่าคุณอยากจะรู้เรื่องระหว่างเราสองคนมากเลยนะคะ”หญิงสาวเอ่ยถามตรงไปตรงมาเข้าประเด็นทันที
“ผมก็แค่เป็นคนชอบสังเกตและชอบตั้งข้อสันนิษฐาน มันเป็นนิสัยส่วนตัว และอีกอย่างเป็นเพราะเจ้าชายทรงเป็นที่หมายปองของผู้หญิงทั่วโลก แต่ละนางอยากออกเดทกับเจ้าชายฮาคิมใจจะขาดแต่ก็ไม่เคยเห็นข่าวคราวว่าพระองค์จะพาหญิงสาวคนไหนออกเดท แต่แล้วจู่ๆ พระองค์ก็ประกาศแต่งงานแบบสายฟ้าแลบเป็นใครก็งงไปตามๆ กันทั้งนั้นละครับ ยิ่งบรรดาแฟนคลับสาวๆ ของพระองค์ละก็ไม่ต้องพูดถึง ร้องไห้ขี้มูกโป่งด้วยความเสียดายไปค่อนโลก หรือคุณลีย่าว่าไม่จริง”หนุ่มใหญ่ตอบหยั่งเชิงกลับไป
หญิงสาวส่งยิ้มให้เมื่อได้ยินคำกล่าวหยั่งเชิงเช่นนั้น
“จริงค่ะ! และผู้หญิงที่โชคดีกว่าผู้หญิงทั้งโลกก็คือดิฉัน ว่าแต่เราจะยืนเสียเวลาเพื่อพูดคุยเรื่องส่วนตัวของคนอื่นอีกนานไหมคะ หรือว่าวันนี้จ้างดิฉันมาเพื่อให้มาเมาท์ชีวิตของตัวเองไม่ได้เชิญมารีวิวอาหารอย่างนั้นหรอกรึ”หญิงสาวกล่าวตอบกลับไป
ถ้อยคำสุภาพแต่ฟังแล้วเจ็บจี๊ด ให้แปลตรงตัวนั้นก็คือจะเผือกเรื่องของชาวบ้านอีกนานไหมนั่นเอง โนอาร์ยืนยิ้มอย่างใจเย็นเมื่อได้ยินเด็กสาวตรงหน้ากล่าวตอบกลับมาเช่นนั้น
“เชิญด้านในเลยครับ อาหารจากเชฟฝีมือเยี่ยมของเราจัดเตรียมพร้อมรอคุณลีย่าให้มาลิ้มลองและรีวิวอาหารของเรา ติชมและวิจารณ์ได้อย่างเต็มที่เลยครับ”กล่าวพร้อมเดินนำหน้าหญิงสาวขึ้นไปบนเรือสำราญลำขนาดมหึมาทันที
เฮ้อ! เสียงถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เกือบไปแล้วไหมละลีย่า พูดไม่รู้จักคิดอีกแล้ว ทำไมไม่ระวังบ้างเลยนะ นี่ฉันจะต้องทนอยู่ในสภาพนี้อีกตั้งหกเดือนเลยเชียวเหรอ ทำไมเราถึงรู้สึกว่าเหมือนหกปีเลย”หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ
ร่างงามระหงดุจดั่งนางพญา ก้าวเดินตามหลังบุรุษชาวตะวันตกตามไปติดๆ โดยมีบรรดาบอดี้การ์ดของเจ้าชายหนุ่มรูปงาม เดินตามหลังไปอย่างไม่ให้คลาดสายตา
เวลาผ่านไปนานกว่าสามชั่วโมง อาหารชั้นเลิศทยอยนำมาให้หญิงสาวลิ้มลองพร้อมทำรีวิวอาหารแต่ละอย่างได้อย่างมีสีสัน บวกกับการรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยของเธอด้วยแล้ว งานนี้ขายดีทุกเมนูแน่นอนจวบจนกระทั่ง
“คุณลีย่ารับประทานชาร้อนก่อนจะกลับเข้าที่พักหน่อยนะครับ ใช้เสียงรีวิวอาหารเดี๋ยวจะหิวขึ้นมาอีก”โนอาร์เอ่ยกระเซ้าหญิงสาว
คำกล่าวหยอกเย้าของโนอาร์ทำให้เจ้าตัวรู้สึกขัดเขินขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“แหม..คุณคงจะเห็นดิฉันวันๆ เอาแต่ทานอาหารเป็นหลักแน่ๆ เลยถึงได้พูดแบบนี้”
คำกล่าวของหญิงสาวทำให้หนุ่มใหญ่ยืนอมยิ้มด้วยความเอ็นดูกับคำพูดของเจ้าหล่อนเช่นนั้น
“ไม่หรอกครับ เห็นคุณลีย่าทานอาหารเก่งและทานได้เยอะมาก แบบไม่กลัวเกรงความอ้วนจะมาเยือนเลย ช่างผิดกับสาวๆ วัยเดียวกันที่จะกลัวมากเรื่องอ้วน ทานนั่นก็ไม่ได้ ไอ้นั้นก็อ้วน ไอ้นี้ก็อ้วน หรือถ้าทานก็จะเล็มๆ นิดเดียวเท่าแมวดมเห็นแล้วถ้าจะให้พูดออกมาตรงๆ แล้วละก็อย่าทานเข้าไปเลยเสียจะดีกว่า อดข้าวต่อไปเถอะ เปลืองเงินคนจ่าย”
หนุ่มใหญ่บอกกับหญิงสาวตรงไปตรงมา เล่นเอาคนฟังนั่งหัวเราะเบาๆ อยู่ในลำคอเมื่อได้ยินและกิริยาท่าทางที่แสดงออกมาว่าเบื่อหน่ายจริงๆ
“ดิฉันเห็นด้วยค่ะ ถ้าอยากทานอาหารก็จงอย่าไปคิดอะไรมาก เพราะถ้าตายไปแล้วก็ไม่ได้มีโอกาสทานของอร่อยๆ แบบนี้ได้อีก ชีวิตคนเราแสนสั้นจะตาย จะตายวันนี้หรือพรุ่งนี้เราเองก็ยังไม่รู้เพราะฉะนั้นทำให้ชีวิตของเราในแต่ละวันผ่านไปอย่างมีความสุขดีกว่าค่ะ”หญิงสาวกล่าวพร้อมส่งยิ้มหวานให้พลางยกถ้วยชาร้อนขึ้นจิบด้วยความชื่นใจ
ถ้อยคำของหญิงสาวทำให้โนอาร์ยืนนิ่ง ได้แต่เฝ้ามองเธอนั่งจิบน้ำชา ก่อนจะส่งสัญญาญาณให้พนักงานภายในเรือหรือแท้ที่จริงก็คือกลุ่มบอดี้การ์ดของตนในคราบพนักงานบริการ ทยอยเข้ามาเสริฟ์ชาร้อนให้กับบรรดาบอดี้การ์ดซึ่งคอยติดตามหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา
ร่างสูงเดินเลี่ยงออกไปนอกห้องอาหาร ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องรับรองส่วนตัวเพื่อใช้โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมรายงานสถานการณ์ให้กับผู้เป็นเจ้านายได้ล่วงรู้สถานการณ์ และทันทีที่ปลายสายกดรับ
“เรียบร้อยแล้วครับเจ้านาย คุณลีย่าจะถึงสถานที่นัดหมายภายในอีกไม่ช้า ตอนนี้เหลือเพียงแค่นำเฮลิคอปเตอร์ที่จอดรออยู่ขึ้นบินเท่านั้น”โนอาร์กล่าวรายงาน
“ทำได้ดีมาก! พวกเราจะออกนอกประเทศนี้ด้วยวิธีการที่เจ้าชายฮาคิมคาดไม่ถึงแน่นอนและตลอดระยะเวลาเดินทาง ทยอยเตรียมแผนตามที่ฉันสั่งไว้ให้พร้อม ฉันจะพาผู้หญิงคนนั้นสนุกกับการเดินทางอย่างเต็มที่ชนิดที่ว่าไม่เคยได้รับจากไหนมาก่อน”เสียงปลายสายกล่าวอย่างหมายมั่นปั้นมือ
สายปลายทางกดตัดไปพร้อมกับความเงียบงัน มีเพียงโนอาร์เท่านั้นที่ยังคงยืนถือโทรศัพท์อยู่เพียงลำพัง ภายในใจของหนุ่มใหญ่ในขณะนี้มีความคิดบางอย่างโลดแล่นขึ้นมาด้วยเพราะเขาคิดว่า สิ่งที่เจ้านายของเขาคิดจะไม่เป็นเช่นนั้น
“ทำไมเราไม่คิดว่ามันจะเป็นไปอย่างที่เจ้านายวางแผนเอาไว้เลยหว้า รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างไงพิกล”หนุ่มใหญ่รำพึงออกมาเบาๆ ครั้นนึกถึงแผนการของผู้เป็นนายซึ่งสั่งการเอาไว้ละเอียดยิบ
ในเวลาต่อมา
เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวกำลังบินขึ้นจากบริเวณลานจอดของเรือสำราญ โดยมีมหาเศรษฐีชาวดูไบและกลุ่มมหาเศรษฐีซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวต่างชาตินั่งอยู่เต็มลำเรือเพื่อบินกลับไปยังนครดูไบ และในขณะเดียวกันเรือยอร์ชลำขนาดย่อมก็กำลังแล่นออกจากใต้ท้องเรือสำราญไปอย่างช้าๆ
และเรือลำดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางอันเป็นที่ตั้งของทะเลทรายอาหรับ ทะเลทรายที่ขึ้นชื่อได้ว่ากว้างใหญ่ไพศาลเป็นอันดับสี่ของโลก
โดยมีร่างอรชรของหญิงสาวชาวไทย กำลังหลับใหลด้วยฤทธิ์ของยาสลบที่ใส่ไว้ในชาร้อน นำตัวเธอไปพบบุรุษที่กำลังรอคอยอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ที่จ้องแผดเผาให้เธอได้พบกับคำว่า “ทรมาน”