ตอนที่ 4

3838 Words
หลังจากที่มาติกาและเพื่อนๆพากันเช็คอินเข้ามาในเกรดแล้วก็ไม่ทันเจอหนุ่มฝรั่งคนนั้นเพราะว่าตอนนี้พวกเขาคงจะเข้าไปในเกรดแล้ว มาติกาจึงต้องเดินจูงมือหลานชายตัวน้อยในวัยหกขวบเข้าไปยังทางเดินเชื่อมต่อเครื่องบิน “เดี๋ยวยัยมายด์ ให้คนอื่นเข้าไปก่อนสิยะ แล้วพวกเราค่อยเข้าไปทีหลัง โดยเฉพาะแกน่ะเข้าไปเป็นคนสุดท้ายจะดีที่สุด เพราะแกจะได้เป็นเป้าสายตาของทุกคน พ่อหนุ่มฝรั่งคนนั้นจะได้เห็นแกไง แล้วแกก็อ่อยตั้งแต่ต้นทางยันถึงที่นั่งแกเลยนะ” กิติกรดึงแขนเพื่อนสาวไว้ แล้วเอ่ยพูดบอกไปอย่างมีแผน “จะดีเหรอแก คนเยอะนะอายเขาเปล่าๆ” มาติกาพูดถามออกไปอย่างขอความคิดเห็นจากวาริตา เพราะอย่างน้อยเธอก็ควรจะถามเพื่อความแน่ใจ “แค่เดินสวยๆเข้าไปเป็นคนสุดท้ายเองแก ไม่ยากหรอก อีกอย่างมีลูกฉันไปกับแกด้วย แกไม่ต้องอายหรอก” วาริกาพูดบอกไปก็ยิ้มให้เพื่อสาว ก่อนจะมองดูผู้คนเดินผ่านไปจนเกือบหมดแล้ว “แม่ฮะ เลโก้ไตกอยู่ข้างนอก” น้องวินเอ่ยพูดบอกไปแล้วเงยหน้ามองผู้เป็นแม่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาเศร้าๆ เพราะเขาทำเลโก้ตัวโปรดตกด้านนอก “ตาวิน ทำไมไม่รู้จักรักษาของเลยห้ะ เลโก้ตัวนั้นราคามันไม่ใช่ถูกๆเลยนะ” วาริตาดุลูกชายออกไปอย่างอดไม่ได้ เพราะราคาเลโก้ของลุกชายนั้นแพงกว่ากระเป๋าแบรนด์ดังของเธอซะอีก เพราะมันเป้นของสระสมของบุรินทร์สามีของเธอ ที่มอบให้ลูกชายไว้เป็นของขวัญวันเกิด “อย่าว่าหลานเลยว่าน ไม่เป็นไรนะลูก เดี๋ยวน้าไปเอาให้นะครับคนเก่ง เรารอกับแม่ตรงนี้นะ” มาติกาพูดกับเพื่อนสาวไป ก็หันมาเอ่ยบอกหลานชายไปแล้วยิ้มให้อย่างเอ็นดู “ผมอยากไปด้วยฮะ” น้องวินพูดบอกไปก็จับมือของมาติกาไว้ด้วยท่าทางดีใจ เพราะงานนี้คงไม่ต้องวางแผนอะไรแล้ว แบบนี้เธอก็เข้าไปในเครื่องบินช้าสุดอยู่ดี “พวกแกเข้าไปก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวฉันพาน้องวินไปเอง ยังไงฉันกับน้องวินก็นั่งด้วยกันอยู่แล้ว” มาติกาพูดบอกไปก็มองหน้าเพื่อนทั้งสองอย่างรู้กัน “งั้นก็ฝากด้วยนะแก ถ้าเลโก้ตัวนั้นหายไป ตาวินร้องไห้โยเยแน่ๆอ่ะ” วาริตาเอ่ยบอกไปอย่างรุ้จักนิสัยของลูกชาย มาติกาก็พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินกลับออกไปด้านนอก แล้วขออนุญาติพนักงานให้ไปหาเลโก้ของหลานชายที่ลืมไว้ตรงที่นั่งด้านนอก พร้อมกับฝากกระเป๋าของเธอไว้กับพนักงานด้วย ด้านอาเธอร์ที่ยังไม่ได้เข้าไปในเครื่องบินพร้อมกับเพื่อนๆ ก็กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่เข้าไปทำธุระมาแล้ว พอเข้าเดินไปที่เกรดของเขา เขาก็เจอเลโก้ตัวขนาดไม่ใหญ่มาตกอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปเก็บมันขึ้นมาดู “ของแท้ซะด้วย เด็กที่ไหนมาทำตกไว้วะ” อาเธอร์พูดไป เมื่อมองสำรวจแล้วเขาก็รู้ทันทีว่านี่คือเลโก้ของแท้ที่ราคาแพงเอาการเลยทีเดียว ถ้าคนที่ทำหายไม่ใช่เด็กก็คงจะร้อนใจใช่เล่น เขาจึงถือมันไปกับเขาด้วย เพื่อจะเอาไปฝากไว้กับพนักงานที่ตรวจเช็คตั๋วด้านหน้าเกรดของเขาที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ ด้านมาติกาก็เดินกลับมาเพื่อหาเลโก้ให้หลายชาย พร้อมกับแวะถามพนักงานที่เกรดข้างๆ แต่ก็ไม่มีใครมาฝากของหายไว้ พอเธอหันไปกลับเห็นหลานชายวิ่งไปนู้นแล้ว เธอจึงรีบวิ่งตามไปทันที ก่อนที่จะพลาดกันกับหลานชายตัวแสบ “น้องวิน รอน้าก่อน อย่าวิ่งแบบนั้นลุก เดี๋ยวจะหกล้ม” มาติกาพูดบอกไปก็รีบวิ่งตามหลานชายไป จนน้องวินชนเขากับผู้ชายฝรั่งคนหนึ่งเข้า เธอก็หยุดมองดูด้วยความอึ้ง เพราะผู้ชายคนนั้นคือคนเดียวกับผู้ชายในรูปที่เพื่อนเธอเอาให้ดู ทำไมตัวจริงเขาดูดีแบบนี้เนี่ย สูง ขาว หล่อ หุ่นนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย มาติกาคิดในใจไปก็มองอย่างเคลิ้มๆ “โอ๊ย” น้องวินชนเข้ากับอาเธอร์อย่างแรงจนล้ม เพราะอยู่ๆอาเธอก็เดินออกมาจากมุมเสาจนทำให้น้องวินไม่ทันหลบ จึงชนเข้าอย่างแรงจนล้มลงไป “เป็นอะไรไหมไอ้หนู ฉันไม่ได้ตั้งใจ” อาเธอร์พูดเป็นภาษาอังกฤษออกไปอย่างว่องไว จนลืมนึกไปว่าเด็กคนนี้อาจจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่เขาก็พยายามมองเด็กน้อยคนนี้อย่างเป็นห่วง เพราะเขาก็ผิดเองที่เดินออกมาแบบไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ “อือๆ อือๆ เลโก้ของวิน อันนี่ของผม” น้องวินร้องไห้ไปอย่างตกใจ ก่อนจะเห็นเลโก้ของตัวเองในมือของชายแปลกหน้า ก็หยุดร้องแล้วเอามือชี้ไปที่เลโก้ พร้อมกับพูดเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว เพราะเรียนโรงเรียนนานาชาติมาตั้งแต่สองขวบครึ่ง “ของเราเหรอ ฉันเจอมันตกไว้ ว่าจะเอาไปตามหาเจ้าของพอดี ถ้าเป็นของเราก็เอาไปสิ เก่งนะตัวแค่นี้ พูดภาษาอังกฤษคล่องเชียว” อาเธอร์พูดบอกไปก็เอ่ยชมเด็กน้อยอย่างเอ็นดู เด็กอะไรน่าตาน่ารัก แถมยังฉลาดอีกด้วย “ขอบคุณฮะลุง นี่ตัวโปรดของผมเลยคุณพ่อให้มา ” น้องวินพูดบอกไปก็ยิ้มหน้าแป้น แล้วก็กอดเลโก้ตัวนั้นอย่างรักใคร่ “แล้วพ่อแม่เราไปไหน ทำไมปล่อยให้มาวิ่งเล่นคนเดียวล่ะ” อาเธอร์ถามไปก็เงยหน้ามองหาพ่อแม่ของเด็ก แต่ก็ไปสะดุดกับผู้หญิงหุ่นเอ็กซ์อกสะบึ้มยืนมองพวกเขาอยู่ไม่ไกล จนเขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอทันที เพราะผู้หญิงคนนั้นใส่เสื้อเดรสสีเทาสายเดี่ยวโชว์หน้าอกแล้วขาเรียวแบบเซ็กซี่จนน่าค้นหาสิ่งที่อยู่ข้างใน และเธอก็กำลังเดินมาทางเขา ยิ่งเขามองท่วงท่าและสะโพกที่เธอกำลังสะบัดมันอย่างเป็นจังหวะ เขาก็รู้สึกว่าอยากจะมองมันไปนานๆ แต่ก็ต้องสลัดความคิดนี่ไป เพราะเขาะไม่ยุ่งกับสาวเอเชีย “น้องวินเป็นอะไรไหมลูก เจ็บตรงไหนไหม” มาติกาเดินเข้ามาอย่างจงใจก่อนจะนั่งลงไปที่พื้นเพื่อดูหลานชาย พร้อมกับแกล้งไม่สนใจชายหนุ่มตรงหน้า ทั้งที่ในใจมันเต้นร่าอยากจะอ่อยเขาไปให้มันถึงไหนต่อไหน ภารกิจของเธอจะได้จบๆ แต่ไม่หรอก แบบนี้มันดูง่ายไป ผู้ชายอาจจะไม่สนใจก็ได้ “เจอเลโก้แล้วฮะน้ามายด์ ลุงคนนี้เขาเก็บมาให้” น้องวินหันมาหาน้าสาวของตัวเองก็ยิ้มหน้าบาน มาติกาก็ขมวดคิ้วเมื่อหลานชายพูดภาษาอังกฤษกับเธอต่อหน้าชายฝรั่งคนนี้ สงสัยคงอยากจะให้ชายหนุ่มรู้ว่าตัวเองพูดอะไร มาติกาจึงยิ้มให้หลายชาย แล้วเงยหน้ามองชายตรงหน้าแบบช้าๆ อาเธอก็มองขาเรียวสวยที่กระโปรงมันแหวกขึ้นไปถึงโคนขาอ่อนของเธอ ยิ่งพอเธอก้มพูดกับเด็กน้อยคนนี้ มันก็ยิ่งทำให้นมทั้งสองเจ้าของเธอโชว์เด่นต่อหน้าเขา จนเขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพรามันแห้งผากจนเกินไปแล้ว “ขอบคุณที่ช่วยเก็บเลโก้ของหลานฉันไว้นะคะ” มาติกาพูดไปก็ยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าแล้วยิ้มให้เขาไป แต่ก็ต้องขมวดคิ้วสงสัยเมื่อเขาไม่ได้มองที่หน้าของเธอ แต่เขากำลังมองไปที่นมของเธอแบบสายตาเคลิ้ม จนเธอต้องก้มมามองหน้าอกตัวเองว่ามันมีอะไรผิดปกติไหม แต่ก็ไม่มีอะไรนิ “ลุงฮะ มองนมน้าผมเหรอ” น้องวินเอ่ยถามออกไปเมื่อดูหน้าน้าวแล้วสลับกับมองชายหนุ่มตรงหน้า แล้วเด็กน้อยก็ยิ้มออกมาแบบกวนๆ “ปะ เปล่าๆ พูดไปนั่นแหละ ลุงไม่ได้มองอะไรเลย” อาเธอร์รีบพูดปฎิเสธออกไปแบบอายๆ เพราะถ้าเป็นคนอื่นพูดเขาจะไม่อายเลย แต่นี่กลับเป็นเด็กที่มาจับผิดเขาได้ สงสัยเขาจะแสดงออกเยอะไป ไม่ได้แล้ว เขาจะให้ไอ้เพื่อนตัวร้ายสองคนนั้นเห็นไม่ได้ว่าเขาสนใจผู้หญิงคนนี้ “งั้นเราไปกันเถอะ ป่านนี้แม่เรากับน้ากีกี้คงรอนานแล้ว ไปกันเถอะครับ” มาติกาพูดเป็นภาษาอังกฤษแบบเดิมเพื่อให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วจูงมือหลายชายให้ลุกขึ้นอีกคน แต่อยู่น้องวินก็ร้องออกมา “โอ๊ย น้องวินเจ็บขาครับน้ามายด์ อุ้มน้องวินหน่อย” น้องวินพูดบอกไปก็ทำหน้าออดอ้อนออกไป ทั้งที่ความจริงตัวเองไม่ได้เจ็บอะไร แต่เขาแค่อยากจะให้น้าสาวได้อยู่กับหนุ่มคนนี้นานๆ เผื่อลุงคนนี้จะได้เป็นแฟนของน้ามายด์ในอนาคต มาติกาก็อุ้มหลานชายอย่างเป็นห่วงทันที แต่เพราะเธอตัวเล็กมันจึงดูลุลักเลที่จะอุ้มเด็กในวัยหกขวบได้ อาเธอร์ที่มองดูถึงกับถอนหายใจอย่างแรง เพราะเสื้อของเธอมันถูกดึงรั้งลงมาจนจะเห็นนมของเธออยู่แล้ว เขาจึงต้องเข้าไปอุ้มเด็กคนนี้ไว้แทน “มาผมอุ้มเอง หลานคุณเจ็บก็เพราะผมนิ เกรดคุณหมายเลขอะไร ผมจะไปส่ง” อาเธอร์ถามออกไปขณะที่อุ้มเด็กน้อยแล้ว แล้วสายตาของเขาก็หยุดแลมองหน้าอกของเธอไม่ได้เลย เพราะมันรั้งต่ำจนเขาจะเห็นอะไรต่อมิอะไรหมดแล้ว “ยี่สิบสี่ค่ะ” มาติกาพูดบอกไปก็มองใบหน้าหล่อที่โชว์ความเป็นสุภาพบุรุษจนเธอรู้สึกประหม่า ถึงแม้เธอจะเจอผู้ชายเข้ามาช่วยเธอแบบนี้บ่อยๆ แต่เธอก็ไม่ชินที่มีผู้ชายหล่อตรงสเปคแบบนี้เข้ามาช่วย “ลำเดียวกับผม อ่อ แล้วเสื้อคุณน่ะดึงขึ้นหน่อยก็ได้ นมคุณจะหลุดออกมาอยู่แล้ว มีเด็กมาด้วยคุณก็ไม่ควรจะใส่เศษผ้าแบบนี้มานะ ” อาเธอร์พูดเสียงเข้มออกไป แล้วหลบสายตาไม่มองหน้าอกสวย เพราะขืนมองนานๆ เธอก็หาว่าเขาเป็นไอ้ลามกอีก เพราะฉะนั้นเขาต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม นี่ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นเมียเขาล่ะก็เขาคงได้ปวดหัววันละหลายรอบแน่ เพราะคงได้มานั่งหึงกันทั้งวันไม่ต้องเป็นอันทำอะไร “เศษ เศษผ้าเหรอ” มาติกาพูดไปแบบตะกุตกักก็ก้มมองหน้าอกตัวเอง แล้วเงยมองเขาแบบอึ้งๆ หน้าก็หล่อหุ่นก็ตรงสเปคอยู่หรอก แต่ปากนี่สิร้ายเป็นบ้าเลย กล้าดียังไงมาว่าชุดเธอแบบนี้ เธอทำงานเป็นสไตล์ลิสมาหลายปี ไม่มีใครเคยว่าเรื่องการแต่งตัวของเธอเลยสักคน บางคนกลับชื่นชมเธอด้วยซ้ำว่าเป็นเจ้าแม่สายสวยเซ็กซี่ของบริษัท แต่ไอ้หล่อนี่กลับมาบอกว่าเธอไม่ควรใส่เศษผ้าพวกนี้เนี่ยนะ มาติกาแทบอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ ก่อนจะมองเขาอุ้มหลานชายของเธอเข้าไปยังเกรด พร้อมกับยืนตั๋วให้พนักงานตรวจสอบ ส่วนเธอก็เดินไปบอกกับพนักงานแล้วเขาก็ให้เธอผ่านก่อนจะรับเอากระเป๋าที่ฝากไว้ แล้วเธอก็เดินตามชายหนุ่มเข้าไปแบบงอนๆ “เลขที่นั่งของคุณกับหลานคืออะไร” อาเธอร์หันมาถาม ขณะกำลังอุ้มเด็กน้อยไว้อย่างประคับประคอง มาติกาก็ยื่นตั๋วให้เขาดูแทน โดยที่เธอไม่พูดอะไร อาเธอร์ก็แลสายตามองหญิงสาวคนนี้ออกไปแบบขมวดคิ้วว่าเธอเป็นอะไร หรือว่าจะโกรธที่เขาบอกว่าเธอใส่เสื้อผ้าโป๊ เขาก็พูดไม่ผิดนิ แล้วเธอจะโกรธอะไร อาเธอร์คิดไปก็มองดูตั๋วที่นั่งแล้วก็อึ้งเอเธอกับหลานชายดันได้นั่งแถวเดียวกับเขา “เราได้นั่งแถวเดียวกันพอดี คุณก็ตามผมมาก็แล้วกัน แล้วก็เอานี่คลุมไว้ซะจะได้ไม่โป๊” อาเธอร์พูดบอกไปพร้อมกับเอาเสื้อยีนส์แขนยาวของเขาส่งให้เธอ ก่อนจะมองแล้วก็หันกลับเดินเข้าไปในเครื่องบินทันที เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะห่วงผู้หญิงคนนี้ทำไม ในเมื่อเธอเองก็จงใจจะใส่มาโชว์อยู่แล้ว “พ่อพระไปอีก คนเขาอ่อยยังไม่รู้ตัวอีก แบบนี้ต้องให้อ่อยเบอร์ไหนเนี่ย จะสุภาพบุรุษไปแล้วพ่อคุณเอ้ย” มาติกาพูดไปแบบอดไม่ได้ เพราะเขาดูสุภาพบุรุษเกินไป จนไม่รู้ตัวว่าเธอกำลังอ่อยเขาอยู่ หรือว่าเธอต้องเพิ่มเลเวลการอ่อยขึ้นอีก เขาถึงจะสนใจ มาติกาคิดไปก็เดินตามชายหนุ่มเข้าไปด้านใน อาเธอรืก็อุ้มเด็กน้อยเข้ามาในเครื่องบินที่ตอนนี้ผู้โยสารส่วนใหญ่ได้นั่งประจำที่กันหมดแล้ว พอเขาเดินเข้ามามันก็จะกลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งลำไปโดยปริยาย “อีกีกี้ แกดูนั้น พ่อฝรั่งคนนั้นอุ้มลูกฉันมานู้นแล้ว” วาริตาเอ่ยพูดบอกเพื่อนหนุ่มไปด้วยเสียงตื่นเต้น เพราะไม่คิดว่าเพื่อนสาวจะก้าวข้ามขั้นให้ชายหนุ่มอุ้มลูกของเธอเข้ามาในเครื่องบินได้รวดเร็วขนาดนี้ “ไม่น่าล่ะฉันมองหายังไงก็ไม่เจอ ที่แท้อยู่ข้างนอกนี่เอง ยัยมาย์ดมันไปอ่อยอีท่าไหนเนี่ย พ่อคุณฌอ้ย หล่อ งานดี ดีเหลือเกิน” กิติกรพูดไปก็มองแบบเคลิ้มๆ เพราะยิ่งเห็นชายหนุ่มคนนั้นอุ้มหลายชายเข้ามามันก้ยิ่งเห็นถึงความบึกบึนแข็งแรงของเขา “แกยัยมายด์ก็ตามเขามาแล้วนั่น โอ๊ยแก ฉันว่าคนนี้ยัยมายด์ได้แน่ๆ ไม่พลาดแน่นอน” วาริตาพูดบอกไปก็ยื่นหน้ามองแบบอย่างรู้อยากเห็น เพราะตอนนี้เพื่อนสาวกำลังเดินตามหลังหนุ่มหล่อคนนั้นเข้ามาแบบพ่อแม่ลูกอย่างไรอย่างนั้น “แกดูสิ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ายัยมายด์ท้องกับผู้ชายคนนี้แล้วลูกมันจะน่ารักขนาดไหน พ่อก็หล่อ แม่ก็สวยแบบนี้” กิติกรพูดออกไปก็มองแบบลุ้น ด้านดีแลนและแซมที่กำลังนั่งรออยู่บนเครื่องก็ตกใจที่อยู่ๆเพื่อนหนุ่มก็อุ้มเด็กเข้ามาด้วย แถมมีสาวสวยตัวเล็กๆเดินตามหลังมันมาอีก “ไอ้แซม มึงดูนั่น ไอ้อาเธอร์มันอุ้มเด็กที่ไหนมาวะ ไหนมันบอกไปเข้าห้องน้ำไงวะ ทำไมมันมันเอาเด็กกับผู้หญิงกลับมาด้วยวะ” ดีนแลนพูดออกไปก็มองเพื่อนหนุ่มที่เดินมาใกล้ๆเขาแล้ว “ฉันก็นั่งกับแกที่นี่ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงวะ” แซมก็พูดบอกไปแบบไม่รู้ ก่อนจะมองดูแบบสังเกต พอเพื่อนหนุ่มเดินเข้ามาก็อุ้มเอาเด็กไปนั่งที่ริมหน้าต่างในแถวเดียวกับมันเลย จนเขางงหนักกว่าเดิม อาเธอร์พอมาถึงแถวที่นั่งของเขาเอง เขาก็อุ้มเด็กน้อยไปนั่งริมหน้าต่าง ส่วนเขาก็มานั่งริมทางเดินแทน ก่อนจะชะโงกมองหญิงสาวที่กำลังเดินถือกระเป๋ามา “ขอบคุณฮะ” น้องวินบอกไปก็ยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งคุกเข่าบนเบาะ แล้วหันไปด้านหลังเบาะที่มีแม่กับน้องสาวและน้ากีกี้ของเขานั่งอยู่ ก่อนจะเห็นผู้เป็นแม่ทำมือจุ๊ที่ปากแล้วไล่มือให้เขาหันกลับไปนั่งที่เดิม จนเด็กน้อยทำหน้าเซ็งแล้วกลับมานั่งดังเดิน ก่อนจะเล่นเลโก้ไป “ไอ้อาเธอร์ แกไปอุ้มเด็กที่ไหนมาวะ แล้วสาวนั่นน่ะ ใคร” ดีแลนเอียงตัวมาถามเพื่อนหนุ่มอย่างอยากรู้ เพราะแถวที่นั่งของเขาเรียงแถวเดียวกับเพื่อนหนุ่ม แต่แค่มีทางเดินแทรกกลางเท่านั้น “ฉันไปชนเด็กคนนี้น่ะ ฉันก็เลยช่วยเขาอุ้ม แม่เด็กเขาอุ้มไม่ไหว” อาเธอร์พูดบอกเพื่อนหนุ่มออกไปว่าหญิงสาวคนนี้คือแม่เด็ก เพราะเพื่อนของเขาจะได้ไม่สนใจ เธอยิ่งตรงสเปคผู้ชายหลายๆคนอยู่ด้วย ต้องกันไว้โดยเฉพาะได้ดีแลนที่มันชอบสาวนมใหญ่ตัวเกแบบนี้เป็นพิเศษ “ใจดีขึ้นมาเลยนะแกเนี่ย แต่เสียดายว่ะ มีลูกแล้ว แต่หน้ากับหุ่นนี่ใช้ได้เลยนะโว้ย” ดีแลนพูดกระซิบออกไปก่อนจะกลับไปนั่งแบบเกร็งๆ เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาถึงที่นั่งแล้ว มาติกาพอเดินมาถึงก็มองอาเธอร์ที่นั่งริมฝั่งทางเดินแล้วเขาก็ว่างที่ตรงกลางไว้ เธอก็มองไปที่เพื่อนๆทั้งสองคนที่แอบดูสถานการณ์จากด้านหลัง แล้วทั้งสองก็ทำท่าให้เธอสู้ มันสองคนจะรู้ไหมว่าไอ้ผู้ชายคนนี้มันตายด้านขนาดไหน อ่อยเท่าไหร่มันก็ยังไม่สนเธอเลย จนเธอหน้าชาถูกเขาบอกให้ใส่เสื้อยีนส์คลุมมาแบบนี้ “ถอดออก ถอดออก” กิติกรพูดเบาๆ แล้วทำท่ายกมือขึ้นให้เพื่อนดู แล้วสะบัดไหล่เพื่อให้เพื่อนเห็นว่ามันควรจะเอาเสื้อยีนต์นั้นออกไป มาติกาก็พยักหน้าเข้าใจ แล้วลองยกมือขึ้นไปกดที่วางบหนหัวให้เปิดออก แล้วเธอก็ยกกระเป๋าของตัวเองขึ้นสูงจนเสื้อมันหล่นลงไปที่พื้น จากนั้นเธอก็เขย่งปลายเท้าเพื่อเอาของไว้ จนประโปรงที่เธอใส่แหวกหน้ามันร่นขึ้นไปสั้นถึงหน้าขาอ่อน “ไอ้แซม แกดูแม่ลูกหนึ่งสิวะ ให้ตายเถอะ บ้ะ” ดีแลนพูดออกไปแบบอึ้งๆ เพราะเขาอยู่ด้านหลังจึงทำให้เห็นขาขาวเนียนจากด้านหลังแบบชัดเจน จนต้องมองแล้วกลืนน้ำลายทันที “นี่ไม่ได้ยั่วกันใช่ไหมวะ ทำไมมันแหวกตรงนั้นที ตรงนี้ทีวะ” อาเธอร์พูดไปเพราะตั้งแต่เจอเธอมา ทั้งนมทั้งขาอ่อนเธอก็เขยันเอามาโชว์อ่อยเขาเหลือเกิน จนเขาคิดว่ามันไม่น่าจะบังเอิญแล้ว ก่อนจะใช้สายตามองรอยแหวกของขาอ่อนนั้นแบบอยากจะสัมผัสดูจริงๆว่ามันจะนุ่มลื่นมือหรือเปล่า ก่อนจะไปเห็นสายตาของเพื่อนหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง แล้วมันสองคนกำลังมองขาอ่อนของเธออยู่ เขาจึงจะลุกไปช่วยเธอ แต่เธอก็ทำเสร็จแล้วกำลังจะเดินเข้ามานั่ง “ขอทางหน่อยค่ะ อุ้ย ตึบ” มาติกาพูดบอกไปก็แกล้งล้มลงบนตักของหนุ่มหล่อแบบตั้งใจ ก่อนจะเงยหน้ามองเขาแบบหน้าห่างกันไม่ถึงสองเซ็นต์ แต่ก่อนที่เธอจะอึ้งกับการได้มองเขาใกล้ๆแบบนี้ เธอก็ดันมาสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เธอกำลังนั่งทับมันอยู่ เธอมั่นใจเธอมามันเป็นแท่งอะไรสักอย่างแน่ๆ แล้วมันแท่งอะไรที่มันจะอยู่ตรงหน้าขาของเขาได้ ถ้าไม่ใช่ ไอ้นั่น “ตึบ” อาเธอร์ก็มองสบตาแบบตกใจ เพราะเธอเล่นนั่งมาใส่น้องชายของเขาแบบเต็มๆ แถมมันก็เริ่มแข็งตัวตื่นเพราะเธอแล้วด้วย แบบนี้มันน่าขายหน้าชะมัด ไม่สิ เขาจะขายหน้าได้ยังไง เขาต้องภูมิใจสิที่น้องชายของเขามันใหญ่เป็นแท่งทำให้สาวๆหลงมาหลายคนแล้ว ขนาดสาวๆอิตาเลี่ยนยังอยากขึ้นเตียงกับเขากันทั้งนั้น “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” มาติกาพูดไปก็ลุกขึ้นเขยิบไปนั่งที่ตัวเองแบบเขินๆและเกร็งไปทันที เพราะเธอรู้สึกกลัวไอ้แท่งที่เธอนั่งสัมผัสได้เมื่อกี้ ถ้าเธอเลือกเขาเป็นพ่อพันธ์ล่ะก็ หอยเธอแหกแน่คราวนี้ ไม่ได้ เธอต้องเอาไซต์เล็กกว่านี้ เธอต้องหาเหยื่อใหม่ ใหญ่แบบนี้ไม่ไหว “ไม่เป็นไร ผมชอบ” อาเธอร์พูดบอกไปก็ยิ้มมุมปากทันที เพราะเขาคิดว่าเธอคงจะอ่อยเขานั่นแหละ ไม่งั้นเธอคงไม่ล้มลงมาทั้งที่เครื่องบินยังคงจอดนิ่งแบบนี้หรอก ในเมื่อเธออ่อยเขา เขาก้จะลองดูสิ ว่าเธอจะอ่อยอะไรเขาอีก มติกาก็หันมามองเขาแบบเขินๆ เพราะเขาดูนิ่งๆมาตลอด พอเขาพูดออกมาแบบนี้แล้วมันทำให้เธอเขินน่ะสิ แต่ไม่เอาแล้ว แค่นั่งทับยังขนาดนั้น แล้วถ้าจับเขาทำลูกจะขนาดไหน ไม่เอาแล้ว เธอเปลี่ยนคนดีกว่า เขาคนไทยธรรมดาๆก็พอ ไม่ต้องฝรั่งหล่อแบบนี้หรอก แค่นี้ก็กลัวแล้ว​ “เห้ย เป็นฉันจะให้นั่งยันเครื่องลงจอดเลยแม่ง ทำไมมันไม่เอาวะสาวเอเชียนี่แหละแซ่บ” ดีแลนพูดไปเบาๆกับแซมแบบเสียดายแทนอาเธอร์ที่ได้สาวสวยเซ็กซี่แบบนั้นมาอ่อย ถึงแม้จะลูกหนึ่งแต่ถ้าหุ้นเซี๊ยะน่าเยแบบนี้ เขาก็พอไหวอยู่ แต่อาเธอร์มันคงจะไม่เพราะมันไม่ชอบผู้หญิงเอเชียตัวเล็กอยู่แล้ว “แกลองแล้วเหรอวะถึงรู้ว่าแซ่บน่ะ” แซมถามออกไปแบบกวนๆ ก่อนจะไม่สนใจในสิ่งที่เพื่อนหนุ่มพูด เพราะเขาอยากจะรู้มากกว่าว่าสองคนนี้จะทำอะไรกันต่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD