ห้าวันผ่าไป ด้านวาริตาและกิติกรที่มาถึงสนามบินก่อนก็นั่งรอมาติกาอย่างปวดหัว เพราะวาริตาดันเอาลูกทั้งสองคนของเธอมาด้วย และเด็กในวัยหกขวบและวัยสี่ขวบก็จะเล่นซุกซนตามวัยของพวกเขา
“ยัยว่าน ผัวแกนี่มันร้ายจริงๆ ตัวไม่มาแต่ดันส่งลูกๆมาเฝ้าแม่ แบบนี้ล่ะฉันถึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงออกไปแรดกับพวกฉันไม่ได้” กิติกรพูดออกไปขณะนั่งมองลูกของเพื่อนสาววิ่งเล่นอยู่ตรงหน้าของเขาและวาริตา
“จะให้ทำไงได้ล่ะแก ถ้าฉันไม่พาลูกมาด้วย แกสองคนจะได้หยุดไหมล่ะ ฉันอุตส่าห์ขอให้แกหยุดได้ตั้งสี่วัน ส่วนยัยมายด์ได้ตั้งสองอาทิตย์ แค่นี้มันก็ถือว่าคุ้มไหมล่ะ” วาริตาเอ่ยบอกออกไป เพราะเธอใช้ข้ออ้างขอมาพักร้อนกับเพื่อนๆหลายวัน แต่สามีเธอก็มีข้อแม้ว่าต้องเอาลูกๆมาด้วย เพราะเธอจะได้ออกไปเที่ยวกับกิติกรและมาติกาไม่ได้
“เออๆ หวังว่าผัวแกจะไม่ตามตัวเรากลับก่อนก็แล้วกัน เพราะถ้างานนี้ยัยมาย์ดพลาด มันต้องถูดตัดมดลูกเลยนะแก” กิติกรพูดไปอย่างห่วงเพื่อนสาว เพราะมาติกานั้นถือว่าเป็นพื่อนที่เขาสนิทและรักที่สุด
“เออ ฉันถึงยอมเอาลูกมาด้วยไง อย่างน้อยถ้าเรายังช่วยยัยมายด์หาผู้ชายไม่ได้ ก็ยังเอาตาวินกับยัยวาวอ้างได้ ว่าลูกอยากเที่ยวต่อ แค่นี้พี่บุรินทร์ก็ยอมใจอ่อนแล้ว” วาริตาพูดบอกไปแบบมีแผนสำรองให้เพื่อนๆ เนื่องจากบุรินทร์นั้นชอบตามใจลูกเธอจึงต้องมีลูกๆมาช่วยเสริมทัพ
“อุ้ยยัยว่าน แกดูฝรั่งกลุ่มนั้นดิ หล่อทั้งสามคนเลยอ่ะแก น่าจะจับให้ยัยมายด์สักคน ลูกออกมาคงจะน่ารัก” กิติกรพูดบอกไปเมื่อเห็นหนุ่มฝรั่งสามคนกำลังยืนพูดกันอยู่แถวหน้าเคาน์เตอร์รอเช็คอินด้วยสายตาลุกวาว เพราะออร่ารัศมีความหล่อความล่ำมันพุ่งเข้าตาของเขาแบบเต็มๆ โดยเฉพาะหนุ่มหล่อที่ใส่เสื้อสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำยาวถึงเข่า มันดูมีสไตล์การแต่งตัวที่ดูดีเหมาะกับรูปร่างหน้าตาของเขา
“แต่ยัยมายด์บอกไม่เอาฝรั่งนิแก แกมองไปก็เท่านั้นแหละ” วาริตาพูดบอกไปก็มองตามเพื่อนหนุ่มอย่างอยากรู้อยากเห็นว่าจะหล่อขนาดไหน แต่พอเห็นก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอทันที เพราะทั้งสามหนุ่มหล่อทุกคน โดยเฉพาะฝรั่งที่ใส่เสื้อสีขาวนั่น หน้าก็หล่อคมแบบลูกครึ่งเอเชีย
“ยัยมายด์มันไม่ได้อยากได้ แต่ฉันนี่แหละจะยัดเยียดให้มันเอง แกว่าคนไหนหล่อยัยว่าน” กิติกรพูดไปอย่างพิจารณา เพราะหนุ่มหล่อทั้งสามคน ก่อนสายตาจะพุ่งเป้าไปที่หนุ่มเสื้อขาวแบบเจาะจง แล้วรีบเอามือถือมาถ่ายรูปเก็บไว้ให้เพื่อนสาวดูเมื่อมาถึง
“ฉันว่าคนที่ใส่เสื้อขาวก็ผ่านนะแก หน้าเหมือนลูกกครึ่งเลยอ่ะ ยัยมายด์น่าจะชอบ แต่นี่เรายังไม่ถึงสมุยเลยนะแก แกจะหาผู้ชายให้ยัยมายด์แล้วเหรอกีกี้” วาริตาพูดให้ความติดเห็นออกไป ก็มองสามหนุ่มพูดคุยกันอย่างออกรส
“ก็เออน่ะสิ ของดีๆแบบนี้ หาได้ง่ายๆที่ไหนกันล่ะ เลือกไว้เป็นตัวเลือกก็ไม่เสียหาย ไม่ได้การละ ขืนรอยัยมายด์มาก็ไม่ทันได้กินกันพอดี ฉันจะ” กิติกรรีบลุกขึ้นแล้วรีบเดินไปที่เคาน์เตอร์เช็ดอินทันที เพราะงานนี้เพื่อนของเธอต้องไม่พลาด เขาจึงรีบเข้าไปที่ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน
“สวัสดีครับน้อง พอดีพี่มีเรื่องรบกวนนิดหน่อยน่ะ พี่อยากจะให้น้องช่วยจัดที่นั่งของเพื่อนพี่กับผู้ชายฝรั่งที่ใส่เสื้อสีขาวตรงนั้นได้ไหมอ่ะครับ” กิติกรพูดกับพนักงานหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นเกย็ออกไปด้วยรอยยิ้ม แล้วบอกให้พนักงานช่วยจัดที่ให้กับฝรั่งคนนั้นกับเพื่อนของเขาที่จะมาเช็คอินทีหลัง
“อ่อ ทางเราไม่สามารถทำได้หรอกครับ มันผิดกฎของพนักงาน” พนักงานพูดบอกไปแบบสุภาพ เพราะมันไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเขาต้องจัดให้ตามความต้องการของลูกค้า แต่ถ้าเอาจริงๆมันก็สามารถทำได้ แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ
“โถ่น้อง ถือว่าช่วยพี่เถอะนะ เพื่อนพี่มันแอบชอบฝรั่งคนนั้นมานานแล้ว แล้วมันไม่กล้ามาขอเอง พี่เลยมาขอให้มันเนี่ย ถือว่าช่วยคนให้ได้รักกันไม่ผิดหรอก เชื่อพี่ นะช่วยพี่หน่อยละกันนะ” กิติกรพูดบอกไปก็แอบเอาเงินไปด้านข้างเคาน์เตอร์ แล้วพนักงานคนนั้นก็มองสักพัก แล้วรีบเก็บเงินไป
“ก็ได้ครับ จะให้ผมช่วยยังไงครับ” พนักงานหนุ่มพูดบอกไปแบบเงียบๆ เพราะตอนนี้ยังไม่ค่อยมีคนมาเช็คอิน เขาจึงสามารถพูดได้
“ไม่ยากเลย แค่ล็อคที่นั่งให้เพื่อนพี่กับฝรั่งคนที่ใส่เสื้อขาวคนนั้นน่ะ ได้นั่งด้วยกัน เดี๋ยวถ้าเพื่อนพี่มา พี่จะบอกเองว่าคนไหน พี่ไปก่อนนะน้องขอบใจมาก” กิติกรพูดบอกไปก็รีบเดินออกไปทันที เพราะเขากลัวว่าพนักงานคนอื่นๆจะสงสัยเอาได้ ส่วนพนักงานคนนั้นก็ยืดตัวมองหนุ่มฝรั่งกลุ่มนั้นแบบเป็นระยะๆ
ผ่านไปห้าวัน ด้านสามหนุ่มก็ยังไม่มีใครยอมแพ้ใคร แม้กระทั่งดีแลนที่เจ้าชู้ที่สุดในกลุ่ม ยังสามารถรักษากฎการพนันครั้งนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะมีสาวๆเข้าหาเขาหลายคนก็ตาม เขาก็ทำได้เพียงแค่มองเท่านั้น
“ฉันไม่น่าพนันกับพวกแกเลย ดูสิ นอกจากจะลำบากตัวเองแล้วยังจะมาทรมานน้องชายตัวเองเปล่าๆ เฮ้อ นี่พวกแกไม่คิดจะสนใจสาวๆเลยหรือไงวะ” ดีแลนพูดออกไปอย่างหัวเสีย ขณะมองเพื่อนหนุ่มกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ด้วยท่าทางสบายใจทั้งคู่ ซึ่งต่างจากเขาที่กำลังร้อนใจเพราะไม่ได้แอ้มสาวๆสวยๆสักที
“ฉันสองคนไม่ได้หื่นแบบแกนิไอ้ดีน แกทนไม่ได้ก็ไปเอาสาวๆสิวะ จะมาโวยวายทำไม” อาเธอร์พูดออกไปอย่างรำคาญเพื่อนหนุ่ม เพราะมันเอาแต่พูดบ่นเรื่องนี้ ตั้งแต่เที่ยววันแรก จนตอนนี้พวกเขากำลังจะเดินไปสมุย มันก็ยังบ่นไม่หยุด
“เออ ใครจะไปอดทนแบบแกได้ล่ะว่ะไอ้จู๋ใหญ่ ” ดีแลนแซวออกไปแบบขำ เพราะในกลุ่มนี้อาเธอร์นั้นมีขนาดน้องชายใหญ่สุด และมันก็มีสาวติดใจมันเยอะที่สุด แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่หื่นแบบเขากัน เพราะเท่าที่เขารู้มันซื้อผู้หญิงมานอนด้วยแค่อาทิตย์ละครั้งสองครั้งเท่านั้น ไม่เคยเกินเลยสักครั้ง
“อิจฉาไอ้อาเธอร์ล่ะสิ แกไม่ใหญ่ไม่ยาวก็อย่ามาพูดแขวะคนอื่นเขาสิวะ จงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีสิวะ ฮ่าๆ” แซมพูดแซวออกไปอย่างอดไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องพูดขำกันในกลุ่มอยู่แล้ว
“เออก็ได้ ฉันขอให้พวกแกสองคนถูกสาวๆรุมตอมจนแพ้พนัน คอยดูเถอะถ้าฉันชนะ ฉันจะเที่ยวทริปนี้ให้อ่วมเลย” ดีแลนพูดบอกเพื่อนนุ่มไปอย่างมาดมั่น เพราะตอนนี้ความหวังของเขาคงเป็นที่สมุยแล้วล่ะ หวังว่าไอ้เพื่อนสองคนของเขามันจะตะบะแตกก่อนเขานะ โดยเฉพาะอาเธอร์ เขาล่ะอยากจะให้มันแพ้เขาเป็นคนแรกเลย เพราะมันน่ะร้ายสุด
“หึ แกไม่ได้กินคนอย่างฉันแน่ไอ้ดีน” อาเธอร์พูดอย่างเหนือกว่า เพราะเขาไม่ได้มีความต้องการมากมายขนาดนั้น อีกอย่างสาวเอเชียหรือสาวไทยก็ไม่ใช่แนวของเขา เขาไม่ชอบผู้หญิงตัวเล็ก มันเอาไม่มันส์
“เออ แล้วฉันจะคอยดู” ดีแลนพูดบอกไปอย่างไม่ยอม ส่วนแซมก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะสองคนนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดอยู่แล้ว เขาจึงชอบเงียบเวลาที่สองคนนี้พูดต่อล้อต่อถียงกัน แต่ดูท่าแล้วงานนี้ดีแลนมันจะสู้สุดใจ แต่ถ้าให้เขาทายว่าใครจะชนะ เขาก้คงคิดว่าเป็นอาเธอร์ เพราะรายนี้ไม่ค่อยยุ่งกับสาวๆเท่าไหร่ ต่างจากดีแลนที่เห็นสาวสวยๆหน่อยเป็นไม่ได้
“พูดมากกันอยู่ได้ ไปเช็ดอินได้แล้วไป” แซมพูดบอกไปเพราะตอนนี้คนมาเช็ดอินก็เริ่มเยอะแล้ว เขาจึงต้องเตือนเพื่อนทั้งสองให้รีบไป เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ได้นั่งด้วยกัน เนื่องจากมันเป็นสายการบินภายในประเทศ และบินตรงไปที่สมุยเลยจึงเป็นเครื่องบินลำเล็ก ไม่ใช่ลำใหญ่ที่จะนั่งแบบสะดวกสบาย
“เชิญทางนี้เลยครับ” พนักงานหนุ่มที่กิติกรแอบติดสินบนไว้ รีบพูดเป็นภาษาอังกฤษเพื่อเชิญให้หนุ่มฝรั่งเสื้อขาวมาเช็คอินที่เขา เพราะวันนี้เปิดหลายเคาน์เตอร์เขากลัวว่าเขาจะพลาด จนเพื่อนๆของหนุ่มฝรั่งไปเคาน์เตอร์ข้างๆ แล้วเขาก็ได้เช็ดอินให้กับหนุ่มฝรั่งคนนี้
“มีกระเป๋าโหลดใต้เครื่องไหมครับ” พนักงานถามออกไปเป็นภาษาอังกฤษ แล้วมองใบหน้าหล่อแบบอึ้งๆ เพราะดูใกล้ๆแล้วก็หล่อมากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่พี่คนเมื่อกี้มาติดสินบนเข้าให้ล็อคที่นั่งไว้ เพราะฝรั่งคนนี้งานดีแบบนี้นี่เอง เอาล่ะ เขาจะถือว่าช่วยคนให้ได้รักกันก็แล้วกัน
“มีครับ” อาเธอร์พูดตอบเป็นภาษาอังกฤษออกไป เพราะถึงเขาจะเป็นลูกครึ่งไทยอิตาเลี่ยน แต่เขาก็โตที่อิตาลี่ ไม่ใช่เมืองไทย จึงไม่สามารถพูดไทยได้ เนื่องจากแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เขาเด็กๆแล้ว จากนั้นเขาก็ทำการเช็คอิน แล้วก็เดินเข้าเกรดไปรอขึ้นเครื่องด้านในพร้อมกับเพื่อนๆ
ด้านมาติกาก็รีบลากกระเป๋ามาอย่างรีบเร่ง เพราะรถติดจนทำให้เธอมาช้าในวันนี้ พอมาถึงก็เจอวาริตาและกิติกรนั่งรออยู่แถวหน้าเคาน์เตอร์เช็ดอินแล้ว โดยมีลูกๆของวาริตามาด้วย นั้นก็คือน้องวินและน้องวาว ซึ่งเป็นหลานรักของเธอนั่นเอง
“หืมยัยมายด์ ถ้าแกจะใส่แบบนี้มานะ ไม่ต้องไปถึงสมุยแกก็หาผัวได้แล้วล่ะ” กิติกรพูดแขวะการแต่งตัวของเพื่อนสาวออกไปแบบอิจฉาในหุ่นอันมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ดูดีอย่างอดไม่ได้ เพราะวันนี้มาติกาใส่ชัดเดรสสายเดี่ยวสีเท่ายาวไปถึงหน้าขา แล้วมันก็มีรอยแยกให้ดูเซ็กซี่ที่ปลายกระโปรงรัดรูปนี้
“เผ็ดพริกร้อยเม็ดเลยแก ฉันกราบเลยยัยมายด์” วาริตาก็เอ่ยชมเพื่อนสาวไปอย่างชอบใจในการแต่งตัวของเพื่อนสาว ที่แต่งชุดไหนก็ดูดีไปหมด
“พวกแกก็ ฉันก็แต่งธรรมดาเองนะ อีกอย่างนี่เราไปทะเลนะ แกจะให้ฉันใส่เสื้อกันหนาวหรือไงเล่า แบบนี้แหละ สวยและเซ็กซี่ดี” มาติกาพูดบอกไปก็ทำท่าเซ็กซี่ให้เพื่อนทั้งสองดูแบบขี้เล่น
“จ้า นี่ธรรมดามาก แหวกหน้าจนนมหกขนาดนี้ แต่ก็ดีแล้วแหละแก มีของดีก้ต้องโชว์ วันนี้ฉันเจอเหยื่อคนแรกของแกแล้ว ถ้าแกสนใจก็ลองอ่อยได้เลย หล่อมากบอกเลย งานดีสุดๆจริงไหมยัยว่าน” กิติกรพูดไปก็ทำท่าทางประกอบไปด้วย จนมาติกาพยักหน้าแล้วคิดจินตนาการไปว่ามันจะแค่ไหนกัน ยัยกีกี้ถึงอวยขนาดนี้
“เออจริง แต่คนนี้เป็นฝรั่งนะแก แกลองไปดูก่อนถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่อยก็ได้” วาริตาพูดบอกเพื่อนสาวไปอย่างให้มีทางเลือก เพราะก่อนหน้านี้มาติกาบอกว่าจะไม่เอาฝรั่ง
“งั้นฉันไม่เอาหรอก แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบฝรั่ง ต่อให้จะหล่อขนาดไหนก็เถอะ ฉันไม่สู้ฝรั่งหัวทองจริงๆอ่ะแก” มาติกาพูดบอกไปแบบปฎิเสธ เพราะเธอชอบแบบเอเชียมากกว่าจะเป็นหนุ่มฝรั่งหัวทองตัวใหญ่ๆ
“ไม่เอาไม่ได้ แกดูคนนี้ก่อน หัวไม่ทองแน่นอน ดีไม่ดีอาจจะเป็นลูกครึ่งอะไรสักอย่างในเอเชียนี่แหละ ดูจ้ะ ถ้านี่ไม่ใช่สเปคแกนะ ให้เอามีดมาแทงฉันได้เลย” กิติกรพูดบอกไปอย่างรับประกันว่านี่คือสเปคของมาติกาอย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นเพื่อนกับมาติกามาสิบกว่าปี เขารู้ว่ามาติกาชอบผู้ชายแนวไหน ถ้าไม่นับนิสัย หนุ่มเสื้อขาวก็ถือว่าผ่านเลยล่ะก่อจะเอารูปในมือถือที่เขาถ่ายไว้ให้เพื่อนสาวดู
“โฮ่แก หน้าอย่างกับชีวอนอ่ะ แกนี่เริดจริงๆเลยกีกี้ หาคนแรกก็ทำให้ฉันใจอ่อนแล้วอ่ะ แล้วนี่ฉันจะถึงสมุยไหมเนี่ย” มาติกาพูดไปก็ขยายรูปซูมแบบชัดๆ แต่มันถ่ายจากระยะไกล เธอจึงมองไม่ชัดเท่าไหร่ แต่พอดูเคร่าๆแล้วหน้าตาและหุ่นของเขาอย่างกับชีวอนวงซุปเปอร์จูเนียร์ที่เธอชอบเลย แบบนี้แหละเหมาะแก่การเอามาทำพันธ์มาก
“ถึงไม่ถึงไม่รู้ รู้แต่ว่าแกต้องอ่อยเขา แกถึงจะได้ เพราะสาวๆคนอื่นก็มองเขาตาเป็นมันเหมือนกันแหละ” กิติกรพูดบอกไปตามที่เขาเห็นว่าสามหนุ่มนั้นเป้นที่สนใจของสาวๆโดยเฉพาะสาวไทยที่ดูแล้วจะดีด้ากันเหลือเกิน
“แล้วฉันจะอ่อยยังไงเล่า ตัวจริงเขายฉันยังไม่เคยเจอเลย” มาติกาพูดบอกไปก็ทำหน้ามุ้ย ต่างจากเพื่อนหนุ่มที่กำลังยิ้มออกมาแบบเจ้าเล่ห์
“ฉันจัดการหาทางให้แกอ่อยเขาไว้แล้วล่ะ เหลือก็แต่แกนั่นแหละจะอ่อยเขาสำเร็จไหม” กิติกรพูดบอกไปก็ยิ้ม แล้วมองหน้าเพื่อนสาวไป
“ยังไงอ่ะแก เราจะขึ้นเครื่องแล้วนะ แล้วฉันจะอ่อยเขายังไง” มาติกาถามไปแบบงงๆ เพราะเพื่อนของเธอจะให้ไปอ่อยเขาบนเครื่องหรือไง
“ก็อ่อยบนเครื่องบินนั่นแหละ ฉันให้พนักงานล็อคที่นั่งของเขาไว้แล้ว แกแค่ไปเชคอินแล้วลังจากนั้นแกก็จะได้นั่งกับพ่อหนุ่มสุดหล่อคนนั้นได้ แล้วถ้าอ่อยสำเร็จอ่ะน่ะ แกก็ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อผู้ชายเลยยัยมายด์” กิติกรบอกไปตามที่เขาคิดไว้
“ฉันว่าสำเร็จแน่ สวยๆแบบยัยมายด์ ใครจะไม่ชอบบ้างล่ะ ฉันว่าเรารีบไปเช็ดอินกันเถอะ จะได้พายัยมายด์เข้าไปดูตัวจริงของผู้ชายคนนั้น แล้วฉันก็อยากจะเห็นยัยมายด์อ่อยเขาด้วยว่าจะทำยังไง ฮ่าๆ ” วาริตาพูดบอกไปอย่างรีบร้อน เพราะเธออยากจะรู้แล้วว่าเพื่อนสาวของเธอจะอ่อยยังไง
“ยัยว่าน แกนี่นะ ฉันไม่ได้ใสๆแล้วย่ะ ตอนนี้ฉันเป็นนักล่า แล้วฉันก็ต้องได้เหยื่อชั้นดีด้วย” มาติกาพูดไปก็ยิ้มพร้อมกับมองรูปหนุ่มหล่อในจอโทรศัพท์อย่างมาดมั่น
“เด็กๆ มานี่เร็ว เราต้องไปเช็คอินกันแล้วลูก มาเร็ว ” วาริตาเรียกลูกทั้งสองคนของเธอทันที จากนั้นเด็กๆก็วิ่งเข้ามาหาเธอก่อนจะเข้าไปกอดมาติกาอย่างออดอ้อน โดยเฉพาะน้องวินที่ติดมาติกามาตั้งแต่เด็กๆแล้ว
“ฉันนึกออกแล้วล่ะว่าจะให้ยัยมายด์อ่อยยังไงดี” กิติกรพูดไปก็มองมาติกาสลับกับน้องวิน เพราะงานนี้คงต้องใช้กามเทพตัวน้อยอย่างน้องวิน ช่วยเป็นพ่อสื่อให้ซะแล้วล่ะ
“อีกีกี้ แกจะใช้ลูกฉันเหรอ” วาริตาถามออกไปทันที เพราะแค่ดูสีหน้าและแววตาของกิติกรเธอก็พอจะเดาออกแล้ว ว่ามันจะใช้ลูกเธอเป็นเครื่องมือช่วยมาติกา
“เออน่ะสิ ให้น้องวินไปนั่งกับยัยมาย์ด ส่วนแกกับฉันแล้วก็น้องวาวก็นั่งด้วยกัน เดี๋ยวแกบอกให้น้องนั่งริมหน้าต่างนะ ยัยมายด์จะได้นั่งใกล้ๆกับฝรั่งคนนั้น” กิติกรพูดบอกแผนออกไป จนวาริตาและมาติกามองหน้ากัน
“แกมันร้ายมากเลยกีกี้ ฉันยอมเลย” วาริกาพูดบอกไป ก่อนจะนั่งลงบอกให้ลูกชายว่าถ้าขึ้นเครื่องแล้วต้องนั่งกับน้ามายด์ แล้วต้องขอนั่งริมหน้าต่าง โดยเธออ้างกับลูกว่าลูกของเธอจะได้ดูวิวสวยๆแล้วจะได้ไปอวดเพื่อนๆ
“แกก็ร้ายเหมือนกันแหละยัยว่าน แต่ฉันต้องขอบคุณแกสองคนมากนะ อุตส่าห์มาเป็นเพื่อนฉันแถมยังช่วยฉันทุกอย่างเลย ถ้าฉันมีลูกได้สำเร็จฉันจะไม่ลืมพวกแกเลย” มาติกาพูดไปก็เข้าไปกอดเพื่อนทั้งสองอย่างรักใคร่ จะมีเพื่อนคนไหนดีเท่าสองคนนี้อีก เธอดีใจจริงๆที่มีเพื่อนดีๆแบบนี้
“เพื่อนกัน ถ้าไม่ช่วยกันจะเรียกว่าเพื่อนได้ยังไงล่ะแก” วาริตาพูดบอกไปก็กอดมาติกาอย่างรักเธอเช่นกัน
“พอแล้วๆ รีบไปเช็คอินแล้วทำตามแผนกันเถอะ” กิติกรบอกไปก็เดินนำสองสาวไป โดยวริกาก็จูงมือน้องวาวลูกสาวคนเล็กของเธอไป ส่วนมาติกาก็จูงมือน้องวินลูกชายคนโตของวาริตาไปอย่างน่ารัก เพราะเธอช่วยวาริตาเลี้ยงน้องวินมาตั้งแต่เด็กๆ น้องวินจึงติดเธอมาก