ตอนที่ 1 หนุ่มโสดวิศวะ

1775 Words
ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ราชันย์ตื่นยังลูก” เค้กหญิงวัยกลางคนเอ่ยเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน สักพักประตูห้องก็เปิดออกมา “ตื่นแล้วครับ คุณแม่มีอะไรรึเปล่าครับ” ราชันย์หนุ่มหล่อร่างสูงวัยยี่สิบสองปี ผมสีน้ำเงินเข้ม ลูกชายเพียงคนเดียวของรามินและเค้ก เอ่ยถามผู้เป็นแม่ขึ้นเมื่อเปิดประตูออกมาแล้ว “แม่ทำเค้กสูตรใหม่เลยอยากให้ลูกลองชิมให้ว่าโอเเครึเปล่าจ้ะ” เค้กพูดกับลูกชายด้วยรอยยิ้ม “คุณพ่อไม่อยู่หรอครับ ปกติคุณแม่จะให้คุณพ่อชิมให้ไม่ใช่หรอครับ” ราชันย์ถามผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงสุภาพ “พ่อเราน่ะเชื่อไม่ได้แล้วล่ะ ให้ชิมทีไรก็บอกอร่อยตลอดไม่ยอมติเลย แม่ก็เอาไปขายจนลูกค้าบอกว่ารสชาติมันแปลกๆ พูดแล้วยังโมโหไม่หาย” เค้กพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้ายู่เมื่อพูดถึงสามีจนราชันย์ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางแม่ตัวเอง “ถ้าพ่อบอกไม่อร่อยแม่ก็งอนพ่ออีก ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมลงไปชิมให้ วันนี้วันเสาร์ไม่ได้ไปเรียนพอดี ผมอยู่ชิมให้ทั้งวันดีมั้ยครับ” ราชันย์พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ผู้เป็นแม่ ซึ่งภาพนี้คนภายนอกไม่มีทางได้เห็นแน่นอน เพราะราชันย์มีนิสัยพูดน้อย นิ่ง สุขุม แถมเย็นชาไม่สนใจใครไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงซึ่งแตกต่างจากรามินผู้เป็นพ่อที่มีนิสัยพูดเก่ง ขี้เล่นอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ราชันย์เรียนคณะวิศวกรรมยานยนต์ปีสี่แล้ว เป็นหนุ่มโสดที่สาวๆ ต่างก็หมายปองอยากได้เขามาเป็นแฟนแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย ราชันย์เคยมีแฟนตอนปีสองหนึ่งคนแต่คบกันได้แค่หนึ่งปีก็ต้องเลิกกันเพราะผู้หญิงนอกใจไปมีคนอื่น เมื่อราชันย์จับได้ก็เลิกแบบไม่มีเยื่อใยทันทีเพราะเขาไม่ชอบคนที่มักมากแบบนี้ หลังจากนั้นราชันย์ก็ไม่มีแฟนเลยสักทีไม่ใช่เพราะลืมแฟนเก่าไม่ได้แต่เพราะเขายังไม่เจอผู้หญิงที่ใช่สำหรับเขาจึงอยู่เป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้ “ดีเลยลูก ไปกัน วันนี้แม่ทำสองสูตรพอดี” พูดจบเค้กก็คล้องแขนลูกชายเดินลงไปอย่างอารมณ์ เมื่อมาถึงห้องครัวก็เห็นสามีตัวเองกำลังนั่งกินเค้กที่เธอทำไว้อยู่ “หยุดเลยนะพ่อ เค้กนั่นแม่จะให้ลูกชิมนะคะ” เค้กรีบพูดห้ามรามินทันที เพราะวัยที่โตจนมีลูกแล้วจึงเปลี่ยนสรรพนามเรียกเพื่อให้เกียรติสามีเพราะรามินอายุน้อยกว่าเธอ “ทำไมต้องให้ลูกชิมด้วยล่ะเมีย ผัวก็ชิมให้ได้นิครับ” “คุณแม่บอกว่าคำพูดของคุณพ่อเชื่อไม่ได้ครับ” ราชันย์พูดกับพ่อแบบกวนๆ แต่ใบหน้ากลับนิ่งจนรามินถึงกับหันไปมองค้อนใส่ลูกตัวเอง “ถ้าพ่อเชื่อไม่ได้แล้วแม่จะยอมแต่งงานกับพ่อรึไง เมียไม่ได้พูดใช่มั้ยครับ” รามินพูดกับลูกชายเสียงดังแล้วหันไปพูดกับเค้กด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ จนราชันย์ได้แต่กระตุกยิ้มเมื่อเห็นพ่อตัวเองอ้อนเมีย “แม่พูดจริงๆ ค่ะ อย่าลืมนะคะว่าตัวเองมีคดีติดตัวอยู่ ไม่ยอมพูดความจริงจนแม่เอาไปขายให้ลูกค้าโดยลูกค้าติมาเลย” เค้กพูดขึ้นพร้อมกับหน้างอนใส่รามิน จนรามินต้องรีบลุกเดินไปกอดเมียตัวเองทันที “โธ่! เมียครับ เมียก็รู้ว่าเมียทำอะไรให้ผัวกินมันก็อร่อยสำหรับผัวจริงๆ นิ อย่างอนนะครับ” รามินพูดง้อเค้กอย่างอ้อนๆ “ไม่ต้องมาพูดเลย พ่อนั่งอยู่เฉยๆ เลยค่ะ แม่จะให้ลูกเป็นคนชิม มาลูกราชันย์ มาชิมให้แม่ดูหน่อย” เค้กเรียกราชันย์ให้มานั่งที่โต๊ะอาหารทันทีหลังจากบ่นให้สามีแล้ว “ครับคุณแม่” ราชันย์ขานตอบผู้เป็นแม่แล้วเดินไปนั่งชิมเค้กทั้งสองสูตรทันที “สูตรนี้หวานมากไปนะครับ ส่วนสูตรนี้ผมว่าโอเคแล้ว” ราชันย์พูดไปตามตรงหลังจากชิมเค้กทั้งสองสูตรแล้ว เพราะรู้ว่าผู้เป็นแม่รักและใส่ใจกับร้านเค้กที่เปิดตอนนี้มาก “โอเคจ้ะลูก งั้นแม่จะเอาสูตรนี้ไปปรับให้หวานน้อยลง ขอบใจมากนะลูก” พูดจบเค้กก็เดินไปทำเค้กสูตรใหม่ทันที รามินจึงมานั่งข้างๆ ลูกชายตัวเอง “ราชันย์ที่สนามแข่งรถเป็นยังไงบ้างช่วงนี้” รามินเอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ก็ดีครับ ไม่มีปัญหาอะไร ช่วงนี้ผมกำลังหานักแข่งใหม่อยู่ มีรุ่นน้องคนหนึ่งฝีมือดูโอเคเลยว่าจะลองชวนมาทดสอบดูครับ” ราชันย์ตอบผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง ราชันย์รับช่วงต่อดูแลสนามแข่งรถที่พ่อเขาเป็นคนสร้างขึ้นไม่ใช่เพราะพ่อบังคับแต่เพราะเขาก็ชอบการแข่งรถเหมือนกันโดยมีดารินลูกสาวของไดม่อนกับโรสช่วยดูแลอีกคน ส่วนผับจะเป็นเจเดน เจด้า ลูกแฝดของเจไดกับมิริน และเอวาลูกสาวของอคินกับแพรวาเป็นผู้ดูแล ถึงจะแบ่งงานกันดูแลแต่ทั้งห้าคนก็ช่วยเหลือกันตลอดโดยไม่เกี่ยงว่าใครจะดูแลงานหลักของที่ไหน “อืม ก็ดี มีอะไรก็ปรึกษาพ่อบ้าง ไม่ใช่วิ่งไปปรึกษาแต่ลุงคินของแก” รามินพูดใส่ลูกชายด้วยความน้อยใจเพราะลูกชายของเขาติดอคินผู้เป็นลุงตั้งแต่เด็ก “ก็ลุงคินให้คำปรึกษาเร็วกว่าคุณพ่อนี่ครับ ลุงคินบอกว่าคุณพ่อเป็นน้องเล็กคิดไม่ทันคนเป็นพี่อย่างลุงคิน ผมเลยไปปรึกษาลุงคินดีกว่า” “เจริญมากลูกกู ด่ากูทางอ้อมอีก รู้งี้ไม่ปล่อยให้พี่คินไปเลี้ยงดีกว่ากัดเจ็บเหมือนคนเลี้ยงจริงๆ แล้ววันนี้จะไปไหนมั้ย ไปแข่งรถกับพ่อมั้ยคันไม้คันมืออยากจับพวงมาลัย” รามินพูดบ่นกับตัวเอง แล้วหันไปถามลูกชายทันที “วันนี้ไม่อยากไปไหนครับ ผมจะอยู่ชิมเค้กของคุณแม่” ขณะที่ราชันย์กำลังตอบผู้เป็นพ่ออยู่ก็มีสายโทรเข้ามาจากโทรศัพท์ของเขา เมื่อราชันย์เห็นเป็นเบอร์อคินก็รับสายทันที “ครับลุงคิน” (วันนี้มีธุระไปไหนมั้ยราชันย์) “ไม่มีครับ” (ดี งั้นมาที่สนามฝึกหน่อย ลุงอยากรู้ว่าฝีมือการต่อสู้เป็นยังไงบ้าง มาประลองกับเจเดนตอนนี้เจเดนอยู่ที่สนามฝึกแล้ว) “ได้ครับลุงคิน ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ” (อืม) พูดจบอคินก็วางสายทันที เมื่อวางสายแล้วราชันย์ก็ลุกไปโดยไม่พูดกับผู้เป็นพ่อต่อ “จะไปไหนราชันย์” รามินเอ่ยถามลูกชายด้วยความสงสัย “ไปสนามฝึกครับ ลุงคินอยากให้ไปประลองกับเจเดนว่าฝีมือพัฒนาไปถึงไหนแล้วครับ ผมไปนะครับคุณพ่อ” พูดจบราชันย์ก็เดินออกจากห้องครัวไปทันที “เอ้าเฮ้ย! ไหนบอกไม่อยากไปไหนไง พอลุงคินโทรมาก็ไปเร็วซะเหลือเกินนะ” รามินบ่นให้ลูกชายทันทีเมื่อเห็นลูกชายกลับคำพูดเร็วเหลือเกินแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรลูกชายเพราะรู้ว่าราชันย์นั้นรักและเคารพอคินมาก เนื่องจากบ้านของรามิน อคิน และไดม่อนนั้นสร้างติดกันและทำให้สนามฝึกอยู่เหมือนที่พวกเขาเคยอยู่จึงทำให้สามารถเดินทะลุไปสนามฝึกได้ เมื่อราชันย์มาถึงสนามฝึกแล้วก็เห็นเจเดนกำลังยืนคุยกับอคินอยู่จึงเดินเข้าไปหาทันที “สวัสดีครับลุงคิน” ราชันย์ยกมือไหว้ทักทายอคินผู้เป็นลุง “อืม ไหนลองประลองกันให้ลุงดูหน่อย ว่าฝีมือใครพัฒนาไปถึงไหนแล้ว” อคินพูดขึ้นทันทีเมื่อหลานรักทั้งสองคนอยู่ครบแล้ว “ครับ/ครับ” ราชันย์และเจเดนขานตอบพร้อมกันแล้วเดินไปใจกลางสนามฝึกที่เป็นลานประลองทันที “วันนี้กูไม่ออมมือนะเจเดน” ราชันย์พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปากใส่เจเดน “หึ ผมรึเปล่าที่ต้องเป็นคนพูดคำนี้” เจเดนพูดใส่ราชันย์กลับอย่างไม่ยอม จนราชันย์ได้แต่กระตุกยิ้มใส่เจเดนผู้เป็นน้อง จากนั้นทั้งสองก็เริ่มสู้กันโดยมีอคินยืนกอดอกมองอย่างจริงจังเพราะเขาเป็นคนฝึกให้หลานชายทั้งสองเองกับมือเพราะอยากให้สามารถป้องกันตัวเองและปกป้องคนที่รักได้ซึ่งการฝึกตั้งแต่เด็กของราชันย์และเจเดนก็ทำให้ทั้งสองนั้นมีฝีมือการต่อสู้ที่เก่งกาจมาตั้งแต่เด็กจนลูกน้องต่างก็ยกธงขาวยอมแพ้หมดเพราะสู้ทั้งสองไม่ได้ ราชันย์และเจเดนสู้กันอย่างไม่ออมมือจนไปผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีก็ยังไม่มีผลแพ้ชนะเพราะทั้งสองนั้นรู้ทางกันมาตลอดแถมประลองกันทีไรก็ไม่เคยมีคนชนะสักที จนอคินได้แต่กระตุกยิ้มพอใจเพราะฝีมือการต่อสู้ของทั้งสองนั้นพัฒนาขึ้นมากจากเดิม “พอได้แล้ว” เมื่อรู้ว่าสู้ยังไงก็ไม่รู้ผลแพ้ชนะ อคินจึงสั่งหยุดทันที ราชันย์และเจเดนจึงหยุดสู้กันจากนั้นก็ส่งยิ้มให้กันไม่มีท่าทีโกรธกันเลยแม้แต่น้อย “เห็นอยู่แต่สนามแข่งไม่ยอมมาฝึกซ้อมสักทีคิดว่าฝีมือจะด้อยลง พี่ไปแอบฝึกมาหรอพี่ราชันย์” เจเดนเอ่ยถามราชันย์เสียงนิ่งเพราะนิสัยเจเดนก็ไม่ต่างจากราชันย์แถมยังปากร้ายอีก “ถึงจะไม่ได้มาฝึกที่นี่ก็ไม่ได้แปลว่ากูจะฝึกที่อื่นไม่ได้นิ มึงก็ไม่ธรรมดานะ ฝีมือดีขึ้นมาก” ราชันย์ชมน้องชายตัวเอง เจเดนจึงยักไหล่ตอบเขาแล้วทั้งสองก็เดินไปหาอคินทันที นั่งคุยกันสักพักราชันย์ก็กลับบ้านเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขา ราชันย์จึงไม่ไปเรียนและไม่ไปดูสนามแข่งรถเพราะอยากพักผ่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD