วันต่อมา
หิรัญญิการ์ตื่นมาช่วยพนักงานเปิดร้าน หลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงวานให้พนักงานมาส่งที่โรงพยาบาล เพื่อเอารถมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนขี่กลับบ้าน
ทันทีที่หญิงสาวเลี้ยวรถเข้ามาในอาณาเขตสวนยายลีลาวดีจะเห็นบ้านของผู้เป็นลุงก่อนเป็นอันดับแรก และตอนนี้เจ้าของบ้านออกมายืนต้อนรับหลานสาวแต่เช้าตรู่เสียด้วย มือทั้งสองข้างไพล่หลัง ใบหน้าดุดันน่าเกรงขาม แววตาไร้ความปรานีเหมือนอย่างเคย
หัวใจดวงน้อยเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ เมื่อสายตาเพ่งไปเห็นไม้เรียวโผล่ออกมาจากทางด้านหลังของลุงพอดิบพอดี
หิรัญญิการ์ลอบกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังอึก วันนี้รู้สึกว่าอยากให้ถนนทางเข้าบ้านทอดยาวไกลกว่านี้
ฟีลาโน่สีแดงหยุดนิ่ง ห่างจากชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมไม่กี่คืบ “แหมลุงผู้ใหญ่ วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะ”
ผู้ใหญ่พฤกษ์ไม่ได้ตลกกับคำทักทายเชิงเย้าแหย่ของหลานสาว
“เอ็งไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง เมื่อวานตอนเย็นเอ็งหายหัวไปไหนมา” เอ่ยเข้าเรื่องไม่อ้อมค้อมใดๆ
หิรัญญิการ์หน้าหดเหลือไม่กี่นิ้ว ทำท่าทีลงจากรถอย่างอิดออด ในสมองกำลังประมวลหาคำพูดสวยหรูดูดีแล้วต้องสะดุ้งโหยงจนตัวโยนกับเสียงเร่งเร้าของลุง
“ลงมาเร็วๆ ทีแบบนี้ลีลาเยอะนักนะเอ็งเนี่ย” พฤกษ์ดูท่าทีของหลานสาว วันนี้ยังไงก็จะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด ถ้าขาเรียวนั่นไม่ลาย อย่ามาเรียกเขาว่าผู้ใหญ่พฤกษ์เลย
หิรัญญิการ์ลงจากรถมอเตอร์ไซค์ลูกรักอย่างไว แต่ยังไม่ยอมเดินไปไหน ปักหลักยืนให้ห่างจากรัศมีวงแขนของลุงไว้ดีที่สุด พลางลอบมองไม้หวายที่ซ่อนอยู่ด้านหลังไปด้วย
“ข้าถามว่าเมื่อวานเอ็งไปไหนมา รู้ไหมว่าคนแก่ที่รออยู่ที่บ้านวิ่งตามหาเอ็งกันให้วุ่นไปหมด”
หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิด คนแก่ที่ว่านั้นคือยายลีลาวดีของเธอเอง ดวงหน้าหวานเศร้าสลดลง ยกมือขึ้นไหว้ขอโทษลุงอย่างสำนึกผิด
“รัญขอโทษจ้ะ เมื่อวานรัญอยู่ที่โรงพยาบาลกับหมวดปราบ แล้วก็ลืมโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้านด้วย” สารภาพผิดอย่างไม่ปิดบัง
ผู้ใหญ่พฤกษ์หรี่ตามองอย่างสงสัยว่าลูกชายของกำนันหนุ่ยเป็นอะไร “หมวดปราบเป็นอะไร”
หิรัญญิการ์ยิ้มเจื่อน “หมวดไม่ได้เป็นอะไรจ้ะ รัญแค่อยู่เป็นเพื่อนหมวดรอจีบพี่รสเฉยๆ”
คำตอบของหลานสาวเพียงคนเดียวทำเอาผู้ใหญ่พฤกษ์แทบล้มตึง ยกมือขึ้นกุมขมับคล้ายจะเป็นลม อีกมือที่ถือไม้หวายอยู่กวักมือเรียกหลานสาวให้เข้ามาหา
“คุยตรงนี้ก็ได้จ้ะ” ใบหน้าสวยส่ายหน้าพัลวัน เห็นไม้หวายแล้วเสียวสันหลังวาบๆ
“จะมาดีๆ หรือจะให้ข้าเดินไปหาเอ็งเอง แต่บอกไว้ก่อนเลยนะ ว่ายังไงวันนี้ข้าก็ต้องเอาเลือดขาเอ็งออกมาบ้าง จะไม่มีใจอ่อนให้อีกแน่นอน”
ผู้ใหญ่พฤกษ์ว่าหลานสาวน้ำเสียงจริงจัง ตั้งท่าง้างมือที่ถือไม้หวายขึ้น เตรียมเดินเข้าไปหาหลานสาว
ส่วนหลานสาวพอจบประโยคที่ไม่มีท่าทีแฝงความทีเล่นทีจริงเหมือนครั้งก่อนๆ ก่อนรีบกระโดดถอยหลังหนีทันที
“ลุงผู้ใหญ่จ๋า รัญโตแล้วนะ ปีนี้ก็ยี่สิบห้าแล้วด้วย ลุงยังจะเอาไม้มาไล่ตีรัญแบบเด็กๆ อีกเหรอจ๊ะ”
ผู้ใหญ่พฤกษ์ก้าวเท้าพร้อมกับเอ่ย “ก็เออนะซี่ เพราะว่าเอ็งโตแล้วนี่แหละ ข้าถึงได้กล้าตีจริงๆ เสียที” หมายเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่ายังไงวันนี้ก็จะไม่ยอมใจอ่อนเด็ดขาด
ยังก้าวไปไม่ถึงตัวหลานสาวก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้าไว้เท่านั้น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่ผู้ใหญ่!”
“แม่หยกอย่ามาห้ามฉันนะ!” ผู้ใหญ่พฤกษ์ตะโกนบอกภรรยาพร้อมกับชี้หน้าภรรยาที่ยืนเท้าสะเอวอยู่หน้าประตูบ้าน
“หน็อยแน่ะพี่ผู้ใหญ่! เมื่อกี้นี้กล้าชี้หน้าฉันเลยเหรอ แถมยังจะขึ้นเสียงใส่ฉันอีก” หยกมณียกนิ้วชี้ชี้หน้าสามีกลับ ควันออกหูที่ถูกขึ้นเสียงใส่ ก้าวฉับๆ ออกจากบ้าน
ผู้ใหญ่พฤกษ์เห็นว่าภรรยาเอาจริงและพร้อมจะเอาเรื่อง จึงรีบโยนไม้หวายทิ้ง วิ่งมาหลบหลังหลานสาวทันที
หิรัญญิการ์ทำหน้าเหลอหลาชวนให้มึนงงกับเหตุการณ์ชุลมุน แต่กระนั้นก็ต้องกางแขนทั้งสองข้างขึ้นมากันผู้เป็นป้าไม่ให้เข้ามาทำร้ายร่างกายลุงและเพื่อห้ามศึกสองสามีภรรยานี้ด้วย
“โธ่แม่หยก ฉันไม่ได้อยากจะขึ้นเสียงใส่แม่หยกสักหน่อย ฉันก็แค่โกรธที่ไอ้เจ้ารัญมันมัวแต่ไปเถลไถลจนพวกเราเป็นห่วงกันไปหมด ปากกับมือมันก็เลยเผลอพลั้งไปบ้าง”
หยกมณีชี้หน้าสามีอย่างเอาเรื่อง “จะลงโทษอะไรก็ลงโทษไปสิ แต่ไม่ใช่เอาไม้เรียวมาไล่ตีหลานสาวฉันแบบนี้ ฉันเลี้ยงของฉันมายังไม่เคยตีเลยสักครั้ง นี่ถ้าผิวขาวๆ หลานฉันมีแม้แต่รอยแดงหรือรอยขีดข่วนนะ ฉันนี่แหละจะเอาเลือดหัวพี่ผู้ใหญ่ออกเอง”
“จ้ะๆ พี่ไม่ลงโทษเจ้ารัญมันแล้วก็ได้จ้ะ” ผู้ใหญ่พฤกษ์ศิโรราบโดยดุษฎี ทั้งๆ ที่ยังหลบหลังหลานสาวอยู่
หิรัญญิการ์ฉีกยิ้มกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง ขยิบตาขอบคุณผู้เป็นป้าอย่างรู้กัน โอบกอดหยกมณีไว้เหมือนจะห้ามปราม
“ป้าใจเย็นๆ นะจ๊ะ จริงๆ ลุงผู้ใหญ่ไม่ได้จะตีรัญจริงๆ หรอกจ้ะ” พูดกับป้าแล้วหันหน้ากลับมาถามลุงต่อ “ใช่ไหมจ๊ะลุงผู้ใหญ่”
ผู้ใหญ่พฤกษ์พยักหน้าส่งๆ อย่างไม่เต็มใจตอบ ยิ้มแหยให้ภรรยา
“เห็นไหมจ๊ะ ลุงผู้ใหญ่ไม่กล้าตีฉันหรอก ลุงออกจะรักรัญจะตาย”
คนฟังอยู่ข้างหลังได้แต่ทอดสายตาไปทางหลานสาวอย่างเข่นเขี้ยว ไม่กล้าพูดอะไร เพราะภรรยาตัวเองจ้องราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออยู่
หิรัญญิการ์อยากระเบิดหัวเราะดังๆ แต่ต้องกลั้นขำเอาไว้
“ป้าหยกจ๋า รัญหิ้วหิว เช้านี้ป้าทำอะไรจ๊ะ เช้านี้รัญขอฝากท้องไว้ที่นี่นะ” พูดพลางลูบท้องตัวเองป้อยๆ
หยกมณีละสายตาจากสามีมามองหลานสาว ก่อนจะจูงมือพาหลานสาวสุดที่รักเข้าไปในบ้าน
ผู้ใหญ่พฤกษ์พะงาบปากต่อว่าตามหลังภรรยาที่กำลังเดินคุยกระหนุงกระหนิงกับหลานสาวหายเข้าไปในบ้าน