จือฮวนเป็นเดือนเป็นแค้นมาก นางคือลูกสาวคนเล็กของสกุลจือ หลังจากบิดาสิ้นใจ อำนาจก็ไม่ได้สั่นคลอนลง ด้วยสกุลจืออยู่คู่กับแคว้นเหลียงมานาน คนเก่าแก่จึงมีไม่น้อย อีกทั้งพี่ชายนางตอนนี้เป็นถึงจือหยวนโหว แล้วใครกันจะกล้าขัดใจ ถึงอย่างนั้นสวีเกาหานก็กล้าทำเป็นไม่เห็นนางอยู่บ่อยๆ ทั้งที่ยามนี้เขาควรดูแลนาง ด้วยออกมาล่าสัตว์ต่างเมือง เดินทางก็เกือบสามร้อยลี้ นางต้องทรมานนั่งๆ นอนในรถม้าด้วยทางคดเคี้ยว พอมาถึงเขาหวงซาน อีกฝ่ายกับหายตัวไป รู้อีกทีก็ผ่านไปสองวันเต็มๆ กระทั่งห่าวเจียไปช่วยกลับมาที่เรือนรับรอง ซ้ำร้ายยังมีนักพรตท่าทางพิลึกอยู่ไม่ห่างกาย
ดวงตาหงส์มองไปยังห่าวเจีย พอเห็นเขาเตรียมขยับปากจะพูด นางจึงชิงถามเสียก่อน
“สืบได้ความเช่นไรบ้าง จงเล่ามาให้ละเอียด”
“มันเป็นแค่นักพรตน้อย ใช้ชีวิตพเนจร ไม่มีหลักแหล่ง พอมีความรู้เรื่องสมุนไพรบ้าง ที่ถูกเถาวัลย์ผสานใจรัดเอาไว้ ก็เพราะเข้าไปขโมยของสำคัญที่สุสานชาวสุยจ้วง ที่ติดอยู่กับชายแดน”
“ขโมยสิ่งใด”
“เท่าที่ข้าทราบเป็นเกล็ดหิมะพันปี”
“มันต้องการนำไปใช้เพื่อการใด”
“เท่าที่ข้าทราบ เพื่อใช้ในการปรุงโอสถ มันอาจเข้าร่วมกับพรรคมาร หรือเป็นพวกนอกรีต”
ได้ยินห่าวเจียกล่าวเช่นนั้น จือฮวนก็ยิ้มได้ นางวางแผนในใจทันที แล้วเขียนจดหมายเล็กๆ ขึ้นสั่งให้สาวใช้นำไปส่งให้ถึงมือจือคังผู้เป็นพี่ชาย
“ขันทีห่าว สั่งมือสังหารที่เตรียมไว้ จัดการทำความสะอาดให้ข้าได้ด้วย หลังงานเลี้ยงจบ ข้าจะต้องไปเห็นว่าข้างกายหานอ๋องมีนักพรตน้อยนั่นอีกต่อไป”
ห่าวเจียพนักหน้าเข้าใจ และส่งสัญญาณแจ้งข่าวออกไปทันที ทว่าเมื่อเขาจะออกจากที่พักของจือฮวน ดวงตาหงส์ก็มองอีกฝ่าย สายตาของนางมีความนัยซ่อนอยู่ เป็นตอนนั้นที่ห่าวเจียก้าวเข้ามาหานางใกล้ๆ แล้วลงไปนั่งคุกเข่า
“อยากให้ข้าช่วยสิ่งใดอีกหรือไม่”
“ข้าเมื่อยเนื้อตัวเหลือเกิน นวดเท้าให้ข้าแล้ว ก็อยู่คุยกันสักหน่อย”
ห่าวเจียเข้าใจความต้องการอีกฝ่ายทันที ดังนั้นเขาจึงถอดรองเท้านางออก แล้วเริ่มใช้มือนวดอย่างเป็นงาน ขณะที่มือยาวๆ ของขันทีหนุ่มทำให้จือฮวนผ่อนคลาย และหายเมื่อยล้า ฝ่ายจือฮวนก็เปิดตลับไม้ออก ในนั้นมีกัวซาหยก*ที่แกะสลักเป็นรูปหัวเห็ดบานใหญ่ มองเผินๆ คล้ายแท่งลึงค์ของบุรุษ
นางส่งมันเข้าปากตนเอง ดูด เลีย สลับการผมไปมาอย่างเพลิดเพลิน สักพักก็นำกัวซาอันเดียวกันนั้น ส่งเข้าปากของห่าวเจีย แล้วทั้งคู่ก็เริ่มทำในสิ่งต้องห้าม ทว่าสำหรับพวกเขาแล้วมันคือเรื่องที่ล้อเล่นกันมาหลายปี ความสัมพันธ์ระหว่างจือฮวนกับห่าวเจีย กล่าวไปแล้วนับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ
("กัว" แปลว่า การกด รีด หรือขูด คำว่า "ซา" แปลว่า รอยแดง โดยใช้อุปกรณ์ที่มีความโค้ง ขอบเรียบและลื่น เช่น หินหยก เขาสัตว์ ไม้ หรือเซรามิก ขูดหรือนวดไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย** ในเรื่องนี้กัวซาของจือฮวนทำเลียนแบบลึงค์ของบุรุษ นางใช้สำหรับผ่อนคลายและเล่นสนุกเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ)
อึดใจต่อมามือของขันทีหนุ่มเลื่อนสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วน
จือฮวนถอดเสื้อผ้าตนออกจนร่างกายเปลือยเปล่า และห่าวเจียวางมือของเขาที่เนินเนื้อที่เป็นกลีบงดงาม และรอยแยกของนางมีน้ำเกาะพราวเต็มไปหมด
“อาฮวน หากยังท้าทายข้าอยู่เช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่ ขันทีก็ทำให้สตรีท้องได้”
จือฮวนยิ้มหวาน และไม่ตอบสิ่งใด แล้วนางก็แอ่นส่วนงดงามที่เยิ้มจัดของตนให้เขาได้เห็นอย่างประจักษ์ จากนั้นเรียวลิ้นสากๆ ของห่าวเจียจึงจ้วงแทงเข้าไปในกลีบสวาทของหญิงสาว
“ทำให้ข้าสำราญใจ และนำสิ่งนั้นของเจ้า แทงเข้าไปด้วย”
หญิงสาวสั่ง และนางปรารถนาจะเสร็จสม หวังให้คลายความฉุนเฉียวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
งานเลี้ยงในคืนนั้น จัดที่ลานเปิดโล่งถึงเป็นงานส่วนตัวไม่ได้มีคนมากมาย แต่อาหารจัดเตรียมเป็นอย่างดี สุราก็เลิศรส รวมถึงนางระบำเอวอ่อนคอยให้ความสำราญมิขาด
ฝ่ายสวีเกาหานยังมีนักพรตน้อยนั่งอยู่ด้านข้าง อีกฝ่ายสวมหน้ากาก ทั้งบริเวณดวงตายังมีผ้ามัดปิดไว้อีกชั้น ทั้งหมดล้วนเป็นความต้องการของจือฮวน
แต่ไหนแต่ไร สวีเกาหานคือผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างสำราญ เขาหัวเราะรื่นเริง และหันมาสนใจคนที่นั่งข้างกันบ่อยครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าไม่กิน ไม่ดื่มสิ่งใด ทั้งยังนั่งนิ่งราวกับเป็นหุ่นศิลา ดูแล้วพิลึกอยู่สักหน่อย
ฝ่ายจือคังพอมาถึงงานเลี้ยง ก็เข้าทักทายสวีเกาหาน สีหน้าเขาสนใจนักพรตน้อยมาก อีกทั้งเถาวัลย์ที่รัดแขนของคนทั้งคู่ เป็นสิ่งที่สะดุดตา
“รัชทายาท... ข้าคิดว่าท่านว่างงานก็ดี แต่หากยังเที่ยวผูกมัดผู้อื่นไว้กับตนเช่นนี้ ย่อมไม่เหมาะสม แม้อีกฝ่ายจะเป็นนักพรตน้อยก็ตาม”
“หามิได้ ข้าแค่ช่วยเหลือเขาจากพวกสุยจ้วง และหวังสร้างบุญกุศลให้มากๆ เพราะอีกไม่นานขาทั้งสองข้างอาจก้าวลงเหวนรก”
“กล่าวเช่นนี้หมายความเยี่ยงไร”
สวีเกาหานยกยิ้ม ตอบอย่างไม่อ้อมคอม
“การเกี่ยวดองกับคนสกุลจือ ก็เหมือนเอาหัวรองไว้ที่เครื่องประหาร เช่นนี้หากต้องตายโหง ข้าก็อยากทำบุญไว้ให้มากพอ”
สิ่งที่ชายหนุ่มกล่าว สร้างความเงียบขึ้นในสถานที่แห่งนั้น แม้แต่ดนตรีที่บรรเลงก็หยุดลงอย่างไม่ได้นัดหมาย
“ฮ่ะๆ ๆ กล่าวได้ดี ข้าอยากให้ฮ่องเต้มีสมรสพระราชทานขึ้นอย่างเร็วไวที่สุด บุรุษผู้นี้อยากอุ้มหลานเหลือเกิน อีกทั้งอยากเห็นท่านตกเหวลึกไวๆ”
จือคังไม่อยากถือสาสวีเกาหาน อย่างไรคนผู้นี้ก็เป็นรัชทายาท อายุแม้จะผ่านวัยหนุ่มน้อยมาแล้ว ปีนี้ย่างยี่สิบสาม แต่ก็อ่อนด้อยหลายเรื่อง ยิ่งกว่านั้นคือความหยิ่งผยอง อวดเก่งแต่อย่างไรเสีย ภายหน้าเมื่อสวีเกาหานขึ้นเป็นฮ่องเต้ น้องสาวเขาย่อมได้เป็นฮองเฮา ส่วนเขาคือผู้ควบคุมทุกอย่างในบ้านเมือง โดยให้สวีเกาหานเป็นหุ่นเชิด
“อืม นั่นหมายความว่า น้องสาวท่านพร้อมจะเป็นอนุภรรยาของข้าแล้ว”
สวีเกาหานยังสร้างเรื่องไม่หยุด
“ทะ ท่านหมายความเช่นไร”
“หึ ๆ ๆ สิ่งที่ข้ากำลังจะบอกคือ สตรีที่จะเป็นพระชายาเอกของสวีเกาหาน มีคนเดียวเท่านั้นที่คู่ควร”
การพูดเช่นนั้นของสวีเกาหานยิ่งสร้างความเครียดกว่าเดิม และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่จือฮวนซึ่งแต่งตัวงดงามเข้ามาในงาน ดูแล้ว สตรีเช่นนางเหมาะสมที่จะเป็นนางหงส์คู่มังกรในภายภาคหน้า เช่นนี้จะหาใครเทียบได้
“รัชทายาท อย่าได้หยามหมิ่นเกียรติกันเกินไป แม้ท่านชอบล้อข้าเล่น แต่เรื่องนี้นับว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงสกุลจือ”
น้ำเสียงจือฮวนเข้ม สีหน้านางตึงจัด พี่ชายเลยต้องเข้ามาปราม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่จู่ๆ มีเสียงดนตรีดังขึ้น แล้วร่างงดงามในชุดเสื้อผ้าบางเบาก็ปรากฏตัว สองมือของอีกฝ่ายมีเทียนส่องแสง ดูแปลกตาและชวนให้ตื่นตะลึง
ยามนี้ สตรีคนดังกล่าวราวกับมีแสงจันทร์ทาบทับร่าง การเยื้องย่างของนางช่างอ่อนหวานพลิ้วไหว หากแฝงด้วยความเข้มแข็ง การร่ายรำประทีปเช่นนี้หาชมได้ยากยิ่งและความงามใดๆ ในที่นี้มิอาจเทียบนางได้
สวีเกาหานยิ้มทั้งปากและดวงตา ส่วนจือคังประหนึ่งเขาต้องมนตร์นางรำปริศนา
“บัดซบ จับตัวนางปีศาจจิ้งจอกเอาไว้ แล้วลากมันไปตัดหัวเสีย” เสียงดังกล่าวคือจือฮวน เพราะทนไม่ได้ที่เห็นผู้อื่นโดดเด่นและงดงามกว่าตน
คำสั่งนางแทนที่จะมีทหารกระทำตาม บุรุษทุกคนกับไม่ขยับตัว จนนางต้องหันไปทางห่าวเจีย
ฝ่ายขันทีหนุ่มคำรามขึ้นมาหนึ่งหน พอพุ่งตัวเข้าไปหานางรำ กระสวยหินจากจือคังก็สกัดเขาไว้ จนร่างของห่าวเจียล่วงหล่นพื้น เจ็บจุกมิน้อย
“อย่าบังอาจทำเรื่องเหลวไหล” จือคังตวาดเสียงเข้ม
เมื่อคนของตนไม่อาจทำเรื่องตามคำสั่งได้ จือฮวนเลยออกโรงหมายคว้าร่างนางรำเสียเอง ความใจร้อน ทั้งวู่วาม ทำให้นางไม่ทันระวังตัว เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่นางรำผู้นั้นกำลังจะแสดงความสามารถพิเศษด้วยการพ่นไฟ!
ชั่วพริบตา เปลวไฟพวยพุ่งออกจากริมฝีปากนาง และเป้าหมายคือร่างของจือฮวน!