บริษัท ตุลา กรุ๊ป
“รายรับรายจ่ายของบริษัททั้งหมด ส่งให้ผมดูทางเมลล์ด้วยนะครับ” แทนคุณเอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งขรึมจริงจังกว่าปกติ เนื่องจากเป็นวันประชุมประจำปีของบริษัท ที่ผู้เป็นพ่อมีหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งเท่ากับว่าเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีกคน และ เขาได้รับช่วงต่อจากผู้เป็นพ่อ โดยดำรงตำแหน่งประธานบริษัทร่วม
“ได้ค่ะ” พนักงานสาวที่ได้รับหน้าที่ดูแลบัญชีตอบรับ
“บริษัทเรามีโครงการใหม่ สร้างคอนโดหรูในสามจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต ทุนในการสร้างมากกว่าพันล้าน ซึ่งจังหวัดที่ยังมีปัญหา คือ ภูเก็ต ยังมีชาวบ้านบางส่วนไม่ยอมขายที่ดินให้เรา ซึ่งที่ดินเหล่านั้นสำคัญมาก มีใครจะเสนอทางออกไหมคะ” มนัสรินทร์ประธานบริษัทอีกคนเอ่ยขึ้น ซึ่งนั่งหัวโต๊ะ
“ง่าย ๆ ไม่ขายก็ไม่ต้องซื้อ หาที่หาทางใหม่จบ”
มนัสรินทร์ตวัดสายตามองไปที่เจ้าของประโยคอย่างแทนคุณ (อดีตแฟนเก่า)
“คงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ทางเราได้ตกลงกับนายทุนใหญ่ไว้แล้ว หากผิดจากข้อตกลง บริษัทเราคงต้องเสียเงินจำนวนหลายร้อยล้าน”
“โครงการใหญ่แบบนี้ ทำไมถึงไม่ส่งให้ผมพิจารณาก่อนจะอนุมัติล่ะครับคุณเมล” แทนคุณเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้างถามอย่างต้องการกวนประสาทอดีตคนรักเก่า ซึ่งดูเหมือนจะได้ผล
“….ใครอนุมัติก็เหมือนกันแหละค่ะ ซึ่งดิฉันเห็นว่าโครงการนี้ส่งผลดีต่อบริษัทเรา ถ้าสำเร็จบริษัทเราได้กำไลมหาศาล”
“ส่งผลดีต่อบริษัทก็จริง แต่กระทบชาวบ้านตาดำ ๆ ผมไม่เห็นด้วยหรอกนะ ถ้าเอาแต่ได้อย่างเดียวเนี่ย เขาเรียกว่าเห็นแก่ตัวนะครับคุณมนัสรินทร์”
มนัสริทร์ชักสีหน้า เธอกำปากกาในมือ อีกข้างกำกระโปรงใต้โต๊ะประชุมแน่นด้วยความรู้สึกที่เจ็บใจ เมื่อถูกอดีตคนรักหักหน้ากลางที่ประชุม
“…ในฐานะที่ผมมีหุ้นในบริษัทครึ่งหนึ่ง ผมมีสิทธิ์เทียบเท่ากับคุณมนัสรินทร์ นั่นหมายความว่าก่อนที่จะอนุมัติโครงการไหน ก็ต้องผ่านตาผมก่อน”
….
“จะพูดอะไรไว้หน้าและให้เกียรติกันหน่อยได้ไหมพี่แทน” แทนคุณลากเก้าอี้ออกแล้วกระแทกตัวนั่ง ขณะที่มนัสรินทร์ตามเข้ามาโวยวายถึงห้องทำงาน
“ไม่ให้เกียรติตรงไหน?”
“อย่ามาตีหน้าซื่อนะ”
“ถ้าไม่มีอะไรก็ออกไป ฉันจะทำงาน” ว่าจบก็เปิดคอมพิวเตอร์ เช็กเมลสำคัญที่ถูกส่งเข้ามาเมื่อสิบนาทีที่แล้ว โดยไม่สนใจอดีตคนรักที่ยังยืนอยู่ ทำราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในห้องทำงาน ทำให้มนัสรินทร์รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ที่ถูกชายหนุ่มเมินเฉย แต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามกักเก็บอารมณ์เหล่านั้นไว้
“เรื่องวันนี้เมลจะไม่ถือโทษโกรธก็ได้ค่ะ เมลเพิ่งรับช่วงต่อจากคุณพ่อได้ไม่นาน ถ้าหากเมลทำอะไรผิดพลาด พี่ก็ช่วยเตือน ช่วยสอนเมลด้วยแล้วกัน”
“…” มนัสรินทร์กัดริมฝีปากล่างแน่นอย่างรู้สึกประหม่าและโกรธ เมื่อแทนคุณนิ่งเฉยต่อเธอ ทำราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด อีกทั้งยังทำเหมือนคนไม่รู้จักกันมาก่อน
“ยัยเมษาไม่ได้ทำอะไรให้พี่ลำบากใจใช่ไหมคะ?” เธอเปลี่ยนเรื่องคุยเผื่อว่าแทนคุณจะสนใจบ้าง
แทนคุณหยุดชะงักนิ้วที่กำลังจะกดเลื่อนเม้าส์ แล้วช้อนตาขึ้นไปสบตากับอดีตคนรักเก่านิ่ง ๆ
“ถามทำไม?”
“เมลก็ถามตามประสาคนในครอบครัวเดียวกันแหละค่ะ”
“เธอไม่ต้องกังวลไปหรอก น้องสาวเธอทำหน้าที่เมียอย่างดีเลย โดยเฉพาะเรื่อง…” แทนคุณเลิกคิ้วขึ้นพลางเหยียดยิ้ม เว้นช่องว่างท้ายประโยคครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกไปให้จบ “…บนเตียง”
“ดีแล้วค่ะ! งั้นเมลขอตัวก่อนนะคะ” มนัสรินทร์มุ่ยหน้าแล้วหมุนตัวเดินออกไปทันที แทนคุณมองตามแผ่นหลังเล็ก รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อค่อย ๆ จางหายไป หลงเหลือความรู้สึกบางอย่างในแววตา
“…” เรื่องบนเตียงที่ว่าไม่จริงเลยสักนิด แม้แต่นอนร่วมเตียงกันยังไม่เคยเลยสักครั้งตั้งแต่แต่งงานกันมา
“…”
@ร้านอาหารไทย
“Hi~เพื่อนแทน” หวานยิ้มสดใสเดินควงคู่มากับมิลิน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้พร้อม ๆ กัน
“พวกมึงนี่เคยช้ากันยังไง ก็ยังช้ากันอย่างงั้นเลยนะ เลทมาตั้งครึ่งชั่วโมง”
“เป็นเพื่อนกันมามากกว่าสิบปีแล้ว แกยังไม่ชินอีกเหรอเนี่ยอีแทน”
“เหอะ!” แทนคุณกอดอกเค้นเสียงเหอะออกมาอย่างเอือมระอากับความไม่สำนึกผิดของหวาน ที่ไม่แม้จะเอ่ยคำขอโทษ มีเพียงมิลินเท่านั้น
“ลินขอโทษนะแทน”
“ชั่งเถอะ ๆ สั่งอาหารดีกว่า”
หลังจากที่สั่งอาหารกับพนักงาน รอไม่นานอาหารทั้งหมดก็มาเสิร์ฟ
“ชีวิตหลังแต่งงานเป็นยังไงบ้าง?” มิลินถามพลางตักสะตอผัดกุ้งมาวางที่จานตัวเอง คนถูกถามเคี้ยวอาหารในปากช้าลง เลื่อนนัยน์ตามองไปที่เพื่อนสาวคนสนิท โดยยังไม่ได้ตอบอะไรออกไปในทันที
“…ก็ดี”
“รีบมีหลานให้พวกฉันอุ้มเร็ว ๆ ล่ะ ชักช้าเดี๋ยวลูกแกโตไม่ทันลูกพวกฉัน ไม่รู้ด้วยนะ”
“…” ประโยคของหวานทำให้แทนคุณเงียบไปโดยปริยาย เพราะไม่มีทางมีลูกกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้รัก แม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาในสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม
ครบหนึ่งปีเมื่อไหร่เขาจะหย่าทันที
----------------