มหาวิทยาลัย T.U อินเตอร์
“อึ๊ด~อาจารย์ปล่อยสักที” แกรมมี่หรือเกมส์ ชายใจเป็นหญิงยืดเส้นยืดสายบิดขี้เกียจทันทีที่เลิกคลาสเรียน
“วันนี้อาจารย์สอนโคตรนานเลย กว่าจะปล่อย นั่งจนเจ็บตูดแล้วเนี่ย” จีน่าหญิงสาวผมสั้นหน้าตาน่ารักบ่น พร้อมทั้งเก็บสัมภาระบนโต๊ะเรียน
“บ่นเป็นคนแก่ไปได้ นี่เพิ่งวิชาแรกเองนะ” มาริษาขำกับสีหน้าท่าทางเหนื่อยหน่ายของเพื่อนทั้งสอง
“จ้าแม่เด็กเรียนน~ ไม่เมื่อยเลยว่างั้น?” แกรมมี่เบ้ปากเล่นเสียงใส่เพื่อนสาวอย่างหมั่นไส้ มาริษาเพียงจิ๊ปากตอบโต้กลับไปเท่านั้น ที่จริงเธอก็เมื่อยเหมือนกัน แต่ไม่ได้แสดงออกมาเท่านั้น
“เลิกเรียนคาบสุดท้าย ไปดูหนังเข้าใหม่กันปะ”
“เอาสิฉันก็อยากดูเหมือนกัน”
“แกล่ะสา?”
มาริษามีสีหน้าครุ่นคิด หากเมื่อก่อนเธอคงตอบตกลงเพื่อน ๆ ไปโดยไม่ต้องลังเล แต่ตอนนี้สถานภาพของเธอมันไม่เหมือนเดิม เพราะเธอแต่งงานมีสามีแล้ว มีหน้าที่ที่ต้องทำยามเลิกเรียน จะไปไหนมาไหนต้องคิดไตร่ตรองบ้างเป็นธรรมดา
“ว่ายังไงไปไหม”
“ฉัน…”
“ไม่ต้องปฏิเสธเลยนะยัยลูกหนู” แกรมมี่ทำน้ำเสียงเข้มพลางชี้หน้ามาริษาอย่างบังคับ ทำเอาคนถูกจ้องกดดันไม่กล้าปฏิเสธ
“ก็ได้ งั้นฉันขอโทรบอกที่บ้านก่อนนะ”
“จะโทรรายงานสามีก่อนว่างั้น?”
มาริษาหลุบตามองต่ำพลางยิ้มแหย ๆ อย่างไม่ปฏิเสธ
“ยะ!”
“แล้วแกล่ะฮยอนโดไปด้วยกันไหม?”
ฮยอนโดผู้ชายหนึ่งเดียวในกลุ่ม ใบหน้าหล่อขาวสไตล์หนุ่มลูกครึ่งไทยเกาหลี นั่งเงียบเล่นโทรศัพท์ฟังบทสนทนาของเพื่อนสาว ละสายตาออกจากหน้าจอสี่เหลี่ยม มองหน้ามาริษานิ่ง ๆ แทนที่จะตอบออกไปในทันที
“…อือ”
“มองหน้ายัยลูกหนูแล้วตอบหมายความว่ายังไงคะ สามี?” แกรมมี่ถามแซวอย่างมีจริตจะก้าน พลางหรี่ตามองฮยอนโดอย่างจับผิด แต่คนถูกจ้องมองอย่างกดดันกลับนิ่งเฉย ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาแม้แต่นิดเดียว
ฮยอนโดพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ แล้วกลับไปสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมต่อ โดยไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนชายใจเป็นหญิงกลับไป
“เย็นชาจริง ๆ เลยพ่อคุณ” จีน่าเล่นหูเล่นตาพูดกระแนะกระแหนเพื่อนชายที่เย็นชาที่สุดในคลาสเรียน จนแทบไม่มีเพื่อนผู้ชายด้วยกัน
@Central MMN
“ชานมไข่มุกหวานร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ” มาริษาสั่งชานมไข่มุกกับพนักงาน เมื่อได้รับแล้วก็เดินกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีใครสั่งอะไรสักคนนอกจากเธอ พูดคุยกันตามประสาระหว่างรอเข้าโรงหนัง
“น้ำลายบูดหมดแล้วมั้งคุณชายน้ำแข็ง” จีน่าเลิกคิ้วขึ้นถามเชิงล้อ เพราะตั้งแต่มาถึงนับคำพูดจากฮยอนโดได้ ส่วนฮยอนโดดเพียงตวัดสายตามองใบหน้าสวย ตากลมของจีน่านิ่ง ๆ อย่างไม่ใส่ใจอะไรมากมาย ก่อนจะกลับไปสนใจโทรศัพท์ในมือต่อ
“อยู่ด้วยกันมาเทอมหนึ่งแล้ว แกยังไม่ชินอีกเหรอยะยัยจี”
“บางทีก็เงียบเกินไปอะ”
“เอาน่าจี คนพูดน้อยไม่ได้แปลว่าไม่รับรู้หรือไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับเพื่อนหรอกนะ แบบเป็นผู้ฟังที่ดีอะไรแบบเนี่ย ใช่ไหมฮยอน”
ฮยอนโดละสายตาออกจากหน้าจอสี่เหลี่ยมมองหน้ามาริษานิ่ง แววตาเย็นชาคู่นั้นกลับมีความรู้สึกบางอย่างซ่อนอยู่ “…อือ”
“คุณชายน้ำแข็งสมฉายาจริง ๆ เล๊ย~” จีน่าจิ๊ปากใส่ฮยอนโด เมื่อเจ้าของใบหน้าเย็นชาตวัดสายตาดุมองมาอย่างไม่พอใจสักเท่าไหร่
“ไป ๆ หนังจะฉายแล้ว” แกรมมี่ผุดตัวลุกขึ้นพลางกวักมือให้เพื่อน ๆ ลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้น หลังจากนั้นก็พากันเดินกลับไปที่โรงหนัง แต่ทุกคนกลับต้องหยุดชะงักฝีเท้าฟังจีน่า
“เดี๋ยว ๆ แก”
“อะไร?”
“นั่นมันสามีแกนิเมษา เดินควงมากลับใครน่ะ” จีน่าชี้นิ้วไปที่ฝั่งตรงข้ามโรงหนังให้มาริษามองตาม
“…” ชายหญิงตรงระดับสายตากำลังเดินควงคู่กันมา พลันทำให้มาริษานิ่งงันราวกับหินทันที ความรู้สึกจุกหน่วงที่หน้ากลางอกเหมือนตอนที่รู้ว่าผู้ชายที่แอบรักคือแฟนพี่สาว ต่างกันเล็กน้อยตรงผู้หญิงคนนั้นคือคนอื่น ไม่ใช่คนในครอบครัว
“หล่อระดับนั้น ผู้หญิงเยอะก็ไม่แปลก”
จีน่าตีท่อนแขนแกรมมี่เบา ๆ พลางขยับปากพูดไม่มีเสียง เชิงต่อว่าจะพูดทำให้เมษาคิดมากเข้าไปอีกทำไม ทำให้แกรมมี่ฉุกคิดได้จึงรู้สึกผิดต่อเพื่อนสาว
“ไปได้แล้ว”
หมับ!
“อ๊ะ!” มาริษาเบิกตากว้างหลุดออกจากภวังค์ความคิด เมื่อข้อมือถูกฮยอนโดคว้าแล้วดึงให้เดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้แกรมมี่และจีน่าต้องรีบเดินตามเพื่อนทั้งสองไปด้วย
“มองอะไรอยู่เหรอคะแทน”
“เปล่า” แทนคุณละสายตาออกจากเจ้าของแผ่นหลังเล็กที่คุ้นเคย เธอกำลังเดินจับมือถือแขนกับผู้ชายเข้าโรงหนังไปพร้อมกัน
“เราเข้าไปกันเถอะค่ะ ซิลหิวจะแย่อยู่แล้ว”
แทนคุณสาวเท้าเดินเข้าร้านอาหารอิสตาเลี่ยนไปพร้อมกับสาวสวยหุ่นเพรียว ขณะในหัวเอาแต่ครุ่นคิดถึงอะไรอย่างไม่หยุด
คฤหาสน์ อัศวภัชรกุล
18:30 น.
แทนคุณตบไฟเลี้ยวขับเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตัวเอง ลูกน้องละแวกนั้น ต่างโค้งศีรษะทำความเคารพรถของผู้เป็นนายตามหน้าที่
“พี่แทนสวัสดีค่ะ” แทนคุณหยุดชะงักฝีเท้าทันทีที่เดินเข้ามาในบ้าน เมื่อภรรยาสาวสวมใส่ชุดกันเปื้อนเดินออกมาจากห้องครัวกล่าวทักทายพร้อมทั้งยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม
“ทำงานมาเหนื่อยไหมคะ”
เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มยิ้มแฉ่งสดใส แววตาไร้เดียงสาคู่นั้น ทำให้แทนคุณรู้สึกรำคาญตาเป็นที่สุด แค่เห็นหน้าเธอ ภาพบางอย่างก็พลันฉายเข้ามาในหัวให้นึกหงุดหงิดโดยอัตโนมัติ
“ไม่ต้องรู้หรอก!” แทนคุณกระแทกเสียงตอบแล้วเดินไปทันที โดยมีสายตาของมาริษามองตามแผ่นหลังกว้างเดินจากไป แววตาตัดพ้อสั่นระริก
มาริษาน้ำตาคลอเบ้า เธอระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างนึกน้อยใจ ตั้งแต่แต่งงานกันมา เขาไม่เคยพูดดีกับเธอเลยสักครั้งเดียว
…
แกรก
แทนคุณที่นั่งเลื่อนหน้าจอสี่เหลี่ยมในมืออยู่บนเตียง กรอกนัยน์ตามองไปทางประตูห้องนอน ที่ถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของภรรยาสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับไปสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมต่อ
“พี่แทนจะอาบน้ำเลยไหมคะ สาจะได้เตรียมน้ำอุ่นให้ค่ะ”
“อือ” คนถูกถามยังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ไม่สนใจที่จะเงยหน้าขึ้นมามองภรรยาสาว
“วันนี้เข้าผับไหมคะ”
“…” มาริษาเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจสั่นไหวด้วยความประหม่า เมื่อแทนคุณเฉยเมยต่อคำถามของเธอ
เธอสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ
“ถ้าไป สาไปด้วยได้ไหมคะ สัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่ซนค่ะ”
“จะตามไปเผื่อ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นแววตาคมกริบตวัดมองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างเตรียมพร้อมดุหากคำตอบไม่สมเหตุสมผล ทำเอาคนถูกถามกดดันลนลานในใจ
“สา…ก็แค่…อยากไปเที่ยวด้วยน่ะค่ะ”
“ฉันไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยว อีกอย่างผับฉันต้องอายุยี่สิบปีขึ้นไปถึงจะเข้าได้ ส่วนเธอยังไม่ถึงนิ จะรีบแรดเข้าผับไปไหน รีบอย่างกับจะตายก่อนงั้นแหละ” แทนคุณพ่นวาจาร้ายกาจใส่ภรรยาสาวจบ ก็หยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง เดินผ่านร่างเล็กไปทางประตูห้องนอนทันที
“…” มาริษาอึ้งงันใบหน้าชาราวกับถูกตบฉาดใหญ่ เจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจ เมื่อถูกสามีต่อว่าด้วยถ้อยคำแรง ๆ จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอไม่ได้แรดซะหน่อย