สัญญาการอยู่ร่วมกันของเรา ระหว่าง เกดกนก และ แกลรี่ สามีแสนเจ้าเลห์และหลอกลวง
แกลรี่หัวเราออกมาเบาๆใครกันแน่ที่เจ้าเล่ห์แต่หลอกหลวงน่ะเขาเต็มๆ
ข้อแรก สามีจะต้องยินยอมให้ภรรยาอยู่ในบ้านของสามีห้ามไล่ภรรยาไปไหนเด็ดขาด
ข้อสอง ห้ามสามีแตะต้องภรรยาการแต่งงานนี้จะเป็นการแต่งงานกันแต่ในนามเท่านั้น
ข้อที่สาม ห้ามสามีโกหกหลอกลวงภรรยาอีกเป็นอันขาดและห้ามเจ้าชู้
ลงชื่อ สามี ลงชื่อภรรยา
เมื่อเขาอ่านข้อตกลงสามข้อเสร็จแล้วชายหนุ่มก็หันไปมองทางประตูบ้าน ก่อนจรดปากกาในมือเพิ่มข้อตกลงเพิ่มอีกหนึ่งข้อ แล้วเซ็นลงชื่อข้างๆชื่อของเกดกนก เขาเดินไปเคาะประตูแล้วยื่นเอกสารให้เธอ หญิงสาวรับกระดาษในมือเขามาดูแล้วอ้าปากจะค้านแต่แกลรี่รีบพูดขึ้นซะก่อน
“ ถ้าไม่ตกลงก็เก็บของออกไปได้เลย” เกดกนกจำต้องหุบปากลงแล้วเดินตามเขาจะเข้าบ้านแต่ก็ต้องหยุดชะงักกับที่
“หยุด ที่ของเธออยู่ด้านนอกถ้ายังอยากอยู่ที่นี่โน้น ที่นอนของเธอ” เขาชี้ไปที่เก้าอี้นอนข้างสระว่ายน้ำที่เขาพึ่งลุกมา เกดกนกได้แต่ยืนอ้าปากค้างมองคนใจร้ายที่เดินเข้าบ้าน ล็อกประตูด้วยแววตาตัดพ้อน้อยใจ เธอเดินคอตกมานั่งที่เดิมของเขาก้มลงอ่าน ข้อตกลงที่เขาเพิ่มมาอีกครั้ง
ข้อที่สี่ ภรรยาต้องทำตามใจสามีทุกอย่าง
“เห็นแก่ตัวที่สุดแค่ข้อเดียวก็ครอบคลุมทุกข้อของเราหมดเลย คนบ้า เจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกิน ใจร้าย ไม่รักแล้วด้วย” หญิงสาว บ่นพึมพัมกับตัวเองตวัดสายตามองค้อนคนในบ้านปะหลับปะเหลือก
แกลรี่มองร่างบอบบางของเกดกนก ที่นั่งก้มหน้ามองกระดาษในมือ บางครั้งเธอก็หันมาค้อนเขาปากก็บ่นขมุบขมิบบางครั้งก็ทำปากยื่น ย่นจมูก ใส่เอาสารในมือเขามองท่าทางของเธออย่างเอ็นดูนี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวคาร์โล่จะไม่ยอมรามือแล้วละก็เขาจะไม่ลังเลที่จะยอมให้เธออยู่ข้างกายเลยทีเดียว เขามองไปที่เธออีกครั้งเห็นเธอล้มตัวลงนอนอย่างหงอยๆเกือบจะใจอ่อนเปิดประตูให้เธอแล้วเชียวแต่โทรศัพท์มือถือของเขาดันดังขึ้นซะก่อน
ตรูดๆๆ
“สวัสดีครับคุณปู่” แกลรี่กล่าวทักทายปู่ของเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“สวัสดีหลานรักปูโทรมาบอกข่าวดีนะ ตอนนี้คาร์โล่ย้ายไปอยู่กับปู่ที่ไร่แล้วนะมารีญาก็มาด้วยกันหมดพร้อมครอบครัวของเขา คาร์โล่อยากคุยกับหลานน่ะ” เพนิเป้ส่งโทรศัพท์ให้คาร์โล่แกลรี่เดินเข้ามาในห้องนอนนั่งลงที่เตียง
“พี่แกลรี่ ผมขอโทษนะครับ” เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่บาดหมางกันเป็นเวลา เกือบแปดปีที่คาร์โล่เรียกเขาว่าพี่อีกครั้งแกลรี่ยิ้มออกมา
“ไม่เป็นไรน้องชาย ขอให้นายดูแลคุณปู่ให้ดีนะดูแลสิ่งที่นายรักให้ดีนะ”
“ครับ ผมสัญาว่าผมจะเลิกเล่นการพนัน สัญญาว่าจะดูแลสมบัติทุกอย่างที่ผมได้มาให้เจริญงอกงามยิ่งๆขึ้นไป จะไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอนครับ”
เขายังคงคุยกับคาร์โล่อีกซักพักก่อนจะวางสายเขาเอนตัวลงนอนคิดถึงเรื่องที่พูดกับคาร์โล่เขารู้สึกโล่งอกไปเรื่องหนึ่งแล้วเขายิ้มให้กับตัวเองก่อนจะเผลอหลับไป ทิ้งให้ เกดกนกนอนแสบท้องหิวข้าว ตากน้ำค้างอยู่ข้างนอกจนเกือบสี่ทุ่ม
เสียงกุกกักดังขึ้นรบกวนการนอนหลับสบายของแกลรี่ทำให้เขาจำเป็นต้องตื่นขึ้นคิ้วเขาขมวดเข้าหากันอย่างแปลกใจใครกันเข้ามาในบ้านของเขาหรือจะเป็นเกดกนก ก็ไม่น่าจะใช่เพราะเขาล็อกกุญแจแล้วนี่นาชายหนุ่มเดินออกมาตามเสียงก็ได้เห็นภาพที่เขาเห็นทำให้เขายิ้มออกมาเกดกนกนั่งทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยแต่พอสาวเจ้าเงยหน้ามาเห็นเขาก็อ้าปากค้างก่อนจะส่งยิ้มหวานๆส่งมาให้เขาทำเอาเขาใจเต้นไม่เป็นจังหวะลืมเรื่องบางเรื่องไปซะสนิท
“ทานข้าวไหมคะเกดทำเผื่อคุณด้วยนะคะ”
“อื่มตักให้หน่อยสิ” ชายหนุ่มนั่งลงทางข้าวผัดผีมือ เกดกนกจนหมดจานแถมขอเพิ่มอีกจานพอทานอิ่มสมองอันฉลาดของเขาก็ปลอดโปร่งเขาหันไปมองหน้าเกดกนกแล้วเดินตามเธอออกมาจากห้องครัว
“นี่คุณเข้ามาได้ไงผมล็อกประตูอยู่นะ” แกลรี่ พูดขึ้นเมื่อนึกได้ว่าที่ที่เธอควรอยู่ควรจะเป็นด้านนอกไม่ใช่ข้างในนี้
“เอ่อ คือ ฉันก็เปิดกุญแจเข้ามาน่ะสิคะ” เกดกนกถอยไปช้าๆหยุดอยู่หน้าห้องนอนใหญ่ของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเธอชูกุญแจให้เขาดูแล้วยิ้มหวานส่งให้ด้วย แกลรี่ยื่นมือมาเพื่อขอกุญแจคืนใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึง
“เอามาให้ผมคุณไม่มีสิทธิเข้ามาในบ้านผมก่อนได้รับอนุญาต” เสียงเขาเรียบขรึมตางี้ดุเชียว เกดกนกย่นคอ แต่เรื่องอะไรที่เธอจะยอม
“เรื่องอะไรก็หิวนี่นานั่งรอคุณตั้งนานคุณก็ไม่มาเปิดซักทีนี่นา”
“แล้วทีผมล่ะต้องรอนานเหมือนกันนะ”
“อ้าวแล้วคุณทำไมไม่พกกุญแจออกไปด้วยล่ะ ฮ้าว ง่วงจังไปนอนก่อนนะค้า กูดไนท์ค้าสามีที่รักจุ๊บๆ” แล้ว เกดกนกก็หันหลังเข้าห้องล็อกกลอนทันที แกลรี่ยืนอึ้งพูดไม่ออกแต่เอ๊ะนั่นมันห้องเรานี่หว่า
“เฮ้ ยายตัวแสบออกมานะนั่นมันห้องผมคุณออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะโน้นห้องเล็กโน้นของคุณ”
“ เรื่องอะไรเกดนอนมาตั้งคืนหนึ่งแล้วคุณนั่นแหล่ะไปนอนห้องอื่น ขอบคุณนะคะที่ยกห้องนี้ให้เกดน่ารักจังเล้ย สามีใครน้า” เสียงตอบกลับมาของเธอทำเอาเขาโมโห
”ใครเขายกให้เธอกัน ปั่งๆ ออมมานะ ปั่งๆ“ เขาทุบประตูอยู่เป็นนานไม่ก็ไม่มีวี่แววของคนข้างในลุกมาเปิดให้เลยแถมยังได้ยินเสียงเธอร้องเพลงเป็นภาษาอะไรไม่รู้เขามองประตูอย่างหงุดหงิดพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นประตูห้องทำงานซึ่งมีประตูเชื่อมกับห้องนอนเขา เขารีบเดินไปที่นั่นทันทีพอไปถึงประตูเชื่อมก็จับลูกบิดจะเปิดแต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ เขาสบทรัวเร็วเป็นภาษาเกิดของเขา
“ยายบ้าให้มันรู้ไปสิว่าฉันจะแพ้เธอทุกครั้ง เฮ้อ คิดผิดหรือเปล่าเนี้ยที่แต่งงานกับเธอ ฉันเห็นเธออ่อนหวานน่ารัก น่าถนอมไปได้ยังไงนะ แสบน่ะสิไม่ว่า ยายบ้อง” เขาจึงจำเป็นต้องเดินเข้าไปนอนในห้องเล็กซะเอง