Episode4

1377 Words
ร้านของเคชื่อว่าร้านบาร์ลับ เพราะมันตั้งหลบมุมอยู่ในมุมลับของตลาด ส่วนใหญ่เน้นขายเหล้า เบียร์แต่อีกอย่างที่อร่อยและขึ้นชื่อของร้านคือ ก๋วยเตี๋ยว น้อยคนที่จะรู้จักร้านนี้ ส่วนใหญ่ที่รู้จักก็ไม่ใช่พวกคนดีสักเท่าไหร่นัก อย่างเก้าและเพื่อนของเขา เป็นต้น “จะกินไรก็สั่ง” กวากวารับเมนูจากเก้ามาเปิดดูพลางขมวดคิ้ว อาหารเพียงอย่างเดียวที่ร้านนี้ขายคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ถูกเติมแต่งด้วยเครื่องต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าสั่ง และนั่นคือปัญหาของกวากวา เธอไม่เคยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “พี่เค ผมเอามาม่าต้มยำทะเล ไม่งอก เผ็ดระดับห้าเพิ่มไข่ต้มมาด้วย” เก้าหันไปสั่งอาหารกับเคที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่ “เอาเบียร์เหมือนเดิมนะ” “เอาโค้กแล้วกันพี่ วันนี้ขับรถ” เคเงยหน้าขึ้นมองเก้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “มึงไม่แดกสุรา เป็นไปได้เหรอวะ” “จะเซ้าซี้เพื่อ?” “เออ ๆ แค่นี้ทำหงุดหงิด แล้วน้องตุ๊กตาเอาอะไรดีครับ” กวากวาเงยหน้าจากเมนู ส่งยิ้มแหย ๆ ให้เค เธออยากหันไปขอความช่วยเหลือจากเก้าแต่ไม่รู้เขาลุกออกไปไหนแล้ว “ว่าไงจ๊ะ” “เอาเหมือนเฮียเก้าก็ได้ค่ะ” “ได้เลย รับน้ำอะไรดี” “เอ่อ มีนมหมีปั่นมั้ยคะ” เคยิ้มเอ็นดู หากเป็นคนอื่นเขาคงด่าไปแล้ว ร้านเขาขายเหล้าแต่ดันมาสั่งนมปั่น แต่สำหรับแม่สาวตุ๊กตาคนนี้ถือว่าให้อภัย “ร้านพี่คงไม่มี แต่เดี๋ยวให้เด็กไปซื้อให้แล้วกันนะ” “ขอบคุณมากนะคะ” เคยกมือรับไหว้กวากวาแทบไม่ทัน ปกติผู้หญิงรอบตัวเขาไม่มีใครมารยาทดีขนาดนี้ ยังนึกสงสัยเลยว่าเก้าไปหาแบบนี้มาจากไหน “มาแล้วมาม่ารสเด็ด แล้วนี่นมสดปั่นของน้องตุ๊กตาครับ” “ไม่ยักรู้ว่าร้านพี่ขายนมด้วย” “สำหรับคนน่ารัก ร้านกูมีหมดแหละ” “ขอบคุณค่ะ” กวากวายิ้มกว้าง รับนมสดปั่นมาดูดพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนเด็ก “น้อยหน่อย แค่กินนมสดปั่น ไม่ต้องยิ้มขนาดนั้น” รอยยิ้มสดใสหุบแทบทันที เธอแอบค้อนเล็กน้อยก่อนหันไปหยิบช้อนส้อมมาเพื่อเตรียมจะลงมือทานมาม่าแทน “น่าทานมากเลยค่ะพี่เค” “เจ้าของก็น่าทานนะครับ” “อะแฮ่ม” เก้ากระแอมเบา ๆ หยิบตะเกียบมากระแทกลงบนชาม “พี่ไม่กวนแล้วดีกว่า ทานให้อร่อยกันนะ” เคเห็นท่าไม่ดีเลยรีบขอตัวออกไปก่อน เห็นหน้ารุ่นน้องตัวเองแล้วหนาว ๆ ร้อน ๆ ยังไงไม่รู้ “อยู่ทานด้วยกันก็ได้นะคะ” แม่ตุ๊กตาคนดียังอุตส่าห์ชวนเขาอีก ไม่ได้มองหน้าบุคคลด้านข้างเลยหรือยังไงกัน “ถ้ายังไม่กิน ฉันจะเอามาม่านี่ราดหัวเธอซะกวากวา” “พี่ไปดูแลลูกค้าดีกว่าจ้ะน้องกวากวา พี่ยังอยากมีชีวิตรอดอยู่” กวากวามองอาหารในถ้วยด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง ยิ่งสีน้ำซุปที่ออกแดง ๆ ส้ม ๆ นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกหนักใจ เธอไม่เคยได้รับอนุญาตให้ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบนี้ด้วยเหตุผลที่ว่ามันมีผงชูรสเยอะ แต่เมื่อหันไปเห็นเก้ากินด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย เธอเลยลองตักเข้าปากบ้าง “อ๊ะ” เพียงคำแรกที่ตักเข้าปาก ใบหน้าขาวเนียนก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง มือเล็กรีบหยิบนมสดปั่นขึ้นมาดูด “เป็นอะไรของเธอ” “ผะ...เผ็ด มันเผ็ด” ว่าพลางดูดน้ำไปด้วย น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างอย่างน่าสงสาร เก้าเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะใช้ช้อนตักน้ำซุปในถ้วยของเธอชิม “ยัยตุ๊กตา ใครให้เธอสั่งเผ็ดขนาดนี้” กวากวาไม่ได้สนใจเสียงดุของคนตรงข้าม รีบหันซ้าย หันขวาหาน้ำมาเติม น้ำหูน้ำตาไหลพรากด้วยความเผ็ด “เฮีย เฮียช่วยกวาหน่อย” “ขอร้องก่อนสิ” ตอนแรกก็คิดจะช่วย แต่พอเห็นท่าทางและหน้าตาน่ารัก น่าแกล้งของเธอ เก้าเลยถือโอกาสแกล้งเธอเสียหน่อย “เฮียเก้าขา ช่วยกวาหน่อย ฮึก กวาไม่ไหวแล้ว” สันกรามคมขบเข้าหากันแน่น สายตาออดอ้อน มีน้ำตาคลอ บวกกับปากอิ่มแดง ๆ นั่นแทบทำให้เก้าคุมตัวเองไม่อยู่ ความรู้สึกดีในคืนนั้นที่เขาไม่มีวันลืมย้อนกลับมาแทบทันที “เฮียขา ชะ...” “ไม่ต้องพูดแล้ว เดี๋ยวไปหาอะไรมาแก้เผ็ดให้” เก้ารีบลุกขึ้นก่อนที่อย่างอื่นในตัวเขาจะลุกแทน เดินก้าวฉับ ๆ ไปหลังบาร์ กลับมาพร้อมแก้วใสบรรจุน้ำสีเหลืองสวย “อะไรคะ” “เบียร์สด มันช่วยได้” กวากวามองด้วยสายตาไม่ค่อยไว้วางใจ แต่ก็ยอมรับแก้วนั้นมายกขึ้นดื่ม “อี๋ ขม” ใบหน้าน่ารักเหยเก หลังจากกินเข้าไปเกือบครึ่งแก้ว “แล้วใครใช้ให้กระดกเข้าไปแบบนั้น” “ก็ตอนนั้นมันเผ็ดนี่นา” กวากวาว่าพลางย่นจมูกใส่ เหลือบมองถ้วยก๋วยเตี๋ยวด้วยใบหน้าเข็ดขยาด “แล้วดีขึ้นมั้ย” “อ่า ก็ดีขึ้นนะคะ” “เหอะ นึกยังไงถึงสั่งมาเหมือนฉัน” “บอกแล้วเฮียห้ามหัวเราะนะคะ” กวากวากระซิบกระซาบเสียงเบา “เออ บอกมา” “กวาไม่เคยกินนี่นา เลยสั่งไม่เป็น” ดวงตาคมเบิกกว้างเมื่อได้ยินในตอนแรกแต่ไม่ได้ว่าอะไร หันไปเรียกพนักงานที่กำลังเดินอยู่แถวนั้น “ไอ้ต้นมานี่ดิ” “ครับเฮียเก้า” “เอามาม่าหมูสับมาถ้วยหนึ่ง” “ได้เลยครับ รอสักครู่นะครับ” ต้นแอบเหลือบมองกวากวาเล็กน้อยก่อนจะรีบหลบสายตา เพราะก่อนหน้านี้เคเจ้าของร้านเตือนมาว่าห้ามไปมองผู้หญิงที่มากับเก้าเด็ดขาด ถ้าไม่อยากชะตาขาด หลังจากต้นเดินออกไป กวากวาก็นั่งก้มหน้าเตรียมรับคำด่าจากเก้าเต็มที่ เขาต้องว่าเธอไม่ได้เรื่องแน่เลย “นี่ยัยตุ๊กตา” “คะ?” “คราวหน้าคราวหลังสั่งไม่เป็นก็บอก ไม่ใช่สั่งอะไรที่ตัวเองกินไม่ได้แบบนี้” กวากวาเงยหน้าขึ้น เบิกตากว้าง มองหน้าเก้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน “มองอะไร!?” “เฮีย ไม่ด่ากวาเหรอคะ” “ทำไม อยากให้ด่าหรือไง” “เปล่าค่ะ ไม่ด่าแบบนี้ดีแล้วค่ะ เฮียน่ารักมาก” กวากวาส่ายหน้ารัวเร็ว รีบบอกด้วยเสียงสดใส ฉีกยิ้มกว้างส่งไปให้ แต่โดนตะเกียบเคาะหน้าผากกลับมาแทน “เหอะ” เก้าก้มลงคีบเส้นมาม่าเข้าปากเพราะรู้สึกเหมือนปากเจ้ากรรมมันกำลังจะยิ้มออกมา เขาไม่มีทางยิ้มเพราะรอยยิ้มของยัยคุณหนูตุ๊กตานี่หรอก อีกฝั่งทางด้านเคาน์เตอร์ พนักงานประจำร้านสองคนอย่างต้นและเลย์กำลังชะเง้อมองไปยังโต๊ะของเก้าพลางชื่นชมผู้หญิงที่มากับเก้าอย่างเพ้อฝัน “คนอะไรไม่รู้ น่ารักอย่างกับตุ๊กตาเลย” “เออ เมื่อกี้ตอนกูไปรับออเดอร์โต๊ะเฮียเก้า ถ้าเธอไม่กะพริบตา กูคิดว่าตุ๊กตาจริง ๆ นะ” โป๊ก โป๊ก เสียงถาดกระทบหัวทั้งคู่คนละที “จะนั่งส่องกันอีกนานมั้ย เดี๋ยวกูไล่ออกทั้งคู่เลย” “ขอโทษครับพี่เค” เคส่ายหน้าเอือมระอาลูกน้องตัวเองทั้งสองคน ต้นและเลย์เป็นนักศึกษาปีสามมหาวิทยาลัยเก่าเขานั่นแหละ แต่คนละคณะกัน เห็นพวกมันนิสัยดี ขยัน เคเลยชวนมาทำงานที่ร้านหลังเลิกเรียน “ว่าแต่พี่เคครับ น้องตุ๊กตาคนนั้นเด็กเฮียเก้าจริงเหรอครับ” ต้นกระซิบกระซาบถามเจ้านายด้วยความอยากรู้เพราะไม่เคยเห็นเก้าพาใครมาที่นี่ “อยากรู้ก็ไปถามมันสิ” “อู้ว ใครจะกล้าครับ” “ใช่ ผมยังไม่อยากโดนกระทืบตายก่อนวัยอันควรหรอกนะครับ” “ถ้าอย่างนั้นก็เลิกเสือกแล้วไปทำงาน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD