วันนี้เป็นวันศุกร์ ถนนในกรุงเทพจึงมีรถติดค่อนข้างมาก เก้าและ
กวากวาจึงยังไม่ถึงร้านอาหารที่เก้าตั้งใจไปสักที
“เฮียคะ ร้านเฮียอีกไกลมั้ยคะ”
คนตัวเล็กถามเสียงเบา ชะเง้อคอมองรถบนท้องถนนพลางถอนหายใจ
“ทำไม”
“คือกวาหิวแล้วค่ะ”
กวากวาส่งยิ้มแหย ๆ ให้เขา เก้าเหลือบตามองเธอเล็กน้อยด้วยใบหน้าหงุดหงิดดังเดิม
“คงอีกนาน รถติดฉิบหาย”
“ถ้าอย่างนั้นเรากินร้านแถวนี้กันก่อนมั้ยคะ”
“จะกินร้านไหนก็เลือกเอา”
เก้าอนุญาตโดยไม่หันมองหน้าเธอ แต่นั่นก็ทำให้กวากวายิ้มกว้างอย่างมีความสุข รีบควานหากระเป๋าสะพายเพื่อหยิบโทรศัพท์มาเลือกร้าน
“เฮ้ย!”
กวากวาอุทานเสียงดังเมื่อเธอหากระเป๋าตัวเองไม่เจอ ทำเอาคนด้านข้างตกอกตกใจไปด้วย
“อะไรของเธอยัยตุ๊กตา”
“กวาลืมกระเป๋าไว้ที่ ม.แน่เลยค่ะ”
“แล้วเพิ่งรู้ตัวเนี่ยนะ?”
คิ้วเข้มเลิกขึ้น เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีใครอยู่ได้โดยไม่รู้ตัวว่ากระเป๋าตัวเองหายเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
“ปกติกวาฝากบอดี้การ์ดหนิคะ”
“เฮ้อ คุณหนูก็คือคุณหนูวันยังค่ำ”
ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากัน เธออยากจะเถียงว่าเธอไม่ใช่คุณหนูแต่ก็เถียงไม่ออก
“โทรเข้ามือถือเธอ เผื่อมีคนเก็บกระเป๋าไว้”
เก้ายื่นโทรศัพท์ตัวเองให้กวากวา เธอรับมาก่อนจะรีบกดโทรออกหาเบอร์ตัวเอง
“เอ๊ะ”
“อะไรอีก”
“เฮียไม่ได้เมมเบอร์กวาเหรอคะ”
“แล้วเรื่องอะไรฉันต้องเมม”
กวากวาทำปากยื่น ก่อนจะกดเมมเบอร์ตัวเองเสียเลย หมั่นไส้นัก คนอะไรชอบวางมาดกับเธออยู่เรื่อย
กวากวาเลือกเมมชื่อตัวเองในโทรศัพท์เก้าว่า
‘ตุ๊กตาน้อยของเฮียเก้า ?’
“ทำอะไรอยู่ ไม่กดโทรล่ะ”
“โทรแล้วค่ะ ๆ”
กวากวารีบลนลานกดโทรออกหาเบอร์ตัวเอง เกรงว่าคนข้าง ๆ จะกินหัวเสียก่อน หากไม่รีบกดโทร
ตู้ด ตู้ด ตู้ด
“สวัสดีครับ” รอสายไม่นานก็มีคนกดรับ
“เปิดลำโพงดิ”
คิ้วสวยเลิกขึ้น หันมองหน้าเก้าอย่างไม่เข้าใจ เก้าเลยคว้าโทรศัพท์ไปกดเปิดลำโพงเสียเอง
“สวัสดีครับ ได้ยินมั้ยครับ”
“ได้ยินค่ะ คือกวาเป็นเจ้าของโทรศัพท์นะคะ”
“อ๋อ กวากวาเองเหรอ เรากำลังคิดอยู่เลยว่าจะตามหาเธอที่ไหนดี”
“พอดีกวาออกจากม. แล้วค่ะ เอ่อ คุณคือ...”
“เราทิวเขาไง”
“อ๋อ ทิวเขาเองเหรอ”
กวากวาฉีกยิ้มกว้างดีใจเมื่อรู้ว่าคนที่เก็บกระเป๋าเธอได้เป็นคนรู้จัก ทิวเขาคือเพื่อนปีหนึ่งที่นั่งหลังเธอวันนี้ เธอรู้สึกว่าเขาน่ารักและค่อนข้างเป็นคนดีทีเดียว
“ดีใจนะที่กวากวาจำเราได้”
“อะแฮ่ม”
กวากวาเหลือบมองคนด้านข้าง เมื่อเห็นว่าสีหน้าเก้าไม่ค่อยดีนัก เธอเลยรีบเข้าเรื่อง กลัวเก้าจะโมโหที่เธอใช้โทรศัพท์เขานานไป
“กวารบกวนฝากกระเป๋าไว้ที่ทิวเขาก่อนได้มั้ย พรุ่งนี้เดี๋ยวกวาไปเอา”
“ได้สิ หรือให้เราเอาไปให้ที่คอนโดกวาก็ได้นะ”
ทิวเขาเสนอด้วยน้ำเสียงสดใส กวากวาเลยหันไปมองเก้าอีกครั้งเพื่อเป็นการขออนุญาตว่าให้ทิวเขามาที่คอนโดได้มั้ยเพราะยังไงคอนโดนั้นก็เป็นคอนโดของเก้า
“ไม่อนุญาต”
เก้าตอบนิ่ง ๆ สายตายังคงจับจ้องบนถนน
“ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวกวาไปเอาพรุ่งนี้ดีกว่า ทิวเขาจะได้ไม่ลำบากด้วย”
“เฮ้ย ไม่ลำบากเลย เราเต็มใจเอาไปให้”
“แต่ว่า...”
“บอกชื่อคอนโดมาเลย เดี๋ยวเราออกไปตอนนี้ละ...”
ปิ๊บ
ทิวเขายังพูดไม่ทันจบ เก้าก็เอื้อมมือมากดตัดสายและเก็บโทรศัพท์คืนเสียก่อน
“เฮียคะ”
กวากวามองตามโทรศัพท์อย่างไม่เข้าใจ
“คุยนาน มันเปลือง”
กริ๊ง กริ๊ง
กวากวากำลังจะพยักหน้าเข้าใจว่าเขาไม่อยากเปลืองค่าโทร แต่ต้องขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อทิวเขาโทรกลับมาแต่เก้ากลับตัดสาย
“เฮียตัดสายทำไมคะ?”
“คุยโทรศัพท์ตอนขับรถมันอันตราย”
“แต่คนคุยไม่ใช่...”
กวากวากำลังจะบอกว่าเธอเป็นคนคุยโทรศัพท์ไม่ใช่เก้าที่กำลังขับรถอยู่สักหน่อย
“ถ้าพูดมาก ฉันจะให้เธอลงไปเดิน”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ปิดปากเงียบ นั่งสงบเสงี่ยม เธอจะกล้าหือได้อย่างไรในเมื่อตอนนี้เธอเป็นคุณหนูตกอับ เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัว ขืนเขาทิ้งเธอจริง เธอได้ตายข้างถนนแน่
“ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ”
คนตัวเล็กมองร้านค้ามากมายด้วยสายตาเป็นประกาย น้ำเสียงและสีหน้าเธอบ่งบอกถึงความตื่นเต้นอย่างชัดเจน
“ตลาดรถไฟ อย่าบอกว่าไม่เคยมา?”
“ค่ะ กวาไม่เคยมาเลย มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลยนะคะ”
มือหนารีบคว้าข้อมือเล็กไว้ก่อนที่เธอจะพุ่งตรงไปยังร้านสตรอว์เบอร์รี
โยเกิร์ตสีสวย
“ไปหาข้าวกินก่อน”
“แต่กวา...”
กวากวาหันมองร้านสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตสลับกับหน้าเก้า
“กินข้าวก่อน”
“ก็ได้ค่ะ”
สุดท้ายเธอก็ต้องยอมทำตามที่เก้าบอก เดินตามทางไปเรื่อย ๆ ตามที่เก้าลาก สายตาก็คอยมองร้านที่เดินผ่านด้วยความสนใจ
“อ้าว ไอ้เหี้ยเก้า มาได้ไงวะ”
“เหาะมามั้งพี่”
“อ้าวไอ้นี่ เดี๋ยวกูเตะออกจากร้านแม่ง”
เค รุ่นพี่เก้าซึ่งเป็นเจ้าของร้านบาร์ลับแห่งนี้ทำท่าจะเดินเข้ามาเตะรุ่นน้องตัวเองจริง ๆ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเก้าไม่ได้มาคนเดียว
“โอ๊ะโอ ใครกันครับเนี่ย น่ารักเชียว”
“สวัสดีค่ะ”
กวากวายกมือไหว้เคพร้อมรอยยิ้มอย่างมีมารยาท
“มารยาทดีซะด้วย”
เคมองกวากวาและเก้าสลับกันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“จะขายมั้ยครับพี่ ข้าวน่ะ”
“ทำมาเป็นโมโห เข้าไปโซนในเลย โซนนอกพวกเสือมันเยอะเดี๋ยวเด็กมึงจะไม่ปลอดภัย”
เก้ากวาดสายตามองในร้านพลางถอนหายใจ เขาคิดผิดหรือเปล่าที่พายัยเด็กตุ๊กตานี่มาร้านนี้ เขาลืมไปเลยว่าผู้ชายในร้านนี้มันพวกเสือ สิงห์ กระทิงทั้งนั้น แต่จะทำไงได้ ก็ที่นี่เขารู้จักอยู่ร้านเดียว
“บอกคนในร้านพี่ด้วยแล้วกันว่าระวังตีนผมหน่อย”
เก้าก้มกระซิบเค ได้ยินอย่างนั้น เคถึงกับยิ้มล้อ มองไปยังกวากวาที่หันมองนู่นมองนี่อย่างสนใจก่อนจะหันมากระซิบถามเก้า
“นี่หวงจริงจัง?”
“ไม่ได้หวง”
“เหรอครับรุ่นน้อง”
“ครับรุ่นพี่ กูแค่รำคาญ”
เคยืนมองรุ่นน้องที่ได้ชื่อว่าโหดสุดในรุ่นและไม่เคยสนใจอะไร เดินจูงมือสาวตัวเล็กหน้าตุ๊กตาเข้าไปในร้านด้วยรอยยิ้มขบขัน
“มึงจะปากแข็งได้นานเท่าไหร่กัน ไอ้เก้าเอ๊ย”