7

1085 Words
7 หญิงสาวสะบัดตัวหนีด้วยความตกใจ ไม่ใช่รังเกียจ เธอจะรังเกียจอ้อมแขนของเขาได้อย่างไรเพราะอ้อมกอดนี้เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด เป็นอ้อมกอดของคนที่เธอรักสุดหัวใจ “ทีหลังฉันสั่งให้นั่งตรงไหนก็ต้องนั่งจำไว้...และนี่คือโทษของเธอที่ขัดคำสั่งของฉัน” การลงโทษของเขาทำให้ณัฐกานต์เบิกตากว้าง ตกใจกับการกระทำของแอรอน ริมฝีปากหนาได้รูปฉกจูบเรียวปากบางสวยอย่างรวดเร็ว ไม่ทันให้หญิงสาวตั้งตัว บดเคล้าเร่าร้อนและรุนแรง รักแสนรัก แค้นแสนแค้น โหยหา คิดถึง หลากหลายความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ถูกถ่ายทอดลงไปบนเรียวปากสีชมพูที่เผยอรับลิ้นหนาแทรกผ่านเข้าไปในช่องปากหวานล้ำโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากอารามตกใจทำให้ปากสาวตั้งใจจะเปิดปากร้องค้าน และนั่นเป็นโอกาสให้เขาได้ลิ้มรสหวานในโพรงปากของเธอ ลิ้นใหญ่สอดรัดเกี่ยวกระหวัดหาความหวานจากปากของเธออย่างดื่มด่ำ เพียรหารสชาติพิเศษให้สมกับเวลาสี่ปีที่เขาไม่ได้สัมผัส ณัฐกานต์ดิ้นรนอยู่ในอ้อมกอดที่รัดร่างราวกับคีมเหล็ก พยายามส่ายหน้าหนีริมฝีปากใหญ่ที่บดเคล้าปากของตนด้วยความรุนแรง จนเธอรู้สึกเจ็บร้าวระบม จุมพิตของแอรอนในครั้งนี้ ช่างต่างกับครั้งนั้นเป็นอย่างมาก เพราะครั้งนี้มันไร้ซึ่งความอ่อนโยนแม้แต่นิดเดียว ยิ่งเธอดิ้นรนต่อต้าน ทุกการกระทำของเขายิ่งเพิ่มเป็นสองเท่า มือหนาสำรวจไปตามร่างกายของเธออย่างจาบจ้วง มือเล็กพยายามปัดมือซุกซนไม่ให้ทำตามอำเภอใจ แต่ดูเหมือนแรงของเธอนั้นหายสาบสูญไปจนสิ้น เมื่อเขาผ่อนแรงบดเบียดริมฝีปาก จากรุนแรงเป็นอ่อนโยน ผ่อนความเอาแต่ใจของปลายลิ้นในช่องปากสาวเป็นเรียกร้องแทนเอาแต่ใจ ส่งผลให้ร่างสาวอ่อนเปลี้ย เรี่ยวแรงเหือดหายภายในพริบตา ไร้แรงต่อต้านไปในทีกลายเป็นคล้อยตาม แลกรัดลิ้นสากใหญ่ตอบโต้ อากัปกิริยาของเธอทำให้มือแกร่งสำรวจร่างกายได้โดยง่าย เขาลูบไล้ร่างสาวผ่านเสื้อผ้าไปทุกที่ที่เขาต้องการ ก่อนที่มือนั้นจะมาหยุดชะงักตรงทรวงอกคู่งามที่เขาเพิ่งแตะสัมผัสเพียงเสี้ยววินาที “ใจง่าย...ยังเป็นผู้หญิงใจง่ายเหมือนเดิม แค่ถูกจูบลูบคลำแค่นี้ก็อ่อนปวกเปียก คงจะใจง่ายกับผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ล่ะสิ” แอรอนผลักร่างบางออกห่างอย่างรังเกียจ ก่อนที่เขาจะเขยิบมานั่งที่เดิม วินาทีนั้นณัฐกานต์รู้ว่าตนเองไม่มีค่าในสายตาของแอรอนอีกต่อไป เธอเบือนหน้าหนียังทิศทางที่ไม่มีเขา กระพริบตาหลายๆ ครั้ง ขับไล่หยาดน้ำตาที่เริ่มจะรินไหลออกมาให้ไหลย้อนกลับไปที่เดิม “ดิฉันขอตัวนะคะ” สิ่งที่ณัฐกานต์คิดได้ขณะนี้คือ ต้องพาตัวเองออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด หนีสายตาของเขาที่ร้อนราวกับเปลวไฟ “เดี๋ยว...” เสียงของเขาดังขึ้น ทำให้เท้าเล็กชะงักโดยปริยาย “มีอะไรคะ?” เสียงหวานเอ่ยถาม “เธอช่วยบอกอัสนีให้เข้ามาหาฉันด้วย แล้วฝากบอกไรอันด้วยว่าคืนนี้ฉันอยากได้ผู้หญิงสักคนมานอนกอด เธอบอกไรอันเท่านี้แหละ ไรอันรู้หน้าที่อยู่แล้วว่าจะต้องทำยังไง” ริมฝีปากล่างของเธอสั่นระริกจนต้องใช้ไรฟันสกัดอาการสั่นไว้ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอด ผ่อนออกมาเพื่อบรรเทาความรู้สึกเสียดแทงในหัวใจ เมื่อความเจ็บปวดทุเลาลง หญิงสาวจึงตอบรับคำสั่ง “ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ พร้อมกับก้าวเดินออกไปจากห้องนั้นทันที โดยมีสายตาของแอรอนมองตามไปด้วยความรัก ความเกลียดชัง และความแค้นที่คละเคล้ากันจนยุ่งเหยิง อัสนีเดินแกมวิ่งมาหาร่างของณัฐกานต์หลังจากที่เธอเดินออกมาจากห้อง สีหน้าของลูกน้องสาวหมองเศร้า ดวงตาคู่หวานมีหยาดน้ำตาไหลเอ่อ เขามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกสงสาร การเข้าไปพบ แอรอนในห้องตามลำพังครั้งนี้ หญิงสาวที่ตนหลงรักคงพบเจอเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน “เลิกตอนนี้ก็ได้นะ พี่ไม่ว่า” อัสนีไม่อยากเห็นเธอทนทุกข์ใจ เสียใจ เพียงเพื่อให้งานทุกอย่างสำเร็จ หากความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับความเสียใจของณัฐกานต์ เขาเลือกที่จะให้งานล้มเหลว “ณัฐไหวค่ะ ณัฐไหว” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ “พี่เพชรคะ คุณแอรอนเรียกพบค่ะ” ณัฐกานต์บอกอัสนีตามคำสั่งของชายหนุ่มเอาแต่ใจ อัสนีเดินเข้าไปภายในห้องหลังจากที่เธอพูดจบ ณัฐกานต์จึงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าไรอัน เพื่อบอกประโยคบาดใจ “คุณไรอันคะ คุณแอรอนให้มาบอกว่า...บอกว่าคืนนี้ต้องการผู้หญิงสักคนค่ะ” ณัฐกานต์พูดอย่างฝืดคอ เสียงที่เปล่งออกไปจากลำคอดูแห้งโรย เศร้าหมอง และสั่นเครือ คนที่ฟังรู้สึกสงสารยิ่งนัก สำหรับผู้หญิงคนนี้เขาไม่มีสิทธิ์ปลอบ ไม่มีสิทธิ์สงสาร เพราะเธอเป็นของแอรอนแต่เพียงผู้เดียว “ครับ” ไรอันน้อมรับคำสั่งจากเจ้านายที่ส่งผ่านมาจากสาวสวยตรงหน้า ผู้หมวดสาวต้องการสถานที่ที่ทำให้ตนเองรู้สึกโล่ง และปลอดโปร่ง ทำให้ความรู้สึกทั้งหลายมันระบายออกไป เธอเลือกจะไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียงห้องพัก เธอยืนมองผืนน้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัวกลางระเบียง ที่เต้นระบำพลิ้วไหวกับสายลมพัดผ่านเหนือผืนน้ำ ดูสวยงาม สดชื่นจากลมพัดโชยเอื่อยๆ แสงอรุณถักทอเป็นสีส้มเมื่อดวงตะวันเคลื่อนตัวต่ำ ลาลับขอบฟ้า หญิงสาวมองภาพสวยงามนั้นด้วยสายตาเศร้าสร้อย ณัฐกานต์สูดลมหายใจเข้าไปในปอดลึกๆ แล้วผ่อนออกมา ทำเช่นนี้หลายครั้ง คล้ายกับว่ากำลังเรียกกำลังใจให้ตนเอง เรียกพลังจากธรรมชาติให้ไหลเข้าไปในร่างกาย สร้างความแข็งแกร่งและเข้มแข็งที่ค่อยๆ ลดทอน ให้ฟื้นฟูเข้าไปในจิตใจและหัวใจให้มากที่สุด เพราะเธอต้องใช้ทุกสิ่งอย่างนี้ในวันต่อๆ ไป การพบเจอกันอีกครั้งระหว่างเขาและเธอ เปรียบเสมือนการเริ่มต้นของความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน โดยที่หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคำว่าเจ็บเจียนตาย ช้ำเกินทน กำลังรอเธออยู่ข้างหน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD