ซึ่งเพื่อไม่ให้มีการแตกตื่น หรือยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่รั่วจิ้ง
อยากเก็บซ่อนเอาไว้ ซ่างเป่าเหลียนจึงบอกว่า
“พิษที่ท่านได้รับ คือสารหนู(นางอธิบายให้คนในยุคสมัยนั้นเข้าใจง่ายอย่างที่สุด)... มันถูกทาไว้ที่ถ้วย แม้ตอนนี้ฟื้นคืนสติแล้ว แต่จำเป็นต้องล้างพิษออกจากร่างกาย โดยการเจือจางให้เหลือน้อยที่สุด เพราะไม่ใช่แค่ส่งผลถึงท่าน...”
ซ่างเป่าเหลียนพูดพอให้ได้ยินกันเพียงสองคน และนั่นก็มากพอที่จะสร้างความครั่นคร้ามใจต่อรั่วจิ้ง
อีกฝ่ายจับมือนางไปกุม แล้วใช้เล็บจิกอย่างจงใจ
“แม่นาง ขอบใจที่ช่วย แต่ท่านถูกผู้ใดส่งตัวมากันแน่ อีกอย่างเรื่องของข้า อย่าได้ยื่นมือเข้ามาแส่”
เล็บอีกฝ่ายคม และมันจิกที่ฝ่ามือบางของซ่างเป่าเหลียน
“ไป๋ฮูหยิน ท่านต้องล้างท้องโดยเร็ว ขับพิษที่คงค้างออกมา ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลร้ายแรงจนทำต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
ซ่างเป่าเหลียนบอก และใช้สายตาตวัดไปยังหน้าท้องของรั่วจิ้ง และนี่คือสิ่งที่นางช่วยอย่างเต็มที่แล้ว
“ทะ ท่าน...”
“เชื่อข้า และทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเลือกของไป๋ฮูหยิน”
พูดจบ ซ่างเป่าเหลียนก็ส่งผงถ่านที่อยู่ในแคปซูลให้อีกฝ่าย และนับว่ามันมหัศจรรย์อยู่มาก ผงถ่านนั้น ไม่ได้เป็นรูปแบบเช่นโลกยุคปัจจุบัน หากของในกระเป๋านาง เมื่อถูกหยิบออกมา มันก็เปลี่ยนลักษณะใหม่ ยามนี้แคปซูลผงถ่านจึงดูคล้ายยาลูกกลอน ไม่ได้สร้างความแปลกประหลาดมากนัก
“กลืนลงท้องเสีย มันจะช่วยดูดซึมพิษที่อยู่ในร่างกายท่านได้”
รั่วจิ้งส่ายหน้า “แม่นาง เราไม่รู้จักกัน อีกอย่างแม้จะมีน้ำใจช่วยข้า แต่บ้านเมืองนี้ หมอนั้นส่วนมากเป็นบุรุษ ข้าเคยได้ยินว่ามีหมอหญิงอยู่บ้าง แต่พวกนางก็อาศัยที่สำนักนางชี ไม่ข้องเกี่ยวกับผู้อื่น แล้วตัวท่านเรา ท่าทางไม่ใช่คนธรรมดา ยื่นมือมายุ่งเรื่องของข้า ประสงค์สิ่งใดกันแน่ หรือเป็นพวกนักไสยเวทย์ คิดต้มตุ๋นข้ากับสามี และถึงขั้นวางยาทุกคนในโรงเตี๊ยมนี้”
ทำคุณบูชาโทษเป็นเช่นนี้ ซ่างเป่าเหลียนคิดในใจ
ยามนั้นหวังตัน ที่อยากจากโรงเตี๊ยมนี้เต็มทน นางจึงจับมือซ่างเป่าเหลียน แล้วบอกว่า “แม่นางเหลียน เราออกเดินทางกันเถิด น้ำใจที่ท่านมอบให้ผู้อื่น เขาหาได้ต้องการไม่ ซ้ำหลาย ยังกล้ากล่าวหาท่านอย่างไร้หลักฐาน”
ซ่างเป่าเหลียนถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก เตรียมจะก้าวจากไป ทว่าเป็นชายหนุ่มในโรงครัววิ่งร้องห่มร้องไห้เข้ามา
“ฮูหยินท่านนั้นไม่รับไมตรีจากแม่นาง แต่ข้าต้องการยาของท่าน เพื่อช่วยท่านย่า ยามนี้นางยังคลื่นไส้ ทั้งแน่นหน้าอกด้วย”
คนที่กล่าวคือเด็กในครัว เข้าพุ่งตัวมาอยู่ตรงนั้น ด้วยอาการคนเสียขวัญ
“นางอยู่ที่ใด” ซ่างเป่าเหลียนถาม
“ด้านหลังขอรับ นางเป็นคนจัดถ้วยสำหรับใช้ทำอาหาร และบอกข้าว่า มีกลิ่นแปลกๆ เลยตั้งใจทำความสะอาดอีกครั้ง ทว่าไม่ทันได้ล้างถ้วยเหล่านั้น เพียงแค่นางยกขึ้นดมกลิ่น ก็ล้มลงหัวฟาดฟื้น ข้าช่วยให้นางลุกขึ้นได้ แต่นางบอกว่า หายใจไม่ค่อยออก ตอนนี้ดูเหมือนชีพจรจะเต้นช้าลง”
เมื่อรู้ว่ามีคนต้องการความช่วยเหลือมากกว่าไป๋ฮูหยิน ฝ่ายของซ่างเป่าเหลียนก็ไม่สนใจคนผู้นั้นอีก นางรีบเข้าไปด้านหลังครัว พร้อมสั่งให้บ่าวชายโจวซ่งกันผู้อื่นไว้ด้านนอก
ยามนั้นจึงมีเพียงซ่างเป่าเหลียน หวังตัน สิงตู้เหยา แล้วก็เถ้าแก่โรงเตี๊ยมที่มุ่งหน้าไปยังพื้นที่โรงครัว
หญิงวัยห้าสิบปีเศษนอนอยู่บนพื้น อาการนางคือนอกจากไม่ได้สติ ยังต้องได้รับการกระตุ้นหัวใจให้กลับมาเดินอีกครั้ง (ปั๊มหัวใจ)
“เถ้าแก่ห้ามให้ใครเข้ามายุ่มย่ามบริเวณนี้เด็ดขาด และคนที่เหลือ ถอยออกไปอีกสักหน่อย ข้าต้องการพื้นที่ช่วยเหลือคน รวมถึงอากาศเพียงพอสำหรับคนป่วย
ส่วนแม่บ้านหวังเปิดกระเป๋า และหันมาให้ข้าเห็นชัด ๆ หากต้องการสิ่งใด ข้าจะให้เจ้าหยิบให้ทันที”
ซ่างเป่าเหลียนสั่งทุกอย่างชัดเจน น้ำเสียงนางมีอำนาจ ทุกคนที่ได้ยินจึงทำตามโดยไว ผิดแต่มีสายตาคู่หนึ่งลอบมองนางอยู่ ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีความประสงค์ร้าย อนิจจาซ่างเป่าเหลียนไม่ใช่ผู้วิเศษ มีดวงตาที่สาม อีกทั้งมุ่งมั่นอยากช่วยคนจึงไม่ทันเห็น
การกระตุ้นหัวใจของคนงานหญิงผ่านหลายอึดใจใหญ่ๆ ท่ามกลางสายตาที่ให้ความสนใจ และสิงตู้เหยานางอ้าปากค้าง นางปลื้มใจนายหญิงเหลือเกิน
แต่แรกนางอิจฉาความงามอีกฝ่าย ด้วยใบหน้าอ่อนเยาว์ ผิวขาวราวกับไข่ต้มปลอกเปลือก พอนางให้การช่วยเหลือผู้อื่น ก็ประหนึ่งมีรัศมีทาบทับร่าง ตั้งแต่เกิดมาสิงตู้เหยาไม่เคยชื่นชมใครเช่นนี้ นางถูกเก็บมาเลี้ยง กระทั่งได้รับใช้ในค่ายทหาร และนี่คงเป็นสตรีคนแรกที่นางให้ความเคารพ ต้องเรียกว่าเทพธิดาหรือ... ไม่สิ เป็นหมอหญิงเทวดาถึงจะถูกต้อง
“แม่บ้านหวัง นายหญิงทั้งกล้าหาญ และมากความสามารถ ข้าดีใจที่ได้เดินทางไกลครั้งนี้ หากไปถึงเมืองหวางอินแล้ว อย่าส่งตัวข้ากลับค่ายฯ เลยนะ ให้ข้าได้รับใช้นายหญิงตลอดไปเถิด แม้ชาตินี้ไม่มีสามี ไม่ได้ออกเรือน หากได้อยู่ใกล้คนมากความสามารถ ข้าก็ดีใจอย่างที่สุด และนอนตายตาหลับ”
หวังตันหันมามองสาวใช้ และเอ่ยว่า
“ก่อนออกจากค่ายทหาร ข้ายังจำได้ว่าเจ้ารับเงินผู้อื่นไปมิน้อย เพื่อสืบเรื่องต่างๆ ของแม่นางเหลียน และยังอาลัยอาวรณ์ ทหารหนุ่มๆ กลัดมันอยู่ต้องหลายคน เหตุใดถึงเปลี่ยนความคิดใหม่เช่นนี้”
“ผู้ชายหล่อ มีให้เห็นมากมาย นับไม่ถ้วน แต่สตรีเก่งกาจ ทั้งใต้หล้านี้ เมื่อข้าได้พบแล้ว ไฉนจะไม่ติดตามนางเล่า”
“โถ ที่แท้เจ้าก็อยากเกาะชายกระโปรงแม่นางเหลียน เพื่อให้ตนโด่งดังในภายหน้าสินะ”
สิงตู้เหยาส่ายหน้า
“แม่บ้านหวัง ข้าก็เรียกนางว่า นายหญิงแล้ว ส่วนท่านควรเอาอย่างข้าบ้าง ระวังเถิดสังวันขี้กลากจะขึ้นหัว”
สาวใช้กล่าวจบ หวังตันก็เตรียมใช้มะเหงกกับหน้าผากนาง หากทว่าในตอนนั้น หญิงคนงานไอโขลกๆ หลายหน ก่อนจะได้สติคืนกลับมาช้าๆ
ชั่วหนึ่งอึดใจ คนงานหญิงกล่าวเสียงตื่นกับผู้เป็นเจ้านายของตน
“เถ้าแก่ ไป รีบไปแจ้งความ คนส่งน้ำส้ม และน้ำหมัก พวกเขาใช้พิษใส่ลงในถ้วยและของใช้หลายอย่าง ขะ ข้าแค่สูดดมก็สลบไป”
“ป้าซือ วันนี่ไม่มีคนมาส่งน้ำส้มหมัก เจ้าถูกหลอกแล้ว เช่นนี้ย่อมมีคนปลอมตัวเข้ามาในโรงเตี๊ยม และต้องการวางแผนชั่วร้ายเป็นแน่ โอ้ ท่านหมอหญิง ช่างรอบคอบจริงๆ”
เถ้าแก่พูดจบ เขาก็หันไปด้านหลัง เมื่อเห็นคนของตนจึงสั่งการโดยไว เพื่อให้ไปตามจับตัวผู้ร้าย