ตอนที่ 3 ตอนรับความเจ็บปวด

1638 Words
-ทะเล- "พี่หมอค่ะ นิชาขอไปเดินเล่นที่ชายหาดได้ไหมคะ" "อืม อย่าไปนานล่ะ" หมอวัฒนาบอกน้องสาว ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นตอนนี้มันก็ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้วณัฏฐณิชาใช้เวลาในการรักษาตัวสองเดือนเต็มๆและตอนนี้ร่างกายของน้องสาวเขาก็กลับมาแข็งแรงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนเรื่องอุบัติเหตุเขาเลือกบอกน้องสาวเพียงแค่บางส่วนและแน่นอนว่าเขาไม่ได้บอกว่าเธอขับรถชนผู้หญิงคนนั้นสุดเสียชีวิต "ค่ะ" ร่างเพรียวบางของณัฏฐณิชาเดินเล่นไปตาแนวชายหาดเรื่อยๆ ความสวยงามจากธรรมชาติทำให้ใบหน้าสวยคลี่ยิ้มออกมาอย่างสดใส ถึงตอนนี้เธอจะยังจำเรื่องราวทุกอย่างไม่ได้แต่เธอก็รู้ว่าตัวเองน่าจะชอบทะเลเพราะมันสงบและไม่วุ่นวาย พอเดินเล่นได้สักพักณัฏฐณิชาจะรีบกลับที่พักเพราะนี้มันก็เริ่มเย็นแล้ว ทุกย่างก้าวที่เธอก้าวเดินมันมีฝีเท้าใหญ่ของใครอีกคนกำลังมุ่งเข้ามาประชิดตัวเธอ พรึ่บ "อ๊ะ อื้มม" -เกาะฟีนิกซ์- เช้าวันต่อมา ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงกว้างเริ่มขยับตัวตื่นขึ้นมาเมื่อแสงแดดทอส่องเข้ามากระทบม่านตาหญิงสาวค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งสายตาพลางมองไปดูสิ่งรอบกายที่ไม่คุ้นเคยกับคำถามที่ผุดขึ้นในหัว ที่นี่ที่ไหน แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เธอจำได้ว่าเมื่อวานเธอเดินเล่นอยู่ที่ชายหาดและกำลังกลับไปหาพี่ชายที่บ้านพักแต่อยู่ๆสติเธอก็ดับวูบไปและก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย แต่พอเห็นเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อยู่เธอก็ต้องตกใจเพราะเสื้อที่เธอใส่อยู่คือเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่และแน่นอนว่ามันเป็นของผู้ชาย แล้วของใครกันล่ะที่เป็นเจ้าของ แกร็ก!! เสียงไขประตูจากด้านนอกก็ดังขึ้นใบหน้าสวยหันไปจับจ้องตรงบานประตูใหญ่ก่อนมันจะถูกผลักเปิดเข้ามาพร้อมปรากฏร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่ง "ไง" พอได้เห็นหน้าของเขาใกล้ๆ ดวงตากลมสวยถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะคนตรงหน้าของเธอคือฟีนิกซ์ เจมส์ อีเมอร์สัน ลูกชายคนเล็กของตระกูลอีเมอร์สัน เพราะอะไรเธอถึงรู้จักเขางั้นเหรอ เธอเคยเห็นเขาตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆและในทีวีด้วย แล้วเขาก็ยังถูกรับเลือกให้เป็นชายในฝันที่ผู้หญิงอยากจะแต่งงานด้วย แล้วทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่หรือว่าเขาเป็นคนจับตัวเธอมา "คุณต้องการอะไร จับฉันมาทำไม?" "ต้องการอะไรอย่างงั้นเหรอ หึ ต้องการให้เธอรับกรรมที่เธอก่อไงล่ะ ณัฏฐณิชา วรเกียรติ์สกุล ถึงกฎหมายจะทำอะไรเธอไม่ได้ แต่ฉันนี้แหละจะเป็นคนพิพากษาเธอเอง นังฆาตกร" คำพูดของชายหนุ่มมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดคับแค้นใจที่มีต่อหญิงสาวตรงหน้านี้ ส่วนคนที่โดนกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรถึงกับงุนงงและไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเธอนั้นโดนกล่าวหา "คุณพูดหมายความว่ายังไง ฆาตกรอะไร" ฟีนิกซ์ถึงกับยกยิ้มมุมปากอย่างเอือมระอาให้กับท่าทางหญิงสาวตรงหน้า ท่าทางใสสื่อไร้เดียงสาเหมือนไม่รู้อะไรของเธอเขากับมองว่านั้นมันคือการแสดง ก่อนจะเอ่ยยํ้าเตือนเธออีกครั้งด้วยนํ้าคำที่แข็งกร้าว "ก็เธอไง นังฆาตกร" มะ ไม่จริง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ฆาตกร ฆาตกรอะไร เธอไม่เคยฆ่าใครแล้วทำไมเขาต้องมากล่าวหาเธอด้วย ร่างบางสั่นระริกใบหน้างามเริ่มซีดลงมันมีอะไรที่เธอยังไม่รู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนั้นหรือเปล่า? แล้วมัจจุราชอย่างเขาก็ไม่ปล่อยให้เธอได้คิดนาน "มานี้" ฟินิกซ์กระชากร่างบางของณัฏฐณิชาลงจากเตียงอย่างแรงโดยไม่สนใจว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บตรงไหน เขาเสียเวลาต่อปากต่อคำกับฆาตกรอย่างเธอนานเกินไปแล้ว มันถึงเวลาที่นังผู้หญิงสารเลวคนนี้ต้องชดใช้ให้กับเมียและลูกของเขาได้แล้ว แต่ภาพสระว่ายนํ้าตรงหน้าก็ทำให้หญิงสาวเบิกตากว้างอีกครั้งความกลัวเริ่มเกาะกินหัวใจดวงน้อยทีละนิด ถึงเธอจะชอบทะเลแต่เธอก็ไม่เคยที่จะลงไปสัมผัสเพราะเธอว่ายนํ้าไม่เป็นและไม่คิดจะฝึกมัน เหตุการ์ณในวันวานมันทำให้เธอกลัวและไม่คิดที่จะลงนํ้าไม่ว่าจะในสระหรือในทะเล "มะ ไม่ ปะ ปล่อยฉันเถอะนะคะ" เธอพยายามแกะมือของเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล ตอนนี้ณัฏฐณิชารู้สึกกลัวมาก พรึบ!! ตุบ!! "กรี๊ดดดด!!" ร่างบางถูกผลักลงบนพื้นสระอย่างไม่ไยดี ความเจ็บปวดและความกลัวกัดกินเข้ามาในหัวใจ เมื่อร่างกายกระแทกลงกับพื้นทำให้ณัฏฐณิชาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บและตกใจกลัว อสูรร้ายอย่างฟีนิกซ์หาได้สนใจท่าทางเจ็บปวดเหล่านั้นของเธอ เขากลับมองว่ามันสมควรแล้วต่างหากที่เธอคนนี้ควรได้รับรู้รสชาติของความเจ็บปวดเสียบ้าง "อึก ปะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันไม่ใช่ฆาตกร อึก คุณเข้าใจผิด" สองมือเล็กยกขึ้นมาพนมไหว้ขอร้องอ้อนวอนซาตานร้ายตรงหน้าเพื่อหวังว่าเขาจะเห็นใจ หยาดนํ้าตาที่ไหลออกมาอาบเต็มสองแก้มนวลไม่ว่าใครที่พบเห็นมันคงดูน่าสงสารและน่าเวทนาผู้หญิงตัวเล็กอย่างเธอที่ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยถลอกแถมยังมีเลือดซึมออกมาที่ตอนนี้กำลังนั่งพนมมือไหว้ขอร้องอ้อนวอนขอร้องซาตานตรงหน้าให้เห็นใจ แต่ในสายตาฟินิกซ์เขากลับมองว่ามันช่างดูน่าสมเพช แล้วท่าทางที่เธอแสดงออกมาคงไม่พ่นแสดงละครหลอกล้อเพื่อเรียกร้องความสงสารจากเขาแต่ต้องเสียใจด้วยเพราะว่าเขาไม่มีทางหลงกลผู้หญิงคนนี้แน่นอน "ฉันเข้าใจผิดงั้นเหรอ ไม่หรอกณัฏฐณิชา เธอมันฆาตกร เธอมันนังฆาตกรได้ยินไหม เธอฆ่าเมียกับลูกฉัน" ฟีนิกซ์เริ่มคุมสติตัวเองไม่ได้เขาตะคอกเสียงใส่คนตรงหน้าด้วยความเกรี้ยวกราด จนป่านนี้แล้วผู้หญิงคนนี้ยังไม่ยอมรับอีก ในเมื่อเธอไม่ยอมรับก็อย่ามาว่าเขาใจร้ายกับเธอเกินไปแล้วกัน "เธอขับรถชนเมียฉัน" กดเสียงต่ำบอก "ไม่ใช่ ผู้หญิงคนนั้นเดินมาตัดหน้ารถฉันเองต่างหากและมันเป็นอุบัติเหตุ" ณัฏฐณิชาเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็รวบรวมแรงแล้วลุกขึ้นเผชิญหน้ากับฟินิกซ์พร้อมตอบโต้เขากลับด้วยคำพูดที่เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดออกไปแบบนั้น เพราะตอนนี้ณัฏฐณิชาก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้ และคำพูดของเธอก็ทำให้ฟินิกซ์หมดความอดทน เพี้ยะ!! ฝ่ามือหนาฟาดลงที่ซีกแก้มนวลทันทีหลังจากพูดจบ ณัฏฐณิชาค่อยๆหันหน้าที่โดนตบหันกลับมาเผชิญกับซาตานร้าย มุมปากเล็กมีเลือดไหลซึมออกมา เธอมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความเจ็บปวดและกลัวส่งผลให้กล้ามเนื้ออกข้างซ้ายของเธอมันค่อยๆบีบรัดตัวแน่นจนเธอเริ่มที่จะหายใจไม่ออก ณัฏฐณิชาตัวสั่นเทาด้วยความกลัวน้ำตาเอ่อคลอเริ่มไหลออกมาเธอมองเขาด้วยความหวาดกลัวและหวาดระแวง "มานี้" ฟีนิกซ์ไม่ได้สนใจสายตาคู่นั้นของณัฏฐณิชาเขามองข้ามมันด้วยความเย็นชา ฟินิกซ์จับกระชากณัฏฐณิชาให้นั่งลงไปติดกับราวบันใดสระแล้วนำเชือกที่อยู่ข้างขอบสระมามัดมือเธอเอาไว้ติดไว้ที่สระวายน้ำ "อึก ปะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ อึก ฉะ ฉัน กะ กลัวแล้ว นิกลัวแล้ว ฮือออๆ ๆ" ร่างบางที่ถูกผูกมัดให้นั่งติดกับบันไดสระว่ายนํ้าเอ่ยขอร้องอ้อนวอนเขาอีกครั้งหวังว่าเขาจะนึกสงสารและเห็นใจเธอแต่เปล่าเลยคำขอร้องของเธอมันช่างไร้ค่าไร้ความหมายสำหรับซาตานร้ายอย่างเขา ร่างบางเริ่มสั่นเทาด้วยความหนาวถึงระดับนํ้าที่เขามัดเธอไว้จะอยู่แค่บริเวณต้นขาแต่เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่มีเพียงเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาเท่านั้นแล้วบรรยากาศด้านนอกก็เย็นและครึ้มฝน "มันคือสิ่งที่เธอต้องรับมัน ณัฏฐณิชา" ว่าจบฟีนิกซ์ก็เดินกลับเข้าไปในบ้านโดยที่เขานั้นไม่สนใจเสียงเอ่ยเว่าวอนของหญิงสาวแม้แต่น้อยและก็ดูเหมือนฟ้าฝนจะเล่นตลกกับเธอ ซ่า!! ซ่า!! ซ่า!! พายุฝนกระหนํ่าตกลงมาอย่างรวดเร็ว ช่วงนี้มันอยู่ในช่วงหน้าฝนและที่เกาะนี้ฝนมักจะตกไม่เป็นเวลํ่าเวลา ทั้งลมทั้งฝนกระหนํ่าเทลงมาทำให้ร่างบางของสาวน้อยเปลือกปอนไปหมดทั่วร่าง ณัฏฐณิชาตัวสั่นระริกเหมือนลูกนกน้อยที่ต้องความอบอุ่นและที่หลบฝนจากปีกของผู้เป็นแม่ ซ่า!! ซ่า!! ซ่า!! ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงณัฏฐณิชาก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมแล้วฝนก็ไม่มีท่าที่ว่าจะหยุดตก ร่างบางของณัฏฐณิชาเริ่มหายใจโรยรินเหมือนจะขาดลมหายใจ มันไม่ได้สร้างความสงสารหรือเห็นใจจากคนตัวสูงที่ยืนมองเธออยู่เลยแม้แต่น้อย เพราะฟินิกซ์คิดเพียงแค่ว่ามันคือสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ต้องรับเขาคิดเพียงแค่นั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD