ตอนที่ 7

1031 Words
“อะไรนะนังกุล แกว่ายังไงนะ?!” แวววรรณหูไม่ดีขึ้นมาทันที หลังจากได้ยินคำพูดคำแรกของหลานสาวที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านหลังจากคุณหมอให้ออกจากโรงพยาบาล นรีกุลพยายามอย่างที่สุดที่จะซ่อนความลับเรื่องลูกของตัวเองเอาไว้ให้จากทุกคน แม้แต่แวววรรณก็ให้รู้ไม่ได้ “กุลแท้งแล้วค่ะป้าแวว” คราวนี้แวววรรณเบิกตากว้างด้วยความตกใจราวกับถูกผีหลอก “แก... แกแท้งเหรอ” “ใช่ค่ะป้าแวว” แวววรรณยืนอึ้งไปชั่วขณะ แต่พอสติกลับคืนมาฝ่ามือก็ฟาดลงบนหน้าของหลานสาวเต็มแรงจนใบหน้านวลของนรีกุลสะบัดไปตามแรงปะทะ นรีกุลเจ็บจนน้ำตาร่วง แต่ก็กัดฟันอดทนเอาไว้ “มึงทำบ้าอะไร มึงปล่อยให้ตัวเองแท้งได้ยัไงงอีกุล!” คำพูดของแวววรรณหยาบคายมากขึ้น คงเพราะโมโหมาก “กุลขอโทษจ้ะป้าแวว...” หล่อนก้มใบหน้าที่ขึ้นรอยแดงจากนิ้วมือของแวววรรณลงมองพื้น น้ำตารินไหลออกมา “คำขอโทษของมึงมันจะช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้ มึงก็รู้นี่ว่าเด็กในท้องของมึงคือบ่อเงินบ่อทองของกู อีกุล!” “กุลขอโทษ...” นรีกุลพร่ำพูดได้แค่คำว่าขอโทษเท่านั้น “อีหลานไม่รักดี... อีหลานโง่ แล้วทีนี้จะทำยังไง จะไปรีดไถ่เงินจากไอ้คุณหนึ่งได้ยังไงอีก มึงนี่นะ... ทำกูเป็นบ้าอีกแล้ว” แวววรรณเอานิ้วจิ้มศีรษะของนรีกุลแรงๆ อย่างโมโห จนศีรษะเล็กแหงนไปด้านหลังแทบล้มคว่ำ “กุล... จะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดจ้ะป้าแวว” ในที่สุดหล่อนก็ตัดสินใจพูดออกไป แวววรรณเท้าสะเอวจ้องหน้าหลานสาว ก่อนจะมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “มึงจะไปไหนรอด อย่างมึงจะไปทำงานอะไรได้ ออกไปจากที่นี่ก็พากันอดตายเท่านั้นแหละ” “แต่เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วนะป้าแวว กุลไม่มีลูกของคุณหนึ่งแล้ว...” “ก็นั่นแหละ กูกำลังคิดหาทางออกอยู่” “แต่กุลจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว กุลจะไปจากที่นี่ ส่วนป้าแววจะอยู่หรือจะไปก็ตามสบาย” “อีหลานบ้านี่ มึงพูดเหมือนกับว่าไอ้คุณหนึ่งมันจะให้กูอยู่ที่นี่อย่างนั้นแหละ มึงก็รู้นี่มันเกลียดพวกเรายังคงกิ้งกือไส้เดือน” “งั้นป้าแววก็ไปกับกุล” “กูไม่ไป! กูกำลังคิดหาทางออกอยู่” แวววรรณเดินกลับไปกลับมาในห้องพักเล็กแคบของหลานสาว เดินวนอยู่สักพักก็ดีดนิ้วเสียงดัง “คิดออกแล้ว” แวววรรณหันไปจ้องหน้าหลานสาว "มึงแท้งแล้ว แต่มึงก็ท้องใหม่ได้นี่นานังกุล” “ไม่นะป้าแวว ไม่...” นรีกุลส่ายหน้าพูดแย้งเสียงเด็ดขาด “แต่มึงต้องทำ ไม่อย่างนั้นมึงก็เลิกเรียกกูว่าป้าได้เลยอีกุล” ทุกครั้งหล่อนยอมเชื่อฟังแวววรรณทุกอย่าง แต่ครั้งนี้ หล่อนจะไม่มีทางทำลายชีวิตของปรมะอีกแล้ว “กุลยังรักและเคารพป้าแววเหมือนเดิมนะคะ แต่กุลทำอย่างที่ป้าแววต้องการไม่ได้ค่ะ” “แต่มึงต้องทำ ถ้ามึงไม่ทำ กูจะไปรีดไถ่ใครล่ะอีกุล” “ต่อให้ป้าแววฆ่ากุลให้ตาย กุลก็จะไม่มีวันทำร้ายคุณหนึ่งอีกแล้ว กุลจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด บางทีถ้ากุลเก็บของเสร็จ กุลคงไปพรุ่งนี้เลย” “ไม่ได้นะ นังกุล อย่าทิ้งข้าไปแบบนี้นะ ลืมไปแล้วหรือไงว่าใครเลี้ยงดูแกมา หลังจากพ่อกับแม่แกตายน่ะ” “กุลไม่ลืมบุญคุณของป้าแววหรอกค่ะ แต่กุลทำร้ายคุณหนึ่งไม่ได้” เมื่อหญิงสาวยังยืนยันคำเดิม ทำให้แวววรรณหงุดหงิดเหลือเกิน “ทำตัวเป็นคนดีแล้วมึงมีแดกหรือไง อีหลานไม่รักดี!” นรีกุลไม่ได้โต้ตอบแวววรรณออกไป หล่อนยืนร้องไห้เงียบๆ จนกระทั่งแวววรรณเดินหายออกไปจากห้องพัก จึงเดินไปทิ้งตัวบนเตียงเล็กของตนเอง หล่อนกวาดตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตามองไปรอบๆ ห้อง มองราวกับต้องการจดจำทุกอย่างรอบตัวเอาไว้เป็นความทรงจำ แม้ห้องนี้จะทั้งเล็กทั้งแคบ แต่ห้องนี้ก็ทำให้หล่อนปลอดภัยและนอนหลับอย่างมีความสุขในยามค่ำคืน พรุ่งนี้... หล่อนจะไปจากที่นี่ และหวังว่าทุกความขุ่นข้องใจของปรมะจะจบสิ้นลง หลังจากไม่มีหล่อนให้รกหูรกตาแล้ว หญิงสาวฝืนยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนั้นทั้งเศร้าทั้งเคล้าน้ำตา เช้าวันต่อมา หลังจากแวววรรณนอนคิดหาวิธีรีดไถ่เงินจากปรมะมาทั้งคืน หล่อนก็คิดออกมาได้หนึ่งวิธี “ไม่ได้เงินล้าน งั้นขอเงินแสนติดไม้ติดมือไปสักหน่อยก็แล้วกัน” แวววรรณรีบมาดักรอปรมะที่ตรงบันไดทางลงมาจากชั้นบนของตัวเองบ้าน ปรมะเห็นหน้าแวววรรณแล้วก็อยากจะจับเหวี่ยงออกไปนอกบ้านเสียให้รู้แล้วรู้รอด “หลีกไป” “คุณหนึ่ง... ฉันมีอะไรจะพูดด้วยค่ะ” “แต่ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับหญิงแก่หิวเงินอย่างเธอ ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันได้แล้ว” “พวกเรากำลังจะไปจากที่นี่กันอยู่แล้วล่ะค่ะ” คำพูดนี้ของแวววรรณทำให้ปรมะชะงักไป แววตาของเขาไหววูบเล็กน้อย จริงสิ... เมื่อวานตอนบ่าย คนขับรถไปรับนรีกุลกลับมาบ้านเรียบร้อย แต่เขากลับยังไม่ได้เห็นหน้าหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว คงจะรอเวลาให้เขาแวะไปเยี่ยมล่ะสิ ฝันไปเถอะ เขาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน “หมายความว่ายังไง” แวววรรณบีบน้ำตาให้ไหลออกมาอาบสองแก้ม ร้องไห้ฟูมฟายเรียกร้องความเวทนาจากปรมะอย่างสุดความสามารถ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD