กรณ์รู้สึกไม่ถูกชะตากับอันเดรสตั้งแต่พบหน้า ทว่าเมื่อจิณณ์แนะนำให้รู้จัก เขาก็จำเป็นต้องทำตามมารยาท
“นี่อันเดรส รุ่นน้องสมัยกูเรียนที่อังกฤษ” แน่นอนว่าเขาย่อมต้องแนะนำกรณ์ให้อันเดรสรู้จักเช่นเดียวกับที่แนะนำอันเดรสว่าเป็นใคร “อันเดรส นี่กรณ์ เพื่อนสนิทผมเอง”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” อันเดรสยื่นมือไปตรงหน้า เขายิ้มให้กรณ์อย่างเป็นมิตร ทว่าหากสังเกตสักนิดจะเห็นว่าแววตาอันเดรสมีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่
“เช่นกันครับ คุณพูดไทยชัดจนผมทึ่ง”
หนุ่มลูกครึ่งยิ้มเล็กน้อย “ผมเป็นลูกครึ่งไทยสเปน แถมยังมีน้าสะใภ้เป็นคนไทย เธอช่วยสอนภาษาไทยให้ผมตั้งแต่เด็กๆ น่ะครับ เลยพูดได้คล่อง”
ไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าทำไมไอ้บ้านี่ถึงพูดไทยชัด พูดไทยคล่อง เขาไม่มีอารมณ์มาสนใจเรื่องพรรค์นี้หรอก
“แล้วนี่คุณมาคนเดียวเหรออันเดรส หรือว่ามากับคนพิเศษ” อยากเห็นเหลือเกินว่าผู้หญิงคนไหนกันนะที่ทำให้เพลย์บอยหนุ่มที่สอยผู้หญิงกว่าครึ่งมหาวิทยาลัยยอมสยบได้
“มาคนเดียว ผมมาเซอร์ไพรส์เธอน่ะ ผมบอกเธอว่าจะเดินทางวันที่สามสิบเอ็ดเพื่อมาเคาท์ดาวน์ข้ามปีเป็นเพื่อนเธอ แต่แอบมาก่อนเพราะอยากทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้เธอ”
“อู้ว~ คุณเป็นผู้ชายที่โรแมนติกมากเลยอันเดรส มีข่าวดีเมื่อไหร่บอกผมด้วยนะ คนพิเศษของคุณเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก”
“ไม่หรอก เธอเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารมากต่างหากล่ะ” น้ำเสียงอันเดรสเข้มขึ้น “เธอพึ่งถูกสามีขอหย่าเพราะผู้ชายหลงชู้” เขาเลื่อนสายตาไปจ้องหน้ากรณ์ราวกับมัจจุราชที่กำลังมองดวงวิญญาณชั่ว “ทั้งที่มีภรรยาอยู่แล้วแท้ๆ แต่กลับมีผู้หญิงอีกคน ไม่สนใจว่าเมียตัวเองจะเสียใจแค่ไหน มีความสุขบนคราบน้ำตาของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเมีย ผู้ชายอย่างนี้สารเลวมาก ว่าไหมครับ.. คุณกรณ์”
นัยน์ตาสีน้ำหมึกไหววูบเมื่อถูกจี้ใจดำ กรณ์ดื่มวิสกี้ที่เหลือในแก้วก่อนเดินจากไปเงียบๆ โดยไม่เอ่ยคำลาผู้ใด ไม่สนใจว่าจะเป็นการเสียมารยาทหรือไม่ รู้เพียงแค่ว่าเขาอยู่ตรงนั้นต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
การศึกษาดีมีชาติตระกูลก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่เป็นเมียน้อยชาวบ้าน สาวสวยเซเลบชื่อเล่นสองพยางค์อักษรย่อ ต.น. แอบเล่นชู้กับหนุ่มไฮโซที่แต่งงานแล้ว ผู้หลงหนักมาก ได้ข่าวจากวงในว่าถึงขั้นไปขอหย่าเมียหลวงเพราะอยากอยู่กับบ้านเล็กแบบเปิดเผย
“เมียคุณใช่ไหมที่เอาเรื่องนี้ไปบอกนักข่าว รู้ไหมคะว่าคุณพ่อของติน่าไม่พอใจแค่ไหน” พ่อเธอเป็นนักการเมือง ชื่อเสียงของตนและคนในครอบครัวย่อมเป็นสิ่งที่ต้องรักษา การที่ลูกสาวคนเดียวมีข่าวเสียหาย แน่นอนว่าย่อมกระทบถึงผู้เป็นพ่อ
เรื่องรักสามเส้าชวนปวดหัวมีไม่กี่คนที่รู้ เขา ริสา ตติยา จิณณ์ เบื้องลึกเป็นมาเช่นไร มีแค่พวกเราสี่คนที่รู้ ไม่ใช่จิณณ์แน่ที่เอาเรื่องนี้ไปแพร่งพราย กระนั้นริสาก็ไม่มีเหตุผลเช่นเดียวกันที่จะเอาเรื่องในมุ้งไปสาวไส้ให้กากิน
“ไม่ใช่นิดหรอก นิดไม่ใช่คนอย่างนั้น” เขาร่วมเรียงเคียงหมอนกับเมียแต่งเกือบสองปี รู้ดีว่าริสานิสัยยังไง เธอไม่ใช่คนปากมาก ยิ่งเป็นเรื่องที่หญิงสาวรู้ว่าหากทำไปแล้วเขาเดือดร้อน เธอไม่มีทางทำ
ตติยาไม่พอใจมากเมื่อกรณ์ทำท่าปกป้องภรรยาเขา “คุณมั่นใจได้ยังไงกันคะว่าไม่ใช่เมียคุณที่เป็นคนทำ คุณอย่าลืมสิคะว่าคุณทำอะไรไว้กับนังนั่นบ้าง เมียคุณอาจจะแค้นเลยเอาเรื่องเราไปเล่าให้นักข่าวฟังเพื่อทำลายชื่อเสียงของคุณกับติน่า ผู้หญิงที่วันๆ อยู่แต่บ้าน ไร้สมองอย่างนั้น มันคงรู้จักแค่ความสะใจของตัวเองโดยที่ไม่คิดเลยว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนแค่ไหน”
ผู้บริหารเอ็มไพร์กรุปลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่ง ใบหน้า หล่อเหลาขึ้งเคียด นิ้วเรียวยาวราวแท่งเทียนชี้หน้าตติยาอย่างลืมตัวในการกระทำ “พูดถึงคนอื่นให้ดีๆ หน่อยติน่า กรุณาอย่าเรียกนิดว่านัง แล้วอีกอย่างนะนิดไม่ได้ไร้สมอง และนิดไม่มีวันทำเรื่องนี้แน่ อย่าพูดถึงนิดแบบนี้ให้ผมได้ยินอีก จำไว้!”
หัวหน้าแผนกการตลาดสาวสะดุ้งเฮือก “คุณกรณ์..” ดวงตาคู่สวยแดงแดงก่ำ ไม่นานหยาดน้ำใสก็ไหลรินไล้สองแก้ม
น้ำตาของตติยาทำใจกรณ์อ่อนยวบ เขาดึงร่างบอบบางมากอดแนบอกแล้วลูบศีรษะปลอบประโลมหญิงสาว “ผมขอโทษนะครับติน่า ผมไม่น่าขึ้นเสียงใส่คุณเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ติน่าไม่น่ารักกับคุณก่อนเอง” เธอทั้งพูดทั้งสะอื้นไห้ “ติน่าขอโทษนะคะที่พูดจาแบบนั้นออกไป ติน่าเครียดค่ะคุณกรณ์ ติน่าสงสารพ่อแม่ที่ต้องอับอายเพราะลูกสาวไม่รักดีคนนี้เป็นชู้กับผู้ชายมีเจ้าของ” หล่อนพาตัวเองออกจากอ้อมกอดกรณ์ มองหน้าเขา ตีหน้าเศร้าสุดฤทธิ์ “คุณบอกติน่าว่าคุยเรื่องหย่ากับคุณนิดเรียบร้อยแล้ว คุณนิดเธอตกลงยอมหย่าให้ แล้วเมื่อไหร่คุณกรณ์จะพาเธอไปหย่าเหรอคะ ที่ติน่าถามติน่าไม่ได้อยากเร่งอะไรคุณกรณ์หรอกนะคะ แต่เป็นเพราะติน่าจะได้ตอบคุณพ่อคุณแม่ได้เต็มปากว่าติน่าไม่ได้เป็นเมียน้อยใคร ติน่าเป็นห่วงความรู้สึกของพ่อกับแม่ คุณกรณ์เข้าใจติน่าใช่ไหมคะ”