เสียงแก้วร็อกบรรจุวิสกี้สีทองกระทบกันทำให้กรณ์ที่กำลังตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งโหยง
คนไม่สบอารมณ์หันมองเพื่อนสนิทที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ เจ้าของอาณาจักร EMPIRE Bar พ่นลมหายใจออกมาราวกับว่ากำลังแบกโลกทั้งใบเอาไว้ นับครั้งได้ที่ชายหนุ่มเป็นเช่นนี้
“เป็นไง ช่วงนี้ดูมีความสุขจังเลยนะ” นอกจากดาวประดับแล้วเวลานี้คงไม่มีอะไรทำให้เขารู้สึกดีได้เท่ากับการได้แดกดันเพื่อนสนิทอย่างไอ้คุณกรณ์ มีเพชรอยู่ในมือแท้ๆ แต่ดันเขวี้ยงทิ้งแล้วไปคว้า สตอบอแหลตัวแม่อย่างยายตติยามาคั่ว โง่จนไม่อยากเชื่อเลยว่าไอ้บ้านี่เป็นเพื่อนเขา “แล้วนี่ไม่ได้ควงติน่ามาด้วยเหรอ คนดีคนเก่งของมึงอ้ะ รักมากจนขอหย่าเมียเลยไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมมึงถึงได้มาซดเหล้าอยู่ที่บาร์คนเดียว เบื่อติน่าแล้ว? หรืออาการมันเป็นยังไงครับไอ้คุณไฮโซกรณ์”
ฟังแค่น้ำเสียงไม่ได้มองหน้ายังพอรู้เลยว่าไอ้จิณณ์กำลังจิกกัดเขา ไอ้บ้านี่ไม่ชอบตติยามาแต่ไหนแต่ไร มันไม่เคยเห็นด้วยเรื่องที่เขามีผู้หญิงอีกคน แต่เรื่องหัวใจห้ามกันได้ที่ไหน
“จิณณ์ มึงว่านิดจะเสียใจมากไหมที่กูขอหย่า” เขาไม่ได้สนใจตอบคำถามหรือพูดอะไรที่สอดคล้องกับประโยคก่อนหน้าที่จิณณ์พ่นออกมา
“ก่อนถามนี่ใช้สมองบ้างไหม มึงก็รู้ว่าน้องนิดรักมึงมากแค่ไหน” เพื่อนเขาเป็นโลกทั้งใบของริสา การที่เจ้าหล่อนถูกตีแสกหน้าด้วยคำว่าหย่ากันเถอะ คงไม่ต่างจากโลกถล่มดินทลายลงตรงหน้า ไม่รู้ว่าไอ้กรณ์ทำผู้หญิงดีๆ อย่างเมียมันลงได้ยังไง
“แต่กูไม่ได้รักนิด ไม่เคย..”
“ก่อนจะบอกว่าไม่เคยรัก มึงช่วยดูสภาพตัวเองตอนนี้หน่อยเถอะ”
ไม่ไหวจะเคลียร์ ถ้าหากว่ากรณ์ไม่ได้รักเมียมันสักนิดอย่างที่ปากพูด ป่านนี้คงเริงร่าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับยายตติยาไปแล้วแหละ ไม่มากระดกเหล้าเข้าปากถอนหายใจเฮือกๆ ที่บาร์คนเดียวอย่างนี้หรอก
“กูก็แค่รู้สึกผิด” ริสาเป็นคนดีมาก ไม่ใช่แค่กับเขาที่เป็นสามี แต่กับทุกคน ที่เขาเป็นอย่างนี้คงเพราะรู้สึกผิดกับเธอ ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่น.. กระมัง
พึ่งรู้ว่าเขามีเพื่อนที่โง่บัดซบจนไม่รู้แม้กระทั่งความรู้สึกตัวเองก็วันนี้ “เดี๋ยวมึงก็รู้ว่าน้องนิดหรือยายติน่ากันแน่ที่มึงรัก งานนี้มีคนน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ๆ กูว่า”
“ไม่ใช่กูล่ะหนึ่ง กูรักติน่า แต่ที่กูเป็นอย่างนี้เพราะรู้สึกผิดกับนิด”
“เออ รู้สึกผิดก็รู้สึกผิด แต่กูว่ามึงไม่ต้องรู้สึกผิดให้มากนักหรอก น้องนิดน่ารักขนาดนั้น หย่ากับมึงเมื่อไหร่ ผู้ชายคงต่อคิวดามใจเพียบแหละ” เขาแอบหัวเราะเมื่อเห็นไอ้บ้ากรณ์ตวัดมองด้วยสายตาไม่พอใจ “อย่าทำตัวเป็นหมาหวงก้างหน่อยเลยน่า มึงยังมีคนใหม่ได้ แล้วทำไมน้องนิดจะมีบ้างไม่ได้ ทั้งสาว ทั้งสวย หาใหม่ได้สบาย ไม่แน่นะมึง น้องนิดอาจจะแกรนด์โอเพนนิ่งผู้ชายคนใหม่ก่อนที่มึงจะเปิดตัวยายติน่าก็ได้”
ในอกร้อนรุ่มขึ้นมาเพียงเพราะคำพูดบ้าๆ ของจิณณ์ เขาเทวิสกี้ในขวดใส่แก้วแล้วดื่ม แก้วแล้วแก้วเหล่า หวังว่าดีกรีร้อนแรงของมันจะช่วยดับอารมณ์กรุ่นในใจให้บางลง
ทว่า.. ไม่เลย ยิ่งดื่ม ยิ่งเมา เขากลับยิ่งนึกถึงริสา หากว่า เจ้าหล่อนมีคนใหม่จริงอย่างที่จิณณ์ว่า เขาจะทำใจได้ไหม
“เบาไอ้กรณ์ ดื่มแบบนี้เดี๋ยวก็ได้ตายห่ากันพอดี”
สภาพกรณ์คือไม่ไหว มันไม่ได้มีความสุขสักนิดที่จะได้หย่าเมียแล้วไปอยู่กับตติยา
“มึงคิดดีๆ ว่าอยากหย่ากับน้องนิดจริงไหม คิดให้ดี กูบอกได้แค่นี้ เพราะเมื่อไหร่ที่มึงหย่าก็หมายความว่าความเป็นผัวเมียระหว่างมึงกับเขาจบแล้ว น้องนิดข้างนอกเหมือนหัวอ่อน แต่กูบอกเลยว่าเมียมึงไม่ใช่ธรรมดา ผู้หญิงแบบนี้เวลารักก็รักตายห่า แต่ถ้าได้ตัด มึงก็ไม่ต่างจากหมาตัวหนึ่งในสายตาเขา”
คำพูดจิณณ์ไม่ต่างจากมีดที่กรีดแทงใจสามีของริสา ทว่ากลับชวนฟังนักสำหรับผู้ที่พึ่งเหยียบย่างเข้ามาใน EMPIRE Bar เป็นครั้งแรก
“อันเดรส คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” จิณณ์รู้สึกเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมากที่ได้พบกับเพื่อนรุ่นน้องนักเรียนนอกที่เคยรู้จักเมื่อหลายปีก่อนที่บาร์แห่งนี้ ที่ประเทศไทย “ดีใจที่ได้เจอคุณ แล้วนี่คุณมาเที่ยวหรือมาทำงาน”
“มาหาผู้หญิงที่พิเศษที่สุดในชีวิต” เขาพูดพลางปรายตามองกรณ์แล้วกระตุกยิ้ม
“Oh Your Honey?”
“No No เธอเป็นยิ่งกว่านั้น พิเศษยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหน” อันเดรสตาพราวเมื่อนึกถึงริสา
หากไม่ติดว่าเสียดายเหล้าที่ดื่มเข้าไป เขาคงอาเจียนออกมาให้หมดไส้หมดพุง คนบ้าอะไร เลี่ยนชะมัด คำพูดอย่างกับหลุดมาจากนิยายน้ำเน่า ฟังแล้วคลื่นไส้!