SPACE BAR 3

1637 Words
SPACE BAR 3 คืนแรกหลังจากที่รับงานมา ฉันเริ่มทำงานให้พี่กราฟทันทีจนทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นจนเวลาล่วงเลยมาจนถึงตีห้าที่เริ่มได้ยินเสียงนกร้องจิบ ๆ บวกกับเสียงของรอบข้างที่เริ่มมีชีวิตชีวาตื่นจากการหลับใหลในยามค่ำคืน ทำให้ตัดสินใจละมือจากงานมองอย่างพิจารณาก่อนจะกดบันทึกงานไว้กันความผิดพลาด ระหว่างที่เดินเข้าห้องน้ำเตรียมเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะนอนพักนั้นโทรศัพท์ที่วางอยู่ปลายเตียงก็มีเสียงเรียกเข้ามาเมื่อเดินเข้าไปดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของเกรฟที่พักหลังมานี้คล้ายกับจะได้ติดต่อกับเขามากขึ้นทั้งที่เมื่อก่อนทั้งฉันและเขาแทบจะไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ “ฮัลโหล...” (ลงมารับหน่อย อยู่หน้าคอนโด) “อะไรนะ? มาได้ยังไงนี่เพิ่งตีห้านะ” (มารับก่อนง่วงมาก ๆ เลย) “แต่...ก็ได้ รอก่อน” เพราะอะไรฉันเองก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงได้ยอมลงไปรับเขาที่รออยู่หน้าคอนโดแบบนี้ แต่เมื่อเจอหน้าอีกฝ่ายก็แอบสงสัยเมื่อเขายังอยู่ในชุดเดิมตอนที่มาส่งฉันเมื่อคืน “ขอนอนหน่อย ง่วงมากเลย” เกรฟรีบเอ่ยบอกติดจะอ้อนเมื่อเห็นฉันเดินเข้าไปใกล้ “แล้วมาได้ยังไง?” ฉันถามอย่างข้องใจ “ให้ผู้ช่วยมาส่ง แวะซื้อโจ๊กมาให้ด้วยนะ กินก่อนไหม?” “ไม่ เรากำลังจะนอน” ตอบเกรฟด้วยความรู้สึกที่แปลก ๆ แบบ ฉันกับเขาสนิทกันจนมาถึงขึ้นนี้แล้วเหรอ “งั้นก็ไปนอน” “โซฟา” “ได้ นอนโซฟา ขออาบน้ำด้วย” บอกเขาแค่นั้น เราทั้งสองถึงได้เดินกลับขึ้นห้องพักฉัน ครั้งแรกเลยที่มีคนอื่นขึ้นมาบนห้อง ปกติจะมีแค่แพรเท่านั้นที่มา คอนโดฉันไม่ได้กว้างมากเพียงแต่เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับโซนห้องครัวและโซนรับแขกและระเบียงห้อง ถัดเข้าไปถึงจะเป็นส่วนของห้องนอน ห้องน้ำที่อาบน้ำได้มีเพียงในห้องนอนส่วนด้านนอกเป็นห้องน้ำธรรมดา นั่นหมายความว่าถ้าเกรฟจะอาบน้ำต้องเข้าไปอาบโซนห้องนอน “เดี๋ยวหาเสื้อตัวใหญ่ ๆ ให้แล้วกัน นอนมุมนั้นก็ได้” ฉันบอกกับเกรฟ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อให้อีกฝ่ายส่วนกางเกงก็เป็นกางเกงนอนขายาวที่เคยซื้อผิดไซซ์มาหวังว่าจะใส่ได้นะ “ขอบคุณครับ ไปนอนพักเถอะเดี๋ยวเราอาบน้ำเสร็จจะนอนเลย” “อื้อ อย่าเสียงดังนะ” “ครับ” เกรฟเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่ฉันยื่นให้พร้อมชุด ฉันจึงเดินกลับเข้าไปที่เตียงนอนตัวเองปรับเครื่องปรับอากาศปิดม่านให้มืดสนิทจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเมื่อยล้า ถึงเวลาพักผ่อนแล้วมิ้ง “อือ” เสียงครางในคอดังขึ้นมาเมื่อฉันเริ่มขยับตัวตื่น แอบตกใจเมื่อเห็นท่อนแขนข้างหนึ่งโอบกอดผ่านเอวตัวเองแต่พอลองนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อหลายชั่วโมงก่อนก็นึกขึ้นได้ว่าตัวฉันเองนั้นอนุญาตให้ใครคนหนึ่งเข้ามานอนพักที่ห้องตัวเอง แต่ฉันให้นอนโซฟานะไม่ใช่ขึ้นมานอนบนเตียงกับฉันแบบนี้ “กี่โมงแล้ว” เจ้าของท่อนแขนเอ่ยถามเสียงงัวเงีย “บ่ายสอง” ฉันตอบพร้อมกับขยับลงมายืนที่ข้างเตียงนอน โดยที่คนตัวสูงยังคงนอนอยู่บนเตียง “ขอนอนอีกนิดนะ เดี๋ยวพาไปกินข้าว” เกรฟบอกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ฉันไม่ตอบแต่เลือกที่จะเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าเปลี่ยนชุด จังหวะที่เดินออกจากห้องน้ำเกรฟก็ขยับตัวนั่งบนเตียงนอนด้วยท่าทางมึนงง ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อเมื่อเห็นฉันเดินออกจากห้องน้ำ “เกรฟ ตื่นได้แล้ว” “อือ ตื่นแล้ว แต่เหนื่อย” “เหนื่อยก็ลุกจะได้ไปหาอะไรกิน” “ครับ ๆ ลุกแล้ว” ฉันออกมานั่งรอที่ห้องรับแขกในหัวเอาแต่ขบคิดว่าทำไมเมื่อเช้าถึงได้ยอมให้เขาตามเข้าห้องมาแบบนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราเองก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากนัก อะไรที่ทำให้ฉันเชื่อใจเขาจนยอมให้เขามาอยู่ในห้องแบบนี้กัน ยิ่งคิดยิ่งสงสัยในความคิดตัวเอง “ไปกินข้าวกัน” นานหลายสิบนาทีถึงได้มีเสียงเรียกเข้ม ๆ ของเกรฟดังจากด้านหลัง หันกลับไปมองก็เห็นว่าเขาอยู่ในชุดเดิมที่ใส่มาเมื่อเช้าไม่ใช่ชุดนอนที่ฉันส่งให้ “อยากกินอะไรไหม?” “ไม่มี” ระหว่างเดินออกจากห้องเกรฟยังขยันถามด้วยความใส่ใจ ส่วนฉันก็ตอบแล้วเงียบเป็นปกติ “งั้นไปร้านเราละกัน มีงานต้องสั่งด้วยวันนี้ไม่อยากเข้าร้าน” “ร้าน?” ร้านอะไรกันนะ เหมือนกับได้ยินเขาเคยพูดถึงอยู่แต่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจฟังมากนัก “ร้านเหล้าไงที่เพื่อนนัดกันไปดื่มตอนนั้นไง” “อ๋อ” ร้านดังเลย เพิ่งรู้ว่าเป็นของเขา “แต่ที่จริงไม่ใช่ร้านเราคนเดียวหรอกเป็นร้านที่หุ้นกับพี่ชายทั้งสองคนน่ะ รถอยู่ทางนี้ครับ” ข้อมือถูกจับและดึงให้เดินไปตามทางเดินจนถึงที่จอดรถสำหรับบุคคลภายนอก ระหว่างที่กำลังเดินทางไปยังร้านที่เกรฟพูดถึงเราต่างเงียบและไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากอย่างที่คิด เกรฟขับรถฉันก้มหน้าตอบข้อความเพื่อนที่มีงานต่างจังหวัด “ร้านเปิดแล้วเหรอ?” “ยังหรอก แต่ครัวน่ะเปิดแล้วตั้งแต่เที่ยงเขามาเตรียมของไว้ก่อนน่ะ เดี๋ยวขึ้นไปกินบนห้องทำงานแล้วกันข้างล่างพนักงานแล้วก็นักดนตรีคงจะซาวด์เช็กกันอยู่” เกรฟอธิบายให้ฟังอย่างใจเย็น กระทั่งถึงร้านที่ครั้งหนึ่งเลยมาแต่เมื่อได้เห็นสภาพร้านตอนกลางวันแบบนี้ร้านไม่ได้ดูน่ากลัวเลยนะไม่ได้โทรมด้วยมีรถมีพนักงานเดินเข้าออกอยู่เหมือนกัน เกรฟเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้ก่อนจะชวนฉันให้เดินเข้าไปในร้านพร้อมกับเขา “สวัสดีครับคุณเกรฟ” “สวัสดีค่ะนาย” “สวัสดีครับพี่เกรฟ” ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้านและมีพนักงานเจอทุกคนต่างทักทายเกรฟด้วยความนอบน้อมและเกรฟเองก็จะทักทายกลับไปอย่างเป็นกันเองเช่นเดียวกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกันสินะแบบนี้น่ะ “ครัวเปิดแล้วใช่ไหม?” “เปิดแล้วค่ะ คุณเกรฟจะรับอะไรดีคะ” พนักงานหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยถามพร้อมกับมองเกรฟด้วยรอยยิ้ม “ขอเมนูหน่อยครับเลือกไม่ถูกเหมือนกัน” “ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูนาเอาขึ้นไปให้บนห้อง” “ไม่ต้องครับ เอามาตรงนี้นี่แหละ” เกรฟบอกปฏิเสธทำให้อีกฝ่ายทำหน้าผิดหวังอย่างไม่คิดปิดบังกันเลยทีเดียว แต่เพราะเจ้านายต้องการแบบนี้ ลูกน้องคงไม่สามารถปฏิเสธได้เช่นเดียวกัน ไม่นานเมนูของร้านก็ถูกยื่นมาให้ เกรฟรับมาก่อนจะส่งต่อให้ฉัน “สั่งหน่อยครับ หิวแล้ว” “สั่งได้เลยเหรอ?” ทวนถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง “สั่งได้เลย” “งั้นไม่เกรงใจละนะ” “ครับ สั่งเลย” เกรฟยิ้มมุมปากหัวเราะเบา ๆ ส่วนฉันก็เริ่มสั่งกับข้าวตามเมนูที่อยากกินแต่ยังนึกได้ว่ายังไม่มีเมนูที่เกรฟอยากกินจึงหันกลับมามองและถามคนข้าง ๆ ว่าอยากกินอะไรไหม พออีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธฉันก็สั่งต่ออีกสองสามเมนู “ให้พนักงานเอาไปเสิร์ฟที่ห้องทำงานผมนะ มิ้งไปข้างบนเถอะพนักงานจะทำความสะอาด” “อ้อ ค่ะ” ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้มีโอกาสขึ้นมาบนห้องทำงานของเจ้าของร้านเหล้าแบบนี้ ห้องทำงานของเกรฟไม่ต่างจากโทนของร้านเท่าไหร่นักแต่แสงสว่างของห้องทำงานทำให้พอเข้าใจได้ว่าคงเป็นห้องที่ดูเกี่ยวกับเอกสารล่ะมั้งถึงได้ดูสว่างและเป็นทางการอยู่มาก ภายในห้องมีทั้งโต๊ะทำงาน ชุดโซฟาตัวแอลมุมห้อง ตู้เก็บเอกสารและประตูอีกหนึ่งบานที่ฉันเองก็ไม่กล้าเดาว่าเป็นห้องอะไรกันแน่ “นั่งรอก่อนนะเดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะพากลับ อยากไปไหนต่อไหน?” เกรฟเดินมาส่งที่โซฟาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปยังโต๊ะทำงานและดูเอกสารบนโต๊ะ “อยากไปร้านกาแฟ อยากซื้อเค้กกับกาแฟ” “ได้กินข้าวเสร็จจะพาแวะร้านอร่อย” “อื้อ ขอบคุณค่ะ” “นั่งรอก่อนเดี๋ยวกับข้าวคงมาเสิร์ฟ” “เรานอนได้ไหม?” “ได้ครับ” เกรฟบอกแบบนั้น ฉันเองก็ล้มตัวนอนบนโซฟาทันที ไม่มีความเกรงใจอะไรแล้วฉันในตอนนี้ รู้แค่ว่าง่วงอีกแล้วแค่นั้น ฉันล้มตัวนอนบนโซฟาตั้งใจไว้ว่าจะเล่นโทรศัพท์แต่ไม่คิดจริง ๆ ว่าเวลาไม่ถึงสิบนาทีฉันจผล็อยหลับไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ ทั้งที่ฉันเองก็เพิ่งจะตื่นก่อนออกจากห้องไม่กี่ชั่วโมงก่อน “หนาวไหมเนี่ย ไม่เคยซื้อผ้าห่มไว้เลยนี่สิ” “ห่มเสื้อไปก่อนนะเดี๋ยวเราจะหาซื้อผ้าห่มมาไว้ให้” “พักผ่อนนะครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD