SPACE BAR 5
เที่ยงตรงคนที่บอกว่าจะมาหาก็มาจริง ๆ เกรฟนั่งรอที่โซฟาโดยที่เจ้าของห้องอย่างฉันนั้นกำลังแต่งตัวในห้องนอนตัวเอง ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมออกจากห้องไปคุยงาน ทั้งที่ฉันสามารถเดินทางไปเองได้และบอกเกรฟแล้วแต่เขายังไม่ยอมฟังยืนยันจะมารับที่คอนโดพาไปกินข้าวก่อนแล้วจะพาไปคุยเรื่องงานที่สตูดิโอของพี่กราฟ
“เกรฟ”
“ว่า?” ขานรับสายตายังมองท้องถนนมือหมุนพวงมาลัยรถอย่างมีเสน่ห์
“อยากกินกาแฟ แวะร้านกาแฟให้หน่อย”
“ร้านเดิมไหม?”
“อื้อ ร้านเดิมก็ได้” ตอบอีกฝ่าย มือก็กดส่งข้อความตอบแพรที่ส่งเข้ามาถามทั่วไป ไม่ลืมแซวเรื่องที่วันนี้เกรฟคอยรับคอยส่งคอยพาไปกินข้าว
“ฝนมันตก เดี๋ยวลงไปซื้อให้ เอาอะไรดี?” เกรฟถามเมื่อจอดรถที่ลานจอดร้าน ก็ร้านแฟนพี่กราฟนั่นแหละ เพราะมื้อเที่ยงเราไปกินมาแล้วก่อนเข้ามาที่นี่
“เอาคาราเมลมัคคิอาโต้”
“ได้ครับ รอก่อนนะ” เกรฟเอ่ยบอกก่อนจะวิ่งลงจากรถไป แต่ฝนมันแค่โปรยปรายเองนะไม่ได้ตกแรง อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าฉันลงไปได้แต่เพราะอีกฝ่ายอาสาและไม่มีช่องว่างให้ได้ปฏิเสธเลยจำต้องปล่อยไปแบบนั้น
ระหว่างนั่งรอบนรถโทรศัพท์เกรฟที่วางอยู่ช่องระหว่างเบาะก็ส่งเสียงเรียกเข้ามาแต่เพราะนี่ไม่ใช่ของฉันจึงทำได้แค่ปล่อยให้โทรศัพท์ส่งเสียงอยู่แบบนั้น สายแรกถูกตัดไปไม่นานก็ส่งเสียงเรียกเข้ามาอีกครั้งโทรศัพท์เขามีสายเรียกเข้ามาเกือบสี่สายเกรฟถึงได้เดินกลับขึ้นมาบนรถพร้อมกับเครื่องดื่มสองแก้ว
“เมื่อกี้มีสายเข้านะแต่เราไม่กล้ารับสายให้”
“ทำไมไม่รับล่ะ รับได้ รับเลย” เกรฟสงสัยแต่ก็ไม่ได้สนใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่เขาจัดแจงกาแฟและขนมให้ฉันได้กินและดื่มรอระหว่างเดินทางไปสตูดิโอของพี่กราฟ
“พี่เกรย์โทรมาน่ะ ขอโทรหาพี่หน่อยนะครับ” คนที่นั่งหลังพวงมาลัยรถเอ่ยบอกและยังไม่ยอมเคลื่อนรถออกจากที่จอด ส่วนฉันก็ดื่มกาแฟไปเรื่อยระหว่างรอเกรฟคุยโทรศัพท์เสร็จ
“ครับพี่” แต่ใครจะคิดว่าเกรฟจะเปิดลำโพงแล้ววางไว้ที่ช่องว่างข้าง ๆ จากนั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนรถออกจากลานจอดรถ
(วันนี้เข้าร้านไหม?)
“ไม่เข้าครับ ทำไม” เกรฟถามพี่ชายเขากลับไปและยังคงมองถนนขับรถอย่างระมัดระวัง
(แล้วจะกลับบ้านไหม?) ปลายสายยังถามต่อ
“กลับครับ แต่อาจจะช้าหน่อยเดี๋ยวพามิ้งไปกินข้าวเย็นแล้วไปส่งก่อน”
(พี่ฝากซื้อขนมจีบได้ไหม ร้านนั้นอะร้านโปรดเรา) ปลายสายเอ่ยอ้อนเสียงนุ่ม เพิ่งรู้ว่าพี่น้องผู้ชายก็มีบางมุมที่เอ่ยอ้อนกันแบบนี้ด้วย น่ารักมากเลยล่ะ
“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวเย็นนี้พามิ้งไปกินร้านนั้น พี่สะใภ้เอาอะไรไหม?”
(เอาเสี่ยวหลงเปามาก็ได้)
“ได้ครับ ตอนเย็นไม่เกินหนึ่งทุ่ม”
(โอเค ขอบใจมาก เออใช่ เกรฟ หอพักเสร็จแล้วนะ จะเข้าไปตรวจไหม)
“พี่เข้าไปตรวจให้ได้ไหม ผมมีดูที่ดินพรุ่งนี้อะ”
(ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้สาย ๆ พี่เข้าไปตรวจให้เอง)
“ขอบคุณครับ”
(โอเค พี่ไม่กวนละ)
“งั้นเย็นนี้ไปกินอาหารจีนนะ” เกรฟหันมาบอกหลังจากพี่ชายเขาวางสายไปได้สักพัก
“ฮะ? ง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ?” ฉันถามเจือเสียงหัวเราะ เขายังไม่ชวนไม่บอกอะไรเลยจู่ ๆ ก็รวบรัดเสร็จสรรพ
“ก็อยากพาไปกินของอร่อยไงครับ ไปด้วยกันนะ”
“ก็ได้ ๆ”
“ขอบคุณครับ ปะ ไปหาพี่กราฟกันเถอะ” เกรฟรวบถุงขนมและช่วยถือแก้วเครื่องดื่มให้จากนั้นก็พาเดินเข้าไปภายในตัวอาคารสตูดิโอของพี่กราฟ ภายในนั้นเงียบกริบราวกับไม่มีคนอยู่ กระทั่งเกรฟหยุดเดินให้ฉันได้เดินนำหน้า เท้าทั้งสองค้างชะงักกึกเมื่อจู่ ๆ ก็มีพี่ ๆ ที่ทำงานที่นี่จุดพลุกระดาษพร้อมกับส่งเสียงร้องเย้อย่างดีใจ
“ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ค้า!”
“ยินดีต้อนรับนะมิ้ง”
“ขอบคุณค่ะ”
แม้จะยังตกใจอยู่แต่ก็ไม่ลืมเอ่ยขอบคุณพี่ ๆ ที่ต้อนรับแบบนี้ คงจะรู้แล้วสินะว่าฉันจะเข้ามาเซ็นสัญญาวันนี้ พี่กราฟยืนอยู่ด้านในสุดมองพนักงานตัวเองด้วยรอยยิ้มก่อนจะกวักมือเรียกให้ฉันเข้าไปคุยรายละเอียดในห้องทำงานของพี่เขาโดยมีเกรฟตามมาด้วย
“นั่งก่อนครับ” พี่กราฟเอ่ยเชิญ
“ขอบคุณค่ะ” ตอบกลับว่าที่เจ้านายพร้อมกับขยับเข้าใกล้เก้าอี้และนั่งลงอย่างระมัดระวัง
“กาแฟครับ” เกรฟที่ถือแก้วกาแฟให้นั้นขยับเข้ามายืนซ้อนหลังพร้อมกับวางแก้วเครื่องดื่มฉันลงบนโต๊ะ
“นี่สัญญาครับ...”
เราใช้เวลาคุยเรื่องสัญญาอยู่นานเกือบสี่สิบนาที รวมถึงถามข้อข้องใจเกี่ยวกับสัญญางานและการทำงานเมื่อตกลงกันเสร็จก็อ่านทวนสัญญาอีกรอบก่อนจะจรดปลายปากกาลงบนสัญญาจ้างงาน สัญญาหนึ่งฉบับอยู่ที่ฉันอีกหนึ่งฉบับอยู่ที่พี่กราฟ
“ยินดีต้อนรับครับ มาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ”
“ขอบคุณค่ะ ต่อไปขอรบกวนด้วยนะคะ” เอ่ยบอกคนตรงหน้าที่สถานะเปลี่ยนเป็นเจ้านาย
“เดี๋ยวพี่ให้คนพาไปดูโต๊ะทำงานนะ เตรียมไว้หมดแล้วล่ะ ต้องการอะไรเพิ่มเติมก็บอกได้เลย ส่วนงานเริ่มสัปดาห์หน้าได้ตามที่สะดวก”
“ขอบคุณค่ะ”
“ที่นี่เราเข้างานตอนสิบโมงเลิกหกโมงเย็น อย่างที่รู้คือสตูเรามีช่องคอนเทนต์บางทีอาจจะมีการถ่ายวีดีโอบ้างอาจจะมีติด ๆ เราไปพูดคุยกันปกติ ถ้าไม่สบายใจก็บอกได้เลยนะ”
“ค่ะพี่กราฟ” ฉันเตรียมใจในเรื่องนี้มาแล้วล่ะ
“โอเค ขอบคุณมากจริง ๆ ที่ตัดสินใจร่วมงานกับเรา เอาละ ขอแนะนำหุ้นส่วนอีกคน เกรฟ ถือหุ้นที่นี่สิบเปอร์เซ็นต์ เกรย์สิบเปอร์เซ็นต์”
“ส่วนเจมส์ วอน ธีม คนละห้าเปอร์เซ็นต์เหมือนกันครับ” พี่ ๆ สามคนที่เอ่ยถึงคือพี่ ๆ ที่อยู่ด้านนอกใช่ไหม? พี่ที่อารมณ์ดีหน่อยคุยสนุกและเป็นกันเองคนนั้น
“เอาไว้ค่อยมาทำความรู้จักกันเพิ่มนะ เย็นนี้เดี๋ยวเลี้ยงต้อนรับเราดีกว่า เกรฟจองโต๊ะให้หน่อย”
“แต่เย็นนี้ผมจะพามิ้งไปกินข้าว เอาไว้สัปดาห์หน้าค่อยพามิ้งไป” กลายเป็นเกรฟที่ปฏิเสธพี่ชายตัวเองเสียงดังฟังชัด
“อ้าว” คนถูกปฏิเสธมองน้องชายงง ๆ แต่ก็ยอมพยักหน้าในท้ายที่สุด
“ผมจะไปร้านอาหารจีน พี่เกย์ฝากซื้อขนมจีบกับเสี่ยวหลงเปา พี่จะเอาอะไรไหม?”
“เอาเหมือนเกรย์นั่นแหละ ลูกพี่ชอบ เอาละ พาน้องไปดูโต๊ะทำงานหน่อย”
“ครับ ไปกันมิ้ง ไปดูโต๊ะกัน” เกรฟชวนและเขาไม่รอฟังคำตอบเช่นเคย เอ่ยจบก็ขยับเข้ามาช่วยถือสัญญาและกระเป๋า ส่วนแก้วเครื่องดื่มที่ยังไม่หมดฉันถือด้วยตัวเอง ก่อนออกมาไม่ลืมเอ่ยขอบคุณพี่กราฟอีกครั้ง
“คุยกับกราฟเสร็จแล้วใช่ไหม?” เมื่อเดินออกมานอกห้องทำงานพี่กราฟก็เจอพี่ที่ชื่อวอนเอ่ยทักพร้อมกับรอยยิ้มอารมณ์ดี
“คุยแล้วค่ะ”
“มา ๆ พี่จะพาไปดูโต๊ะทำงาน” พี่วอนกวักมือเรียก เราเดินไปมุมด้านหนึ่ง ภายนอกบริเวณนี้เป็นส่วนต่างระดับ เมื่อเปิดประตูสตูดิโอเข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่นห้องรับรองแขก ถัดมาจะเป็นพื้นที่ต่างระดับที่มีโซนโต๊ะทำงานของพนักงานตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบ ส่วนสตูดิโอถ่ายงานจะเป็นห้องที่ถูกเชื่อมออกไปอีกโซน หลัก ๆ พนักงานจะตัดต่อและทำงานกันส่วนนี้นี่แหละ
“โต๊ะนี้พวกพี่เพิ่งไปซื้อมาให้ตอนรู้ว่าเราจะมาทำงานด้วยนี่แหละ ชุดคอมพิวเตอร์ก็ตั้งให้แล้วลองนั่งดูเปิดคอมดูได้เลยนะ อยากได้อะไรเพิ่มเติมก็บอกพวกพี่ได้เลย”
“ขอบคุณค่ะพี่วอน คือ หนูเพิ่งจะเคยทำงานร่วมกับทีมครั้งแรก ต่อไปขอคำแนะนำด้วยนะคะ” เอ่ยบอกพี่วอนรวมถึงพี่ ๆ คนอื่นที่อยู่รอบ ๆ อย่างเกรงใจ ไม่รู้ว่ากว่าฉันจะปรับตัวเข้ากับพี่ ๆ ได้ถึงตอนนั้นพี่ ๆ จะรู้สึกโอเคกับฉันหรือเปล่า
“ได้เลยไม่มีปัญหา มีอะไรคุยกันได้ เดี๋ยวพวกพี่จะดึงเข้าไลน์กลุ่มสตูดิโอนะ คุยเล่นคุยงานกันได้หมดเลยไม่ต้องซีเรียส”
“ขอบคุณค่ะพี่” ไม่ลืมบอกพี่วอนอีกครั้ง พี่วอนแนะนำสถานที่อีกเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้ฉันได้ลองนั่งเก้าอี้ เปิดดูคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ที่นับจากนี้ไปจะได้ใช้คอมเครื่องนี้ทำงานตัดต่อที่ตัวเองชอบ
“อยากดูอย่างอื่นเพิ่มไหมเดี๋ยวพาไปดูก่อนไปกินข้าวเย็น” เกรฟที่ลากเก้าอี้ตัวที่ว่างเข้ามานั่งไม่ไกลจากฉันเอ่ยถามพร้อมกับสอดส่องสายตาดูโต๊ะทำงานที่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรมากนัก
“อืม ตอนนี้ยังดีกว่า เราไม่ชอบให้โต๊ะทำงานมีอะไรเยอะน่ะ” ตอบเกรฟพร้อมกับลองกดเข้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ เวอร์ชันเดียวกับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในห้องฉันเลย อย่างอื่นก็โอเคเคยใช้มาบ้าง ดีที่ว่าโปรแกรมตัดต่อที่พี่ ๆ ลงไว้ให้เป็นตัวเดียวกับที่ฉันใช้ทำงานอยู่ก่อนหน้าแล้ว คงไม่ต่างกันมากนักหรอก
“มิ้ง ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มบอกพวกพี่เลยนะ”
“ค่ะพี่” ร้องบอกพี่อีกคนที่ตะโกนเรียกชื่อและคุยกับฉัน
ไล้ปลายนิ้วลงบนคีย์บอร์ดอย่างเบามือ สายตายังมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่มีต่อชุดอุปกรณ์ทำงานตรงหน้า
ต่อไป รบกวนด้วยนะ