“มึงจะช่วยน้องมันทำไมวะมึงก็ชอบแกล้งยัยนี่ไม่ใช่หรอ”
พี่ชายของดาวเป็นคนพูดและประโยคนี้ก็ทำให้คนที่จับมือฉันอยู่หันหลังกลับไป
“กุแกล้งได้คนเดียวคนอื่นห้ามยุ่ง”
เป็นสายตาที่ฉันไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ พี่เสือจูงมือฉันออกมาทันทีฉันก็ได้แต่เดินตามไม่กล้าถามอะไร แต่ทำไมนะหัวใจฉันถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ จะว่าอากาศร้อนก็ไม่น่าใช่หรือจะเป็นเพราะว่าฉันกลัวรุ่นพี่สองคนนั้นก็ไม่น่าจะใช่อีกเพราะอาการผิดปกติมันพึ่งเกิดขึ้นตอนที่พี่เสือจูงมือฉันออกมาเอง คนตัวสูงเดินจ้ำเอาๆโดยที่มือเราสองคนยังจับกันอยู่จนมาถึงข้างอาคารเรียนหลังหนึ่งพี่เสือถึงปล่อยให้มือฉันเป็นอิสระ
“โง่รึไงทำไมถึงปล่อยให้พวกมันแกล้งอยู่ได้”
อยู่ๆพี่เสือก็กลับมาทำหน้าดุใส่ฉันทั้งที่เมื่อกี้ยังดูใจดีกับฉันอยู่เลย
“แล้วจะให้ข้าวทำยังไงล่ะคะก็เพื่อนพี่เสือจ้องแต่จะหาเรื่องข้าวนิ”
ฉันก้มหน้าลงตอบ ขอบตาผ่าวร้อนเพราะเหมือนจะร้องไห้ ถูกรุ่นพี่สองคนนั้นรังแกยังไม่เท่าถูกพี่เสือคนเดียวเย็นชาใส่เลย
“พวกมันเข้ามาหาเรื่องเธอก็เพราะเธอแต่งตัวแบบนี้ไง”
พี่เสือลากสายตามาที่ชุดหลีดที่ฉันใส่อยู่มันสั้นและเปิดนั่นเปิดนี่ก็จริงแต่ที่ฉันใส่เพราะฉันชอบที่ไหนล่ะ
“ข้าวแต่งตัวแบบนี้แล้วมันทำไมคะ”
คราวนี้ฉันเงยหน้าขึ้นไปจ้องคนตัวสูงด้วยสายตาที่ตัดพ้อ ทั้งที่เพื่อนตัวเองต่างหากที่เป็นฝ่ายมาหาเรื่องฉันแต่ทำไมฉันถึงกลายเป็นคนผิดไปได้ล่ะ
“ยังจะถามอีกหรอว่าทำไม”
อยู่ๆพี่เสือก็ผลักฉันไปติดกำแพงก่อนจะเข้ามายืนประกบแขนข้างนึงค้ำยันไว้เหนือศรีษะเฉียดหน้าฉันไปแค่นิดเดียวแต่ที่ทำให้ฉันเริ่มกลัวคือสายตาแปลกๆที่พี่เสือจ้องฉันอยู่ในตอนนี้ใบหน้าหล่อๆก็โน้มลงมาหาฉันทีละนิด
ตึก!
ตึก!
ตึก!
อยู่ๆหัวใจมันก็เต้นผิดจังหวะ นี่ฉันเป็นอะไรไปกันแน่
“ผู้ชายชอบมองอะไรขาวๆอะไรที่ล่อตาล่อใจเธอไม่รู้บ้างหรอ”
หน้าพี่เสืออยู่ห่างฉันไม่กี่คืบแถมยังไม่เลิกจ้องฉันสักที พี่เสือจะรู้บ้างไหมว่าหัวใจฉันเต้นแรงจนจะหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว
“วันนี้ข้าวสวยไหมคะ”
ฉันกลั้นใจถามออกไปเพราะเห็นนักเรียนผู้ชายเอาแต่มองฉันแล้วเพื่อนๆยังบอกว่าวันนี้ฉันสวยมากฉันเลยอยากรู้ว่าพี่เสือคิดแบบนั้นหรือเปล่า
“งั้นๆ”
“แค่งั้นๆเองหรอคะ”
ฉันงับใบหน้าลงรู้สึกเสียความมั่นใจยังไงไม่รู้ ตั้งแต่เช้าฉันก็ถูกใครต่อใครชมว่าสวยไม่ขาดปากไหนจะคนที่เข้ามาขอถ่ายรูปกับฉันแต่แปลกที่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิดต่างจากตอนที่รอฟังคำตอบจากพี่เสือลิบลับมันทั้งตื่นเต้นและแอบมีความหวังว่าพี่เสือจะชมฉันบ้างแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะสีหน้าของพี่เสือเมื่อกี้มันเย็นชาและดูใจร้ายสุดๆ
“ทำไมหรือเธอคิดว่าแค่เธอใส่เสื้อผ้าพวกนี้แต่งหน้านิดๆหน่อยๆแล้วฉันจะมองเด็กบ้านนอกอย่างเธอสวยขึ้นมา”
คำพูดที่มาพร้อมกับสายตาดูถูกมันทำให้ฉันเจ็บแปลบที่อกข้างซ้าย ตอนนี้พี่เสือมองฉันเหมือนตัวตลกตัวนึง ใช่….ฉันมันโง่เองแหละ โง่ที่คิดไปเองว่าพี่เสือยังเป็นห่วงฉันบ้าง
“แล้วเมื่อกี้พี่เสือไปช่วยข้าวทำไมคะถ้าพี่เสือ…..”
ฉันหยุดเอาไว้แค่นี้อยู่ๆปากมันก็ไม่กล้าพูดออกไป
“ฉันทำไม อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าที่ฉันทำแบบนั้นเพราะฉันเป็นห่วงเธอน่ะ”
พี่เขาแสยะยิ้มก่อนจะแค่นหัวเราะออกมา ใช่ ฉันคิดแบบนั้นจริงๆ
“แล้วไม่ใช่หรอคะ”
โง่อีกแล้วข้าว ทำไมฉันต้องถามในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ด้วยนะ
“ให้ฉันเป็นห่วงเธอรอชาติหน้าตอนบ่ายๆเถอะ” เป็นรอยยิ้มที่ทำให้หน้าฉันแตกเป็นเสี่ยงๆพอพูดจบพี่เสือก็เดินออกไปเลย
ตอนเย็น
เพราะวันนี้มีกิจกรรมทั้งวันแล้วพองานกีฬาสีเลิกฉันยังต้องอยู่ช่วยพวกรุ่นพี่เก็บของจนเสร็จตอนนี้มันเลยเย็นแล้ว แม่บอกว่าจะมารับฉันกลับบ้านเพราะฉันมีของเยอะแต่จนจะสองทุ่มแล้วแม่ก็ยังไม่มารับฉันสักทีคนอื่นๆก็ทะยอยกันกลับจนหมดเหลือแค่ฉันคนเดียว ฉันนั่งรอแม่จนเกือบจะทุ่มนึงนับเวลารวมๆก็ประมาณสองชั่วโมงฉันเลยตัดสินใจนั่งรถเมล์กลับมาเอง
กว่าฉันจะมาถึงบ้านก็ปาเข้าไปสองทุ่มกว่าแล้ว ฉันเดินหอบของพะรุงพะรังเข้ามาในบ้านแล้วก็เจอแม่กับคุณลุงนั่งอยู่
“ข้าว ทำไมกลับเอาป่านนี้แล้วพี่เสือล่ะ”
ทันทีที่แม่เห็นฉันแม่ก็รีบเข้ามาถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
“พี่เสือหรอคะพี่เขาน่าจะกลับก่อนหนูนิคะ”
ฉันตอบเสียงเนือยๆเพราะวันนี้ฉันเหนื่อยมากตื่นเช้าแถมยังไม่ได้พักเลย
“ได้ไงก็ลุงโทรไปบอกให้พี่เขาไปรับหนูแทนเพราะลุงมีงานด่วนเข้ามานี่พี่เขาไม่ได้ไปรับหนูข้าวหรอ”
คุณลุงหันมาถามฉัน
“เปล่านิคะ”
ฉันส่ายหน้า ถ้าที่คุณลุงพูดมาเป็นความจริงแปลว่าพี่เสือตั้งใจจะไม่ไปรับฉันสินะ พี่เขาคงสนุกที่ปล่อยให้ฉันนั่งรออยู่แบบนั้น
“เหลวไหลจริงๆลูกคนนี้เห็นทีผมจะต้องเอาจริงเอาจังแล้ว”
คุณลุงดูไม่พอใจพี่เสือมากในขณะที่แม่ฉันไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา
“งั้นข้าวขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
ฉันรู้สึกเหนื่อยเลยอยากรีบขึ้นไปอาบน้ำแต่ในตอนที่ฉันกำลังจะเดินขึ้นไปบนห้องพี่เสือก็กลับมาพอดี
“เสือทำไมไม่ไปรับน้องแกรู้ไหมว่าน้องนั่งรอเป็นชั่วโมงแล้วต้องกลับมาบ้านเองถ้าเกิดน้องเป็นอะไรไปจะทำยังไง”
พี่เสือกำลังจะเดินผ่านเราสามคนไปแต่ก็ถูกคนเป็นพ่อต่อว่าให้ซะก่อน สีหน้าของคุณลุงตอนนี้ดูจะโกรธมากทีเดียว
“แล้วยังไงครับ”
แต่แล้วใบหน้าที่ดูไม่สะทกสะท้านสักนิดมันก็ทำให้ฉันรู้สึกแย่ขึ้นมาแต่ฉันก็ไม่ได้แปลกใจเลยเพราะฉันรู้ดีกว่าใครว่าพี่เสือไม่ชอบขี้หน้าฉันและใจร้ายกับฉันขนาดไหน
“แล้วยังไงหรอนี่แกพูดคำนี้ออกมาได้ยังไงห่ะเสือ”
คุณลุงลุกขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวและทำท่าว่าจะเข้าไปต่อว่าให้พี่เสืออีกแต่ก็ถูกแม่ฉันห้ามเอาไว้ก่อน
“ใจเย็นๆค่ะอย่าดุลูกเลยนะคะไหนๆข้าวก็กลับมาถึงบ้านแล้ว”
แม่ฉันพูดด้วยความใจเย็นและพยายามจะให้คุณลุงใจเย็นไปด้วย
“ได้…ถ้าฉันไหว้วานอะไรแกไม่ได้งั้นเดือนนี้ทั้งเดือนแกก็ไม่ต้องเอาเงินจากฉัน”
คุณลุงพูดด้วยสีหน้าที่ฉุนเฉียวพอพูดจบก็เดินขึ้นไปบนบ้านทันทีโดยมีแม่ฉันรีบตามไป
“พี่เสือคะข้าวขอ…..”
“เธอมันตัวซวย”
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดคำว่าขอโทษจบด้วยซ้ำพี่เสือก็ว่าให้ฉัน สายตาของพี่เขาเหมือนมีความเจ็บปวดซ่อนอยู่ในนั้น พี่เขาคงจะเสียใจมากที่คุณลุงพูดแบบนั้นออกมา ถ้ามองในมุมของพี่เขาก็เหมือนกับว่าคุณลุงเห็นคนนอกอย่างฉันดีกว่าลูกในไส้ ฉันได้แต่มองแผ่นหลังของพี่เสือที่เดินออกไปจากบ้าน
หลังจากวันนั้นพี่เสือก็ไม่กลับมาบ้านอีกเลยจนตอนนี้ผ่านมาเกือบจะสองอาทิตย์แล้ว ที่โรงเรียนฉันก็ไม่ค่อยได้เจอแต่ถึงเจอก็แค่เดินผ่านอยู่ไกลๆอีกอย่างพี่เสือก็ห้ามไม่ให้ฉันบอกคนอื่นว่าเราสองคนอยู่บ้านหลังเดียวกันและรู้จักกันฉันเลยไม่กล้าเข้าไปทักหรือพูดอะไร แม่ฉันอยู่บ้านก็พยายามเกลี้ยกล่อมคุณลุงไม่ให้โกรธพี่เสือแต่คุณลุงก็ไม่ยอมใจอ่อนสักที ฉันว่าพี่เสือต้องได้นิสัยรั้นและไม่ยอมฟังใครมาจากคุณลุงแหงๆเพราะใจแข็งด้วยกันทั้งคู่
วันนี้เป็นวันเสาร์ฉันมาทำรายงานกับพวกเพื่อนๆที่สวนรถไฟแต่ขากลับระหว่างที่ฉันยืนรอรถเมล์อยู่ฉันก็เหลือบเห็นพี่เสือเดินไปกับกลุ่มเพื่อนของพี่เขา
ฉันแอบเดินตามพี่เสือไปในซอยหนึ่งแถวๆนั้น พวกพี่เขาเดินเข้าไปในซอยแคบๆที่รถไม่น่าจะวิ่งผ่านได้เดินไปจนกระทั่งสุดซอยก็เห็นบ้านหลังหนึ่งมีผู้ชายที่อายุน่าจะโตกว่าพวกพี่เสือเดินออกมารับเพราะผู้ชายคนนั้นไว้หนวดไว้เครา แล้วฉันก็ต้องแปลกใจกับภาพที่เห็นเพราะฉันเห็นพี่เสือยืนสูบบุหรี่มืออีกข้างถือแก้วเหล้าแต่ฉันจำได้ว่าคุณลุงเคยบอกว่าพี่เสือเป็นคนไม่สูบบุหรี่แล้วก็ไม่กินเหล้านิ ทำไมพี่เขาถึงทำตัวแบบนี้นะ
ฉันอยากรู้ว่าตลอดว่าที่พี่เสือไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านพี่เขาไปอยู่ที่ไหนกับใคร อยู่ยังไงกินยังไงในเมื่อคุณลุงไม่ได้ให้ค่าขนมสักบาทฉันเลยยังยืนรออยู่แบบนี้กะว่าตอนที่พี่เขากลับออกมาฉันจะเข้าไปคุยด้วยแต่จนผ่านไปเป็นชั่วโมงตอนนี้มันก็เริ่มมืดค่ำแต่ไม่มีทีท่าว่าพี่เสือจะออกมาจากบ้านหลังนั้น
เอาไงดีนะถ้าฉันจะโทรไปบอกคุณลุงฉันก็ไม่มีมือถือด้วยสิ ฉันพยายามใช้ความคิดว่าจะกลับไปบอกเรื่องนี้กับคุณลุงก่อนหรือว่าฉันควรจะรออีกหน่อย
“เธอมาทำอะไรที่นี่”
น้ำเสียงที่แสนจะคุ้นเคยทำให้ฉันค่อยๆหันหลังไปมอง ปรากฏว่าเป็นพี่เสือที่ยืนอยู่ข้างหลังฉัน
“อะเอ่อ…..”
ฉันได้แต่อ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะตอบไปว่ายังไง พอเห็นหน้าพี่เขาก็คิดคำพูดไม่ออก
“เธอแอบตามฉันมาหรอ”
เป็นน้ำเสียงที่ห้วนๆเหมือนเดิมแต่ฉันว่าพี่เสือดูผอมลงนิดหน่อย
“คือว่าข้าว….ข้าวเป็นห่วงพี่เสือค่ะ”
“ห่วงฉัน คนอย่างฉันต้องให้เธอมาเป็นห่วงด้วยหรอ”
พี่เขาแค่นหัวเราะก่อนจะมองฉันด้วยสายตาที่ดูถูก
“ถ้าข้าวไม่มีสิทธิ์ห่วงพี่เสืองั้นคุณลุงล่ะคะหลายวันมานี้คุณลุงกินข้าวน้อยมากคุณลุงต้องเป็นห่วงพี่เสืออยู่แน่ๆค่ะกลับบ้านเถอะนะคะ”
“อย่ามายุ่งเรื่องของฉันกลับไปซะแล้วอย่ามาที่นี่อีก”
คนตัวสูงจ้องฉันอย่างเอาเรื่องแต่มาถึงขนาดนี้แล้วฉันจะกลับไปมือเปล่าได้ยังไง
“ไม่ค่ะข้าวไม่กลับถ้าจะให้ข้าวกลับพี่เสือก็ต้องกลับไปด้วย”
ฉันสวนไปทันควัน ไม่รู้ว่าความกล้ามันมาจากไหนมากมายแต่ฉันรู้แค่ว่าฉันเป็นห่วงพี่เสือ
“ไม่กลับใช่ไหม ได้….งั้นมานี่เลย”
“โอ๊ยพี่เสือปล่อยข้าวนะคะข้าวเจ็บ”
ฉันร้องบอกเมื่อพี่เสือลากฉันออกมาจากตรงนั้นแถมกำข้อมือฉันไว้แน่นมาก