บทที่ 1 ทำอะไรสิ้นคิด…

2108 Words
บทที่ 1 ทำอะไรสิ้นคิด…          ภายในห้องกว้าง ขณะนี้แพรพิชากำลังนั่งหน้าซีดเผือดด้วยความคาดไม่ถึง ครั้นได้รับรู้ความจริงทั้งหมดจากปากของผู้ชายตรงหน้า เธอไม่นึกเลยว่าเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันจะมีสาเหตุต้นปลายมาจากน้องชาย    ที่เธอรักสุดหัวใจ เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูตลอดมา ทว่าสิ่งตอบกลับมามันทำให้หญิงสาวจุกจนพูดไม่ออก นี่หรือคือสิ่งที่น้องทำกับพี่ในไส้ พี่แท้ๆที่คลานตามกันมา! แต่กระนั้นหญิงสาวก็ยังนิ่งเงียบแล้วพยายามต่อลองกับเจ้าหนี้          “ฉันขอผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนได้ไหมคะ”เสียงหวานอ่อนลง        เมื่อรู้แล้วว่าผู้ชายที่บังคับเธอมาด้วยนั้นเป็นเจ้าหนี้ของน้องชาย               และไม่ธรรมดาเสียด้วย เมื่อเขาคือเจ้าของบ่อนคาสิโนชื่อดังในเครืออัลเดเกสต์และมีสถานที่หลักคืออยู่ลาสเวกัส ถึงไม่รู้จักมักจี่แต่เชื่อเถอะว่าผู้ชายคนนี้    ไม่ธรรมดา เพราะจากการสังเกตลูกน้องแต่ละคนล้วนเคารพเขาสุดๆ          และนับว่าโชคดีที่ในห้องมิได้แต่เพียงเขาและเธอ หากยังมีเลขา   หน้านิ่งอีกคนที่อยู่ด้วย แพรพิชาจึงรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาบ้าง จะอะไรเล่าก็สายตาเขาน่ะสิ! จ้องเธอราวปลดเปลื้องเสื้อผ้า บอกตรงๆ เลยว่าโคตร          ไร้มารยาทเป็นที่สุด          ถึงจะหน้าตาหล่อเหลาหยาดฟ้ามาดิน แต่แพรพิชาคนนี้ก็ไม่ให้อภัย!          “ถ้าเธอบิดพลิ้วขึ้นมา ฉันจะไปตามเอากับใคร เงินไม่ใช่จำนวนน้อยๆ” นอกจากจะเจ้าเล่ห์แล้วผู้ชายคนนี้แสนจะหน้าเลือด แต่ว่าไปมัน     ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าน้องชายเธอไม่ไปกู้เงินเขามาก่อน แล้วเงินที่ได้มาบอกเลยว่าดอกเบี้ยสูงลิบลิ่ว แต่ ณ ขณะเวลานั้นผีพนันมันเข้าสิง น้องชายผู้แสนดีของเธอคงมีสติพิจารณาไตร่ตรองหรอก!          “ฉันสัญญาว่าฉันจะใช้หนี้คุณจนครบทุกบาททุกสตางค์” หญิงสาวยืนยัน ทว่าเจ้าหนี้อย่างการ์โลเน่นะเหรอ เขาเหยียดมุมปากหยักยิ้มหยัน   แล้วขยับเรียวปากหยักพ่นเสียงเข้มออกมา          “สัญญาแค่ลมปาก ฉันไม่หลงเชื่อพวกเธออีกแล้วล่ะ พี่กับน้องมันจะไปต่างอะไรกัน”          “พี่ น้อง มันคนละคนกัน ฉันไม่โกหกคุณหรอกค่ะ” แพรพิชาเน้นย้ำชัดๆ ทว่าเจ้าพ่อหนุ่มกลับไม่สนใจ ทั้งยังยียวนและกวนประสาทสาวสวยตรงหน้าด้วยการใช้สายตาโลมเลียทั่วสรรพางค์กาย เน้นเฉพาะตรงอกอวบอิ่มที่ดูท่า ‘จะอึดอัด’ เมื่อมันเบียดเสียดกันจนดันร่มผ้าออกมา          เมื่อรู้ตัวมือเรียวบางทบเสื้อเข้าหากัน พร้อมกับกอดอกอำพรางไม่ให้เขามอง การ์โลเน่กระตุกยิ้มแล้วเอ่ยทางเลือกให้ลูกหนี้สาวคนสวย          “งั้นเหรอ... ถ้าอย่างนั้นฉันมีทางให้เธอเลือกสองทาง คือ หาเงินก้อนมาให้ฉันภายในวันมะรืน และสองทำงานกับฉันเป็นเวลาสามเดือนเพื่อปลดหนี้แปดแสนของเธอ”          หนี้ทั้งหมดแปดแสนแต่เงินต้นจริงๆ แค่ห้าหมื่น แล้วไงล่ะเมื่อน้องชายเธอไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ย พร้อมยังชิ่งหนี ทำให้เจ้าหนี้ที่เขาปล่อยเงินกู้นอกระบบคิดทบต้นทบดอกรวมเบ็ดเสร็จก็มากโข แล้วลำพังงานประจำที่เธอทำอยู่ล่ะก็ จะกี่ชาติกันเล่าถึงจะใช้หนี้เขาหมด          “ฉัน” ไม่ทันที่หญิงสาวจะหาข้อมาปฏิเสธ เสียงเข้มก็ไล่จี้เอาคำตอบ          “เลือกข้อไหน”          “ฉันขอพิจารณาก่อนได้ไหมคะ”          “ไม่ได้!” เจ้าพ่อหนุ่มตะคอกเสียงเข้ม พร้อมเป็นการบีบบังคับนัยๆ ว่าเธอต้องเลือก ทำให้แพรพิชาเลี่ยงไม่ได้            “ฉันเลือกข้อแรก วันมะรืนคุณเตรียมรับเงินได้เลย” การ์โลเน่นึกไม่ถึงว่าแม่คุณจะบ้าบิ่นขนาดนี้! เลือกข้อแรก หึ!          แต่ก็ลองดู๊! หาเงินแสนภายในสองวันแม่คุณคิดจะหาวิธีไหนกันเชียว…          “ตกลง แต่ถ้าเธอทำไม่ได้เธอต้องทำงานกับฉันเพื่อปลดหนี้” การ์โลเน่คาดการณ์แล้วว่าถึงจะอย่างไรแม่คุณก็หนีเขาไม่พ้น แต่เอาเถอะ! ให้อวดเก่งไปเสียก่อน “ตกลงค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวนะคะ” “เชิญ!” สิ้นเสียงเจ้าของห้อง ร่างเล็กก็ลุกขึ้นยืนแล้วสืบเท้าเดินออกไป และถึงแม้นภายนอกจะมองดูว่าเจ้าพ่อหนุ่มนั้นไม่ใคร่สนใจสาวเจ้าเท่าไรนัก แต่ทว่าภายในนั้นแทบจะเป็นเดือดเป็นร้อน ผู้หญิงบ้าอะไรตัวเล็ก  นิดเดียว แต่อวดเก่งชะมัด ก็ดีเหมือนกัน เขาจะคอยดูว่าเธอจะทำอย่างไร     จะอวดเก่งไปได้สักกี่น้ำ หลังจากที่แพรพิชาออกไปแล้ว การ์โลเน่จึงเรียกเลขาส่วนตัว       เข้ามาพบ พร้อมสั่งคนตามประกบเธอมิให้คลาดสายตา ครั้นกลับมาถึงบ้าน แพรพิชารู้สึกหวาดผวาขึ้นมาอีกครั้ง           เมื่อเหตุการณ์ตอนหัวค่ำยังจำติดตา ทว่าหญิงสาวก็พยายามทำใจ            กว่าจะข่มตานอนหลับได้นั้นปาไปค่อนคืน แต่อีกคนนั้นสิ! รู้สึกกระวนกระวายใจจนนอนไม่หลับ ภาพเด็กสาววัยแรกรุ่นโผล่เข้ามารบกวนจิตใจอยู่ร่ำไป ตลอดเวลาสองวันแพรพิชาไม่เป็นอันทำงาน เพราะหญิงสาวเอาแต่นั่งเหม่อ บางครั้งก็เผลอพูดกับตนเอง จนทำให้เพื่อนอย่างมุกรินทร์ที่ทำงาน       ในออฟฟิศเดียวกันอดเป็นห่วงมิได้    “เอาไงดีนะ” คนปลงไม่ตกเผลอเอ่ยออกมา แม้นจะพูดเบาๆ แต่มุกรินทร์ที่นั่งทำงานใกล้ๆ ดันได้ยิน ดังนั้นเธอ  จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “เธอว่าไงนะแพร” “เปล่าจ้ะมุก ไม่มีอะไร” “แพรมีอะไรบอกมุกได้นะจ๊ะ มุกยินดีช่วยแพรเสมอ” ทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันและค่อนข้างจะสนิท เพราะมุกรินทร์ก็เรียนจบ       ในสถาบันเดียวกับแพรพิชา “ขอบใจจ้า แต่ว่าปัญหาของแพร แพรแก้เองดีกว่าไม่ลำบากมุก  หรอกจ้ะ” “ตามใจแพรละกัน แต่ถ้ามีอะไรให้มุกช่วย แพรก็บอกได้นะจ๊ะ”      มุกรินทร์ย้ำกับเพื่อน ซึ่งแพรพิชาเห็นไมตรีที่เพื่อนส่งมาให้แล้วถึงกับส่งยิ้มหวานพร้อมขานรับเบาๆ “จ้า” หลังเลิกโอทีตอนทุ่มครึ่ง แพรพิชาเร่งรีบรุดออกจากออฟฟิศ ตรงไปยังแหล่งหารายได้ชั้นดี จากที่เมื่อวานเธอได้ลองไปสำรวจตลาดดูแล้วว่า       แต่ละร้านเป็นอย่างไร ดังนั้นวันนี้เธอจึงตัดสินใจไปลองดู ร้านนี้ล่ะ ใช่เลย... หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พร้อมกับคำนวณรายได้ในคืนที่จะมาถึง อย่างน้อยก็ครึ่งแสนล่ะวะคืนนี้! ถ้าเอาไปสมทบกับเงินในบัญชีที่มีคงได้ถึงแสน อย่างน้อยๆ เราก็ไม่ต้องไปทำงานกับเขา “สนใจไหมคะคุณน้อง พี่เห็นเรายืนมองหน้าร้านนานแล้วนะคะ” เสียงหวานของเจ๊ผู้จัดการเดินนวยนาดออกมาสนทนา พร้อมกวาดต้อนสายตามองสรีระเด็กสาวคราวลูก ภายในใจประเมินแล้วว่า ถ้าเด็กคนนี้สนใจ รับรองคืนนี้เธอได้หลายบาท เพราะหน้าตาใสๆซื่อๆแบบนี้ล่ะ ลูกค้าโคตรชอบ      ทุ่มทุนสร้างเสียยิ่งกว่าอะไร “ค่ะ หนูสนใจ” ได้ยินคำตอบเช่นนั้นเจ๊ผู้จัดการรีบตกปาก          ชวนหญิงสาวเข้ามาข้างในร้านอย่างแสนพอใจ “ตามพี่มาข้างในเลยจ้ะ” แพรพิชาเดินตามหลังเจ๊ผู้จัดการร้านอย่างว่าง่าย ทั้งสองพูดคุย     ทำความรู้จักและทำข้อตกลงกันเล็กน้อย ซึ่งแพรพิชาเองก็พอใจกับส่วนแบ่ง     ที่จะได้ในค่ำคืนนี้ ผ่านไปไม่กี่อึดใจ ร่างเล็กในชุดเรียบร้อยเมื่อก่อนหน้ากลายเป็นแม่สาวน้อยยั่วสวาท สวมเสื้อกล้ามตัวเล็กจิ๋ว ซ้ำชายเสื้อยังลอยเหนือหน้าท้องแบนราบ ไหนจะกระโปรงที่สั้นเต่อ จวนรู้สึกเย็นวาบทั่วท่อนขาเรียวเสลา บอกเลยว่าเวลานี้เธอแทบจะไม่กล้าเดินไปไหน อายแสนอาย แต่ต้องทำ     หน้าด้าน เพื่อเงิน เพื่อเงิน และก็เพื่อเงิน! แต่ไม่ทันที่แพรพิชาจะก้าวเท้าเข้าไปข้างในตู้กระจกระดับวีไอพี      ป๋าขาประจำก็ตรงเข้ามาหา ซึ่งเจ๊เจ้าของร้านที่เดินนำหน้าเธอก็หันมาเอ่ย  เสียงหวานแหลมอย่างมีจริต “หนูแพร ป๋าคนนี้สนใจหนูจ้ะ” แพรพิชามองป๋าที่เจ๊เจ้าของร้านเอ่ยแล้วถึงกับใจห่อเหี่ยว ในใจพลันถามตนเองอย่างอดสูว่าคืนนี้เธอต้องตกเป็นเมียเสี่ยพุงพลุ้ยคนนี้หรอกเหรอ? ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง พร้อมกับชั่งความคิดว่าจะเอาอย่างไรดี แล้วยิ่งสายตาโลมเลียจากไอ้ป๋าหนีเมียมาเที่ยวนี่อีก หญิงสาวอยากขาดใจตาย   บัดเดี๋ยวนั้น… แต่แล้วเจ้าของใบหน้าสวยก็ตกลงกับตนเอง พร้อมขานรับคำ “ค่ะ” สิ้นเสียงแพรพิชาเดินนำร่างเย้ายวนออกไปหา และป๋าพุงพลุ้ยคนนั้นรีบตวัดท่อนแขนรั้งเอวบางเข้ามาเกี่ยวกอดอย่างหื่นกาม หญิงสาวพยายามเบียดตนเองออกแต่ก็ไม่ประสบผล และยิ่งเธอดิ้น มือหยาบกร้านก็กระชับเอวบางเข้าไปแนบชิดติดกัน เจ๊เจ้าของร้านยิ้มหวานให้ป๋า พร้อมตวัดสายตามาหาเป็นเชิงบอก  เด็กฝึกหัดอย่างแพรพิชาว่าดูแลเอาใจแขกดีๆ ล่ะ อย่าให้เสียลูกค้า ซึ่งหญิงสาวก็เพียงแย้มมุมปากรับรู้ “เราไปสนุกกันเถอะจ้ะ คนสวย” ไม่เพียงแค่ก้มกระซิบ หากแต่เฒ่าหื่นกามกลับฝังปลายจมูกไซ้ซอกคอขาวผ่อง แพรพิชาเบี่ยงหน้าหนีด้วยความขยะแขยง ซึ่งป๋าพุงพลุ้ยก็หัวเราะชอบใจ ‘พยศอย่างนี้ล่ะหนูเอ๊ย ป๋าชอบ’          จากนั้นแพรพิชาก็ต้องจำใจยินยอมเดินไปพร้อมกับลูกค้า ทว่าเดิน  ไม่ทันถึงสามก้าว เสียงเข้มห้วนของผู้มาเยือนใหม่กลับตวาดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ “ฉันต้องการผู้หญิงคนนั้น และคืนนี้ฉันทุ่มไม่อั้น” แพรพิชาหันขวับ  รู้ทันทีว่าเป็นเสียงของใคร และภายในใจกระโดดโลดเต้น จะสาเหตุอันใดนั้นเธอก็มิอาจล่วงรู้ได้ “คุณ” เรียกเจ้าของร่างสูงด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง ผนวกกับเจ๊เจ้าของร้านพยายามเจรจากับเจ้าพ่อหนุ่ม หากแต่การ์โลเน่ผู้ยิ่งใหญ่กลับไม่สน คนอย่างเขาตั้งแต่เกิดมา มิเคยมีผู้ใดกล้าขัดใจ อยากได้อะไร ต้องได้! “เจ๊ว่าสาวๆ ในร้านเรามีแต่คนสวยๆ จะเอาสองคนสามคนเลือกได้ตามสบายนะคะ” พยายามพูดเอาใจ ทว่าเจ้าของใบหน้าทะมึนบัดนี้มิได้แยแส “ฉันต้องการผู้หญิงคนนั้นเพียงคนเดียว” น้ำเสียงเด็ดขาดของเจ้าพ่อหนุ่ม ทำเอาเจ๊เจ้าของร้านขยาดกลัว แต่พยายามใจดีสู้เสือ “น้องเขามีแขกต้องดูแลแล้วนะคะ เชิญคุณเลือกสาวๆ สวยๆ ที่ยังว่างได้เลยค่ะ” “ฉันไม่ต้องการ ยกเว้นผู้หญิงคนนี้...เท่าไรก็ว่ามา” ชี้ไปทางแพรพิชา ซึ่งป๋าพุงพลุ้ยก็เริ่มไม่พอใจ เมื่อตนจะโดนแย่งของชิ้นปลามัน “อ้าวหนุ่ม พูดแบบนี้ก็อยากมีเรื่องน่ะสิ” ป๋ากวินทร์ไม่รู้แล้วว่ากำลังเล่นกับใคร หัวจะหลุดจากบ่ายังไม่รู้ตัวเสียอีก ขณะเดียวกันก็เดินเข้ามาหาเด็กหนุ่มคราวลูก แต่มิทันจะถึงตัวเหล่าการ์ดที่ตามติด พากันกรูเข้ามาปกป้องเจ้านาย พร้อมชี้ปลายมัจจุราชร้ายข่มขู่ ป๋ากวินทร์หยุดเท้าเตรียมล่าถอย ส่วนเจ้าของร้านร้องวี้ดว้าย        การ์โลเน่เห็นแล้วไม่พิสมัยเท่าไรนัก จากนั้นเจ้าพ่อหนุ่มหันมาตวัดสายตาคม ใส่หญิงสาวที่ตอนนี้หน้าซีดเผือด และเป็นการบอกความกันผ่านสายตาว่า         ‘ฉันจัดการเธอแน่คืนนี้ ผู้หญิงสิ้นคิด!’ แพรพิชาเห็นแล้วหลบสายตาโดยเร็วพลัน          ก่อนที่ร่างทรงพลังจะผลุนผลันออกไป แต่ทว่าเจ้าตัวเขายังมิวาย   หันมาสั่งลูกน้องคนสนิท “โดเนสจัดการให้ด้วย ฉันไปรอที่รถ” พูดจบเท้าหนาภายใต้รองเท้าหนังแบรนด์ดังเดินออกไป ส่วนคนรู้หน้าที่รีบน้อมรับคำสั่ง จากนั้นหันไปเจรจากับเจ๊เจ้าของร้าน แทบไม่อยากเชื่อว่าสามนาทีถัดมา ทุกอย่างเสร็จสรรพ แพรพิชาเดินออกมาพร้อมกับโดเนส ส่วนป๋ากวินทร์นั้นเป็นหน้าที่ของเจ๊เจ้าของร้านที่ต้องเคลียร์เอาเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD