ความคิดถึง

1448 Words
แต่เมื่อเห็นหน้าเขาผ่านจอสมาร์ทโฟนนั่นแล้ว มันชัดเจนกว่าตัวเป็นๆ เพราะการจับจ้องนั้นมันได้โฟกัสมาที่ใบหน้าของเขาและเธอเข็มทิศเองที่ใช้โน้ตบุ๊กบนโต๊ะทำงาน เมื่อใบหน้าของหญิงสาวที่เฝ้ารอโชว์ที่หน้าจอเขากลับตั้งใจมองอย่างไม่กระพริบตา จนมินตราแอบเบือนหน้าหนีมองออกไปนอกจอ เพราะกลัวใจจะละลายกับสายตาของชายหนุ่มที่ตั้งใจจ้องมองมาที่เธอ “กำลังทำอะไรอยู่ไม่ต้องบอกก็รู้กำลังคิดถึงผมอยู่ใช่ไหมล่ะ” เข็มทิศพูดออกมาพร้อมกับสายตาที่กรุ้มกริ่ม “อย่าหลงตัวเองให้มากอยู่นานๆ เลยนะนายไม่ต้องรีบกลับ หรือจะตั้งหลักปักฐานอยู่โน่นเลยยิ่งดี” หญิงสาวแกล้งพูดออกไป ทั้งที่คำพูดของเขานั้นเป็นจริงทุกประการ เธอกำลังคิดถึงเขาอยู่เพียงแค่มินตราไม่อยากแสดงออกไป เพราะเธอรู้ตัวเองว่าไม่คู่ควรกับเขา จึงกั๊กคำพูดและความรู้สึกนั้นเอาไว้ “ปากดีแบบนี้แหละที่ผมชอบ อยากชิมอีกจังปากหวานๆ” คำพูดของเข็มทิศทำให้มินตรา มองค้อนเขาออกไป “ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ มีอะไรอีกไหมจะไปอาบน้ำ” มินตราพูดออกมาด้วยความเขินอาย “อาบไปด้วยคุยไปด้วยก็ได้ผมไม่ถือ” ชายหนุ่มยังคงพูดออกมาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ “นายนี่มันโรคจิตลามกไม่มีใครเกินจริงๆ เลย” หญิงสาวเอ็ดเขาออกไปเบาๆ ในขณะที่ใบหน้าของเธอเริ่มแดงเป็นลูกตำลึง เพราะความเขิน “ไม่ต้องห่วงผมเป็นแบบนี้กับคุณคนเดียวคิดถึงจังอยากกอดแล้ว” เขาพูดพร้อมทั้งทำเสียงออดอ้อนอย่างน่าหมั่นไส้ แต่เมื่อเข็มทิศเป็นคนทำแล้วมันก็น่ารักสำหรับเธอ “เชื่อนายหมาก็ออกลูกเป็นแมวแล้ว” “ดูพูดเข้าล็อกประตูหน้าต่างเรียบร้อยหรือยังครับ หืม...” ชายหนุ่มถามออกมาด้วยความห่วงใย “อื้ม..ล็อกแล้วค่ะ” มินตราพูดออกมาอย่างอ้อนๆ “เข็มทิศอาบน้ำหรือยังเร็วๆ หน่อยกูหิวข้าว!” ไอลินพูดพร้อมกับเดินมาหาเข็มทิศ ซึ่งในเวลานี้เรือนกายของเธอมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบอกเอาไว้ “เชี้ยล่ะ! มึงทำบ้าอะไรเนี่ย!” เข็มทิศอุทานออกมาเสียงดัง เมื่อไอลินเดินเข้ามาใกล้เข็มทิศพร้อมกับปิดโน้ตบุ๊กลง โดยที่ไม่สนใจว่าเขากำลังคุยกับใครหรือทำอะไรอยู่. “กูอาบน้ำเสร็จแล้วและหิวมาก มึงรีบไปอาบน้ำเลยจะได้ลงไปกินข้าวกัน” ไอลินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “มึงทำบ้าอะไรเนี่ยไอลิน! รู้ไหมกูกำลังคุยกับคุณมินตราอยู่ ป่านนี้เธอคงเข้าใจกูผิดไปใหญ่แล้ว” เข็มทิศโวยวายออกมาเสียงดัง “อ้าว! กูก็คิดว่ามึงกำลังทำงานอยู่ ก็แค่อยากให้พักบ้างขอโทษนะเพื่อน” ไอลินพูดขึ้นอย่างลอยหน้าลอยตาทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเข็มทิศกำลังพูดอยู่กับมินตรา เธอตั้งใจต่างหาก ตั้งใจให้มินตราคิดไปไกลกับภาพที่เห็นระหว่างเข็มทิศกับเธอ.. “มึงรีบไปแต่งตัวเลยไหนว่าหิวนักหนา” เข็มทิศพูดอย่างหัวเสีย ในสิ่งที่ไอลินทำ ชายหนุ่มเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นอีกครั้ง เพื่อติดต่อกลับไปหามินตรา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ สิ่งที่เข็มทิศทำได้ก็คือนั่งกุมขมับ ก่อนที่จะหายใจเข้าลึกๆ ยาวๆ หลายครั้ง งานก็ยังไม่เสร็จ แม้ว่าเขาจะอยู่ห้องเดียวกับไอลินก็จริง แต่มันมีสองห้องนอนที่มารดาเขาเป็นคนจัดการให้ ซึ่งเข็มทิศไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้เลย มินตราปิดโทรศัพท์แล้วพยายามข่มตาให้หลับ ภาพที่เธอเห็นมันกลับวนเวียนเข้ามาอีกครั้งเขาอยู่ด้วยกันในห้องขนาดนั้นจะเกิดอะไรขึ้น เข็มทิศจะทำอะไรกับเพื่อนคนนั้นเหมือนที่ทำกับเธอไหม อ้อมกอดรอยจูบที่เขาทำไว้กับเธอนั้นมันยังจะเป็นของเธอคนเดียวหรือเปล่า.. มันอาจจะฟังดูเป็นคำถามโง่ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ถ้าใครตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเธอ ก็คงอดที่จะคิดไปไกลไม่ได้ กับภาพที่เห็นเต็มสองลูกตานั่น เช้าวันต่อมามินตราพยายามไม่หมกมุ่นเรื่องของเข็มทิศ เธอตั้งหน้าตั้งตาทำโน่นทำนี่ที่ร้าน เพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน จากนั้นไม่นานก็มีหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เธอไม่คุ้นเคยสักเท่าไรแต่ก็พอรู้จักคนหนึ่งน่าจะเป็นหญิงสาวที่ชื่อแอนเพื่อนในกลุ่มของเข็มทิศ.. “พี่เอาชามะนาวสองชาเขียวสามหวานน้อยนะคะชาเขียว” แอนพูดออกมาเมื่อนั่งลงที่เก้าอี้ “ได้ค่ะรอแป๊บหนึ่งนะคะ เดี๋ยวพี่จัดการให้” มินตรารับออเดอร์แล้วเดินมาทำตามที่ลูกค้าสั่ง สักพักทุกอย่างก็เรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟ “ได้แล้วค่ะทานให้อร่อยนะคะ อย่าลืมแวะมาอุดหนุนใหม่อีกนะคะ” เธอพูดพร้อมกับวางแก้วบนโต๊ะให้กับลูกค้าทีละแก้ว ระหว่างนั้นการสนทนาในกลุ่มของหนุ่มสาวก็เกิดขึ้น.. “เมื่อไหร่ไอลินจะกลับอ่ะ” ไอลินพูดขึ้น พร้อมกับชำเลืองมองไปที่มินตรา “นั่นสิแต่ละภาพที่มันส่งมาหวานซะขนาดนั้นกูนึกว่าไปซ้อมฮันนีมูน” เพื่อนในกลุ่มอีกคนพูดขึ้น “สู้ภาพนี้ไม่ได้มึงดูสิ นอนก็นอนห้องเดียวกันป่านนี้ไม่รู้ว่าไอลินเสร็จเพื่อนไปแล้วหรือยัง” อีกคนพูดเสริมขึ้น พร้อมกับเมาส์มอยออกมาอย่างเมามัน “แหม...นอนห้องเดียวกันขนาดนั้น อากาศบรรยากาศเป็นใจซะขนาดนั้น ไม่เหลือแน่กูว่ายันสว่าง” “พวกมึงก็พูดเกินไป สองคนอาจจะนอนกอดกันเฉยๆ ก็ได้” แอนแกล้งพูดออกมาเสียงดัง จนทำให้มินตรารู้สึกหวั่นไหวภายในใจ “กูว่าไม่เหลือหรอก ร้อยทั้งร้อยหญิงกับชายไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะโว้ย กูฟันธงได้กันแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์” คำพูดที่หนุ่มสาวกลุ่มนี้ตั้งใจให้มินตราได้ยินนั้นมันช่างได้ผลต่อจิตใจของเธอเหลือเกิน..ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร ตอนนี้เริ่มคิดเป็นทวีคูณ เมื่อภาพที่เธอเห็นเมื่อคืนมันก็ฟ้องอยู่แล้วเต็มสองตา เวลาล่วงเลยผ่านไปมินตราปิดร้านแต่ยังคงนั่งจับเจ่า ราวกับคนไร้ชีวิตชีวา เมื่อนึกถึงคำพูดคำจาของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้น เมื่อใกล้มืดมินตราจึงปิด และล็อกประตูร้านก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน เวลานี้ใจของเธอมันล่องลอยไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้ว หญิงสาวพยายามสลัดความคิดนั้นออกไป แต่มันก็วนกลับมาอีกครั้งเหมือนเดิม.. มินตรานั่งลงที่เตียงนอนอย่างช้าๆ เวลานี้ความคิดมันกำลังตีกันไปหมดเธอค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจยุติเรื่องนี้ให้ออกไปจากสมอง ในเมื่อทุกอย่างมันยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ หากเขาจะมีใครมันก็ไม่แปลก ในเมื่อเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงมือสองดังที่มารดาเขาเคยกล่าวเอาไว้.. ปึง!! เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้มินตราเกิดความสงสัย ใครกัน เธอยังไม่ได้ล็อกประตูบ้านด้านล่างพอเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังของห้องก็เกือบยี่สิบนาฬิกาแล้ว นี่เธอใจลอยขนาดนั้นเลยเหรอ แอ๊ดด!! เสียงประตูเปิดห้องดังขึ้น ในขณะที่มินตรากำลังจะลุกเดินไปดู แต่แล้วเธอต้องตกใจ กับคนที่เปิดประตูแล้วโผล่ร่างสูงใหญ่ย่างกรายเข้ามา.. “หึหึ!!..” เสียงคำรามจากในลำคอของชายที่มาเยือนช่างน่ากลัว “ต้องการอะไรออกไปนะ!” มินตราพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด เพื่อตวาดให้ชายตรงหน้าไปให้พ้น “อย่ากลัวไปเลยของมันเคยๆ กันอยู่ เดี๋ยวจะทบทวนความจำให้แบบลืมไม่ลงเลย!” เจตต์พูดพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้มินตรา ความกลัวทำให้เธอค่อยๆ ถอยกรูด เมื่อรู้ว่าเจตนาของชายตรงหน้าไม่ได้มาดีแน่ ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ ในเมื่อเลิกกันไปแล้ว ซึ่งเขาก็มีภรรยาใหม่ และกำลังจะมีลูกด้วยกัน ทำไมไม่ปล่อยให้ชีวิตเธอเป็นอิสระ ไม่เมื่อความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD