สถานะ

1510 Words
“เดี๋ยวก็ตกคอหักตายหรอก! หนักชะมัด” “สาบานว่าปากที่พูด” มินตราหยุดดิ้นเมื่อเขาวางเธอลงในห้องน้ำที่ระยะห่างจากเตียงนอนไม่กี่เมตร “รออยู่นี่เดี๋ยวเอาผ้าเช็ดตัวกับชุดมาให้นั่งลงเดี๋ยวจะเวียนหัวอีก” มินตราทำหน้าเอือมๆ อีกครั้งกับนิสัยของเขา ที่น่าจะได้มารดามาเต็มๆ ดื้อรั้นไม่มีใครเกิน สักพักเขาก็เข้ามาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวได้ชุดนอนของเธอ “เปิดฝักบัวอาบไม่ต้องนอนแช่อ่างนะเดี๋ยวไม่สบายเร็วๆ เข้าจะรอข้างนอก” “บอกแล้วไงกลับไปได้แล้วจะรอทำไม” มินตราพูดพร้อมกับมองค้อนไปที่ชายหนุ่ม “ จะรอจนกว่าคุณจะอาบน้ำเสร็จแล้วผมถึงจะกลับ เดี๋ยวล้มมาอีกไม่มีใครอยู่ด้วยจะทำยังไง” “ตามใจออกไปได้แล้วจะอาบน้ำ” “อาบให้ไหมครับ” เขาพูดพร้อมทั้งยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ก่อนจะส่งสายตาทะเล้นมาที่เธอ “อย่ามาทะลึ่งออกไปได้แล้ว” มินตราพูดพร้อมกับดันหลังของเขาให้ออกไปก่อนจะปิดประตูแล้วรีบลงกลอน มินตราอาบน้ำไม่นานนักสักพักเธอก็เดินออกมา และต้องแปลกใจกับผ้าปูหมอนข้างทุกอย่างที่ถูกเปลี่ยนออกเรียบร้อยแล้ว “ไม่ต้องทำหน้างงมันเหม็นอ้วก จะนอนไปได้ยังไงผมเปลี่ยนให้เรียบร้อยแล้วนั่งลงสิ” เขาจับมินตรานั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะแป้ง ก่อนจะเช็ดผมพร้อมกับเสียบไดร์เป่าให้เธอ มินตราไม่รู้ว่าจะขอบคุณหรือว่ากล่าวเขายังไงดีในสิ่งที่เขาทำให้เธอ โดยไม่เคยได้ร้องขอมันคือสิ่งดีๆ ที่เข็มทิศทำให้ด้วยความเต็มใจ “เข็มทิศฉันขอพูดกับนายตรงๆ เลยนะ ฉันอายุก็มากกว่านายหลายปี นายควรเลิกยุ่งกับฉัน เพื่อหาคนที่ดีเข้ามาในชีวิต อย่ามาจมปลักกับแม่หม้ายที่มีตำหนิอย่างฉันอีกเลย” มินตราพูดขึ้นมาเมื่อเข็มทิศไดร์ผมให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอไม่ใช่เด็กที่จะมาเก๊กและเก็บเขาเอาไว้ สิ่งที่แม่เขาพูดมันคือความจริงที่เธอจะต้องยอมรับให้ได้ แม้ภายในใจลึกจะรู้สึกดีที่มีเขาอยู่ข้างๆ ในยามที่อ้างว้างแบบนี้ “หยุดพูด เพราะถ้าไม่หยุดจะจับปล้ำทำเมียซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย” “ฉันกำลังพูดจริงจัง นายอย่ามาล้อเล่นได้ไหม” “คำพูดของผมมันไม่จริงจังตรงไหน หรือจะให้ผมทำอย่างที่พูดก่อนคุณถึงจะเชื่อ” เขาพูดพร้อมกับฉุดมินตราให้ลุกขึ้น จากนั้นเข็มทิศก็จับไหล่ของเธอทั้งสองข้าง หันหน้าเข้าหาทำให้มินตรากลัวว่าเขาจะทำอะไรบ้าๆ อย่างที่พูด “ฉันเชื่อว่านายจะทำจริง แต่วันนี้แม่ของนายมาหาฉันที่ร้าน แล้วบอกให้ฉันเลิกยุ่งกับนายซะ ฉะนั้นนายก็ควรจะเลิกยุ่งกับฉัน อย่าทำให้ฉันต้องลำบากใจไปมากกว่านี้อีกเลยนะเข็มทิศ” “แม่อีกแล้วเหรอ ไปนอนได้แล้วผมกลับบ้านไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้มีเรื่องคุยด้วยไปนอนสิเดี๋ยวล็อกบ้านให้” “เด็กบ้านี่... เผด็จการชะมัดสั่งโน่นสั่งนี่" มินตราบ่นเบาๆ ก่อนที่จะเดินขึ้นเตียงไปนอน ที่บ้านของเข็มทิศ เมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้านก็พบเพียงมารดาที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ส่วนบิดาคงขึ้นบ้านนอนไปแล้ว จากนั้นสายตาของหญิงสูงวัยได้มองมาที่เข็มทิศอย่างเอาเรื่อง “คิดว่าจะเข้าบ้านตัวเองไม่ถูกเสียอีก บ้านหลังนั้นมันมีอะไรดีทำไมแกถึงได้ไปทุกวี่ทุกวัน สิ่งที่ดีๆ ผู้หญิงดีๆ ที่ฉันหามาให้แกทำไมแกถึงไม่เห็นค่าหรือแกจะไปคว้าตะกั่วแบบนั้นมาทำเมีย” “แม่รู้ไหมความรักมันไม่ใช่กระเป๋าที่โรงงานของแม่ ที่จะออกแบบคอลเลกชันแบบไหนก็ได้ แม่เลิกยุ่งกับผมเสียที ผมทำให้แม่ได้ทุกอย่างขอแค่ความรัก ผมขอเลือกและออกแบบมันเองจะได้ไหมครับแม่" คำพูดของเข็มทิศยังคงทำให้ผู้เป็นมารดารู้สึกขัดใจอยู่มาก เพราะนางวาดฝันถึงอนาคตของลูกสะใภ้อย่างไอลิน สาวสวยสดใสเก่งและฉลาดเหมาะสมกับเข็มทิศเป็นอย่างมาก ส่วนฐานะนางไม่เกี่ยงเพราะที่บ้านรวยอยู่แล้ว “ฉันมีข้อเสนอให้แกไปเรียนต่อโทที่ต่างประเทศให้จบ ก่อนจะมาสานฝันความรักบ้าบออะไรนั่น อีกเรื่องพรุ่งนี้ต้องบินไปดูงานที่ฮ่องกง เตรียมตัวให้พร้อมด้วยแกไม่ใช่เด็กแล้วนะเรื่องงานต้องมาก่อน” เข็มทิศไม่พูดอะไร เขาเดินตรงขึ้นไปยังห้องพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปที่ฮ่องกง แต่นั่นเขาไม่หนักใจเท่ากับต้องไปเรียนต่อตั้งสองปี หากเขาต้องห่างกับมินตราอีกครั้งเขาจะทนได้ไหม ถ้าถามตอนนี้เขาคงตอบว่าไม่ แต่ถ้ามันทำให้มารดาไฟเขียวยอมรับในตัวมินตรา ชายหนุ่มก็ยังลังเลในคำตอบ แต่ในระยะเวลาสองปีอะไรจะเกิดขึ้นถ้าต้องห่างกันนั่นคือสิ่งที่เขาไม่สามารถจะเดาได้ เช้าของวันใหม่แสงสีทองที่สาดส่องเข้ามา ทำให้หญิงสาวที่นอนห่มผ้าอยู่บนเตียงนั้น รู้สึกแยงตากับแสงที่มันสะท้อนกระทบเข้ามาภายในห้องนอน เธอค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะพบว่าแสงของเช้าวันใหม่ที่สาดเข้ามานั้นมันเริ่มจากสายแล้วสำหรับอาชีพแม่ค้าอย่างเธอ เมื่อได้พักผ่อนมาทั้งคืนทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก แล้วมินตราจึงรีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เพื่อจะได้ไปเตรียมร้านให้เสร็จ ก่อนที่เวลามันจะสายมากไปกว่านี้ แล้วค่อยมาทำเมนูง่ายๆ ทานสำหรับมื้อเช้าด้วยความเร่งรีบทำให้เธอไม่ทันสังเกต ว่ามีใครคนหนึ่งกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ภายในครัวอย่างกับเชฟมือหนึ่งก็ไม่ปาน เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงร้านปรากฏว่าประตูเหล็กบานเลื่อนนั้นถูกยกขึ้น มีเพียงบานประตูกระจกใสเท่านั้นที่ปิดอยู่ มินตราเปิดแล้วเดินเข้าไปด้านใน ก่อนจะพบว่าทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมที่จะเปิดขาย เสียงฝีเท้าคนเดินตามหลังมาก่อนจะได้ยินเสียงอันคุ้นเคยนั่นดังขึ้น “ตื่นแล้วเหรอ ไปทานข้าวกันผมทำเสร็จแล้ว” เขาพูดพร้อมกับจับข้อมือของเธอเดินเข้าไปในบ้านแล้วตรงไปยังโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวสองสามอย่างถูกจัดไว้อย่างน่ากิน เขาเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวลงนั่ง ก่อนจะหยิบจานข้าวมาตักแล้วส่งให้เธอ จากนั้นค่อยตักใส่จานของตัวเองแล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างๆ มินตรา “ยังเวียนหัวอยู่ไหม” เสียงทุ้มของชายหนุ่มถามออกมาด้วยความห่วงใย “ไม่เวียนแล้ว” คำถามอย่างห่วงใยที่ปนไปด้วยความใส่ใจนั้น ทำให้มินตราอยากหยุดเวลานี้เอาไว้เหลือเกิน เขาไปอยู่ไหนมาทำไมมาเกิดช้าจัง ถ้าเข็มทิศเกิดเร็วกว่านี้สักสิบปี เธออาจจะไม่โดดเดี่ยวในวันที่บิดามารดาจากไป แต่ก็ไม่แน่ถ้าเขาเกิดก่อนอาจจะแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้วก็ได้.. จุ๊บ! อยู่ๆ เขาก็จุ๊บมาที่แก้มของเธอ “นายทำบ้าอะไรเนี่ย” มินตราพูดพร้อมกับเอามือลูบที่แก้มออกเบาๆ เขาจุ๊บลงมาได้ยังไงในขณะที่ทานอาหารอยู่ “เช็ดออกเหรอ...หื้ม จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ! นี่แนะ” การกระทำของเข็มทิศ ทำให้มินตราเอามือมาป้องหน้า พร้อมกับถือช้อนส้อมเอาไว้ในมือ เมื่อเขาจุ๊บมาที่แก้มของเธอหลายครั้งรัวๆ “พอแล้วไม่เช็ดแล้ว ถ้านายยังขืนทำอะไรแบบนี้อีก ฉันจะเอาส้อมจิ้มลูกตาเลยคอยดูสิ!” มินตราพูดพร้อมกับทำหน้าตาจริงจังใส่เข็มทิศ “ใจร้าย ผมไม่อยู่หลายวันอย่าคิดถึงก็แล้วกัน” คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกใจหายไม่น้อย การมีเขาเข้ามาในชีวิตของเธอ ในเวลานี้มันเริ่มจะชินเหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้ไปเสียแล้ว “นายจะไปไหนเหรอ” “ฮ่องกง” พอพูดจบเขาก็ตักผัดผักรวมใส่จานให้กับเธอ ทั้งสองคุยกันไประหว่างทานอาหารเช้า ภาพเหล่านั้นมันไม่ต่างจากคู่รักหรือสามีภรรยา โดยมีสายตาของใครคนหนึ่งจับจ้องมาที่ทั้งสองอย่างอาฆาตแค้น ก่อนที่เขาจะสับเท้าหันหลังกลับ เดินออกจากบ้านหลังงามแล้วขับรถออกไปทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD