Intro
“ว่าไงนะ...เมื่อกี้แกพูดว่ายังไงห๊ะ!!”
“เอ่อ...คุณท่าน...คุณท่านเสียแล้วครับคุณอังเดร...”
“...............”
คำพูดของคนงานในเหมืองเหมือนกับสายฟ้าฟาดลงมากลางใจของนายหัวหนุ่มผู้แข็งแกร่ง คนที่เคยนิ่งสงบมาตลอดกลับกำลังแสดงความโกรธเกรี้ยวอาฆาตแค้นออกมาจนพวกคนงานที่มองอยู่รีบพากันก้มหน้าหลบ
“ไปบอกเทวาให้เตรียมฮอร์ฯ เดี๋ยวนี้”
“ครับ”
พูดจบ เขาก็เดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปตามอารมณ์ที่กำลังคุกกรุ่น เมื่อตอนนี้จะบอกว่าเขาเสียใจที่บิดาตายจากก็อาจจะใช่แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือความโกรธแค้นที่เขามีต่ออีกคนที่เข้ามาในชีวิตของบิดาเขาต่างหาก
จากนั้นไม่นานเขาก็อยู่บนเฮลิคอปเตอร์เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง ที่เป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้วที่เขาไม่เคยย่างกรายเข้าไปที่นั่น
อังเดร บุตรชายเพียงคนเดียวของ เจ้าสัวบัญชร กับอดีตภรรยาผู้ล่วงลับชาวสเปน เขาเป็นชายหนุ่มที่เกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่าง ทั้งร่างกายกำยำ บุคลิกและหน้าตาอันเป็นที่น่าเกรงขามและดึงดูดเพศตรงข้ามด้วยความเป็นลูกครึ่ง อีกทั้งยังมีทรัพย์สินมากมายมหาศาลด้วยเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเจ้าสัวที่รวยที่สุดในประเทศไทยอย่างเจ้าสัวบัญชรอีก
แต่ทุกอย่างที่พูดมานั้น นอกจากหน้าตาที่ค่อนข้างไปทางมารดาเขากลับไม่เคยภาคภูมิใจอะไรสักอย่างในตัวเอง บิดาผู้มากรักจนทำให้มารดาของเขาต้องตรอมใจตายแถมเปลี่ยนเมียเป็นว่าเล่น และที่ทำให้อังเดรต้องตัดขาดจากบิดาก็คือภรรยาคนปัจจุบันของเจ้าสัวบัญชร
“ฮือๆๆๆ คุณคะ ตื่นเถอะนะคะ ฮือๆๆ แล้วเกศจะอยู่กับใคร ฮือๆๆๆ อย่าทิ้งเกศไป ฮือๆๆๆ ตื่นเถอะนะคะ ฮือๆๆๆ”
“คุณแม่ ฮึก ทำใจดีๆก่อนนะคะ ฮึก คุณพ่อ ฮึก คุณพ่อไปสบายแล้ว...”
“ฮือๆๆๆ แม่ไม่ยอม ฮือๆๆ ตื่นสิคะคุณ ฮือๆๆๆ คุณ”
เสียงร้องอันน่าสังเวชดังขึ้นไม่หยุด เมื่อกำลังนั่งมองร่างไร้วิญญาณของเจ้าสัวบัญชรผู้เป็นสามี ทำเอาพวกบ่าวรับใช้ที่มองอยู่อดหันหน้าหนี ปาดน้ำตาแห่งความเสียใจกันไม่ได้ จากนั้นไม่นาน งานศพของเจ้าสัวบัญชรก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่วัดชื่อดัง
“คุณแม่คะ...ทานข้าวสักหน่อยนะคะ เดี๋ยวก็ไม่สบายไปอีกคน”
“แม่ไม่หิว...ขอแม่อยู่กับคุณพ่อต่อสักพักนะ”
เสียงอันแหบแห้งแผ่วเบาของ คุณเกศริน ภรรยาคนปัจจุบันของเจ้าสัวบัญชรบอกขึ้น ตอนนี้หน้าตาที่เคยถูกตกแต่งอย่างสวยงามแทบจะตลอดเวลากลับดูซีดเผือด สองตาบวมช้ำเมื่อผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง
เกวรินทร์ เด็กสาวอายุ 20 ปี บุตรสาวเพียงคนเดียวของคุณเกศรินอดมองมารดาอย่างเป็นห่วงไม่ได้ ก่อนจะยกถาดอาหารกลับไปเก็บเมื่อตอนนี้มารดาของเธอคงเสียใจจนแทบกินอะไรไม่ลง
“คุณผู้หญิงไม่ยอมทานเลยเหรอคะคุณหนู...”
“จ๊ะ เดี๋ยวเอาไปเก็บให้เกวหน่อยนะคะ แล้ว...ลูกชายคุณพ่อล่ะคะ เขาจะมาไหม?”
เกวรินทร์อดถามถึงพี่ชายต่างสายเลือดผู้ที่เธอไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้งไม่ได้ เมื่อนี่เป็นงานศพพ่อของเขา จะโกรธหรือเกลียดยังไงเขาก็ควรมา
“คุณพิธาแจ้งไปแล้ว...น่าจะมาอยู่มั้งคะพ่อตายทั้งคน”
สาวใช้ที่มาอยู่ช่วยงานบอกขึ้นแต่ในใจก็ไม่ได้อยากให้อังเดรกลับมา เพราะเธอเคยได้ยินชื่อเสียงความร้ายกาจของบุตรชายคนเดียวของเจ้าสัวบัญชร แล้วยิ่งตอนนี้ไม่มีเจ้าสัวคอยห้าม เธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นใครกันจะหยุดอังเดรได้
“เกว...สีหน้าดูไม่ดีเลย พักหน่อยไหม?”
“พี่พิธา...เกวยังไหวค่ะ ว่าแต่ต้องรบกวนพี่พิธาเยอะเลยนะคะ เกวไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ส่วนคุณแม่ก็เอาแต่ร้องไห้นั่งมองรูปคุณพ่อ...”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ยินดี”
พิธา เลขาหนุ่มไฟแรงของเจ้าสัวบัญชรที่เจ้าสัวนั้นถูกอกถูกใจเขาเป็นพิเศษจนเคยเกริ่นๆเอาไว้ว่าถ้าเกิดเกวรินทร์โตขึ้นจะให้แต่งงานกับเขาเพราะทั้งเอ็นดูและไว้ใจพิธาเป็นอย่างมาก แต่ดันต้องมาจากไปเสียก่อน
เลขาหนุ่มนั้นแอบมีใจให้เด็กสาวอย่างเกวรินทร์มาเกือบๆ 5 ปีแล้ว เมื่อเขาเรียนจบปริญญาโทจากเมืองนอกมา และเขาคิดว่าเขาอาจไปได้ไกลกว่าการเป็นแค่เลขาให้กับเจ้าสัวบัญชร แต่ด้วยมาตกหลุมรักเกวรินทร์เขาเลยยอมทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับบริษัทของเจ้าสัวอย่างไม่เคยคิดปันใจเมื่อเขาได้คอยดูแลและใกล้ชิดเด็กสาวแสนสวยที่เขาแอบรักไปด้วย
“แล้วลูกชายของคุณพ่อ...”
“อีกไม่นานน่าจะถึง งานศพพ่อไม่มาได้ไง งั้นเราไปรับแขกกันเถอะนะ มากันเยอะแล้วด้วย”
“ค่ะ...”
เกวรินทร์ตอบรับขึ้นพร้อมกับเดินคู่ไปกับพิธา ทั้งๆที่เธอเป็นเพียงลูกติดของคุณเกศรินแต่เจ้าสัวบัญชรกลับทั้งรักทั้งเอ็นดูเธอเหมือนบุตรสาวแท้ๆทำให้เธอเองก็คิดว่าเจ้าสัวนั้นเป็นพ่อของเธอเมื่อเจ้าสัวเป็นคนเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เกิด