ติดบ่วง

1412 Words
    “จอดรถไว้ข้างทางนี่แหละเดี๋ยวพี่ให้ไอ้สนมาขับกลับไป”     “แต่ว่าบัว...”     “พี่มีเรื่องจะคุยด้วย ไปกับพี่เดี๋ยวพี่พาบัวกลับบ้านแล้วจะขอกินข้าวบ้านบัวสักมื้อ” โตมรบอกบัว     “ไม่ได้ค่ะ”     “ทำไมจะไม่ได้ ก็พี่เอาปูไปให้น้าลีทำกับข้าวแล้วพี่จะขอกินข้าวด้วยทำไมจะไม่ได้” นายหัวพูดพร้อมกับจับบัวให้เดินไปที่รถกระบะและดันตัวบัวให้เข้าไปในรถ เมื่อเข้าไปอยู่ในรถแล้วบัวจึงถามนายหัวว่า     “นายหัวไปบ้านบัวมาแล้วหรือคะ”     “ใช่ไปมาเมื่อเช้า แล้วเมื่อกี้คุยอะไรกับไอ้เพื่อนคนนั้น”     “ก็ไม่มีอะไรนิคะ”     “ไม่จริงพี่เห็นมันจับมือบัวไว้”     “เออ ไม่มีอะไรค่ะ”     “โกหกไม่เนียนเลยนะบัว”     “บัว คือว่าบัวไม่ได้โกหก”     “แล้วไอ้เด็กนั้นมันพูดอะไรพี่เห็นว่ามันพูด”     "ก็ เอ่อ เขาพูดว่าชอบบัว ชอบบัวแบบที่ไม่ใช่ชอบแบบเพื่อน”     “แล้วบัวบอกมันหรือเปล่าว่าบัวมีเจ้าของแล้ว”     “ไม่ได้บอกค่ะเพราะบัวยังไม่มี”     “อ้าวไม่มีได้ไง แล้วบัวเอาพี่ไปไว้ที่ไหน”     “เอาไว้ตรงที่นายหัวอยู่นั่นแหละค่ะ นายหัวคะบัวอายุสิบแปดแล้ว บัวรู้ว่านายหัวสนใจบัวอย่างผู้ชายมีเงินสนใจผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกใจ อยากได้ อยากเอาชนะเพื่อให้ได้ครอบครองสมใจแต่บัวมีความฝัน บัวอยากเรียนหนังสือ มันเป็นหน้าที่ที่บัวยังทำไม่สำเร็จ” บัวบอกโตมรน้ำเสียงหนักแน่น     "แล้วหน้าที่ของลูกละ บัวอยากให้พ่อแม่บัวไร้ที่อยู่พี่ก็ไม่ว่านะ"     "นายหัวบัวกราบละคะ นายหัวเป็นคนมีเงินนายหัวมีความพร้อม นายหัวจะมีผู้หญิงสวยๆ กว่าบัว ดีกว่าบัวเป็นร้อยเป็นพันเท่าก็ได้ทำบุญกับบัวเถอะนะคะ เรื่องหนี้บัวสัญญาบัวจะหามาคืนให้นายหัวจนครบ" บัวบุษบามองหน้านายหัวอย่างวิงวอนขอร้อง อธิบายเหตุผล กราบขอร้องเพื่อขอความเห็นใจจากนายหัว     "อ้าวก็ถ้าพี่ครบเครื่องสามารถมีใครมาชอบพี่ก็ได้สวยกว่าบัวก็ได้ แล้วทำไมบัวไม่ชอบพี่ละ" โตมรย้อนถาม     "ก็บัวยังเด็กอยู่ นายหัว..." บัวกำลังพูดแต่นายหัวโตมรก็ขัดขึ้น     "พี่ยังไม่แก่ แค่อายุมากกว่าบัว" นายหัวพูดดักขึ้น     "ก็นั่นละคะความหมายเดียวกัน"     "ไม่ใช่ แก่หมายถึงแก่แล้ว แต่พี่ยังไม่แก่" โตมรพูดอย่างคนเอาแต่ใจ บัวบุษบาจึงเลือกที่จะเงียบแทน เมื่อนายหัวขับรถมาจนถึงบ้านแล้วบัวลงจากรถพร้อมกับหนังสือในมือเดินเข้าไปหาแม่ในครัวและบอกแม่ว่า นายหัวจะมาทานมื้อเที่ยงด้วย ฝั่งโตมรเองเมื่อลงจากรถแล้วก็เข้ามานั่งในบ้านตามคำเชิญของวิชิต     "นายหัวเชิญนั่งก่อนครับ รอมาลีตั้งโต๊ะกินข้าวมื้อเที่ยงกัน" วิชิตบอกแก่นายหัวหนุ่ม     "ครับ ขอบคุณครับน้าชิต"     มาลีและบัวบุษบาตั้งโต๊ะกินข้าวเสร็จ ก็ออกมาเชิญนายหัวเข้าไปกินข้าวในครัว ซึ่งจัดเป็นโต๊ะเข้ามุมไว้นั่งกินข้าว เป็นมุมเล็กๆ ขนาดกะทัดรัดเข้ากับบ้านหลังนี้เพราะขนาดไม่ใหญ่โต บ้านของบัวเป็นบ้านปูนชั้นเดียวขนาด 2 ห้องนอน มีห้องครัวและโถงรับแขกขนาดพอดีกับครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูก     "เชิญนั่งค่ะนายหัวบ้านคับแคบนะคะ ต้องขอโทษนายหัวด้วยพอจะนั่งได้หรือเปล่าคะ" แม่ของบัวพูดขึ้น     "โอ๊ย สบายมากครับน้า ผมเองก็ชอบบ้านหลังเล็กๆ มันดูอบอุ่นดีผมชอบ" นายหัวพูดขึ้น     "ชอบนี่เอง นายหัวถึงอยากได้บ้านของบัวนัก" บัวบุษบาพูดเหน็บนายหัว     "บัวพูดอะไรลูก ขอโทษนายหัวเดี๋ยวนี้เลยนะ" แม่ของบัวพูดปราม     "ไม่เป็นไรครับ แต่จริงๆ บัวเขาเข้าใจผิด ผมไม่ได้อยากได้บ้าน แต่ผมอยากได้..." นายหัวพูดแก้และปรายตามองไปยังหน้าสวยจิ้มลิ้มของบัวอย่างสื่อความหมาย     "เออ วันนี้ลีแกงส้มดอกแคด้วยเหรอ พี่กำลังอยากกินอยู่พอดี นายหัวลองชิมสิครับอร่อยมาก" วิชิตพูดขึ้นเพื่อยุติเรื่องที่นายหัวหนุ่มพูดว่าอยากได้อะไรไปเสีย     "ครับขอบคุณครับ" นายหัวรับคำและเริ่มลงมือกินข้าว เมื่อกินข้าวเสร็จนายหัวก็ขออนุญาตอยู่นั่งคุยกับบัวต่อ บัวจึงพานายหัวไปนั่งคุยตรงศาลานั่งเล่นหลังบ้าน     "นายหัวจะรับกาแฟไหมคะ แต่บ้านบัวไม่มีกาแฟสดนะคะมีแต่เนสกาแฟรับไหมคะ" บัวถามนายหัว     "ไม่เป็นไรบัวนั่งลงแล้วคุยกับพี่ก็พอ"     "ค่ะ"     "บัวพี่ว่าเราลองคบกันก่อนดูไหมอีกไม่ถึงสองเดือนบัวก็สอบแล้ว เราลองคบศึกษาพูดคุยกันก่อนก็ได้" โตมรพูดเสนอบัวบุษบา     "คบแบบไหนละคะก็บัวบอกนายหัวไปแล้วบัวยังไม่คิดอยากจะขายตัว บัวอยากเรียนต่อ" บัวบอกโตมร      แล้วใครบอกว่าให้บัวขายตัว พี่บอกว่าลองคบกัน หมายถึงลองเป็นแฟนกันแบบนั้นต่างหากละบัว"     "เป็นแฟนแล้วนายหัวจะทำเอ่อ นายหัวจะทำอะไรบัวหรือเปล่า บัวอยากเรียนต่อ" บัวพูดด้วยความหวั่นใจ     "เออๆ พี่รู้แล้วว่าบัวอยากเรียนต่อ คบคือคบพี่มีฐานะเป็นแฟนบัวพี่จะไม่ทำอะไรบัวจนกว่าบัวจะพร้อม ถ้าบัวตกลงเป็นแฟนพี่ตั้งแต่วันนี้พี่จะให้บัวเรียนต่อ พี่จะรอจนกว่าบัวจะเรียนจบ บ้านก็ไม่ยึดดอกเบี้ยก็ไม่คิด ยกหนี้ให้เลยบัวจะว่าอย่างไร" โตมรพูดยื่นข้อเสนอ     "เป็นแฟนหรือคะ แล้วนายหัวจะได้อะไรละคะ" บัวเริ่มคิดไตร่ตรองเพราะบัวคิดว่าไม่มีใครให้อะไรใครโดยไม่หวังอะไร     "ก็ได้แฟน บัวเป็นแฟนพี่ ก็ต้องไปอยู่บ้านพี่บ้าง ช่วยดูแลพ่อแม่พี่บ้าง จริงๆ พี่ก็มีน้องสาวอายุประมาณบัวนี่แหละแต่เรียนอยู่กรุงเทพไม่ค่อยได้กลับบ้าน ถ้าบัวตกลงเราจะเป็นแฟนกันก่อนบัวจะว่ายังไง" โตมรถามเพื่อขอคำตอบจากบัว     "บัวขอคิดดูก่อนได้หรือเปล่าคะ"     "ให้เวลาคิดสิบนาทีเท่านั้นแค่เป็นแฟนทำไมต้องคิดนาน" นายหัวโตมรพูดอย่างนึกรำคาญแม่คนสวยเสียเหลือเกิน บัวได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งครุ่นคิดเงียบๆ     "หมดเวลา บัวจะว่ายังไงตกลงจะเป็นแฟนกันหรือเปล่า" โตมรเร่งให้บัวตัดสินใจ     "เอ่อ ค่ะงั้นเป็นแฟนก็เป็นแฟนค่ะ แต่นายหัวต้องทำสัญญาพักหนี้ไว้ 5 ปีจนกว่าบัวจะเรียนจบ ว่านายหัวจะไม่ยึดบ้านจะไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่ม ถ้าบัวเป็นแฟนกับนายหัวแล้วบัวผิดสัญญานอกใจนายหัวโดยมีหลักฐานเป็นสำคัญนายหัวถึงจะสามารถยึดบ้านบัวได้ และถ้าบัวไม่ยอม เอ่อ นายหัวจะไม่บังคับฝืนใจบัว ถ้านายหัวทำอะไรบัวโดยบัวไม่ยินยอมนายหัวต้องคืนบ้านให้พ่อบัวทันทีและจะต้องปล่อยบัวไป ห้ามบีบบังคับขืนใจบัวถ้าบัวไม่ยินยอม นายหัวสัญญานะคะ" บัวพูดสรุปเสียยืดยาว     "ได้ตามนั้น งั้นตอนนี้เป็นแฟนกันแล้วนะพี่จะบอกแม่กับพ่อบัวให้รับทราบไว้ และจะเอาสัญญาฉบับใหม่มาให้พ่อบัวลงลายเซ็นไว้เป็นหลักฐานสำคัญวันพรุ่งนี้"     "ขอบคุณค่ะนายหัว" บัวพูดพร้อมกับยกมือไหว้     นายหัวยิ้มพร้อมกับพูดว่า     "เปลี่ยนจากคำขอบคุณมาเป็นเรียกพี่ว่าพี่โตแทนได้หรือเปล่า"     "เอ่อ ก็ได้ค่ะ พี่โต"     "ดีมากน้องบัวแฟนพี่โต" นายหัวพูดพร้อมกับครุ่นคิด     “เอาวะไอ้โต ได้เป็นแฟนก่อนก็ได้จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกันก่อน แล้วเดี๋ยวกูค่อยรุกเอาอีกที”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD