บทที่ 5 แผนอันแนบเนียน

2053 Words
" อ้อ งั้นลิตาขอตัวก่อนนะคะยังมีของที่ต้องซื้ออีกหลายอย่าง " " เชิญครับ " ฉันเดินซื้อของได้แป๊ปเดียวก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนเดินตามเลยหันกลับไปมอง " อ้าวคุณหมอเดินตามลิตาทำไมคะ " " อ้าวหรอครับสงสัยจะเผลอผมไม่เห็นจะรู้ตัวเลยสักนิด " แถไปครับอย่ายอม " เผลอเดินตามแบบไม่รู้ตัวเนี่ยนะคะ เหตุผลของคุณฟังขึ้นมาก " ประโยคหลังฉันได้แต่กัดฟันพูดเบาๆ " ใช่ครับไม่รู้จะซื้ออะไรก็เลยเดินตามแบบเพลินๆ แค่เห็นข้างหลังก็ยิ้มแก้มปริแล้ว " ผมพูดแบบเบาๆ " คุณหมอว่าอะไรนะคะ ลิตาไม่ค่อยได้ยินเลยพูดดังๆก็ได้ " ผมขยับเข้าไปไกล้จนหน้าเราเกือบจะติดกันแล้วก็ก้มลงกระซิบข้างหูเธอว่า " ผมขอเข็นรถให้นะครับพอดีผมว่างไม่รู้จะทำอะไร " ฉันนี่ขนลุกเลยก็เขาดันเข้ามาไกล้ฉันแบบเอ่ออ " อะ..เอ่องั้นตามใจเลยค่ะ " โอ้ยยยห้ามคิดนะยัยลิตาห้ามคิด " ลิตาไม่ค่อยชินเลยค่ะที่คุณหมอมาเดินตามลิตาแบบนี้ " " ผมชอบ เอ้ยไม่ต้องเกรงใจครับผมว่างมากจริงๆ " " ดูท่างานคุณหมอคงไม่เยอะนะคะ ดูชิวดีจัง " เธอก็ประชดแหละผมดูออก " ที่จริงเยอะมากครับแต่วันนี้ผมหยุด " หยุดก็บ้าน่ะสิโทรไปขอแลกวันหยุดกับไอ้เข็มทิศเป็นการเร่งด่วน โดนบ่นหูชาแถมมันยังขู่ให้เลี้ยงเหล้ามันด้วย ผมจะทำอะไรได้ครับ " ที่จริงเมื่อก่อนลิตาไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ ลิตาถูกส่งไปเป็นหมออาสาในชนบททางใต้ จะบอกว่าชาวบ้านที่นั่นน่าสงสารมากค่ะโดยเฉพาะเด็กๆ ชอบป่วยกลางดึกบางครั้งแทบไม่ได้นอนกันเลยค่ะ ไม่ใช่แค่ลิตาคนเดียวนะคะมีคุณหมอีกหลายท่านเลย ถึงจะลำบากกายแต่สุขใจที่ได้ช่วยเหลือคนยากจน " " คุณลิตานี่จิตใจดีมากเลย เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ดูแกร่งและเก่งมาก ผมนับถือเลยถึงผมจะไม่เคยไปที่แบบนั้นแต่ก็รู้ดีว่ามันลำบากเพียงใด " " มันลำบากมากจริงๆ แหละค่ะ แต่ทุกคนก็ทำได้จนมีคนใจบุญมาสร้างโรงพยาบาลให้พวกเขา ลิตาจึงได้กลับมาทำงานในเมืองอีกครั้ง " " ผมฟังเพลินจนลืมถามไป คุณลิตา เป็นหมอหรอครับ " " อ้อ ใช่ค่ะลิตาลืมบอก " " ได้ไหมถ้าผมจะถามว่าคุณลิตาทำงานอยู่ที่ไหน " " ฉันขออุ๊บ..ไว้ก่อนได้ไหมคะถ้าเราได้เจอกันอีกลิตาจะบอก " " ได้สิครับไม่มีปัญหาผมดีใจนะที่เราเป็นหมอเหมือนกัน " ยังไงเราได้เจอกันบ่อยๆ แน่คุณลิตาผมได้แต่คิดในใจ " งั้นลิตาขอแยกกับคุณหมอตรงนี้เลยละกัน ขอบคุณสำหรับวันนี้ค่ะ " แล้วเธอก็เดินแยกออกไป เมื่อฉันเดินถึงลานจอดรถ เก็บของเสร็จเรียบร้อย สายตาก็เหลือบไปเห็นรถคันข้างๆ เจ้าของรถก้มๆ เงยๆ อยู่ " เอ้าคุณหมออีกแล้วรถเป็นอะไรหรอคะ " ใช่ค่ะฉันใช้คำว่าอีกแล้วเฮ่อดูก็ รู้จงใจชัดๆ ร้ายจริงคุณหมอ..เคยได้ยินป่ะถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก..อิอิแกล้งโง่หน่อยละกัน " อ้าวคุณลิตาเองหรอ รถผมเป็นอะไรไม่รู้อยู่ดีๆ ก็สตาร์ทไม่ติดผมเลยต้องเปิดดูหน่อย " แผนอ่อยหญิงครับไม่มีไรมากหยุดแล้วต้องเอาให้คุ้ม " คุณซ่อมรถเป็นด้วยหรอ " เขาคุยกับฉันแต่ก็ไม่ยอมหันมาสักที " ไม่เป็นครับผมทำเท่ห์ไปงั้นแหละ " " อ้าวแล้วกันสิ คุณโทรเรียกช่างหรือยังมีอะไรให้ลิตาช่วยมั๊ย " พอเขาเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละความฮาก็บัง เกิดเลยจ้า " ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอ้ยคุณหมอ ฮ่า ฮ่า " " คุณลิตาขำอะไร หน้าผม หน้าผมมีอะไรติดหรือเปล่าครับ " พูดไปเขาก็คลำหน้าไปจนเลอะเยอะไปใหญ่ " เอามือออกเลยค่ะยิ่งคลำยิ่งเลอะ..แชะ ดูเอาเองเถอะค่ะ " ฉันถ่ายรูปแล้วให้เขาดู " หืม หน้าผมด่างเป็นแมวเลย " " ฮ่า ฮ่า ฮ่า มาค่ะลิตาเช็ดให้ " เธอหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สีขาวออกมาจากรถแล้วเดินกลับมาเช็ดคราบดำให้ผม มันไกล้กันมากจนเราหายใจรดกัน " อ่ะเอ่อ คุณหมอโทรเรียกช่างแล้วรอลิตาอยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ " พูดจบก็เดินหายไป เธอเขินผมอีกแล้วไม่นานเธอกลับมาพร้อมกับถุงกระดาษใบหนึ่ง " อ้าวช่างยังไม่มาหรอคะ " " ยังครับ " จะบอกเธอได้ยังไงว่ารถไม่ได้เสียเลยมันคือแอคติ้งของผมล้วนๆ " งั้นไม่ต้องรอแล้วค่ะ นี่ก็ไกล้ค่ะแล้วไปอาบน้ำที่ห้องของลิตาก่อนก็ได้ " พูดอะไรออกไปเนี่ยยัยลิตาเอ้ย ฉันได้แต่พึมพำกับตัวเองเบาๆ " ห้องคุณหรอครับ " ผมถามย้ำอีกครั้งทั้งที่ได้ยินอย่างชัดเจน " อะ เอ่อ ก็ค่ะชุดคุณเปื้อนคุณจะไปไหนได้ล่ะคะเลอะแบบนี้หน้าฉันนี่ร้อนวาบๆเลยพอพูดจบ " ป้าไปแล้วยัยลิตาชวนผู้ชายขึ้นห้องทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน แถมพึ่งจะรู้จักกันด้วยเมื่อมาถึงคอนโด เขาก็อาสาถือของเองทั้งหมด " เอาของวางไว้เลยค่ะ เดี๋ยวลิตามา " เธอหายเข้าไปพักนึง " คุณหมอคะเข้ามาได้เลย " จังหวะที่ผมเดินเข้าไปเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี " ว้าย " " เป็นอะไรไหมครับ " พอดีเราเดินชนกันจนเธอเซแต่ผมคว้าเอาไว้ได้ทัน " เออ ลิตาไม่เป็นไรขอบคุณค่ะ ของอยู่ในห้องน้ำนะคะลิตาเตรียมไว้แล้วขอตัวก่อนค่ะ " ผมเห็นเธอหน้าแดงก็แน่ล่ะชนอกผมเข้าเต็มๆ เตรียมไว้ซะเรียบร้อยเชียว เหมือนเมียเตรียมให้ผัวงั้นแหละโอ้ยคิดไปไกลแล้วกู ก็แน่ล่ะในเมื่อแม่อยากมีหลานตอนนี้ก็เจอคนที่ใช่จะรออะไรละ ต้องทำทุกทางเพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง เมื่อผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เดินออกมาตัวหอมฟุ้งแต่กลิ่นอาหารหอมกว่า วันนี้ผมยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนี่หว่า ดังนั้นท้องของผมก็ร้องประท้วงทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะอาหาร เป็นโต๊ะขนาด 4 คนนั่งได้ผมว่ากำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่ " โครก~~ " " อุ้ยคุณหมอเสียงวัวร้องหรอคะ ฮ่า ฮ่า " วันนี้ผมทำตัวน่าอายชะมัด " รู้แล้วยังจะถามผมอีก " เวลาเธอหัวเราะแล้วน่ารักมาก " ลิตาแซวเล่นค่ะ นั่งก่อนค่ะลิตาไม่รู้ว่าคุณหมอชอบทานอะไรลิตาเลยทำแต่อาหารพื้นๆ นะคะหวังว่าจะถูกปากคุณ " ผมมองอาหารตรงหน้าอืมนี่พื้นหรอ หมูทอดเอย ตัมยำกุ้งเอย ผัดฉ่าทะเลเอย " พื้นก็พื้นครับที่จริงแค่ไข่เจียวผมก็ทานได้แล้ว " ลางานวันนี้ไม่เสียเที่ยวเลยจริงๆ " แหม มีแขกมาทั้งทีเลี้ยงจะเลี้ยงไข่เจียวก็ยังไงอยู่ " ออด~ ออด~ " ใครมาตอนนี้อย่าบอกนะว่า " ...ตี๊ด..ตี๊ด..ตี๊ด..แก๊ก " วันนี้ฉันขอฝากกกก.." นางพูดได้แค่นั้นแหละ " ตลอดแหละแกอ่ะ " " เล่ามาให้หมดเขามาอยู่ห้องแกได้ไง " สายตานี่คือแบบเคืองฉันอย่างแรง " มาขอข้าวกินไม่พอยังถามซอกแซกอีก ทำไมฉันต้องบอกแกด้วยล่ะ " " ฉันว่าเขาหน้าคุ้นๆ นะ " " หรอ แกรู้จัก " " ปัง " เธอตบโต๊ะดังฉาด " ฉันคิดออกแล้ว ก็อีตาขี้เก๊กคนนั้นไงที่ฉันไปทักเขาแล้วเขาบอกว่าจำชื่อตัวเองไม่ได้อ่ะ " ยิ่งคิดยิ่งแค้นแล้วดันจะมาจีบเพื่อนฉันหรอเหอะๆ.. " แกจำคนผิดป่าว " " ไม่ฉันจำได้แม่น แล้วดูกับข้าววันนี้สิ ปกติก็ทำแต่กระเพราะไข่ดาวให้ฉันนะเท่าที่จำได้ " มันออกจะพิเศษเกินไปหน่อยสำหรับคนที่พึ่งรู้จักกัน " พูดมากไปแล้วกินๆ เข้าไปเลย " ฉันตักข้าวคำใหญ่ๆ ยัดใส่ปากยัยขนมไปเต็มๆ " อื้ออ..อู้ " " เวลากินข้าวอย่าพูดดีกว่าเดี๋ยวข้าวติดคอ " เป็นเสียงของชายหนุ่มเพียงคนเดียว ฝากไว้ก่อนเถอะอีตาจอมหยิ่งทีกับฉันนี่เชิดหน้าขึ้นคอแทบหัก ทีกับเพื่อนฉันตานี่ลอยเชียวสองมาตรฐานชัดๆ คอยดูเถอะแม่จะกีดกันให้ตายกันไปข้างนึงเลย ฉันรู้นะว่านายจะจีบเพื่อนฉันเชอะ มีฉันอยู่อย่าฝันไปเลย " นินทาผู้อื่นตอนกินข้าวมันบาปนะครับคุณขนม " " แค่ก แค่กๆ " บ้าบอพูดเหมือนได้ยิน " นินทาเขาอยู่หรอยะ ฮ่า ฮ่า แกอย่าเผลอคิดอะไรในใจเด็ดขาดนะฉันขอเตือน " ทั้งสองได้แต่ส่งสายตาฟาดฟันกันเป็นระยะ เหมือนแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน " แค่ผมไม่สนใจคุณคืนนั้นคุณต้องโกรธผมขนาดนี้เลยหรอ แต่ผมก็เห็นคุณไปกับคนอื่นแถมยังทิ้งเพื่อนอีก ไม่น่ารักเลยอย่าหาทำอีกแล้วกัน " " นี่นายเกินไปไหม มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน " ฉันนี่ปรี๊ดเลยค่ะ " เป็นเพื่อนกันควรคิดถึงกันให้มากกว่านี้ ยิ่งเวลาดึกดื่นแบบนั้นแถมเป็นผู้หญิงเหมือนกันใจเขาใจเราคุณเห็นผู้ชายที่พึ่งรู้จักดีกว่าเพื่อนได้ยังไงมันอดอยากขนาดนั้นเลยหรอ ผมพูดในฐานะผู้ชายที่ผ่านโลกมามากกว่าคุณ " คุณหมอพูดด้วยความเดือดดาลเช่นกัน " นี่นายฉันก็แค่ต้องการบางอย่างเท่านั้น ฉันเหงา ฉันเบื่อ ฉันก็เป็นแบบนี้แหละยัยลิตาไม่เคยว่าฉันเลย " " เพื่อนไม่เคยว่าก็เลยต้องทำตัวแบบเดิมๆ ต้องไปกับผู้ชายตลอด คิดว่าวันไหนไม่ได้นอนกับผู้ชายจะนอนไม่หลับคิดว่าวันไหนขาดเซ็กส์ไป มันจืดชืดใช่ไหมครับ " " คุณหมอคะ " ฉันนั่งฟังทั้งสองเถียงกันไปจนรู้สึกว่าเหตุการณ์ชักจะบานปลาย คุณหมอที่ฉันรู้จักไม่ใช่แบบนี้เลยนะ " อย่ามาทำเป็นรู้ดีถ้าคุณไม่รู้จักฉัน ฉันไปก่อนนะยัยตา ป้ง " พูดกับหมอจบก็หันไปบอกเพื่อนเสียงปิดประตูห้องอย่างแรง " คุณหมอทำไมพูดแบบนั้นคะ " ฉันถามด้วยความสงสัยเพราะเท่าที่เห็นคุณหมออกจะเป็นคนใจเย็นด้วยซ้ำ " ถ้าเป็นเรื่องจริงคือเพื่อนคุณน่าจะเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Hysteria เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งแต่มันรักษาได้ คุณคบกับเธอมานานแค่ไหนแล้ว คุณควรบอกเธอให้ไปพบแพทย์บ้างไม่ได้พูดเพราะผมเกลียดเธอ แต่พูดเพราะเห็นเธอเป็นเพื่อนกับคุณต่างหาก " " ค่ะไว้ฉันจะลองดู " " รหัสห้องก็เปลี่ยนซะนะ สนิทกันขนาดไหมก็ควรมีพื้นที่ส่วนตัวกันบ้าง " " รับทราบค่ะคุณหมอ ทานข้าวกันเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปส่ง " " ไม่ต้องครับแค่นี้ก็รบกวนมากแล้วผมกลับเองได้ " " ตามใจคุณหมอเลยค่ะ อ้อรอลิตาแป๊ปนะคะ " ระหว่างที่ผมรอก็สำรวจห้องไปพลางๆ ห้องดูสะอาดเป็นระเบียบมาก " นี่ค่ะเสื้อลิตาซักแล้ว " " ถึงว่าหอมเชียว ไม่รู้ว่าคนซักจะหอมเหมือนเสื้อหรือเปล่า " ผมเห็นเธอหน้าแดงไปถึงหูเลย " เอ่อ นี่ก็ค่ำแล้วคุณหมอกลับเถอะค่ะลิตาไม่ลงไปส่งนะ " พูดจบเธอก็ดันตัวผมออกจากห้องแล้วปิดประตูใส่เฉยไล่ผมดื้อๆ งี้เลยหึหึ..ฝากไว้ก่อนเถอะ ผมก็ได้แต่ขำสงสัยจะดื้อน่าดู...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD