.... อีกด้าน .....
ผมเดินตามเธออกมาติดๆ ยังหายไปไหนก็ไม่รู้ไวฉิบ ผมมองหาเธออยู่สักพักด้วยความร้อนรนเพราะอยากทำความรู้จักกับเธอมากอย่างไม่มีเหตุผลใดๆ เลยสักนิด ผมเจอเธอแล้ว
" รอผมแป๊ปนะครับคนสวย " ผมพึมพำอยู่คนเดียวด้วยรอยยิ้ม
ในเมื่อเพื่อนไม่อยู่ฉันก็รีบออกมาทันที เพราะนี่ก็เริ่มดึกแล้ว วันนี้ฉันไม่ได้เอารถมาด้วยจะมีรถผ่านมาบ้างไหมเนี่ย เฮ่อ..คิดแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวๆ แถมชุดนี่ก็นะเกาะอกไปอีก ยัยขนมฝากไว้ก่อนเถอะยัยเพื่อนบ้า แค่คิดถึงก็หงุดหงิดแล้ว
" ไม่ทราบว่ารออะไรอยู่ครับ "
" อุ้ย ตาเถร " ขวัญเอ้ยขวัญมานะยัยลิตาเย็นไว้เย็นไว้ ฉันพึมพำกับตัวเอง
" อะไรเย็นหรอครับตอนนี้ดึกมากแล้ว คุณรอรถหรอแถวนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านหรอกคุณพักที่ไหนล่ะเดี๋ยวผมไปส่ง "
ฉันหันมองคนตรงหน้าคนที่บอกว่าจะไปส่งฉัน มองไกล้ๆ หล่อชะมัด เอ้า อิตาคนที่นั่งมองฉันในร้านนี่ตายๆ ฉันควรไว้ใจเขาหรือกลัวเขาดีเนี่ยแถวนี้ก็ไม่มีใครด้วยสิ
" ขอบคุณครับที่ชม ใช่ครับผมเป็นคนที่นั่งมองคุณอยู่ในร้านเห็นผมด้วยสินะ แล้วใครบอกว่าไม่มีคน ก็มีผมกับคุณไงอีกอย่างผมไว้ใจได้แน่นอนล้านเปอร์เซนต์ "
หืมม เหวอสิคะฉันมั่นใจว่าไม่ได้พูดออกไป แค่คิดในใจเองนะแต่ทำไมเขารู้หมดเลยล่ะ
" ใช่ครับคุณไม่ได้พูด แต่ผมได้ยินเองผมขอรับรองความปลอดภัยของคุณด้วยเกียรติของหมอเลย นี่นามบัตรของผม " ผมอยากรู้จักเธอจริงๆ ไม่รู้ทำไม
ฉันรับนามบัตรของเขามาดูด้วยมือสั่นๆ หวังว่าเขาคงไม่ใช่ผะ..ผะ..ผีหรอกนะ
" ใช่ครับผมเป็นคนคุณวางใจได้ลองจับตัวผมดูสิอีกอย่างผีที่ไหนจะหล่อขนาดนี้ " มีแต่ผมที่พูดอยู่คนเดียวเธอไม่ยอมพูดอะไรเลยครับนอกจากคำอุทานตั้งแต่เราเจอกัน
เฮ่อ..แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะผมได้ยินสิ่งที่เธอคิดก็เหมือนพูดแหละเนอะ..ผมเห็นเธอจ้องนามบัตรใหญ่เลย
" ผู้ชายบ้าอะไรหลงตัวเองชะมัด อืมแต่ก็หล่อจริงๆ แหละไม่ได้แกจะคิดไม่ได้แล้วนะยัยลิตาเดี๋ยวเขารู้สติค่ะสติ ฉันพึมพำเบาๆ "
" เอ่อ..เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะครับ "
" อ้อ ฉันพูดว่าฉันเชื่อค่ะว่าคุณเป็นคนอีกอย่างไม่ต้องจับตัวก็ได้ค่ะ ว่าแต่ทำไมคุณถึงได้ยินสิ่งที่ฉันคิดล่ะคะ "
" ผมก็ไม่รู้หรอกมันติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่ก็ได้ยินเป็นบางคนนะ แถมบางครั้งผมก็เห็นวิญญาณด้วย "
" อ้อ แบบนี้นี่เอง "
" ครับ แต่ผมว่าตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เราจะยืนคุยกันแบบนี้จนถึงเช้าเลยก็แล้วแต่นะผมไม่ติด "
" อ่ะเอ่อคือว่า "
" คุณยังคงกลัวผมอยู่ใช่ไหมครับ "
" ถ้าฉันตอบว่าใช่ล่ะคะ คนเราพึ่งเจอกันก็ต้องระแวงเป็นธรรมดานี่คะเพราะเราไม่รู้จักกันมาก่อนเลย " ฉันพูดด้วยความประหม่าที่ถูกจับได้
" นั่นสิเนอะเจอกันครั้งแรก แถมดึกๆ ดื่นๆ คุณเองก็เป็นผู้หญิงต้องกลัวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เอางี้มั๊ยผมพาคุณไปหายามหน้าร้านแล้วบอกเขาว่าผมจะไปส่งคุณ คุณให้เบอร์เขาไว้พอถึงที่ พักคุณก็โทรบอกเขาว่าคุณปลอดภัยดี เพื่อความสบายใจของคุณเองและเพื่อยืนยันว่าผมบริสุทธิ์ใจกับคุณ "
" อ่ะเอ่อ ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะฉันเชื่อคุณว่าแต่รถคุณอยู่ไหนล่ะคะ " ฉันถามเขาไปก็ลูบแขนตัวเองไปเพราะอากาศเริ่มจะเย็นแล้ว
" คลุมไว้ครับอากาศเริ่มเย็นแล้ว เดินตามผมมาได้เลย " อยู่ๆ เขาก็ถอดเสื้อแจ็คเก็ตมาคลุมให้ฉัน
" ไม่ต้องก็ได้ค่ะ "
" รับไว้เถอะ ผมเห็นนะว่าคุณหนาวแล้ว "
ฉันเดินตามเขาไปเงียบๆ แล้วก็หยุดตามเขาที่หน้ารถคันหนึ่ง
" เชิญครับ " ผมเปิดประตูรถให้เธอเธอยังดูประหม่าอยู่มาก แสดงว่าเธอไว้ใจคนยากสินะ
" ขอบคุณค่ะ " ตลอดทางกลับเธอพูดกับผมแค่ตอนบอกทางเท่านั้นแล้วเธอก็ไม่คิดอะไรในใจอีกเลย ตั้งสติได้ดีจริงๆ แม่สาวน้อย..
" ขอบคุณมากเลยนะคะสำหรับคืนนี้ แล้วเอ่อ..เสื้อ "
" คุณเอาไปเถอะครับผมให้ "
" ตะแต่ ฉันไม่อยากได้ซะหน่อย "
" ผมมีความรู้สึกว่าเร็วๆ นี้เราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน เวลานั้นคุณค่อยเอาไปคืนผมละกัน "
" คงไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้งคะ "
" เผื่อคุณคิดว่าผมหล่อคุณอาจจะไปตามหาผมที่โรงบาลก็ได้ผมจะรอ "
" ชิ หลงตัวเองสุดๆ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณอีกครั้งกลับดีๆ นะคะ "
ฉันล่ะหมันไส้กับความั่นหน้าของเขาจังรู้ว่าหล่อแต่ไม่ต้องมั่นใจขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ
" ชื่นใจจังที่คุณชมว่าผมหล่ออีกแล้ว ว่าแต่คุณชื่ออะไรผมอยากทำความรู้จัก "
ผมยังพูดไม่ทันจบก็เห็นเธอเดินจ้ำอย่างไวไม่หันกลับมามองผมอีกเลยอย่างน้อยผมก็ได้รู้ที่อยู่ของเธอ แต่จะมาหาเธอในฐานะอะไรกันล่ะ แค่ชื่อยังไม่รู้จักเลย
บ้าไปแล้วไอ้หมออาการหนักมั๊ย รู้จักเค้าวันเดียวก็อยากมาหาซะแล้ว ผมขับรถกลับคอนโดตัวเองด้วยอารมณ์เบิกบานอันที่จริงคอนโดของเธอกับผมอยู่ห่างกันนิดเดียวเองพรมลิขิตบรรดาลชักพาชัดๆ ฮ่า ฮ่า คิดได้ไงวะไอ้หมอเอ้ย คืนนี้คงฝันดีเป็นแน่
.............................
โอ้ยฉันอยากจะบ้าตาย ลืมไปซะสนิทดันเผลอคิดในใจว่าเขาหล่อโอ้ยย ฉันจะกล้าเจอหน้าเขาอีกมั๊ยเนี่ย เจอแล้วต้องทำหน้ายังไงกันเล่า อายโว้ยยย...
ที่ฉันยืนจ้องนามบัตรของเขาอยู่เนิ่นนานก็เป็นเพราะอีกไม่กี่วันฉันต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกันกับคุณหมอแล้วไง..
ลางสังหรณ์ของเขาแม่นจริงที่ว่าเราจะต้องเจอกันอย่างแน่นอน..ทำไมฉันถึงมั่นใจว่าต้องเจอเขา ทั้งที่โรงพยาบาลออกจะกว้างใหญ่ใช่ไหม
ใช่ค่ะฉันคงไม่คิดแบบนั้นแน่นอนถ้าเกิดว่าฉันไม่ต้องไปทำงานแผนกเดียวกับเขา จะบังเอิญไปไหมเนี่ย
" กรี๊ง...กรี๊ง... "
" ฮัลโหลว่า "
" แกถึงคอนโดยังอ่ะ ซี๊ดด "
" เสียงอะไรยัยขนมนี่อย่าบอกนะว่าแกกำลังปั่มปั๊มอ่ะ "
" เออนั่นแหละอย่างที่แกคิด..อื้มม..ว่าตะ..แต่แกถึงคอนโดแล้วใช่ไหมฉันลืมว่าแกไม่ได้เอารถไป อ่ะซี๊ด.."
" เฮ่อ ยังดีที่แกยังคิดได้ ถึงแล้วปลอดภัยดีแต่คราวหน้าคราวหลังแกจะโทรหาฉัน แกควรทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนนะฉันไม่อยากนอนฝันร้ายเพราะได้ยินเสียงกินตับกัน โอเคนะยัยเพื่อนโรคจิต "
" อื้ม..บาย "
" หึ่ย ยัยเพื่อนบ้าฉันจะฝันร้ายไหมเนี่ยได้ยินเสียงอะไรแบบนั้น เฮ่อ..ไม่ได้การล่ะไปอาบน้ำนอนดีกว่า " พึมพำจบก็ไปนอนแช่น้ำให้สมองปลอดโปร่ง
" คิดแต่เรื่องดีๆ ไว้นะยัยลิตาคิดถึงแต่คุณหมออีกไม่กี่วันเธอก็จะได้รู้จักและเจอเขาอย่างเป็นทางการแล้ว จำไว้นะยัยลิตาห้ามคิดอะไรในใจเด็ดขาด "
เกิดมาฉันก็พึ่งเคยเจอกับตัวนี่แหละ เรื่องแบบนี้ อืมว่าแต่ทำไมฉันต้องตื่นเต้นด้วยเนี่ยที่จะได้เจอเขาอีกโอ้ยไม่เข้าใจตัวเองเลยวุ้ย...
แล้วฉันก็หลับไปด้วยความเพลีย
3 วันต่อมา....
วันนี้ฉันตั้งใจจะไปเดินห้างเพราะจะซื้อของใช้อีกนิดหน่อย เมื่อก่อนฉันเป็นแพทย์อาสาอยู่ที่ชนบทในต่างจังหวัดทางภาคใต้ เพราะว่าที่นั่นขาดแคลนหมอมาก
แต่ตอนนี้มีคนใจบุญสร้างโรงพยาบาลให้แล้ว ฉันเลยขอย้ายกลับเข้ามาในเมืองตามเดิมเพราะคุณแม่เป็นห่วงฉันมากที่ไปทำงานที่นั่น แม่รู้ว่ามันลำบากมากแค่ไหนเพราะท่านเคยทำมาก่อน
ใช่ค่ะแม่ของฉันก็เป็นแพทย์เหมือนกัน เอาล่ะเล่าแค่นี่ก่อนละกันซื้อของกันดีกว่า ฉันเดินซื้อของอยู่ดีๆ ก็มีคนมาสะกิดที่แขนฉันก็เงยหน้าขึ้นมามองเขา
" ใช่คุณจริงด้วย บังเอิญจังเลยนะครับว่ามั๊ย " พูดจบก็ยิ้มหวานส่งไป
" อ้าวคุณหมอบังเอิญจริงด้วยค่ะ ห้างกลมจังเลยนะคะ " คำหลังพูดเบาๆ ก็แอบประชดนิดๆแหละ
" ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับผมจะได้เรียกถูก " โอกาสมาถึงแล้วโว้ยไอ้หมออย่าพลาด
" ฉันชื่อลลิตาค่ะ ชื่อเล่นลิตา ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะคะ "
" ยินดีเช่นกันครับ ผมหมอปฐพีเรียกสั้นๆ ว่านิกซ์ก็ได้ครับ " ทั้งสองทักทายกันด้วยรอยยิ้ม
" แล้วนี่คุณมาซื้ออะไรหรอคะลิตาไม่เห็นคุณหมอเข็นรถมาเลย "
" อ้อ คือผมยังคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรก็เลยเดินดูของไปเรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะเจอคุณ " จะให้ผมบอกเธอได้ยังไงว่าผมไปดักรอเธอแถวๆ คอนโดมาสามวันแล้ว แล้ววันนี้ก็โชคดีที่เธออกมาผมเลยสะกดรอยตามมาแบบนี้หรอ ขืนบอกไปแบบนั้นผมตายแน่ครับ.....