Honey Talk
ฉันหลบหน้าวิคเตอร์มาหนึ่งอาทิตย์แล้วนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้น มันคงยากที่จะสนิทใจกันเหมือนเดิม ในเมื่อเราก้าวข้ามเส้นความเป็นเพื่อนไปแล้ว ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนตามเหมือนกัน
"เป็นไรอ่ะฮันนี่?"
มิกิเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยประถมเอ่ยถามพร้อมหรี่ตามองฉันที่เผลอนั่งเหม่อลอยไปเมื่อกี้ ฉันมัวแต่คิดเรื่องวิคเตอร์จนแทบไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง รู้ตัวอีกทีจากแรงสะกิดของมิกินั่นแหละ
"แกไม่โอเค ฉันรู้ อย่ามาโกหก"
สำหรับเราสองคนมองตาก็รู้ใจ อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ นับประสาอะไรกับการที่ฉันมีเรื่องกังวลแล้วมิกิจะดูไม่ออก ปกติฉันไม่ใช่คนซีเรียสหรือมานั่งจมปลักคิดอะไรเป็นวันๆ นี่จึงนับเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น
"ฉันมีเรื่องจะบอกแก"
"ว่ามา เดี๋ยวจะเหยียบให้มิด"
"คือ...เมื่ออาทิตย์ก่อนฉันมีอะไรกับวิคเตอร์อ่ะ"
มิกิไม่ได้มีตกใจนอกจากพึมพำเบาๆว่า 'กะแล้ว' ดูเหมือนยัยเพื่อนคนนี้จะคิดอะไรอยู่ในใจแต่ไม่ยอมบอกฉันแน่ๆ
"ช้าไปนะสำหรับแกสองคน"
"หมายความว่าไงอ่ะ?"
ฉันก็ไม่ได้โง่นะแต่ฉันกลับไม่เก็ตในคำพูดของมิกิเลยสักนิดเดียว
"ผู้หญิงผู้ชายก็เหมือนน้ำมันกับไฟ น้ำมันหกเมื่อไหร่ไฟก็ลุกเมื่อนั้น"
ฉันลองคิดตามคำพูดยัยคนฉลาด ถ้าเปรียบฉันเป็นน้ำมัน วิคเตอร์ก็คงเป็นไฟ พอน้ำมันแบบฉันหกปุ๊ปไฟก็ลุกพรึ่บทันที
...อืม เหมือนสถานการณ์ของฉันกับเขาเปี๊ยบเลย
"แกกังวลอะไร?"
"ฉันมองหน้าเขาไม่ติด"
"แล้วรายนั้นเป็นไง"
"ไม่รู้อ่ะ ฉันหลบหน้าเขามาเป็นอาทิตย์แล้ว"
ใครจะไปเชื่อว่าคนอย่างฮันนี่จะขี้ขลาดแบบนี้ ตอนนี้ฉันขี้ขลาดจนรู้สึกรำคาญตัวเองเหมือนกันที่ต้องทำตัวหลบๆซ่อนๆ คอยหวาดระแวงกลัวว่าวิคเตอร์จะโผล่มา
...ถึงจะอึดอัดที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่การเจอหน้าวิคเตอร์เป็นสิ่งที่น่าอึดอัดยิ่งกว่า
"ถ้าฉันเป็นแกฉันก็คงหลบเหมือนกัน"
"ฉันควรจะทำยังไงดีอ่ะแก"
เมื่อไหร่ที่มิกิเงียบนั่นแสดงว่าเธอเองก็ไร้คำตอบเหมือนกัน ขนาดคนฉลาดแบบยัยนี่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงแล้วฉันจะเหลือหรอ
...ไม่รู้ว่าจะต้องหลบหน้าเขาไปถึงเมื่อไหร่ แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
"แกลองทำตัวปกติดูสิ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
เป็นความคิดที่ดี แต่ตราบใดที่ใจเราไม่บริสุทธิ์ฉันจะกลับไปเป็นเพื่อนกับเขาอย่างสนิทใจได้ยังไง แถมเรื่องคืนนั้นยังตามหลอกหลอนฉันทั้งวันทั้งคืนจนประสาทจะเสียอยู่แล้ว
...แค่มีอะไรกับเพื่อนตัวเองทำไมมันเครียดอย่างนี้เนี่ย!
"ฉันทำไม่ได้อ่ะ"
จะให้ฉันเสนอหน้าไปหาเขาและพูดคุยสนิทสนมแบบเดิม ในเวลานี้มันยากมากสำหรับฉัน อีกอย่างฉันไม่รู้ว่าวิคเตอร์จะคิดยังไง ในสายตาเขาฉันคงกลายเป็นคนใจง่ายไปแล้ว
"เรื่องวิคเตอร์ช่างก่อนเหอะ ดูนู่น"
มิกิพยักเพยิดไปทางด้านหลังทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะมองตาม สิงห์ถือกุหลาบช่อใหญ่เดินตรงมาทางนี้ เขาฉีกยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้ แต่ขอโทษนะ...ทำไมฉันถึงรู้สึกรังเกียจรอยยิ้มนั้นของเขาจัง
"ตัวเอง เขาซื้อกุหลาบมาให้"
ฉันรับสิ่งที่อยู่ในมือเขาแบบไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงเขินอายจนยิ้มแก้มปริ แต่ตอนนี้ความรู้สึกฉันมันเปลี่ยนไปแล้ว
...เปลี่ยนไปมากจนฉันรู้สึกว่าความสัมพันธ์เละเทะนี่ควรจะจบไปสักที
"สิงห์ มาคุยกันหน่อย"
เขาพยักหน้าแต่ก็เดินตามฉันมาถึงที่เงียบๆซึ่งเป็นใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าตึกเรียน ฉันยืนกอดอกและคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาเงียบๆ มันคงถึงเวลาที่ฉันควรจะเด็ดขาดสักที
"บอกข้อเสียฉันมาซักสามอย่างได้ป่ะ"
"ตัวเองไม่มีข้อเสียหรอกนะ"
"ถ้าฉันไม่มีข้อเสียแล้วทำไมนายถึงไปมีคนอื่น"
เพราะที่ผ่านมาฉันไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขาสักครั้ง แถมยังปิดหูปิดตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมาตลอด นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันเอ่ยปากพูดเรื่องนี้ สิงห์พอได้ยินจึงดูตกใจไม่น้อย
"ตัวเองกำลัง..."
"เข้าใจผิด ไม่! ฉันรู้ฉันเห็นมาตลอด แต่ฉันแค่ไม่พูด ฉันกินข้าวไม่ได้กินหญ้าแล้วก็ไม่ได้มีเขางอกบนหัว!"
สิงห์ร้อนรนกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด แต่ฉันไม่สนและไม่เเคร์อะไรอีกแล้ว ฉันเหนื่อย ฉันเบื่อ ฉันไม่อยากยื้อคนที่ไม่แม้แต่จะแคร์ความรู้สึกฉันอีกต่อไป ในเมื่อเขาอยากมีคนอื่น ฉันก็จะสงเคราะห์โดยการจบความสัมพันธ์นี้ให้
"ตัวเอง ฟังเค้าก่อนนะ..."
"ฉันไม่อยากฟังคำโกหกอีก แล้วเราเลิกกันเถอะ!"
"ตัวเอง!"
ฉันก้าวเดินออกมาจากตรงนั้นโดยไม่สนคนที่กำลังตะโกนเรียกอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีน้ำตา ไม่มีแม้แต่ความเสียใจ กลับกันฉันดันรู้สึกโล่งอกซะงั้นที่ตัดคนแบบเขาออกจากชีวิตได้...ถ้ารู้ว่าตัดเขาแล้วสบายใจแบบนี้คงบอกเลิกไปตั้งนานแล้ว
"ทำใจได้รึไง"
...เอ๊ะ! เสียงนี้ทำไมมันคุ้นๆ