พอลพาหนูบัวมาที่ห้างสรรพสินค้าของซีโน่เพื่อนสนิท แล้วลากหญิงสาวมายังร้านเสื้อผ้าชื่อดัง ที่ตนเองมาซื้อเป็นเพื่อนมารดาและน้องสาวประจำ
ในร้านนี้มีสินค้ามากมายล้วนแต่ราคาสูงทั้งนั้น เพราะเป็นร้านแบรนด์เนม หนูบัวเดินตามพอลเข้ามาในร้านด้วยอาการเซ็ง ๆ ที่เขาไม่ยอมบอกอะไรเลยเอาแต่ลากเธอมาอย่างเดียว
“พี่พอลพาหนูบัวมาที่ร้านเสื้อทำไม”
หนูบัวเดินมายืนตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วถามเขาออกมาด้วยหน้าตาและท่าทางที่บ่งบอกได้ว่า เธอเริ่มจะไม่ชอบพฤติกรรมของเขา ถ้ายังถามอะไรไม่ตอบ เธอได้ระเบิดอารมณ์ออกมาแน่
“พี่พามาเปลี่ยนชุดใหม่” พอลพูดออกมาอย่างใจเย็นเขาแทบไม่อยากพาเธอลงมาจากรถเลย เพราะระหว่างทางที่เดินมามีแต่คนมองหนูบัวทั้งนั้น เขาไม่ชอบสายตาของผู้ชายพวกนั้นมันน่าเกลียด
“เปลี่ยนทำไมคะ ชุดนี้ก็ไม่เห็นเป็นอะไร” หนูบัวทำหน้างงกับคำตอบที่ได้จะให้เธอเปลี่ยนชุดทำไม ก็ชุดที่ตนเองใส่มันไม่ได้น่าเกลียดออกจะสวยด้วยซ้ำ เธอซื้อมาตั้งแพงเห็นสั้น ๆ แบบนี้ราคาหลักพันทั้งนั้น หนูบัวก้มลงไปมองชุดที่ตนเองใส่แล้วหมุนตัวอย่างน่ารักให้พอลดู
“พอ ๆ เลิกหมุนได้แล้ว พี่บอกให้เปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน”
พอลไม่อยากจะมองความน่ารักของเธอนาน ๆ เดี๋ยวจะใจอ่อนทำตามที่เธอต้องการ อย่างไรหนูบัวก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาไม่มีทางให้เธอใส่ชุดนี้อีกแน่นอน
“ก็บอกมาก่อนสิว่าให้หนูบัวเปลี่ยนทำไม” หญิงสาวยังไม่ยอมแพ้ ยืนจ้องหน้าเขาแบบต้องการเหตุผลที่ให้เปลี่ยนชุด ถ้าไม่มีเหตุผลพอเธอก็จะไม่เปลี่ยนเด็ดขาด
“เฮ้อ ก็ได้ คือพี่ไม่ชอบเวลาที่มีคนมามองหนูบัวแบบนี้ สังเกตบ้างไหมเวลาที่มีคนมองเขามองหนูบัวแบบไหน ดูสิเสื้อก็เปิดไหล่แถมยังสั้นจนเห็นสะดือ กระโปรงก็สั้นแทบจะเห็นก้นอยู่แล้ว”
พอลอธิบายออกมาด้วยน้ำเสียงดุ ๆ ทั้งสีหน้าท่าทางบ่งบอกได้ว่าเขาไม่พอใจมาก หญิงสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็แอบเขินขึ้นมา เธอรู้สึกเหมือนเขากำลังหึงหวงตนเองเลย
“หึงหนูบัวเหรอคะ” หนูบัวส่งสายตาล้อเลียนมาให้พอล เธอรู้สึกชอบใจไม่น้อยที่เขามีปฏิกิริยากับการแต่งกายของตนเอง
รู้แบบนี้เธอน่าจะนุ่งน้อยห่มน้อยมาตั้งนานแล้ว พี่พอลของเธอจะได้หันมาสนใจบ้าง หญิงสาวยิ้มให้กับคนตรงหน้าที่กำลังยืนหน้าแดงหาคำแก้ตัวแทบไม่ทัน
“เปล่าพี่ไม่ได้หึง จะหึงได้ยังไงพี่ไม่ได้คิดกับหนูบัวแบบคนรักสักหน่อย แต่พี่เห็นหนูบัวเป็นน้องสาวเวลาที่มีใครมองแบบนั้นพี่ก็ต้องไม่ชอบเป็นธรรมดา จริงไหม” คนหล่อพยายามแก้ตัว ไม่ยอมรับง่าย ๆ ว่าอาการที่ตนเองกำลังเป็นอยู่นั้นคือหึงหวง แต่เป็นเพราะเธอคือน้องสาวอีกคนของเขา ไม่แปลกที่ตนเองจะรู้สึกไม่ชอบการแต่งตัวของหนูบัว
“อืมค่ะ หนูบัวเชื่อก็ได้”
หนูบัวไม่อยากจะเถียงกับคนปากแข็งเลยยอมพูดว่าเชื่อ แต่จริง ๆ เธอไม่ได้เชื่อหรอกอาการของชายหนุ่มมันแปลก ๆ อย่างไรชอบกล แต่ก็เอาเถอะค่อยเป็นค่อยไปแล้วกัน
วันนี้ไม่รัก พรุ่งนี้ก็ต้องรัก หนูบัวคิดอย่างมาดมั่นในใจ
“โอเคถ้าเข้าใจก็ดีแล้วงั้นไปดูว่าจะซื้อชุดไหนแต่เอาแบบเรียบร้อยนะ ไม่เอาสั้น ๆ แบบนี้อีกเดี๋ยวพี่จ่ายเอง”
พอลยิ้มออกมาอย่างพอใจในคำตอบที่ได้จากสาวน้อย แล้วบอกให้เธอไปเลือกชุดแต่ก็ยังไม่วายสั่งให้เธอเลือกชุดที่เรียบร้อยอีก
“ค่า คุณผู้ชาย”
หนูบัวทำท่าทางน่ารักประชดชายหนุ่ม ที่กำลังอมยิ้มมองกิริยาของเธอ จากนั้นก็เดินไปเลือกเสื้อผ้ามาสามสี่ชุด แล้วเข้าไปลองในห้องแต่งตัว แต่ทุกชุดที่เธอใส่ออกมาให้พอลดู ชายหนุ่มบอกว่ามันไม่โอเคเพราะแต่ละชุดที่เธอเลือกล้วนมีความเซ็กซี่อยู่ในตัว ไม่เปิดบนก็เปิดล่างจนหญิงสาวเหนื่อยใจแล้วให้เขาเป็นคนเลือกเอง
พี่พอลเลือกชุดไหนหนูบัวก็จะใส่ชุดนั้น
ประโยคสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองจะจบการซื้อเสื้อผ้า
หลังจากที่ซื้อเสื้อผ้าและเปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อย พอลก็พาหนูบัวไปทานข้าวที่ร้านอาหารชื่อดัง เพราะตอนนี้มันเป็นช่วงบ่ายแล้วแต่ทั้งสองคนยังไม่ได้กินข้าวกันเลยมัวแต่เลือกชุดอยู่ตั้งนาน
พอลถือถุงเสื้อผ้าหลายใบเดินเข้ามาในร้านอาหารอย่างอารมณ์ดีต่างจากหนูบัวที่ทำหน้าหงิกหน้างอ ไม่ชอบเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มเลือกให้แต่ก็ต้องยอมใส่เพื่อความสบายใจของเขา
“เชิญครับ” พอลเลื่อนเก้าอี้ให้หนูบัวนั่ง หญิงสาวเดินไปนั่งด้วยท่าทางงอน ๆ ปากยื่นออกมานิด ๆ แต่มันกลับดูน่ารักในสายตาของชายหนุ่ม เขาอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ให้กับหน้าตาของเธอตอนนี้จริง ๆ เหมือนเด็กที่โดนขัดใจไม่มีผิด
“พี่พอลไม่ต้องมาอมยิ้มเลยนะ” หนูบัวเห็นสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มแล้วรู้สึกอยากเข้าไปข่วนหน้าหล่อ ๆ ของเขาเหลือเกิน คนอะไรเอาแต่ใจชะมัด
“พี่ไม่ได้ยิ้มสั่งอาหารดีกว่าจะได้อารมณ์ดี” พอลรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วสั่งอาหารหลากหลายชนิด เพื่อเอาใจสาวน้อยที่ยังคงทำหน้างอนตนเองไม่เลิก
“ค่ะ เห็นแก่พี่พอลหรอกนะถึงยอมใส่ชุดแม่ชีนี้ ดูสิกระโปรงก็ยาว เสื้อก็ปิดถึงคอ แขนเนี่ยยาวปิดทุกรูขุมขนเลย” หนูบัวพูดออกมาแบบประชด เธอไม่ค่อยชอบใส่ชุดที่มิดชิดขนาดนี้เท่าไหร่ มันดูเหมือนมนุษย์ป้ามากไป ไม่รู้พี่พอลของเธอคิดได้ยังไงถึงเลือกชุดนี้มาให้ตนเองใส่
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” พอลหัวเราะออกมาอย่างขบขันกันกับท่าทางประชดประชันของสาวน้อย เขารู้สึกเอ็นดูหญิงสาวเหลือเกิน คนอะไรไม่รู้ทำท่าประชดแล้วยังน่ารักอีก
ตลอดเวลาที่ทั้งสองคนทานข้าวด้วยกันชายหนุ่มแอบมองหน้าของหนูบัวอยู่ตลอด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนกินอาหารได้เยอะเท่านี้มาก่อน นอกจากน้องสาวของตนเอง แม้กระทั่งน้ำฟ้าเพราะเธอจะกินนิดเดียวเพื่อคุมน้ำหนัก ต่างจากคนตรงหน้าที่ดูจะไม่สนใจอะไรเลย กินได้แบบคุ้มค่ามาก พอลอมยิ้มมุมปากให้กับความเรียบง่ายสบาย ๆ ของ หนูบัว
ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินจะกลับไปที่รถ หนูบัวเห็นร้านของหวานตกแต่งด้วยสไตล์น่ารักจึงชวนพี่พอลของเธอเข้าไปข้างใน พอลเดินตามหนูบัวเข้าไปในร้านอย่างไม่เกี่ยงงอน เพราะอยากตามใจเธอบ้างหลังจากที่หนูบัวตามใจตนเองแล้ว
ทั้งสองคนจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วสั่งของหวานมากิน มีทั้งเค้ก บิงซู มาการอง และอีกหลากหลายอย่าง พอลได้แต่นั่งมองหนูบัวกินเพราะตนเองนั้นกินเข้าไปไม่ไหว แค่อาหารเที่ยงมันก็แน่นท้องไปหมด ถ้าต้องกินของหวานอีกเขาต้องอ้วกออกมาแน่ ๆ
“อร่อยมากเลยค่ะ พี่พอลกินไหม” หนูบัวยิ้มออกมาจนตาหยี เธอชอบกินของหวานมาก เวลาโกรธถ้าได้กินอาหารเหล่านี้เข้าไปอารมณ์ก็จะเย็นลงทันที
“ไม่แล้วครับ พี่อิ่มมาก” พอลรีบปฏิเสธความหวังดีของสาวน้อยตรงหน้า ไม่รู้เธอเอากระเพาะมาจากไหนถึงได้กินเยอะขนาดนี้
“อ้าวพอล” เสียงของซีโน่ที่เดินเข้ามาทักพอล ชายหนุ่มมาซื้อมาการองกลับไปให้มารดาเห็นพอลพอดีจึงเดินเข้ามาหา
“อ้าวไอ้โน่มาซื้ออะไรเหรอ” พอลเงยหน้าขึ้นมามองซีโน่ที่เดินเข้ามาทักตนเอง เขากับเพื่อนไม่ค่อยได้เจอกันเพราะยุ่งเรื่องงานแต่ถ้าช่วงไหนที่ว่างก็จะนัดเจอกันเป็นประจำ
“มาซื้อมาการองให้คุณแม่ แล้วนี่มึงมากับใคร”
ซีโน่เดินไปนั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ หนูบัวแล้วหันมาส่งให้ยิ้มให้เธอแบบหล่อ ๆ จนพอลรู้สึกตงิด ๆ ในใจไม่ชอบที่เพื่อนสนิทมายิ้มให้กับหนูบัวแบบนี้
“สวัสดีครับสาวน้อย พี่ชื่อซีโน่นะครับเป็นเพื่อนของพอล”
พอลยังไม่ทันจะแนะนำหนูบัวให้ซีโน่ได้รู้จัก ชายหนุ่มกลับแนะนำตนเองให้เธอรู้จักเสียก่อน หนูบัวจึงส่งยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตรแล้วยกมือขึ้นมาสวัสดีซีโน่ทันที
“สวัสดีค่ะพี่ซีโน่ หนูชื่อหนูบัวค่ะ” หญิงสาวแนะนำตนเองให้กับซีโน่ได้รู้จักบ้าง เธอไม่ได้หันไปมองพอลสักนิด ว่ากำลังทำหน้าแบบไหน เพราะตอนนี้ชายหนุ่มนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวด มองภาพหนูบัวกับซีโน่คุยกันอย่างไม่ชอบใจ
“ว้าว ชื่อหนูบัวเป็นแฟนของพอลเหรอ”
ซีโน่ยิ้มออกมาอย่างชอบใจ เขารู้สึกถูกชะตากับสาวน้อยตรงมากจึงลองสอบถามสถานะของเธอเผื่อโสดจะได้จีบ
“ตอนนี้ยังไม่ใช่ค่ะ แต่อนาคตก็ไม่แน่” หนูบัวหันไปยิ้มให้กับพอลที่นั่งทำหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง
หญิงสาวไม่เข้าใจชายหนุ่มทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยเพื่อนอุตส่าห์เข้ามาทักทั้งที
“แสดงว่าตอนนี้ก็โสดนะสิครับ” ซีโน่พอจะเข้าใจในสิ่งที่หนูบัวพูด แต่เขาไม่สนใจเพราะเธอยังไม่ได้เป็นแฟนของพอล ฉะนั้นตนเองยังมีสิทธิ์จีบหนูบัวอยู่ถ้าหากพอลไม่สนใจเธอ
“ค่ะ ยังโสดอยู่” หนูบัวพูดออกมาตรง ๆ ถึงเธอจะชอบพี่พอลแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกับเขาจะไปบอกว่าตนเองมีเจ้าของแล้วมันก็ไม่ได้บอกว่าโสดนะดีที่สุด
“พี่” / “ไอ้โน่ แล้วฟ้าไม่มาด้วยเหรอ” พอลไม่อยากให้เพื่อนสนิทคุยกับหนูบัวอีก จึงพูดแทรกขึ้นมาแล้วถามถึงเพื่อนสาวที่ซีโน่กำลังคุยด้วย เขาไม่ค่อยได้เจอกับทั้งสองคนทำให้ไม่รู้ว่า ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปถึงไหนแล้ว
“ไม่ได้คุยแล้วว่ะ เป็นเพื่อนกันแบบนี้ดีกว่า” ซีโน่ไม่ได้คุยกับน้ำฟ้ามาสักพักใหญ่ ๆ เพราะความคิดความอ่านมันต่างกัน เลยเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นไม่สามารถพัฒนาเป็นอย่างอื่น และตอนนี้เขาก็มีเป้าหมายใหม่แล้วก็คือ หนูบัว
“อ้อ ตอนนี้ฟ้าเป็นยังไงบ้างวะ”
พอลรู้สึกเฉย ๆ มากที่ได้ยินว่าทั้งสองคนเลิกคุยกันแทนที่เขาจะรู้สึกดีใจแต่มันไม่ใช่เลย กลับรู้สึกกังวลขึ้นมา แล้วที่เขาถามถึงเธอเพราะเป็นห่วงในฐานะเพื่อนเท่านั้นไม่ได้มีความรู้สึกอื่นแต่อย่างใด
“ก็โอเคนะ ฟ้าเองบอกว่าไม่ได้ชอบกูเหมือนคนรัก คบเป็นเพื่อนดีกว่า” ซีโน่กับน้ำฟ้าจบกันด้วยดีไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะฝ่ายหญิง ต่างหากที่เป็นคนขอจบความสัมพันธ์ไม่ใช่เขา
“อืม”
พอลไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะหันไปมองหน้าหนูบัวที่ทำหน้าเศร้าขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ชายหนุ่มอยากถามหนูบัวออกมาตรง ๆ ว่าเธอเป็นอะไร แต่ติดตรงที่มีเพื่อนสนิทอยู่ด้วยจึงไม่ถามออกมา
ทั้งสามคนนั่งคุยกันอยู่นานสองนานก็แยกย้าย แต่ก่อนกลับซีโน่เดินมากระซิบข้างหูของพอลว่า เขาชอบหนูบัวรู้สึกถูกชะตาว่าง ๆ จะไปเยี่ยมหญิงสาวที่บริษัท หากเป็นไปได้เขาจะจีบเธอด้วย
จากนั้นซีโน่ก็เดินออกจากร้านไปปล่อยให้พอลรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของเขาอยู่คนเดียว ส่วนหนูบัวเดินไปซื้อเค้กกลับไปฝากพ่อกับแม่เลยไม่ได้ยินที่สองหนุ่มคุยกัน