Ep.1 : เมรัย

2215 Words
“หนูจะไปทำงานทำไม บ้านเราก็มีให้กิน มีให้ใช้อย่าไปเลย อยู่กับพ่อดีกว่าอยากได้อะไรพ่อจะหามาให้” มานพ พยายามเกลี้ยกล่อมลูกสาวของตนเอง “อยากได้ความสำเร็จ อยากลองใช้ชีวิตดู นะคะให้เมลลองทำเถอะ” เมลสาวสวยหน้าคมปนหวาน ยังคงดื้อดึงอยากจะไป “หนูจะไปทำคนเดียวได้ยังไง แล้วนั่นมันร้านเหล้า มีแต่สิงห์ เสือ ไม่เอาพ่อไม่ให้ไป” มานพพยายามห้ามลูกสาวของตัวเองไม่ให้ไปสานต่อร้านของพี่ชายเค้า ที่เพิ่งเสียไปเหลือทิ้งเอาไว้ เพราะร้านที่เหลือทิ้งมันดันเป็นร้านเหล้า “หนูจะโล๊ะทิ้งให้หมด อยากทำเบเกอรี่ อยากเปิดคาเฟ่สวยๆ เหมือนร้านนี้หลุดออกมาจากในนิทาน รูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเหมือนปราสาทในนิทาน แบบนี้สิคะที่ผู้หญิงใฝ่ฝัน เมลจะไปทำค่ะ เมลอยากเป็นเจ้าหญิงในปราสาท พ่อห้ามเมลไม่ได้หรอกค่ะ ปีนี้เมล 24 แล้วนะ เพื่อนเมลเค้าก็มีธุรกิจส่วนตัวกันทั้งนั้น แล้วเมลอยากพิสูจน์ตัวเอง พ่ออย่าห้ามเมลเลยนะ ให้เมลโตด้วยตัวเองเถอะ ตอนนี้เมลมีแค่หายใจเท่านั้นที่ทำเอง” หญิงสาวมีความมุ่งมั่นแรงกล้า ที่ตัวเองจะไปสร้างฝันของตัวเอง แม้ว่าพ่อของเธอจะคัดค้านแค่ไหน “ไม่ได้ พ่อไปยอม ร้านนั้นมันอยู่เชียงใหม่เลยนะ” “ค่ะ หนูจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว พ่อห้ามหนูไม่ได้หรอกนะคะ ให้หนูไปเถอะ” “เมล อย่ามาดื้อกับพ่อ ถ้าหนูไป พ่อจะไม่ให้ตังค์หนูสักบาท หนูไม่มีเงินหนูก็ทำไม่ได้หรอก แล้วอีกอย่างร้านกาแฟ ทำที่กรุงเทพนี่ก็ได้” ใช่สิ่งที่เมลต้องการไม่ใช่แค่ทำร้าน แต่อยู่ให้ห่างเงินของพ่อเธอต่างหาก เธอเบื่อกับการใช้เงินแก้ปัญหาของพ่อเธอเต็มทน และนี่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอหนีออกจากบ้านมา เพื่อทำในสิ่งที่เธอต้องการ @เชียงใหม่ แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอคิด ปราสาทสวยที่ติดกระจกดำทึบ ตอนนี้ยังเปิดทำการอยู่ ที่นี่มีพนักงาน 30-40 ชีวิต ที่รอการมาของเจ้านายคนใหม่ ผู้หญิงสาวสวยมากมายยังทำงานอยู่ที่ร้านแห่งนี้ พอเธอมา หญิงสาวต่างบริการและต้อนรับเธออย่างดี “ยินดีต้อนรับสู่ Castle ของเราค่ะ” “ฉันไม่ได้มาเที่ยว ฉันมาเพื่อรับช่วงที่นี่ ฉันชื่อเมล เป็นหลานแท้ๆของลุงมานัส แล้วฉันก็ต้องการจะปิดร้านนี้” หญิงสาวต้องเชิ่ดหน้าขึ้น เพื่อให้คนอื่นๆคิดว่าตัวเธอไม่ได้มาเล่น แต่ประโยคเดียวของเธอ ทำเอาพนักงาน PR สาวสวยถึงกับทำหน้าเศร้าไปตามๆกัน ไม่นานนักผู้จัดการร้านก็รีบวิ่งออกมาหาเธอ แล้วพาเธอไปที่ห้องทำงานของเจ้านายเก่า ร้านที่นี่คนเที่ยวไม่ได้มากนัก ออกจะเงียบๆด้วยซ้ำ มันทำให้เธอสงสัย. ว่าคนที่นี่อยู่ได้ไงตั้งนานกว่าเธอจะมา “ต้องการอะไรเรียกใช้ผมได้เลยนะครับ” “ฉันต้องการปิดที่นี่ เพื่อทำร้านทำร้านขนม ฉันควรใช้เวลากี่วัน เพื่อให้พวกคุณเตรียมตัว และออกจากที่นี่ไปซะ” คำถามของเมลทำเอาผู้จัดการตกใจหน้าเปลี่ยนสี “พิจารณาใหม่เถอะครับ ที่นี่เราอยู่กันมานาน เราผูกพัน พวกเราทุกคนพยายามสู้ เพื่อให้ร้านนี้อยู่่รอดในทุกๆวัน แม้จะได้เงินน้อย พวก PR ก็ไม่ได้หายไปไหน แม้จะมีของขายบ้างไม่มีบ้าง แม่ครัวก็ยังต้องทำอาหารอยู่ดี ถ้าคุณปิดเท่ากับคุณลอยแพ พนักงาน 30 กว่าชีวิตเลยนะครับ พวกเค้าจะไปทำงานอะไร” “นั่นมันเรื่องของพวกคุณ ฉันให้เวลาถึงแค่สิ้นเดือนนี้ก็แล้วกัน ออกไปได้แล้ว” ประโยคของเมลทำให้ผู้จัดการออกจากห้องไปโดยไม่ได้พูดต่อ เมล Say :: ฉันมองรูปที่ติดอยู่ที่ผนังห้อง ลุงมานัสนี่สนิทกับพนักงานจังเลยนะ ลอยแพพนักงาน 30 กว่าชีวิตเลยงั้นหรอ ฉันเปิดดูทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะ จนไปเจอสมุดจดหนี้ของพนักงานทุกคน “นิค : 45,000.- (ผ่าตัดให้แม่) ทราย : 3,000.- (จ่ายค่าห้อง) ป้าแจ่ม : 7,200.- (ไปหาหมอ) ชื่น : 24,000.- (ผ่าตัดหัวเข่า) ลุงช่วยทุกคนเลยแฮะ” ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าลุงบริหารที่นี่ยังไง แต่ฉันไม่ได้มาเพื่อเปิดร้านเหล้าสักหน่อย ฉันเปิดดูสมุดบัญชีรายรับรายจ่าย ที่ตอนนี้ติดตัวแดงเถือก แล้วมีรายได้เข้ามาแค่หลักพันเท่านั้น แม้ในรูปที่ติดฝาผนังจะมีแขกมากมายมาใช้บริการก็ตาม เอาเถอะบอกไปแล้วนิว่าจะให้ทำถึงสิ้นเดือน ยังไงคืนนี้ฉันก็ต้องหาที่พักก่อน ในคืนแรกนั้นฉันก็พักโรงแรมที่ไม่ไกลจากร้านมากนัก เพื่อจะหาคอนโดหรือบ้านที่หรูหราถูกใจ จนได้มาเจอคอนโดมิเนียมที่เจ้าของปล่อยเช่า ในราคา 25,000 ต่อเดือน ถือว่าแพงมากในต่างจังหวัดแบบนี้ ทุกอย่างในห้องและความปลอดภัยมันดูโอเคมากๆ เสียอย่างเดียวคือมันไกลร้านไปหน่อย แบบนี้เราควรจะต้องมีรถ จะเช่า หรือจะซื้อดีนะ ฉันเลยตัดสินใจซื้อสดรถเอาไว้ขับไปร้าน นี่ยังไม่ทันได้ตกแต่งร้าน เราก็ใช้เงินหมดไปหลายแสนแล้ว แล้วเงินในบัญชีตอนนี้ก็มีเก็บอยู่แค่ไม่เท่าไหร่ โทรไปขอพ่อดีไหมนะ พ่อก็จะหาว่าเราทำไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด พ่อต้องให้ฉันกลับแน่ๆ ตอนนี้เราเป็นเด็กหนีออกจากบ้านโดยสมบูรณ์แบบแล้ว เราจะมาร้องไห้หาพ่อกับแม่ตอนนี้ไม่ได้นะ เค้าจะว่าเราไปไม่รอด ฉันจะไม่ยอมกลับไปเด็กนกน้อยในกรงทองให้พ่ออีกแล้ว “ชีวิตใหม่ อยู่คนเดียว อิอิ ดีจังเลยเชียงใหม่” ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆอย่างมีความสุข อาจจะไม่มีคนรับใช้ทำให้เหมือนที่บ้าน แต่แบบนี้ก็ดีแล้วละ ฉันจะเปิดร้านขนมที่สวยที่สุด ให้ลูกค้าที่เข้ามารู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเลย แต่ทุกอย่างมันมักไม่เป็นอย่างที่เราคิด และความฝันที่สวยงามมักพังลง เมื่อฉันมาดูบริเวรที่ร้านอีกครั้ง รอบข้างมีแต่ร้านเหล้า ทำไมวันแรกที่มาฉันถึงไม่เห็นจุดนี้นะ ไม่มีแม้แต่บ้านคน ไม่มีแม้แต่หอพัก โรงเรียน หรือแม้แต่คอนโด ออฟฟิศ แบบนี้จะขายใครวะ พอเดินเข้ามาในร้าน ที่ตอนนี้ยังไม่เปิด พนักงานมากมายต่างทำหน้าเครียด แล้วเดินเข้ามาหาฉัน “จะปิดจริงๆหรือคะ ป้าจะไปอยู่ไหน” “คือบ้านเค้าพักอยู่ชั้นบนของที่นี่ครับ และอีกหลายๆคนด้วย ป้าเค้าเครียดที่คุณจะปิดที่นี่ เพราะป้าแกยังใช้หนี้ร้านไม่หมดเลย” ผู้จัดการคนเดิมอธิบายให้ฉันฟังถึงความเศร้าเสียใจนี้ “พวกเราไม่มีที่ไปค่ะ แล้วคุณมานัสก็เข้ามาช่วยเราเอาไว้ค่ะ ที่นี่คือชีวิตของเรา อย่าปิดเลยนะคะ พวกเราสัญญาจะตั้งใจทำงานไม่กินเงินเดือนฟรีเลย” PR มามายต่างพูดออกมาเสียงจอแจ ทำยังไงดี ฉันไม่ได้มาเพื่อทำร้านเหล้า ถ้าทำร้านเหล้า พ่อรู้พ่อเอาตายแน่ๆเลย “ฉันไม่ได้มาเพื่อทำร้านเหล้า ฉันมาเพื่อนทำคาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านขนม ร้านเหล้ามันมากเกินกว่าฉันจะกล้าทำ เอาจริงๆคุยกันตรงๆเลยก็ได้ ฉันก็แค่ลูกคุณหนูที่หนีออกจากบ้าน เพื่อพิสูจน์ตัวเองค่ะ ไม่มีความสามารถ ไม่มีแม้แต่ประสบการณ์ด้วย” “คุณจะขายใครครับ คนที่เข้ามาในเวิ้งนี้ ก็มาเพื่อกินเหล้าหรือเที่ยวทั้งนั้น” เออว่ะ เราก็เห็นแล้ว ว่ามันมีแต่ร้านเหล้า “หนูก็ถือซะว่า กอบกู้ร้านที่มันจะเจ๊งนี้ เป็นการพิสูจน์ตัวเองได้ไหม พวกป้าสัญญาว่าจะช่วยหนูจนสุดชีวิตเลย” ป้าคนหนึ่งเดินเข้ามากุมมือฉันไว้ด้วยสายตามุ่งมั่น “พวกเราทุกคนด้วยค่ะ เราก็จะช่วยคุณด้วยค่ะ” แล้ว PR ที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาฉัน “ผมก็จะช่วยคุณด้วย คุณลุงของคุณมีพระคุณต่อพวกเรามากๆ เราอยากจะรักษาร้านนี้เอาไว้ครับ ได้โปรดเถอะนะครับ อย่าทิ้งพวกเราเลย พวกเราอยู่กันที่นี่เป็นครอบครัวไปแล้ว” “ค่ะ” อ๊ากกกกกกก ไปรับปากเค้าทำไมเมลลลลลลลลลลลล เอาวะ เราคนเดียวจะไปเปลี่ยนวิถีชีวิตของมากมายแบบนี้ได้ยังไง มันเป็นการเปลี่ยนใจที่โคตรแย่ แต่หน้าตาทุกคนตอนนี้ ดูมีความมีความหวังขึ้นมาเอาดื้อๆ งานแรกขอบฉันคือการแบกรับ ชีวิตอีก 30 กว่าชีวิตเอาไว้ในมือสินะ “ไม่รับปากนะคะว่าจะทำได้ ฝากตัวด้วยค่ะ ทุกคนเรียกฉันว่าเมลก็ได้นะคะ บอกเลยเกินความคาดหมายของฉันมากๆเลย ฉันเอาแต่ใจ ยังไงก็รบกวนช่วยอดทนกับฉันหน่อยนะคะ” ก็ออกตัวแบบตรงๆเนี่ยแหละ ก็มีคนตามใจตลอด มันเลยติดนิสัยอะ หลังจากนั้น ฉันเริ่มเรียกช่างเข้ามารีโนเวทที่ร้านใหม่ เลือกเฟอร์นิเจอร์ใหม่ จัดการพื้นที่ในร้านใหม่ เพิ่มเวทีสำหรับดนตรีสด ทำบาร์น้ำ ทำทุกอย่างใหม่แทบจะหมด ใช้คำว่าแทบหมดตัวกันเลยทีเดียว ทุกอย่างมันกำลังไปได้ด้วยดี แต่แล้ว....... Rrrrrrr Rrrrrrrr Rrrrrrrrrrrr [ Tang Calling...... ] สายสนทนา “ไงตัง อารมณ์ไหนจ๊ะ โทรหาฉัน โทษทีนะช่วงนี้ฉันยุ่งกับการทำร้านใหม่อะ” [ เสือกไปทำตั้งไกล กูจะโทรมาบอกว่า อีพี่กอล์ฟของมึงอะ มันไปขั่วเด็กปี 4 ว่ะ กูนี่เห็นมากับตา ทร่หน้าโรงหนัง ] “เออ รู้ละ ฉันเลิกจะละ ฉันถึงได้หนีมาไง ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นคนใจอ่อน ฉันจะไม่ยอมให้เค้ามาทำกูเจ็บอีกละ” [ จะอีกละ เอาเถอะ หนีไปถึงเชียงใหม่ขนาดนั้น อีพี่กอล์ฟของมึงคงไม่ตามไปหรอก แล้วสรุปพ่อมึงยอมหรอ ให้ไปเปิดร้านขนม ถึงเชียงใหม่ ] “ร้านเหล้าว่ะ พ่อฉันยังไม่รู้เลยด้วย นี่แหละที่สำคัญ” [ เหี้ยยย!!!! เอาจริงหรอวะ ยากนะเว้ย ไหนจะแขก ไหนจะบริหาร ] “ต้องไหวดิ แวะมาหาฉันบ้างนะแก แล้วอย่าบอกใครว่าฉันอยู่ไหน ฉันไม่อยากให้พี่กอล์ฟหาเจอ อยู่ที่นี่ฉันอาจจะได้เจอผู้ชายหล่อๆก็ได้” [ ขอให้ได้ขอให้โดนจ้าาาาา ร้านเสร็จบอก กูจะรีบไปหาเลย ] “เออ ขอบใจ แค่นี้ก่อนนะ ยังต้องจัดร้านอีกเยอะเลย” [ เดี๋ยวดิวะ อ้าววว อีเมลลล ] จบสายสนทนา ใช่ ฉันกำลังอกหัก แล้วฉันก็กำลังจะหนี ฉันไม่โกรธหรอกนะ แต่ฉันไม่ดีพอเอง ฉันให้ในสิ่งที่เค้าอยากได้ไม่ได้ เค้าจะนอกใจฉันเรื่อยๆก็ไม่แปลก แต่ฉันแค่จะไม่ทนให้เค้ามาอิทธิพลต่อความรู้สึกของฉันอีกแล้ว ไม่ว่าจะนานแค่ไหน พี่ก็ไม่เคยซื่อสัตย์สินะ พอกันที ถือว่าฉันคิดถูกที่หนีมาก็แล้วกัน “พี่นิคตอนนี้ร้านไหน คนเที่ยวมากที่สุดคะ” “ที่นี่ The Mute ใหญ่ที่สุด ไม่มีร้านเล็กๆร้านไหนกล้าเทียบหรอกครับ” พี่นิค คือ พี่ผู้จัดการคนที่คอยแนะนำเรื่องต่างๆให้ฉันตลอด สงสัยต้องไปแอบดูสักหน่อยแล้ว ว่าคนเยอะแค่ไหน อีกด้าน......The Mute “พวกแม่งเอาอีกแล้วววววว แม่งเอ้ย แม่งเสือกเผาหลังไนต์คลับ อย่าให้กูรู้นะว่าใครอะ” หมอกต้องหงุดหงิดอย่างหัวเสียเพราะ ช่วงที่ผ่านมา ที่ไนต์คลับคลับถูกกลั่นแกล้งได้ทุกวัน เพียงเพราะคู่แข่งอิจฉาที่ The Mute คนเยอะขึ้นจากข่าวของเพื่อนสนิท ที่ช่วงนี้ได้ออก Tv บ่อยๆ “พี่หมอกครับ คนของเราจำได้ว่าเป็นคนของร้าน Night” “ร้านเล็กทำไมมันถึงได้กล้าทำวะ เออ มึงไปทำงานตรงนี้กูจัดการเอง” สายตรงถูกโทรเข้าไปหาอัคคี ถึงเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้น เพียงเพราะมีกลิ่นไม่ดีออกมาจากการเผาไนต์คลับครั้งนี้ The Mute เป็นจุดศูนย์กลางของร้านใหญ่เล็กมานานนม ไม่เคยมีเหตุการณ์ร้านเล็กๆกระด้างกระเดื่องมาก่อน เรื่องนี้ไม่ปกติแน่ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD