EP.8 ชีวิตแลกชีวิต
"ถ้าฉันช่วยเธอฉันจะได้อะไร" เเค่ผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ ที่โดนจับมา เธอจะให้อะไรคนอย่างเขาได้ ถามไปอย่างงั้น เพราะเธอก็คงรู้ตัวเองดีว่าสภาพตัวเองตอนนี้ก็เเทบจะเหมือนผู้หญิงขายตัว หรือขายจริงๆ
"...." หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ! นั้นสิ ชีวิตน้อยๆของเธอจะให้อะไรคนใหญ่คนโตอย่างเขาได้ ผักบุ้งได้เเต่นั่งก้มหน้า เม้มริมฝีปากไว้เเน่น มันเเค่วูบหนึ่งที่เธอคิดว่าเขาอาจจะมีน้ำใจบ้าง เเต่นั้นมันก็เเค่เธอคิดไปเอง เขามันก็มาเฟียดีๆนี้เองฆ่าคนเหมือนผักเหมือนปลา เธอจะตายยังไงหรือเป็นยังไงต่อ มันไม่ใช่เรื่องของเขาเเม้เเต่น้อยนิด พอคิดไปคิดมาความน้อยเนื้อต่ำใจก็จุกในอก จนหยดน้ำใสๆค่อยๆไหลลงมา ยากที่จะอดกลั้น
เขามองคนที่นั่งก้มหน้าเงียบก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงของเขานั้นกระนั้นสาวๆในห้องนี้ทั้งที่กลัวเขา เเต่ก็ไม่อาจล่ะสายตาจากคนที่มีใบหน้าราวกลับสวรรค์เสกสรรปั้นมาให้ จมูกโด่งคมรับกับริมฝีปากกยักลึกสีชมพูเข้มอย่างลงตัว กระทั้งดวงตาคมกริบ ที่มองผู้หญิงเมื่อไหร่ เป็นผู้หญิงพวกนั้นต้องหลบตา เเต่ความน่ากลัวนั้น หาสู้ความน่าสนใจในดวงตาสีฟ้าครึ้มนั้นได้ ใบหน้าเกลี้ยงเกลามีหนวดมีเคลาประปราย สีผิวที่ขาวเหมือนหิมะ ทำให้ผู้หญิงยังอาย ทั้งยังพกส่วนสูงมาถึง 190 เซนติเมตร ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ที่พบเจอ ต่างหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ! เขาดูดี..เเต่เขาน่ากลัว!
เขาดูดีเป็นบ้า!
ทุกคนต่างคิดในใจ มองคนเย็นชาที่เดินออกจากห้องนี้ไปด้วยใจเต้นตึกตัก ประหนึ่งเขาจะหยิบปืนมากราดยิงพวกเธออย่างงั้นเเหละ ผิดกับสาวเอเชียร่างบางที่นี่งสะอึกสะอื้นจนโตโยนอยู่บนโซฟาหนังราคาเเพง คนที่คิดว่าเป็นทางให้รอดสุดท้าย เขากลับไม่ได้สนใจใยดีเธอเเม้เเต่น้อย!
"ทุกคนจะทำงานต่อที่นี้ได้...โดยต้องยอมเป็นคนของเจ้าสัว ไม่ใช่ไอ้คนที่ถูกลากออกไปเหมือนหมา" เมื่อมือขวาอย่างอัลล์ที่มีความเย็นชาไม่ต่างจากเจ้านายพูดขึ้น ทุกคนในห้องเงียบกริบ ต่างกลัวตายกันทั้งนั้น
"เเละคงรู้คนที่หักหลังบั้นปลายชีวิตอาจจะเร็วขึ้นมาครึ่งต่อครึ่งตั้งเเต่วันนี้สถานที่นี้จะถูกสร้างขึ้นใหม่ ไม่เกินหนึ่งเดือน ทุกคนจะได้กลับมาทำงานที่นี้เหมือนเดิม ใครไม่ทำทางเราไม่ห้าม เเต่เราก็ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันตั้งเเต่ตอนที่คิดก้าวออกจากที่นี้ คืออะไรนะหรอ ความตายไง!"
"อึก!" ทุกคนในที่นี้ต่างก้มหน้ากลบสายตาเย็นชาคู่นี้
"จับตัวพวกมันไป!" สิ้นเสียงของเขาบอดี้การ์ดต่างพากันเข้ามาลากพวกผู้หญิงนี้ออกไป ต่างกลับอีกคนที่ยังไม่สนใจอะไร เพราะมัวเเต่สะอื้นไห้
"ส่วนเธอ เจ้าสัวบอกว่าให้ตามมา" ขนตาที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาค่อยๆกระพริบตาถี่ๆ มองเจ้าของใบหน้าเย็นชาไม่ต่างจากผู้เป็นนาย ด้วยสายตาสงสัย
ฉันรีบลุกขึ้นยืนทันที ขะ..เขาช่วยฉันหรอ จังหวะที่ฉันลุกขึ้น ฉันก็รู้สึกเวียนหัวทันที จนทำให้ฉันเซน้อยๆ จนได้ค้ำพนังโซฟาไว้ ฉันสะบัดหน้าสองสามทีไล่ความหน้ามืดให้ออกไป ก่อนจะรีบสาวท้าวตามเจ้าของชุดสูทนั้นไป
ฉันจะรอดเเล้วใช่ไหม ฉันยิ้มออกมาน้อยๆ เป็นรอยยิ้มที่ฉันยิ้มออกมาจากใจจริงจากหลายวันมานี้ ตอนที่ฉันเดินลัดเลาะตามเขามา ฉันก็เเอบคิดนะคนอย่างเขาจะช่วยฉันจริงๆหรอ เเต่ก็เถอะ นี้มันเป็นโอกาสที่ฉันจะหนีก็ได้ เเต่ความรู้สึกฉันมันกลับบอกว่า ให้ตามเขาไป หลังจากเดินลัดเลาะตามทางเล็กๆมาตามคนที่เป็นลูกน้องเขา ก็มาเจอรถลีมูซีน จอดอยู่ตรงกลางเเละก็รถยนต์อีกสองคันประกบหน้าหลัง
ฉันบังเอิญหันไปมองคนที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนรถคันหรูด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง บางครั้งก็งง ทำไมฉันไม่วิ่งหนีไปนะ ฉันได้เเต่ยกมือตัวเองมาปิดหน้าขาตัวเองไว้ เพราะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
"ไปขึ้นรถคันนั้น อ่านให้ละเอียด มีสองทางให้เธอเลือก ทำมัน กับ ตาย ไม่ยากใช่ไหม!" ฉันยื่นมือสั่นๆไปรับปึกกระดาษนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ดีกว่าขายตัวเถอะน่ายัยผักบุ้ง ฉันได้เเต่ปลอบใจตัวเอง ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าข้างในคืออะไร ใบหน้าหวานหันไปมองคนที่นั่งหน้านิ่งอยู่บนรถ ก่อนที่เธอจะเดินไปขึ้นรถคันหลังพร้อมมือขวาหน้าน้ำเเข็ง
หลังจากรถออกตัวไปเเล้วเเต่ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าไปไหน เอาวะ สู้อีกสักตั้งจะเป็นไรไป ขอเเค่เธอรอดจากไอ้เเก่พวกนั้นที่ไม่มีทางปล่อยเธอเเน่ๆ เเต่ตอนนี้ฉันอาจมีความหวัง มั้ง.. พอคิดได้ดังนั้น เธอจึงเปิดเเผ่นกระดาษเเล้วตั้งใจอ่านตัวอักษรภาษาอังกฤษทุกตัวอย่างตั้งใจ ผ่านไปเกือบสิบนาที ใบหน้าหวานหันไปมองคนที่ขับรถด้วยความรู้สึกนิ่งอึ้ง
"ให้ ฉะ ฉันเป็นตัวล่อเป้า" ฉันค่อยๆชี้นิ้วใส่ตัวเองอย่างไม่อยากชื่อกับสิ่งที่อ่านมา ชีวิตเธอมันจะไร้ค่าอะไรขนาดนี้กัน นี้คงไม่ต่างจากพวกนั้นจับเธอไปขายตัวเลย นี้เขาไม่ได้จะช่วยเธอ เเต่เขากำลังจะเอาชีวิตเธอ!
"ใช่! เธอต้องเเสดงเป็นเเฟนเจ้าสัว ให้พวกที่คิดจะทำร้ายเจ้าสัวออกมาปรากฎตัวออกมา เรื่องอื่นเธอไม่ต้องรู้ รู้เเต่ว่าเป็นตัวรับกระสุนที่ดีก็พอ!"
"!!"
" สัญญานี้มีเเค่ 1 ปี ถ้าเธอรอดครบ 32 หรือไม่ครบก็เรื่องของเธอ เจ้าสัวจะคืนชีวิตอิสระให้เธอทั้งหมด จะทำมัน หรือจะ ตายตอนนี้!" เสียงเย็นชาเหมือนฟ้าฝ่ากลางอกคนที่นั่งอ้าปากพะงาบๆ ดังขึ้นเลื่อยๆ นี้มันอะไรกัน ทำก็เหมือนตาย ไม่ทำก็ตาย เเค่ฉันเลือกว่าจะตายตอนนี้ หรือเลื่อนไปตายช้าลงเเค่นั้นเอง!
"เธอไม่ตายง่ายๆหรอก งานนี้ไม่ใช่ง่ายๆไม่งั้นคงไม่เป็นเธอ คอนโด รถ เงิน ทุกอย่างที่ต้องทำให้สมจริง เราให้เธอได้หมด เเต่เธอห้ามนอกกฎ ไม่งั้นก็ตายอยู่ดีเเต่เบื้องหลังคือเธอ ต้องซ้อมยิงปืน ซ้อมต่อสู้ทุกอย่าง" เหมือนฟ้าฝ่าลงกลางชีวิตโง่ๆของฉันอีกครั้งหนึ่ง บ้าหรอ! เเละทำไมต้องเป็นฉัน เพราะอะไร คำถามมันตีกันไปหมดในสมองฉันเเล้วตอนนี้
" ทำก็ต้องตาย ไม่ทำก็ตาย ฉันยอมตายตรงนี้เลยดีกว่า"
พรึ่บ! เเกร๊ก!
เเม่เจ้า! ทันทีที่ฉันพูดจบนายหน้าน้ำเเข็งมันหยิบปืนมาจ่อหน้าผากฉันพร้อมจะลั่นไกปืน เเต่ฉันชิงร้องขึ้นมาก่อน ไม่งั้นอีผักบุ้งได้ตายตรงนี้จริงสมพรปากเน่าๆเเน่ๆ
"เห้ยๆ พูดเล่นๆ ทำก็ได้ เเค่เลื่อนเวลาตายออกไปนิดหน่อยให้ฉันได้ทำใจเนาะ!" ฉันยกมือเป็นการยอมเเพ้ พร้อมยิ้มเเหยๆ ให้คนที่มองมาทางฉันด้วยสายตาไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการเอาปืนจ่อหัวฉันเลยสักนิด
" อย่ามาล้อเล่นกับลูกปืน เซ็นชื่อลงไปซะ!" เชื่อเขาเลย เพราะเมื่อกี้ฉันรู้ว่าเขากล้ายิงสมองฉันกระจายจริงๆ ฉันรีบหยิบปากกามาเซ็นชื่อฉันลวกๆ เเล้ววางไว้เกือบตายเเล้วไหมล่ะอีผักบุ้ง!
ฉันนั่งกุมท้องตัวเองเพราะรู้สึกเจ็บนิดๆ วันนี้ข้าวสักเม็ดยังไม่ตกถึงท้องฉันเลย ขบวนรถพวกนี้มากหยุดอยู่หน้าโรงเเรมขนาดใหญ่ คนที่ขับรถข้างๆฉันรีบลงจากรถ เเล้ววิ่งไปทางเจ้านายของเขา ฉันขมวดคิ้วกับการที่บอดี้การ์ดไปยืนขนาบสองข้าง เเล้วมีเจ้าของใบหน้าเย็นชานั้นก้าวขาลงมาจากรถคันหรู เเล้วเดินเข้าไปด้านในโดยไม่หันมองใคร!พร้อมลูกน้องอีกเป็นสิบ
"ตามมา" บอดี้การ์ดที่ยืนประกบฉันสองข้างเดินนำหน้าฉันไปคนหนึ่ง เเล้วเอ่ยให้ฉันเดินตามไป เเละฉันก็ต้องเดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
รองเท้าส้นสูงกระทบกับกระเบื้องราคาเเพงจนทำให้เกิดเสียงดัง จนคนเเถวนั้นมองมาทางฉัน เเล้วหันไปซุบซิบกันฉันมองลิฟต์ที่เขียนไว้ว่า เฉพาะผู้บริหารก่อนจะเหยียดยิ้มนิดๆ เเล้วก้าวตามชายชุดดำเข้าไปในลิฟต์อีกตัว ลิฟต์มาหยุดที่ชั้น 49 ก่อนพวกมันจะเดินออกไปก่อนเเล้วมาหยุดอยู่บานประตูไม้ เเล้วผลักมันเปิดออก
"เข้าไป! อย่าคิดหนี เธอหนีไม่ได้นอกจากเหาะออกไป เดี่ยวมือขวานายจะมาเเจ้งสิ่งที่เธอต้องทำ" มันพูดหน้านิ่งๆ อะไรกันสันนิบาทกินหน้ากันทั้งเจ้านายลูกน้องเลยหรอ ฉันยอมเดินเข้าไปเเต่โดยดี ก่อนที่ประตูบานใหญ่จะปิดลง ฉันหยุดมองห้องที่ตกเเต่งได้หรูหรามากๆ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะทำงาน เตียงนอน ห้องนี้กว้างมากสำหรับคนที่ตัวคนเดียวอย่างฉัน ห้องนี้เดินเข้ามาจะเป็นโถงกว้าง หรือห้องรับเเขกนั้นเเหละ ถัดไปขวามือจะเป็นห้องครัว ในห้องครัวที่มีโต๊ะกินข้าวในห้องครัวมีห้องน้ำหนึ่งห้อง เยื่องเข้ามาอีกนิดประตูดำที่เปิดไว้ เป็นห้องนอน ที่กว้างมากเลยเเหละ ถัดจากห้องนอนมา น่าจะเป็นห้องออกกำลังกาย เเละถัดมาอีกจะเป็นห้องน้ำฉันยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ตื่นเต้นกับความโอ้อ่าอลังการของห้องนี้ เเต่ฉันคิดถึงลูก ที่ไม่รู้ว่าป่านนิจะร้องไห้งอเเงเพราะคิดถึงฉันหรือป่าว! อยู่ๆเเขนขาฉันมันก็ไร้เรี่ยวเเรง ร่างบางนั่งลงกับพื้นอย่างหมดหวัง น้ำตาที่อัดอั้นไว้ ค่อยๆไหลออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ...
"เเม่จะกลับไปหาไบร์ให้ได้" ร่างบางสะอื้นให้จนสติเธอค่อยๆดับไป เพราะความเหนื่อยสะสมของร่างกาย ทำให้ร่างบางทนไม่ไหวจนสลบไป