ไอ้เหี้ย! กูเจอแล้ว ไอ้โม่งวิปริตที่สอยกางเกงในกูบนราวตากผ้า!!
ผมกัดฟันกรอด หนอยแน่ะ ยัยบ้านี่ไม่ใช่สปีชีส์ธรรมดา แต่ต้องบ้ามาก บ้าเข้าขั้นศรีธัญญา ถ้ามันไม่หยุดผมควรจะเรียกบุรุษพยาบาลมาจับกลับไปกินยาระงับประสาทซะดีมั้ย!
“มึงอย่าพูดรุนแรงใส่มันนะ ไอ้ไนท์ คราวที่แล้วไอ้พันเอกด่าชิบหาย สุดท้ายแม่งโดนอีผีฟ้าอะไรนั่นรังควานชนิดที่ว่ามึงตายดีกว่าอ่ะ” ไอ้เต็มสิบกระซิบ แต่ไม่รู้ว่าอีบ้าปลายสายมันหูดีหรือเสียงไอ้เต็มสิบมันดังไป ปลายสายก็เลย...
[ฟ้าได้ยินนะคะ รังควานอะไรกัน คนรักกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิคะ ถ้าโกรธก็ต้องง้อ แต่พี่พันเอกน่ะ ฟ้าเบื่อแล้วก็เลยทิ้งมาหาเทพบุตรสุดหล่ออย่างพี่ไนท์ไงล่ะค่ะ ฮิๆๆๆ]
ผมก็พอเข้าใจไอ้ประโยคสุดท้ายหรอกนะ แต่ว่าไม่ต้องมาง้อกูก็ได้ ปล่อยกูไปเถอะ เวรเอ้ย! ผมไม่คิดว่ายัยคนที่เฝ้าส่งของและบอกรักผมทุกวันจะโรคจิตวิปริตผิดมนุษย์ขนาดนี้
[ทำไมพี่ไนท์เงียบไปล่ะคะ? ฮิๆๆๆ]
“เอาไงดีวะ” ผมหันไปกระซิบไอ้เต็มสิบอย่างต้องการทางออก จะนัดมาดักกระทืบก็ไม่ใช่แนว ยัยบ้านี่ต้องเล่นงานผมกลับแหงๆ ดูอย่างไอ้พันเอกเป็นตัวอย่าง ขืนผมทำอะไรบ้าๆ ขึ้นมามีหวังตายหยังเขียดและกลายเป็นขี้ในบ่อเกรอะให้ยัยผีฟ้านี่ดอมดมแน่ๆ
“มึงบอกไปดิว่ามึงมีแฟนแล้ว” มันว่าทำให้ผมพยักหน้ารับ เออ เข้าท่า อีบ้านี่จะได้ไม่มากวนประสาทผมอีก
“พี่มีแฟนแล้วว่ะฟ้า พี่ขอ...” ผมกำลังจะกล่าวอ้างแต่...
[เป็นชู้ก็ได้ค่ะ ฟ้าไม่ซี ฮิๆๆๆ]
-____-!!! บัดซบ!!
“ไม่ได้หรอกฟ้า พี่ถือ! พี่รักแฟนพี่คนเดียว โอเคนะ วาง!” ผมพยายามตัดบทแต่สกิลชั่วช้าสามานย์ของคนปลายสายยังมิจบแต่เพียงเท่านี้ก็ยัยนี่น่ะ...
[มีได้ก็เลิกได้นี่ค่ะ ฟ้าไม่แคร์]
“ไม่ต้องส่งอะไรให้พี่แล้วนะ เข้าใจ เก็ต?” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดเสียงเย็นเพื่อสร้างความน่าเกรงขาม เอาให้ยัยผีฟ้านี่เลิกตอแยผมได้ก่อนแล้วผมค่อยหาทางเอาคืนลับหลังแบบไม่ให้รู้ตัวเลย คอยดู!
[ฟ้าไม่สน ฟ้าจะเอาพี่เป็น...ตู๊ดดดด]
ผมกดตัดสายไม่ฟังต่อ ยิ่งพูดยิ่งหงุดหงิดชนิดที่ฆ่าคนได้ ยัยผีฟ้านี่ทำให้ชานมไข่มุกแสนอร่อยของผมกลายเป็นของน่าขยะแขยง บังอาจเป็นที่สุด! ผมหันไปสบตาไอ้เต็มสิบทีนึงก่อนจะกัดฟันกรอดๆ
“มึงตัดสายแม่งไปจะดีเหรอวะ เดี๋ยวแม่งก็มา...” ร่างสูงหันมามองผมและพูดเป็นประโยคทว่ายังไม่ทันจบคนตายยากก็กระโดดเข้ามาขวางเส้นทางจราจรของพวกเราทั้งคู่ นัยน์ตาสีฟ้าทะเลกับริมฝีปากบูดเบี้ยวและใบหน้าเรียวที่ทำให้ผมพาลนึกไปถึงประโยคก่อนหน้านี้ของไอ้เต็มสิบ
‘กูไม่มีรูปเค้าหรอก แต่ถ้ามึงเจอหน้า มึงจะรู้ได้ทันทีว่าอีนี่นางฟ้าแน่นอน’
พวกเราสบตากันอยู่นานหลายวินาที ผมมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ความโกรธค่อยๆ ละลายหายไปกับอากาศอาจจะเป็นเพราะดวงหน้าของร่างเล็กที่ยืนจังก้าขวางพวกเราอยู่ไม่ต่างอะไรจากนางฟ้าตกสวรรค์...
แต่ตอนตกสวรรค์ที่ว่า เหมือนมันจะเอาหน้าลง!
เสื้อสีฟ้า กระโปรงสีฟ้า ยันรองเท้าก็สีฟ้า ริ้วรอยเหี่ยวย่นเกินวัยอันจะกล่าว น่าจะราวๆ ยี่สิบปลายๆ ไล่ไปถึงสามสิบ ผมผูกโบว์สองข้างกับท่ายืนกร่างที่ขัดสายตาผมอยู่ตอนนี้ จมูกแหมบแนบไปกับโหนกแก้ม
“พี่ไนท์กล้าดียังไงตัดสายฟ้าค่ะ!!”
ชัดเจน! เปลี่ยน!
ผมหัวเราะเหอะๆ ก่อนจะกวาดสายตาตั้งแต่หัวจรดเท้ามองดูร่างสูงราวร้อยหกสิบต้นๆ ความรู้สึกกรุ่นโกรธก็เข้ามาปะทะกับขั้วหัวใจอย่างรุนแรง ใจเย็นไว้... ไอ้ไนท์ ใจร่มๆ
“คนรักกันควรจะถนอมน้ำใจกันสิ ทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะคะ ฟ้าโกรธมากค่ะ!”
รัก? ใคร? หันซ้ายหันขวาแม้แต่หมาก็ไม่น่าใช่ ใครจะไปรักไอ้คนตรงหน้าได้ลง! ผมพยายามท่องนะโมสังโฆเพื่อสงบสติอารมณ์รักษามาดหล่อๆ นั่นไว้
“ฟ้า พี่บอกว่าพี่มีแฟนแล้ว” ผมพูดเสียงเรียบ
“อย่ามาโกหกฟ้าเลยค่ะ! ฟ้ารู้ ฟ้าเห็น พี่ไนท์ไม่มีแฟนหรอก! เช้าถึงเย็นพี่ไนท์อยู่กับพี่เต็มสิบ ก่อนจะเข้าไปเล่นเกมไพเรทคิงที่ร้านเน็ตคาเฟ่ จากนั้นก็กลับมาเปลี่ยนชุดนักศึกษาใส่บ็อกเซอร์ลายสปองบ็อบแล้วนอน โทรส่งโทรศัพท์ก็มีแค่พ่อแม่น้องกับพี่เต็มสิบ ไม่มีทางที่พี่ไนท์จะมีชะนีที่ไหนมาติดหรอกค่ะ”
“เดี๋ยว... ฟ้ารู้ได้ยังไง!” ผมเบิกตาโต ยัยบ้านี่รู้กระทั่งบ็อกเซอร์ลายโปรดของผม แถมด้วยกิจวัตรประจำวันที่แม้แต่คนที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานอย่างไอ้เต็มสิบยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ!
“ก็ฟ้าบอกแล้วไงคะ ว่าเราอยู่ด้วยกันทุกที่”
“ทุกที่?” ผมกะพริบตาปริบๆ รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ค่อยจะดี -_-;;
“พี่กับฟ้าเราไม่เคยห่างกันเกินสามร้อยเมตรหรอกค่ะ ฮิๆๆๆ ก็เรารักกันนี่คะ”
-___-;;; สต๊อคเกอร์ แบบนี้เรียกสต๊อคเกอร์ใช่มั้ย? ตอบ!
“ยิ่งตอนที่พี่ไนท์สวมผ้าเช็ดตัวลายอุลตร้าแมนออกจากห้องน้ำ แล้วมีน้ำเกาะพราวกับแผ่นอกนะ เซ็กซี่มว๊ากกกกค่า เต็มห้าให้สิบ ฮิๆๆๆ >O“นั่นผัวกูค่ะ อีชะนี!!!”