Ep.1 มีเรื่องปรึกษา

883 Words
​ -ไบรอัน- ย้อนไปวันที่มีอาออกจากโรงพยาบาล 20นาทีก่อนหน้าที่อีริคจะโทรมา "ครับแม่" แม่ของผมโทรทางไกลมาจากอเมริกา [ ไบรอัน ทำอะไรอยู่ลูก ] เป็นคำถามที่แม่จะถามทุกครั้งที่โทรมา และผมก็มักจะตอบท่านด้วยคำตอบเดิมๆทุกครั้งไป "กำลังตรวจบัญชีของผับอยู่ครับ" [ เฮ้ออออออ ! แกก็เอาแต่ทำงานอยู่แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่แม่จะได้อุ้มหลานซะที ! ] ผมทำหน้าเซ็งทันทีที่แม่พูดจบ แต่คำถามของแม่ที่ตามมาทำเอาผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง ! [ ไบรอัน ! ไม่ใช่ว่าแกเป็นเกย์หรอกนะ !?] ชิบหายแล้ว ! หรือแม่จะรู้ !? "แม่ ! พูดอะไรน่ะ ! ผมไม่ได้เป็นเกย์ " ผมรีบปฏิเสธจนลิ้นนี่แทบจะพันกัน ดีหน่อยที่แม่ไม่ได้วีดีโอคอลมา ไม่อย่างนั้นท่านคงจะเห็นพิรุธบนใบหน้าของผมแน่ๆ [ แม่สงสัย ! อายุแกก็เข้าเลข3แล้ว แม่ยังไม่เคยเห็นแฟนแกเลยซักคน แล้วแกจะให้แม่คิดยังไง ? ] ผมยกมือขึ้นกุมขมับ รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีเลย ถึงจะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันแต่แม่ก็ยังเป็นแม่อยู่วันยังค่ำ และด้วยความที่อยากให้แม่ไม่สบายใจผมก็เผลอหลุดปากโกหกออกไป ! "ผมไม่ได้เป็นเกย์ และตอนนี้ผมก็มีแฟนแล้วด้วย ! " [ . . . . . ] โกหกทีเดียว2เรื่องรวดเลยเป็นไง ทั้งเรื่องเป็นเกย์ ทั้งเรื่องไม่มีแฟน ชีวิตช่างบรรเทิง นั่นล่ะครับเรื่องทั้งหมดก่อนที่อีริคจะโทรมาสั่งให้ผมเเอาเสื้อผ้าไปให้อีอา เรื่องที่โกหกแม่ไปแบบนั้น ผมไม่ได้กังวลอะไรเท่าไหร่ เพราะถ้าแม่กลับมาที่ไทยแล้วถามหาแฟนของผม ผมก็จะบอกท่านว่าเราพึ่งเลิกกันไป เห็นไหมว่ามันไม่ใช่ปัญหา แต่ตอนนี้ปัญหาของผมก็คือ. . . ผมสับสนในตัวเอง. . . ! อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าผมชอบอีริค และผมก็เข้าใจว่าตัวเองเป็นเกย์ ! แต่. . . เมื่อผมตัดใจจากอีริคได้ และพยายามมองคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ผมกลับไม่รู้สึกอะไรกับใครเลยซะงั้น !? ผมลองทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นๆ ว่าตัวเองจะรู้สึกตื่นเต้น หรือมีอาการใจเต้นแรงบ้างรึเปล่า แต่นอกจากผมจะไม่มีอาการเหล่านั้นแล้ว ผมยังรู้สึกขนลุกทุกครั้งอีกต่างหาก ตกลงผมเป็นหรือไม่เป็นกันแน่ ผมเริ่มงงใจกับตัวเอง !? ตัดไปตอนมีอาออกจากโรงพยาบาล (เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นพวกคุณคงรู้กันอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น) ระหว่างทางเดินที่เชื่อมต่อกับลานจอดรถ สายตาของผมดันเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนั้น คนที่ชื่อ ' กิ่งกานดา ' หรือที่ผมแอบเรียกเธอในใจว่า ' ยัยหมอโรคจิต ' ' โรคจิต ' ในความหมายของผมไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นโรคจิตนะ แต่เพราะเธอเป็นหมอจิตแพทย์ต่างหาก ผมถึงได้เรียกเธอแบบนั้น พลันความคิดหนึ่งก็วาบเข้ามาในหัวของผม ความสับสนที่กำลังเกิดขึ้นกับผมในตอนนี้ บางทีกิ่งกานดาคนนี้อาจจะช่วยผมได้ ในเมื่อเธอเป็นจิตเเพทย์ "อีริค ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระตัองไปทำ แยกกันตรงนี้นะ" ผมหันไปบอกอีริค ก่อนจะเดินแยกไปอีกทางที่เห็นหมอกิ่งกานดาเดินหายไปเมื่อครู่ หมับ ! " ! " ผมตรงเข้าไปจับแขนยัยหมอโรคจิตไว้ก่อนที่เธอจะเข้าไปนั่งในรถ เธอสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหันกลับมามองผมอย่างตกใจพร้อมกับสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของผม "มีอะไร ! อย่าบอกนะว่าจะตามมาเรียกค่าทำขวัญน่ะ ?" เมื่อตั้งสติได้ยัยนี่มันก็แหวใส่ผมทันที "เปล่า. . .มีเรื่องอยากจะปรึกษานิดหน่อย" ผมพูดเสียงเรียบ เธอก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม "ฉันพักเที่ยงแล้วค่ะ กำลังจะไปกินข้าว คุณต้องไปยื่นบัตรที่ห้องทำบัตรก่อน แล้วเดี๋ยวตอนบ่ายฉันจะกลับมาตรวจให้ตามคิว" พูดจบเธอก็หันกลับไปทำท่าจะเปิดประตูรถ ปึ่ก ! ผมยื่นมือไปดันประตูรถไว้ไม่ยอมให้เธอเปิด จากนั้นก็แย่งกุญแจรถในมือของเธอมาถือไว้ซะเอง "คุณ !" "ฉันไม่มีเวลาว่างมานั่งรอคิวหรอกนะ เอาเป็นว่าจะเลี้ยงข้าวเที่ยงเธอละกัน" พูดจบผมก็เดินนำเธอไปที่รถของผมทันที โดยไม่สนใจว่าเธอจะตามผมมาไหม เพราะยังไงเธอก็ต้องตามผมมาอยู่ดี ก็ในเมื่อกุญแจรถของเธออยู่กับผม "เดี๋ยว !" เธอส่งเสียงเรียก แล้วรีบเดินมาดักหน้าผม ในใจผมคิดว่าเธอคงจะโวยวายใส่ผมแน่ๆ แต่ที่ไหนได้. . . "ขออาหารญี่ปุ่นนะคุณ" "หึ ! เห็นแก่กิน " ผมบ่นเบาๆพอให้เธอได้ยิน ก่อนจะจับมือเธอแล้วกระตุกเบาๆให้เดินตามผมไป - ไบรอัน -
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD