บทที่ 7

1227 Words
“ขอบคุณมากครับ แล้วผมจะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับรางวัลนำจับ ให้นักข่าวช่วยกระจายข่าวนี้ด้วย” พ.ต.ท.พิรุณคลี่ยิ้ม ขณะตอบออกมา “จะไป สน. กันหรือยังครับ ผมอยากทราบผลการชันสูตรศพของปีเตอร์ด้วย” เค้นเสียงบอกไปแล้ว ร่างใหญ่ล่ำสันก็เดินออกจากห้องโถงในทันที พ.ต.ท.พิรุณ มองตามเจ้าพ่อหนุ่มผู้นี้ ยังงุนงงไม่หายคือทำไมไคล์ไม่รู้สึกรู้สากับความตายของปีเตอร์ พาร์กเคอร์ คนที่เป็นญาติของเขา ไม่มีอาการเสียใจให้เห็น นอกจากใบหน้าอันเรียบเฉย ดวงตาคมกริบสงบนิ่งเสียยิ่งกว่าท้องทะเลไร้คลื่นในคืนเดือนมืด ทางด้านของธารา ถึงกับตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว หลังจากแอบได้ยินการสนทนาระหว่างไคล์และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีของปีเตอร์ ตอนนี้ค่าหัวของเธอพุ่งสูงถึงห้าแสนบาท! ‘ครึ่งล้าน’ สำหรับการแจ้งเบาะแสนำจับ ซึ่งแน่นอนว่าทันทีที่มีข่าวออกไป ประชาชนทั่วทั้งพัทยาและทั้งประเทศไทย คงควานหาเธอแทบพลิกแผ่นดิน แต่เธอจะไม่ยอมให้คนพวกนี้จับตัวเธอได้เป็นอันขาด หญิงสาวเปลี่ยนใจเรื่องการออกไปจากบ้านของไคล์ ร่างบางระหงวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องนอน ล็อกประตูอย่างแน่นอน ขบคิดใช้หัวสมองอย่างหนัก ว่าทำอย่างไร เพื่อเอาตัวให้รอดพ้นจากการเข้าไปอยู่ในลูกกรงเหล็ก ซึ่งอาจกักขังเธอไว้ตลอดทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ ไคล์เดินตรงไปยังโรงรถโดยมีไบรอันเดินตามมาติดๆ เพราะนอกจากตัวเขาแล้ว ไบรอันก็ถูก พ.ต.ท.พิรุณเชิญไปให้ปากคำเช่นเดียวกัน เมื่อเดินไปถึงโรงรถ ไคล์ตั้งใจจะเลือกใช้รถสปอร์ตคันสีดำ แต่แล้วก็เห็นเดนิสกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว “เดนิส นายทำความสะอาดรถเสร็จหรือยัง” เดนิสก้าวออกมาจากรถยนต์ พร้อมกับเอ่ยบอกว่า “ยังเลยครับเจ้านาย ผมเพิ่งล้างรถเสร็จ กำลังจะดูดฝุ่นต่อครับ” ไคล์พยักหน้ารับรู้ เปลี่ยนมาใช้รถยนต์คันอื่นแทน เพราะรถสปอร์ตไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการใช้งาน จากนั้นก็ชี้นิ้วไปยังรถยนต์อีกสามคันล้วนราคาแพงลิบด้วยกันทั้งสิ้น ให้ไบรอันเลือกใช้สักคัน สำหรับการเดินทางไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ ทางด้านของเดนิส พอไบรอันขับรถพาเจ้านายออกไปจากบ้านแล้ว ก็เริ่มทำงานที่ค้างต่อ ชายหนุ่มเริ่มทำความสะอาดภายในตัวรถ ดูดฝุ่นเบาะหน้ารถทั้งสองด้าน ก่อนจะย้ายไปดูดฝุ่นที่เบาะหลังบ้าง และนั่นก็ทำให้เขาเห็นคราบบางอย่างที่ติดบนเบาะรถหลายแห่ง “เบาะรถเปื้อนอะไรเนี่ย” เดนิสบ่นอยู่คนเดียว พลางก้มหน้าลงเข้าไปใกล้ๆ เพื่อสังเกตคราบสกปรกดังกล่าว และจากการเพ่งพิจารณาอยู่นานหลายนาที เดนิสก็รู้ว่าคราบดังกล่าวเป็นคราบเลือด! “เลือด?...เลือดของใคร?” เดนิสถามตัวเองด้วยความสงสัย กวาดสายตามองทั่วๆ เบาะรถ รวมทั้งพนักเก้าอี้ด้านซ้ายมือ และก็เห็นว่ามีคราบเลือดเปื้อนอยู่อีกหลายแห่งด้วยกัน เดนิสพยายามใช้ความคิด ใครกันที่เอารถของเจ้านายไปใช้ จนมีคราบเลือดติดมา แต่แล้วก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ตอนธาราวิ่งออกจากรถสปอร์ต “ใช่แล้ว! ผู้หญิงคนนั้นซ่อนอยู่หลังรถของเจ้านาย คราบเลือดพวกนี้เป็นของเธอยังงั้นหรือ? แต่เราไม่เห็นเธอได้รับบาดแผลเลย” หลายคำถามเกิดขึ้นท่ามกลางความสงสัยของเดนิส ซึ่งเป็นคำถามที่เขาไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ และด้วยต้องการรู้ว่าคราบเลือดนี้เป็นคราบเลือดของใคร เดนิสจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเพื่อนๆ ในวงการมืด ซึ่งมีหลายคนที่มีความชำนาญทางการแพทย์ ให้ช่วยพิสูจน์ตรวจหาดีเอ็นเอจากคราบเลือดที่เห็น “พอล...เราต้องการความช่วยเหลือจากนายด่วน!” เดนิสบอกความต้องการของตนเองในทันทีที่ปลายทางรับสายแล้ว “นายต้องการให้เราช่วยเรื่องอะไร” เมื่อคนที่โทรมาบอกความต้องการของตนเองอย่างเร่งด่วน ปลายทางก็เอ่ยถามกลับในทันทีเช่นเดียวกัน “ตรวจหาดีเอ็นเอจากคราบเลือดที่เปื้อนอยู่ในรถของคุณไคล์” คำตอบของเดนิสทำเอาพอลต้องร้องถามเสียงหลง “เฮ้ย! เดนิส คุณไคล์ไม่น่าทำงานพลาด ทิ้งร่องรอยไว้ถึงเพียงนั้น” “ไม่ใช่อย่างที่นายคิด” เดนิสค้านเสียงดังไม่แพ้กัน ก่อนจะเอ่ยถามอย่างคนใจร้อนว่า “นายตรวจหาดีเอ็นเอได้ภายในกี่วัน” “ก็ไม่นานเท่าไร ว่าแต่เกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมา ทำไมถึงมีคราบเลือดติดอยู่ในรถของคุณไคล์ เท่าที่เรารู้มา เสือร้ายอย่างคุณไคล์ พาร์กเคอร์ ไม่เคยทิ้งหลักฐานไว้ให้ใครเห็น ทุกอย่างสะอาดหมดจด ตำรวจตามกลิ่นไม่เจอแม้แต่ครั้งเดียว” ทุกคนในวงการต่างก็รู้ว่าไคล์ พาร์กเคอร์ เป็นมาเฟียร้ายเงียบ หากได้ลงมือทำงานแล้ว คำว่า ‘ผิดพลาด’ จะไม่เกิดขึ้นกับมาเฟียผู้นี้แม้แต่ครั้งเดียว และทุกครั้ง ไคล์ ไม่เคยทิ้งหลักฐานให้ตำรวจตามดมกลิ่นได้ เมื่อจู่ๆ เดนิสมาขอร้องให้ตรวจหาดีเอ็นเอจากรถสปอร์ตของผู้เป็นเจ้านาย จึงสร้างความแปลกใจให้กับพอลเป็นอย่างมาก “เราจะไปหานายเดี๋ยวนี้ แล้วเราอธิบายให้นายฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถของคุณไคล์” เดนิสตัดสายการสนทนา จากนั้นก็ขับรถสปอร์ตออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ มุ่งตรงไปหาเพื่อนรัก ซึ่งจะช่วยตอบคำถามของเขาได้ว่าคราบเลือดที่เห็นนั้นเป็นคราบเลือดของใครกัน! เกือบสามชั่วโมง ที่ไคล์กับไบรอันให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่า พ.ต.ท.พิรุณ จะถามอะไรออกมา ไคล์กับลูกน้องให้การที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ทีมสอบสวนทุกอย่าง และก่อนจะออกจากสถานีตำรวจ เจ้าพ่อหนุ่มก็ไม่ลืมย้ำถึงเงินรางวัลในการนำจับที่เขาได้บอกไว้ตั้งแต่ต้น “ห้าแสนสำหรับคนแจ้งเบาะแส ห้าแสนสำหรับตำรวจที่ทำคดีของคุณปีเตอร์ เจ้านายมั่นใจว่าการตายของคุณ ปีเตอร์มีเงื่อนงำซ่อนอยู่ใช่ไหมครับ ถึงได้ทุ่มเงินมากโขสำหรับงานนี้” ไบรอันเอ่ยถามผู้เป็นเจ้านาย ขณะขับรถออกมาจากสถานีตำรวจแล้ว “ใช่! ไบรอัน เราไม่เชื่อว่าปีเตอร์จะตายด้วยน้ำมือของผู้หญิงบาร์” ไคล์รับคำ ยอมรับว่าเชื่อไม่ลงว่า มาเฟียที่มีลูกน้องคอยล้อมหน้าล้อมหลังเป็นดั่งโล่เกราะกำบังชั้นดี จะมาตายง่ายๆ ด้วยน้ำมือของผู้หญิงตัวเล็กๆ “เจ้านายใช้เงินล่อ เพื่อให้นักสืบที่หิวเงิน ช่วยตามหาเบาะแสของคนร้ายตัวจริงด้วยใช่ไหมครับ” ไบรอันเริ่มอ่านเกมของผู้เป็นเจ้านายออก ว่าเพราะเหตุใดจึงต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากสำหรับการควานหามือมีดที่ฆ่าปีเตอร์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD