ทาสที่ 5
ทำงานล่วงเวลา
“เด็กดี อยากแตกคาปากมั้ยคะ”
หญิงสาวพูดพร้อมกับช้อนสายตามองเจ้าเล่ห์
“อึก…ได้โปรดครับ นายหญิง!!!!”
แค่เนกไทก็หรรษาได้อย่างที่เขาพูดจริงๆ สินะ
หญิงสาวยกยิ้มแล้วเริ่มพันธนาการตัวชายหนุ่มด้วยเนกไทราคาแพง ก่อนจะย้ายตัวไปนั่งตรงหว่างขาของเขา ลิ้นเล็กเริ่มเลียไล้ไปตามส่วนหัวอย่างเชื่องช้า กลิ่นท่อนกายที่เพิ่งปล่อยน้ำไปกระตุ้นอารมณ์ดิบในตัวของทอไหมได้อย่างน่าประหลาด
"ซีดส์ นายหญิง ได้โปรดอย่าทรมานกันแบบนี้เลย''
เขาร้องขอน้ำเสียงอารมณ์เดียวกับคำพูด ใบหน้าหล่อเริ่มบิดเหยเกเพราะความกระสันอยากปลดปล่อย ยิ่งทำให้ทอไหมรู้สึกดีอย่างประหลาด
"เป็นแค่ทาส กล้าร้องขออีกเหรอ!"
อุ้งมือสวยจิกเกร็งไปที่ต้นขาของตุลย์เต็มแรง ความเจ็บจากตรงนั้นยิ่งกระตุ้นความต้องการของชายหนุ่มให้มากไปอี
เรียวปากเลขาสาวเริ่มครอบเอาแกนกายเข้าไปจนหมดลำ ท่อนเนื้อที่ราวกับเต้นตุบในปากส่งให้เธอทำตามเสียงเรียกร้องในใจ ปากร้อนค่อยๆ ดูดกลืนขึ้นลงเป็นจังหวะไม่เร็วมากจนทาสหนุ่มต้องร้องขออี
"แรงๆ ดูดแรงๆ กว่านี้อีก นายหญิง"
คนสวยทำตามอย่างว่าง่ายเพิ่มเเรงและจังหวะการกลืนให้มากกว่าเก่า ในขณะที่ตุลย์เองก็ทนไม่ไหวต้องเด้งเอวสอบสวนขึ้น
"นายหญิง ดูดหัวแบบนี้ผมจะแตกอยู่แล้ว อื้อ"
ได้ยินก็เหมือนว่าสาวสวยยิ่งอยากให้เขารู้สึกมากกว่าเก่า จึงยิ่งดูดดุนมากกว่าเดิมทั้งยังใช้เรียวลิ้นแตะวนไปตามรอบหัวหยักราวกับคนชำนิชำนา
"ซีดส์ นายหญิง ปากคุณร้ายชะมัด"
ได้ยินเสียงครางต่ำก็พลันทำให้ทอไหมร้อนวูบมากกว่าเก่า ความร้อนแล่นพล่านไปทั่วตัว จนมาหยุดอยู่ที่ร่องสาวความร้อนและอยากปลดปล่อยส่งให้ทอไหมเอื้อมมือไปลูบมันอย่างลืมอาย
" อื้ออ"
หญิงสาวหลุดเสียงออกมาอย่างลืมอายเมื่อนิ้วสวยของตัวเองเกี่ยวเขี่ยเม็ดเล็กผ่านชั้นในตัวบาง กลิ่นกายหนุ่มที่ขยับในปากบวกความเสียวซ่านจากร่องรักทำเอาทอไหมใกล้ถึงฝั่ง เร่งจังหวะปากและมือให้มากกว่าเก่า
"อื้อ นายหญิง ผม จะแตกแล้ว...อ๊าา"
เอ็นใหญ่กระตุกหงึกหงักปล่อยน้ำรักขาวขุ่นใส่เต็มปากของทอไหม ซึ่งหญิงสาวก็ยอมกลืนกินน้ำสีนมข้นนี้อย่างเต็มใจ นิ้วสวยหยุดทำหน้าที่ไปแล้วคงไว้ตั้งแต่เขากระตุกนั่นแล้ว ชั้นในจิ๋วที่เปียกชุ่มไปหมด บ่งบอกได้อย่างดีว่าเธอปล่อยความต้องการออกมามากกว่าทุกวันเสีย
"เด็กดี แค่นี้คงยังไม่พอใช่ไหม หืม เจ้าหมาน้อย"
สายตายั่วเย้าและมีอำนาจของทอไหมทำตุลย์กลืนน้ำลายลงคออย่างชอบอกชอบใจ ท่อนกายตึงตัวขึ้นอีกทั้งที่เพิ่งปลดปล่อย และเหมือนหญิงสาวเองก็อยากให้เป็นแบบนั้น อยากครอบครองและกลืนกินอย่างไม่รู้อิ่มถึง ทว่าเหมือนความทอไหมจะยังเอาชนะความกระสันในร่างกายได้อยู่บ้าง ถึงยังไม่ยอมให้เจ้าก้อนเอ็นนี่เข้าไปในตัวทั้งที่นึกอยากได้มากทีเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น ตุลย์นั่งทำงานตามปกติ และทำตัวเป็นปกติเหมือนที่ทอไหมได้ขอร้องเขาไว้เมื่อคืนว่าถ้าอยู่ที่ทำงาน ให้เขาทำตัวเหมือนเดิม และเป็นเจ้านายเธอ ตอนแรกเขาก็แอบไม่พอใจนิดหน่อย แต่พอเลขาสาวอธิบายเหตุผลเขาก็ยอมฟัง
"หืม ให้ทำตัวเป็นบอสตามปกติ??"
"ใช่ค่ะ ไม่อยากให้คนที่บริษัทมองไม่ดี"
"ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ แล้วตอนนี้ผมก็ติดใจลีลาของคุณเอามาก ซะด้วย"
ร่างใหญ่ยิ้มแฉ่งหลังจากที่เสร็จกิจด้วยปากของหญิงสาวหลายรอบ จนตัวเขานั้นเบาสบายเหมือนลอยอยู่บนอากาศ
"ถ้าดื้อฉันจะไม่ยอมเป็นเจ้านายให้คุณนะคะ"
ทอไหมยื่นคำขาดแบบนั้นนั่นจึงทำให้ตุลย์ยอมฟัง
ระหว่างนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานเขาก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืนอย่างอดไม่ได้ ทั้งที่ทำกันไปถึงขั้นนั้นแล้วแต่ทอไหมกลับไม่ยอมให้เขาก้าวล่วงสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปในร่างกายของเธอ
ทำไมกันนะ??? ครุ่นคิดอยู่สักพักก็ต้องสะบัดทุกอย่างทิ้งไป เมื่อเลขาสาวร่างบางย่างกรายเข้ามาภายในห้องทำงานหรู
ก็อกๆ
"เอกสารที่ต้องเซ็นทั้งหมดดิฉันจัดเตรียมไว้ในนี้แล้วค่ะ"
ร่างบางเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงข้ามกับประธานหนุ่ม ก่อนจะวางแฟ้มเอกสารทั้งหมดลงบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ
"วันนี้มีประชุมหรือนัดคุยงานที่ไหนไหมครับ"
ประธานหนุ่มเอ่ยถามเลขาสาวที่มากไปด้วยความสามารถ ทุกอย่างในบริษัทเจ้าหล่อนเป็นคนตระเตรียมและจัดการทั้งหมด เขาเป็นประธานบริษัทกลับมีหน้าที่เพียง รับฟังข้อเสนอ และเซ็นอนุมัติเท่านั้น
"วันนี้มีประชุมบอร์ดผู้บริหารตอนบ่ายสองโมงครึ่งค่ะ" ร่างบางตอบกลับเขาไป เธอลอบมองใบหน้าคมของเขาเพียงแวบเดียว ภาพของเธอและเขาเมื่อคืนฉายซ้ำเข้ามาในโสตประสาทของเธอทันที
เธอพยายามที่จะลืมเรื่องราววาบหวามพวกนั้นแล้วแท้ๆ แต่พอได้เห็นหน้าเขาเพียงเล็กน้อย มันกลับทำให้ใจเธอนั้นเต้นรัว
วันนี้ก่อนจะเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของประธานหนุ่มได้ เธอก็ชั่งใจอยู่นาน เธอไม่กล้าสู้หน้าเขา เธอเขินอายหากเขาจะพูดถึงเรื่องในคืนนั้น
แต่ด้วยภาระหน้าที่ เธอทำได้เพียงสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วเดินนำเอกสารเข้าไปให้เขาในห้องทำงานหรู เธอลอบมองปฏิกิริยาของเขาตั้งแต่ที่เธอย่างกรายเข้ามาภายในห้องทำงานของเขา
เขาพูดคุยกับเธอแต่เขายังคงก้มหน้ามองหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอเลยสักนิด ด้วยเหตุนี้ทำให้ใจเธอชื้นขึ้นมานิดหน่อย อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังคงทำตัวปกติ ไม่ได้เอื้อนเอ่ยถึงเรื่องในคืนนั้นอีก
ตั้งแต่วันนั้นทุกอย่างก็ปกติมาโดยตลอด เธอพบเจอพูดคุยกับเขาเพียงแค่เรื่องงานเท่านั้น จากในตอนแรกที่ประหม่าด้วยใจที่วิตกกังวลแล้วกลัวทำงานพลาด ตอนนี้เมื่อเขาไม่พูดเธอไม่พูด เดี๋ยวทุกอย่างก็จะเลือนหายไปตามกาลเวลาเอง
"คุณทอไหมครับ วันนี้ผมมีประชุมอะไรอีกไหม"
ร่างสูงของประธานหนุ่มเดินออกมาจากห้องทำงานหรูของเขาเดินตรงมายังโต๊ะของเลขาสาวหน้าห้องเพื่อถามตารางงานในวันนี้ของเขา
"วันนี้มีประชุมตอนสี่โมงเย็น และเอกสารของแผนกบัญชีและการตลาดที่ต้องตรวจเช็กอีกนิดหน่อยค่ะ"
เลขาสาวบอกกล่าวตารางงานให้แก่ผู้เป็นนายฟัง ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งชัดถ้อยชัดคำ
"โอเค เตรียมเอกสารการประชุมให้พร้อม หลังประชุมเสร็จผมยังต้องตรวจเช็กเอกสารพวกนี้อีก วันนี้คุณก็อยู่ทำโอทีเป็นเพื่อนผมด้วยนะ"
เมื่อได้ฟังคำบอกกล่าวจากเลขาสาวแล้ว บอกกล่าวให้เลขาสาวอยู่ช่วยเขาเคลียร์งานให้เสร็จภายในคืนนี้
"รับทราบค่ะ"
เธอตอบรับคำสั่งจากประธานหนุ่มและก้มหน้าทำงานต่อไป
18.00 น.
"คุณทอไหมครับเอกสารทั้งหมดคุณเอาไปวางไว้ที่โต๊ะผมแล้วใช่ไหม"
ร่างสูงโปร่งของประธานหนุ่มเดินออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับร่างบางของเลขาสาว เอ่ยถามถึงงานที่มอบหมายให้ก่อนหน้านี้
"ส่วนหนึ่งดิฉันนำไปวางไว้บนโต๊ะของบอสเรียบร้อยแล้วค่ะ อีกส่วนที่เหลือดิฉันจะนำเข้าไปให้ทันทีที่ตรวจเช็กความเรียบร้อยเสร็จค่ะ"
เลขาสาวตอบกลับผู้เป็นนายพร้อมทั้งก้าวเดินตามเขากลับไปยังโต๊ะทำของตน วันนี้มีงานรัดตัว แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอ เธอทำงานได้กระฉับกระเฉงว่องไว เอกสารทุกอย่างเธอเคลียร์เกือบเสร็จหมดแล้ว
พอกลับมาถึงโต๊ะทำงานของตนเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งเลขาหน้าห้อง และเริ่มตรวจตราเอกสารส่วนที่เหลือเพื่อส่งมอบให้ประธานหนุ่มในขั้นต่อไป
ปั๊ก!
ขณะที่ตุลย์กำลังเคลียร์กองเอกสารอยู่ตรงหน้า ยืดเส้นยืดสาย แต่ทว่าครั้งที่ออกแรงบิดตัวกลับมาเกิดพลาดกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะอย่างจัง
ตุลย์จึงถอดเสื้อสูทตัวนอกออกและพับแขนเสื้อขึ้นเพื่อดูแผล เป็นเวลาพอดีกับร่างบางของเลขาสาวเดินนำเอกสารในส่วนที่เหลือเข้ามาให้
"บอสคะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงมีแผล"
ร่างบางเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงตกใจ ก่อนจะรีบนำเอกสารไปวางไว้บนโต๊ะ
"เลือดไหลไม่หยุดเลย เดี๋ยวไหมไปเอากล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้นะคะ"
ร่างบางกล่าวโดยไม่รอคำตอบจากชายหนุ่ม เธอรีบเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลในชั้นภายในห้องทำงานของเขา เธอวางกล่องปฐมพยาบาลลงบนโต๊ะกระจกข้างๆ โซฟาที่เขานั้นนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอจึงเริ่มลงมือทำแผลให้เขา
"โอ๊ย.!.คุณมือหนักมากเลยนะ"
"เอ่อ...ขอโทษค่ะฉันจะเบาแรงลงกว่านี้ค่ะ"
"ไม่เป็นไร คุณมือหนักถูกใจผมมาก"
เมื่อได้ยินแบบนั้นมันทำให้หญิงสาวใจเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก เธอชำเลืองมองหน้าประธานหนุ่มแล้วคิดในใจว่า
'สีหน้าตอนเจ็บของเขามันช่างเซ็กซี่ขยี้ใจเธอเหลือเกิน'
ขณะที่เธอกำลังทำแผลอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็เอ่ยถามเธอขึ้นมา
"นี่ ตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้ว คุณอยากมาเป็นเจ้านายของผมหรือยังครับ"
เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนประหนึ่งลูกแมวเหมียวน้อย นั่นยิ่งทำให้เธอปฏิเสธเขาไม่ลง
"เด็กดี ทำแผลก่อนนะคะ"
หญิงสาว ยิ้มกริ่มแล้วยกข้อศอกของเขาขึ้นมาใกล้กับริมฝีปากของตนพลางช้อนสายตามองเจ้าหมามาโซของตัวเองที่อยากให้เธอเลียแผลให้จะแย่
"อยากได้อะไรไหนพูด"
เธอเริ่มใช้น้ำเสียงดุดันเชิงออกคำสั่ง นั่นทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัว
"เลียแผลให้หน่อยครับ"
ชายหนุ่มขอร้องเสียงกระเส่า หญิงสาวก็ทำตามอย่างว่าง่าย เรียวลิ้นชื้นน้ำลายเริ่มตวัดเลียปากแผลจากอ่อนโยนและเริ่มรุนแรงมากขึ้นจนคนตัวโตรู้สึกปวดแปลบ แต่ยิ่งเจ็บเขาก็ยิ่งตื่นเต้น
"อึก เจ้านายครับ ผมต้องการคุณ"
บอสหนุ่มขอร้องเสียงกระเส่าแล้วเชยคางหยิงสาวขึ้นมาจากปากแผลตรงแขน
"หึ เด็กดี"
หญิงสาวผุดยิ้มมุมปาก และเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกช้าๆ