แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาภายในเต็นท์โดมใสข้างในตกแต่งอย่างหรูหรา แสงที่กระทบดวงหน้าสวยน่ารักปลุกให้เจ้าของร่างบางที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นมา ซึ่งแม้เธอจะตั้งใจอย่างดีว่า อย่างไรเสีย เช้านี้จะต้องตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นให้ได้ แต่ด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทางจึงทำให้เผลอหลับต่อ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนพระอาทิตย์ส่องเข้ามาด้านในเสียแล้ว
“ตายแล้ว! ฉันตื่นสายเหรอเนี่ย พี่เมญ่าตื่นเถอะค่ะ!”
ดวงตากลมเบิกกว้าง ริมฝีปากบางสวยได้รูปอ้าเผยอด้วยความตกใจก่อนหันไปเขย่าตัวปลุก ‘เมญ่า’ ผู้จัดการส่วนตัวของเธอ อายุสามสิบเจ็ดปี ที่ตอนนี้ก็ยังคงหลับไม่ตื่น
“โอย...ตื่นแล้วน้องเรย์ อะไรกันเนี่ย ปลุกทำไม พี่กำลังนอนสบายๆ เลย” เมญ่าโวยวายทันทีเมื่อเห็นว่า ‘เรนิตา’ ปลุกตนเองทั้งที่กำลังนอนฝันหวานอยู่
“สายแล้วค่ะ เรย์อดดูพระอาทิตย์ขึ้นเลย วันนี้ต้องกลับกรุงเทพฯ แล้วด้วย” หญิงสาวโอดครวญทันที เพราะอุตส่าห์หาโอกาสมานอนบนดอยม่อนแจ่ม จังหวัดเขียงใหม่ หลังจากที่มีงานถ่ายโฆษณาจ้างให้เธอมาถ่ายงานถึงสามวันด้วยกัน พอเสร็จงานจึงขอพักเที่ยวเอาแรงก่อนกลับไปเจองานใหญ่เสียหน่อย สุดท้ายก็อดดูพระอาทิตย์ขึ้นจนได้
เรนิตาเป็นดาราสาวดาวรุ่งที่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นช่องเบอร์เล็ก เบอร์ใหญ่ ต่างพากันขายขนมจีบให้เธอไปเซ็นสัญญานักแสดงร่วมช่อง ด้วยใบหน้าโดดเด่นไม่เหมือนใคร รูปตาเฉี่ยวคมแต่นัยน์ตากลับหวานหยาดเยิ้ม ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นสาวหวานที่มีความเซ็กซี่ ซ่อนเปรี้ยว ที่ผู้จัดฯ หลายคนชื่นชอบ
แม้หญิงสาวจะมีส่วนสูงเพียงแค่หนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร แต่ด้วยรูปร่างที่สมส่วน มีโค้งเว้าตามแบบฉบับผู้หญิงในอุดมคติของใครหลายๆ คน จึงทำให้นอกจากเรื่องงานแล้ว เรื่องความรักก็มีหนุ่มๆ มาให้ความสนใจเธอมากไม่แพ้กัน
“ไม่เป็นไรนะน้องเรย์ เดี๋ยวไว้เรามากันใหม่ก็ได้” เมญ่าพูดปลอบใจ แม้ในความเป็นจริงแล้วก็เป็นอันรู้กันว่าคิวงานของเรนิตายาวไปจนถึงต้นปีหน้าเลยก็ว่าได้
“เฮ้อ...ช่างเถอะค่ะ ผิดที่เรย์เองที่ไม่ตั้งนาฬิกาปลุก” ดาราสาวถอนหายใจออกมาอย่างอดเสียดายไม่ได้ แต่จะมัวเศร้าไปก็เท่านั้น ไว้ครั้งหน้าค่อยมาใหม่ก็คงไม่สาย
“ไว้พี่จะหาคิวงานให้น้องเรย์ได้มาเที่ยวที่เชียงใหม่อีกนะคะ” ฝ่ายผู้จัดการก็ได้แต่พูดอย่างเอาใจ
“ขอบคุณค่ะพี่เมญ่าคนอะไรน่ารักที่สุด ถ้าอย่างนั้น วันนี้ เรย์ว่ายังมีเวลา เดี๋ยวเราไปหาอะไรทานในเมืองกันดีไหมคะ” เรนิตาพูดด้วยรอยยิ้ม แค่คิดถึงอาหารอร่อยๆ ทุกอย่างก็ดูจะสดใสขึ้นทันที โลกนี้น่าอยู่ขึ้นเยอะเลย อย่างน้อยวันนี้เธอได้กินอาหารเหนืออร่อยๆ แค่นึกถึงไส้อั่วหอม ข้าวซอยรสชาตเข้มข้น ที่ไม่ได้กินบ่อย ท้องก็เริ่มร้องประท้วง
“โอเคค่ะ ไปอาบน้ำเตรียมตัวกันดีกว่า เรย์หิวแล้ว”
เมญ่าส่งยิ้มให้กับเด็กในสังกัดอย่างเอ็นดู “อย่าลืมสิจ๊ะ เป็นดาราต้องควบคุมน้ำหนัก”
“ค่ะ เรย์เข้าใจ แต่วันนี้ขอตามใจตัวเองหน่อยนะคะ”เรนิตายิ้มให้คนที่ดูแลเธอมาหลายปีอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
เมญ่าเองก็ยอมรับว่าเรนิตาถือเป็นเด็กที่ดีคนหนึ่ง แม้ว่าตอนนี้ อีกฝ่ายจะมีชื่อเสียงมากพอที่จะโบกมือลาตนเองไปหาผู้จัดการคนอื่นที่มีชื่อเสียงหรือดูแลเหล่าศิลปินชื่อดัง แต่เรนิตากลับไม่เคยทอดทิ้งเธอเลย เนื่องด้วยทั้งคู่มีวันนี้ได้เพราะกันและกัน
“โห ร้านนี้คนเยอะมากเลยน้องเรย์ เป็นร้านดังของเชียงใหม่” เมญ่าพูดขึ้นเมื่อขับรถมาถึงหน้าร้านอาหารเหนือชื่อดัง ที่ตอนนี้มีคนต่อแถวรอเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก
“จริงค่ะ เรย์อ่านในรีวิว มีแต่คนบอกว่าที่นี่อร่อยมาก เรย์อยากลองชิมไส้อั่วที่ใส่เห็ดถอบ ต้องอร่อยมากแน่ๆ เลยค่ะ” เรนิตายิ้มหวานในตาเปล่งประกาย เพราะเคยอ่านเจอหลายๆ ที่เขียนบอกว่าถ้ามาเที่ยวเชียงใหม่จะต้องแวะร้านนี้
“งั้นเราจอดทานร้านนี้เลยนะ” ผู้จัดการสาวใหญ่ไม่รอช้า สอดส่ายสายตาหาที่ว่างๆ เพื่อจะจอดรถทันที
แต่พอดาราสาวเห็นว่ามีผู้คนมารอทานอาหารที่ร้านดังเต็มไปหมดกลับนึกอยากจะเปลี่ยนใจไปอุดหนุนร้านเล็กๆ บ้าง
“ร้านดังคนแน่นมาก แต่จริงๆ เรย์อยากอุดหนุนร้านธรรมดาๆ มากกว่า เงินจะได้กระจายไปร้านเล็กๆ บ้างร้านดังคนแทบจะแย่งกันเข้าร้าน แอบเห็นใจร้านเล็กๆ เหมือนกันนะคะ”
ดาราสาวคนสวยพูดอย่างใจคิด แม้ว่าจะอยากกินร้านนี้แค่ไหน แต่ก็อดสงสารร้านเล็กๆ ไม่ได้ เธอเชื่อว่าร้านอื่นๆ ก็คงมีรสชาติอร่อยไม่แพ้กัน แต่อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ถ้าเธอไปเจอร้านเล็กๆ แต่คุณภาพอาหารดี หญิงสาวก็มักจะถ่ายภาพแชร์ลงโซเชียล ถือเป็นการโฆษณาให้ร้านเล็กๆ ฟรีๆ แบบไม่ต้องจ้าง
“อย่าคิดมากน่าน้องเรย์ นานๆ เรามาที อีกอย่าง ถ้าเราไม่ทานร้านนี้ เดี๋ยวใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้วจะไม่ได้ทานสักร้านเลยนะคะ” เมญ่าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอเข้าใจความรู้สึกของเรนิตาดี แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือก เพราะอีกไม่นานจะถึงเวลาต้องขึ้นเครื่องแล้ว
“ก็ได้ค่ะ” เรนิตาว่าง่าย ส่งยิ้มให้ผู้จัดการสาว เพราะก็จริงของเมญ่า หากเธอมัวแต่เรื่องมากมีหวังตกเครื่องแน่ๆ
“สองที่ค่ะ”
เมื่อเข้ามาถึงที่บริเวณตัวร้าน เมญ่าก็รีบจัดการเดินเข้าไปจองโต๊ะกับพนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่ด้านหน้า ซึ่งทีแรก บริกรหนุ่มก็ยิ้มให้ลูกค้าพร้อมตอบรับ
“ได้ครับคุณลูกค้า อาจต้องรอนานสัก...” แต่พอมองไปที่หญิงสาวซึ่งยืนอยู่ด้านหลังลูกค้าที่สนทนาด้วยก็เกิดอาการอึ้ง เบิกตาโต อ้าปากค้าง คำพูดสะดุดลงเท่านั้น
“คุณเรย์ ดารา ใช่ไหม”
“ค่ะ” เรนิตาตอบแค่นั้น
จากนั้น ไม่นานก็มีเสียงฮือฮาจากเหล่าลูกค้าที่ยืนรออยู่หน้าร้าน แน่นอนว่าเรนิตาเป็นดาราดัง ย่อมมีแฟนคลับเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็คงเป็นหลายๆ คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย
“พี่เรย์ใช่ไหมคะ /น้องเรย์/คุณเรย์/คุณเรย์ดาราใช่ไหม”
“พวกเราขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ” ชั่วอึดใจก็มีเด็กสาวอายุราวๆ ยี่สิบต้นๆ สองสามคนเดินมาขอเรนิตาถ่ายรูป
“ได้สิคะ” เรนิตาส่งยิ้มให้กับกลุ่มเด็กสาวด้วยความเต็มใจ
พนักงานสาวของร้านหันไปมองตามเสียงนั้น เมื่อเห็นว่าลูกค้าคนสำคัญมาก็ออกอาการตื่นเต้นดีใจ แล้วรีบวิ่งไปบอกเจ้าของร้านด้านในทันที
“กรี๊ดดด น้องเรย์มาที่ร้านค่ะ!”
จากนั้นก็เห็นสายตาของคนภายในร้านหลายคู่หันมามองทางสองสาวที่ยืนนิ่ง ปั้นสีหน้าไปคนละแบบ
“พี่ว่านะเรย์ไม่ต้องรอคิวนานหรอก เดี๋ยวก็ได้กินละ”
ฝ่ายผู้จัดการสาวใหญ่พูดด้วยความเคยชิน เพราะส่วนใหญ่ร้านอาหารเมื่อเห็นว่าดารานักแสดงมาอุดหนุนก็มักจะอำนวยความสะดวกให้เสมอ ทว่า เรนิตามีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะไม่ค่อยชอบแสดงตนเป็นอภิสิทธิ์ชน เธออยากได้รับการปฏิบัติเหมือนเช่นคนอื่นๆ มากกว่า