ฉันไม่รู้ว่าเขาจะมาที่ตลาดรถทัวร์ตามที่ฉันนัดไว้หรือเปล่าฉันบอกตรง ๆ ว่าฉันไม่คาดหวังเลยว่าเขาจะมาหรือไม่มา ฉันแค่ลองเสี่ยงพูดออกไปก็เท่านั้น ที่ฉันไม่หวังเพราะฉันไม่เห็นสีหน้าของเขาด้วยแหละ และเขาก็เงียบหายไปเลยกระทั่งวันนี้ เป็นวันสุดสัปดาห์ วันที่ฉันนัดเขาไปเดต
"วันนี้คนน้อยนะคะ ว่าแต่คุณหมอจะไปเที่ยวอีกแล้วเหรอคะ"
"รู้ได้ไง" ฉันถามน้ำปรุงออกไปด้วยความประหลาดใจ
"ก็ดูจากการแต่งตัวไงคะ แล้วจะไปเที่ยวไหนเหรอคะ"
"ว่าจะไปตลาดรถทัวร์น่ะ ครั้งที่แล้วพักพิงมาเล่าให้ฟังว่าของกินเยอะเลย" ฉันพูดออกไปตามที่คิดเอาจริง ๆ ฉันก็เพิ่งจะรู้วันนี้เองว่าไอ้ตลาดรถทัวร์ที่ว่านั้นมันมีหลายแห่งแล้วฉันดันไม่ได้บอกเขาว่าเราต้องไปเจอกันที่ไหน เกิดฉันนัดไปที่นี่ แต่เขาไปอีกที่จะทำไง
"แต่พักพิงไม่ได้บอกฉันว่ามันมีหลายที่" พักพิงทำหน้าหงอยลงมาฉันเองก็อดเอ็นดูไม่ได้ จะว่ายังไงก็แล้วแต่ ฉันคิดว่ายังไงเขาก็ไม่มาหรอก
"ไปตลาดรถทัวร์แต่แต่งตัวแซ่บเฟร่อมากเลยนะคะเนี่ย แต่คุณหมอคะพักพิงบอกไว้ก่อนเลยนะว่าตลาดรถทัวร์มันร้อนมาก"
จากที่ฉันค้นหาข้อมูลมาฉันก็คิดว่ามันร้อนมากจริง ๆ นั่นแหละฉันเลยเลือกที่จะใส่เพียงแค่เสื้อแขนกุดคอวีกับกางเกงผ้าเนื้อดีสบาย ๆ ฉันคิดเอาไว้ว่าเขาไม่มาหรอกฉันก็คงไปเดินเล่นนั่นแหละ หาอะไรกิน ซื้อเสื้อผ้า ช้อปปิ้ง อ่อ ฉันเป็นผู้หญิงประเภทที่ว่า เที่ยวคนเดียว ดูหนังคนเดียว กินข้าวคนเดียวได้ ไม่เหมือนกับเพื่อนของฉันทั้งสองคนนั้นต้องมีฉันไปด้วยตลอดไม่งั้นพวกนางจะรู้สึกไม่สนุก
"ดีค่ะ แล้วก็มีร้านนั่งชิลอยู่ตรงท้ายสวนนะคะ ขอบอกว่าบรรยากาศดีมากที่สำคัญเหล้าปั่นอร่อย"
พักพิงบอกฉันแล้วขยิบตาให้ฉันข้างหนึ่งการที่ฉันมีผู้ช่วยแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะเพราะเหมือนกับว่าฉันรู้สึกมีเพื่อนอย่างไรไม่รู้ เมนูเหล้าปั่นงั้นเหรอ น่าลองเหมือนกันเพราะฉันยังไม่เคยลองเมนูเหล้าปั่นเลยสักครั้ง ฉันรับฟังพักพิงที่พูดบรรยายออกมาเป็นต่อยหอยทำให้ฉันพอจะนึกภาพตามได้บ้างว่าอะไรอยู่ตรงไหน กระทั่งเราแยกย้ายกันไปทำงาน และก็ถึงเวลาที่ฉันเลิกงานจนได้
ช่วงเวลาที่ฉันตื่นเต้น และเตรียมตัวผิดหวังในครั้งเดียว ฉันถอดเสื้อกาวน์ออกในตอนที่เดินออกมาจากโรงพยาบาลสัตว์แล้วกดรีโมตเพื่อให้รถหรูของฉันปลดล็อก ฉันพาดเสื้อกาวน์เอาไว้ที่เบาะด้านข้างแล้วก้าวขาเข้าไปในรถ จากนั้นหันมาโบกมือบ๊ายบายให้กับผู้ช่วยของฉัน สองคนก็คือน้ำปรุงกับพักพิง ส่วนมัดมุกฉันจะไปส่งนางที่อะพาร์ตเมนต์ของนางก่อน นางถึงเวลาเลิกงานพอดี
"คุณหมอจะไปเดตกับคุณอชิเหรอคะ" สายตาของเด็กอยากรู้อยากเห็นนี่ปิดไม่มิดเลยจริง ๆ ฉันเพียงแค่ระบายยิ้มบาง ๆ แล้วตอบมัดมุกกลับไปว่า
"เปล่า ฉันแค่จะไปเดินเล่น"
"คุณหมอไม่คิดเปิดใจให้คุณอชิบ้างเหรอคะ คุณเขาชอบ…"
"ฉันกับพี่อชิไม่ได้เป็นอะไรกัน เราเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องที่ดีต่อกัน"
ฉันพอจะรู้อยู่บ้างว่าพี่อชิรู้สึกยังไงกับฉัน แต่ว่าพี่อชิเขาก็รู้ว่าฉันยังไม่พร้อมจะเปิดใจให้ใครทั้งนั้น
"เสียดาย ผู้หล่อ ๆ ดี ๆ แบบนี้หายากนะคะ"
"แล้วเรารู้ได้ยังไงว่าพี่อชิจะเป็นผู้ที่ดี บางทีเขาอาจจะเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนที่ดี แต่อาจจะเป็นแฟนที่ไม่ดีก็ได้นะ" มัดมุกคิดตามที่ฉันพูดแล้วก็ถึงบางอ้อ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฉันขับเข้ามาจอดหน้าที่พักของเธอ
"ขอบคุณนะคะคุณหมอ ขอให้เที่ยวให้สนุกค่ะ"
"จ้าาา~ รีบขึ้นห้องได้แล้วฉันจะอยู่รอดูจนกว่าเธอจะหายเข้าไปในตึก"
มัดมุกพยักหน้าแล้วรีบเดินเข้าไปในตึกของตัวเอง ถึงคราวที่ฉันจะหยิบมือถือมาเปิด Maps ตั้งเอาไว้ว่าจะไปที่ตลาดนัดรถทัวร์ ฉันขับไปตามเส้นทางที่หน้าจอบอกไว้ สักพักก็มาถึงเอาตอนที่พระอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้าไปแล้ว
สถานที่นี้คนค่อนข้างมาก และที่จอดรถก็น้อย แต่เพราะฉันขับรถหรูหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจถึงได้มีที่จอดเฉพาะสำหรับรถแบบฉันเท่านั้น ฉันลงจากรถแล้วเดินออกมาตรงไปยังริมน้ำตามที่ฉันได้นัดพี่แม็กซ์เอาไว้ ฉันเดินไปเรื่อย ๆ ไม่รีบไม่ร้อนพร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ไปด้วยอย่างที่ฉันย้ำกับตัวเองมาตลอดว่าฉันไม่คาดคิดว่าเขาจะ…
"พี่แม็กซ์!"
ฉันแทบจะหยุดก้าวขาเมื่อเห็นว่าพี่แม็กซ์กำลังยืนสูบบุหรี่แผ่นหลังพิงต้นไม้แล้วมองมาที่ฉันอยู่ ฉันไม่คิดว่าเขาจะมาจริง ๆ นะสาบานได้เลย เขามีสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาแต่สายตาที่เขามองฉัน ฉันดูแป๊บเดียวก็รู้ว่าเขากำลังสำรวจเสื้อผ้าที่ฉันใส่ เพราะฉันเคยเห็นสายตาแบบนี้มาแล้วในวันที่เขาพาน้องมาร์โค่ไปรักษากับฉันที่โรงพยาบาลสัตว์ หลายวันเลยนะที่เราไม่ได้คุยกันแต่เขาก็มาตามนัด
ขาของฉันมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นตอนที่เขาก็หันไปดับบุหรี่ในบริเวณที่สถานที่เตรียมเอาไว้ เขาใส่กางเกงยีนกับเสื้อยืดสีดำไม่มีลาย และใส่เสื้อเอาไว้ในกางเกงอีกด้วย ฉันไม่เห็นเขาถือหมวกกันน็อกก็เลยถามเขาออกไป
"รถพี่ละคะ"
"ไม่ได้เอามา"
"แล้วพี่มายังไงคะ" เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วแสดงหน้าจอให้ฉันดูว่าเรียกรถมาจากในแอปแอปหนึ่ง
"มันไม่มีที่จอดรถ" เขาตอบฉันแบบนี้แปลว่าเขาเคยมาที่นี่แล้วงั้นเหรอ ฉันเดินเข้าไปขนาบข้างกับเขาด้วยความดีใจแต่ว่าฉันก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เราสองคนกำลังเป็นไปได้ด้วยดีหรือเปล่า
"พี่มานานแล้วเหรอคะ"
"..." เขาไม่ตอบค่ะ แต่เลือกที่จะเดินไปพร้อม ๆ กับฉันอย่างช้า ๆ จากนั้นเราก็เริ่มเดินดูนั่นดูนี่โดยที่ฉันเป็นฝ่ายพูดไปคนเดียวเสียส่วนมาก แต่ไม่เป็นไรการที่เขาไม่แสดงท่าทีรำคาญฉัน ฉันก็ถือว่าเป็นสัญญาณอันดีแล้วล่ะ
"แล้วน้องมาร์โค่เป็นไงบ้างคะ" ฉันพยายามหาเรื่องจะคุยกับเขา
"ยังฉี่เป็นเลือดอยู่" เอ… ถ้าอย่างนั้นก็อาจจะไม่ได้เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้วมั้ง
"น้องกินน้ำเยอะมั้ยคะ"
"จะมาเที่ยวหรือมาทำหน้าที่หมอ? " ใจร้ายจริงๆ
ฉันเงียบปากในทันทีแล้วถือวิสาสะควงแขนของเขาเสียเลยที่น่าประหลาดใจ และทำให้ฉันมีความหวังมากขึ้นมาอีกก็คือว่า เขาไม่ได้ปัดมือฉันออกจากแขนของเขา
ฉัน…
มีความหวังแล้วใช่ไหม