ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีสามแล้วแต่ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนฐานิตาก็ไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว ความคิดและความรู้สึกมากมายยังคงขับเคลื่อนอยู่ในหัวของเธอไม่หยุดนิ่ง ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันยังติดตาไม่จางหาย ฝังลึกอยู่ในจิตใจ
เหมือนกับความเจ็บปวดตามร่างกายที่ยังคงแสดงชัด ความรู้สึกทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการกระทำ คำพูด มันเหมือนกับว่าพึ่งเกิดขึ้นตรงหน้า ถึงต่อให้จะผ่านมาหลายชั่วโมง จนตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียงภายในห้องของตัวเองแล้วก็ตาม แต่ฐานิตาก็ไม่สามารถที่จะหลับลงได้ง่าย ๆ
เธอนอนไม่หลับกลัวว่าถ้าเปลือกตาปิดลงแล้วจะฝันร้าย ในขณะที่ความกลัวยังไม่จางหาย เธอก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น ปรับเปลี่ยนท่านอนเป็นนั่งขัดสมาธิ ผ้าห่มผืนหนาที่ปกคลุมร่างกายก็ร่วงหล่นไปอยู่บนหน้าตัก เผยให้เห็นชุดนอนสบาย ๆ ที่เป็นแค่เสื้อยืดตัวโคร่งกับ กางเกงขาสั้น แตกต่างไปจากชุดเดรสผ้าซาตินสีขาวให้ความรู้สึกที่แตกต่างชัดเจน
มือเรียวสวย มีรอยช้ำที่ข้อมือเห็นชัดเจน ตอนที่เธอเอื้อมไปหยิบมือถือที่วางอยู่บนลิ้นชักข้างหัวเตียงขึ้นมาเปิดดูเวลา ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว แต่สายตาก็เห็นก็เหลือบไปเห็นกล่องข้อความที่ค้างโชว์อยู่บนหน้าจอด้วยเช่นกัน
ฐานิตาหรี่ตาเล็กน้อย เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับหน้าจอ เพ่งสายตาอ่านเนื้อหาในข้อความโดยไม่ได้กดเข้าไป เพราะเป็นเพียงแค่ข้อความสั้น ๆ ข้อความที่ถูกพิมพ์ส่งมาจากดีรับพรเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับตอนที่เพื่อนของเธอพากลับมาส่งที่คอนโด
‘จะไม่ถามว่าไปโดนอะไรมา แต่พรุ่งนี้ไปซื้อยามาทาด้วยล่ะ’
นั่นเป็นเนื้อหาของข้อความที่ดรัลพรส่งมา ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ได้ว่าเพื่อนสาวของฐานิตาหมายถึงอะไร เธอคงจะรู้แล้วว่าฐานิตาไม่ได้แค่ดื่มจนเมาอย่างเดียว แต่ไปโดนอะไรมาด้วย แม้เลือกที่จะไม่ถามตรง ๆ แต่การที่ดรัลพรบอกให้ฐานิตาไปซื้อยา มันก็แปลว่าฐานิตาปิดบังความจริงเอาไว้ไม่มิด
ซึ่งเธอไม่แปลกใจเลยที่ดรัลพรจะรู้เร็วขนาดนี้ ในเมื่อร่องรอยที่ติดตัวมามันเด่นชัดขนาดนี้
“รู้ทันกันตลอด” ฐานิตาคลี่ยิ้มบาง ๆ เธอรู้ดีว่าดรัลพรเป็นห่วงแค่ไหน และก็ซาบซึ้งที่ยังมีคนเป็นห่วงเธออยู่บ้าง
ถึงต่อให้คนคนนั้นจะเป็นแค่เพื่อนก็ตาม แต่เธอก็ยังดียิ่งกว่าคนในครอบครัวจริง ๆ ของฐานิตาเสียอีก
“ก็ได้...ในเมื่อแม่ไม่อยากให้แยมเรียนต่อ แยมก็จะไม่เรียน...เดี๋ยวมีคนเก่งในบ้านสองคนแล้วมันจะยุ่งเอา”
[นี่แกประชดพี่แกเหรอนังแยม!]
“เปล่า แยมไม่ได้ประชด...แต่ถ้าแม่บังเอิญนึกถึงใครมันก็เป็นเรื่องของแม่นะ”
[เออ! ปากดีเข้าไป! อย่าให้เห็นละกันมาทำให้ฉันกับพี่แกต้องเดือดร้อนหางานให้น่ะ!]
“แม่ไม่ต้องห่วง แยมไม่ทำให้แม่กับพี่เนยต้องเดือดร้อนหรอก...ยังไงซะแยมมันก็แค่ลูกชังจะไปสู้อะไรกับพี่เขาได้ล่ะ”
[เออ! ฉันจะคอยดูว่าแกจะไปได้ดีแค่ไหนกันเชียว!]
หึ...ไปได้ดีแค่ไหนงั้นเหรอ ยังต้องการอะไรจากเธออยู่กันแน่ ทั้ง ๆ ที่พึ่งบอกให้เธอออกจากมหาวิทยาลัยเนี่ยนะ ทีอีกคนให้เรียนจนจบได้ แต่พอเธอ...กลับบอกว่าส่งไม่ไหว
“.....”
“ถามจริงแกยอมง่าย ๆ แบบนี้เลยดิ” คำถามจากหญิงสาวตัวเล็กในชุดนักศึกษารัดรูปเน้นสัดส่วนที่ไม่ได้เล็กเหมือนกับขนาดตัวของเธอเลยสักนิด เอ่ยขัดห่วงความคิดที่เหม่อลอย
ดรัลพรนักศึกษาสาวชั้นปีที่สอง ตอนนี้เธอกำลังตั้งคำถามอย่างก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวของฐานิตา ที่พึ่งวางสายจากแม่ของเธอลงเมื่อครู่ น้ำเสียงของดรัลพรฟังออกอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังรู้สึกสมเพชที่มีต่อฐานิตาอย่างไม่ปิดบัง เรียกให้ฐานิตาหันไปมองอย่างรวดเร็ว
“น้ำหวานนี่แกแอบฟังฉันเหรอ” ฐานิตาถาม นัยน์ตาของเธอวูบไหวเล็กน้อยด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีใครมาได้ยินบทสนทนาที่เธอคุยกับแม่เข้า ทั้งที่เธออุตส่าห์แอบมาหาที่เงียบ ๆ คุย แต่ก็ยังจะมีคนมาได้ยินอีก
แถมยังเป็นดรัลพรอีก ดรัลพรเพื่อนร่วมคณะที่เป็นแค่นั้นจริง ๆ ฐานิตาไม่สนิท แล้วก็ไม่อยากสนิทด้วย
“ก็แค่บังเอิญผ่านมา แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมาได้ยินเรื่องสำคัญของแกเข้าพอดี” ดรัลพรตอบ สีหน้าของเธอแสดงออกอย่างยียวนแต่แฝงเห็นอกเห็นใจ เช่นเดียวกับคำพูดต่อมา “น่าเสียดายเนอะ...ที่แกจะไม่ได้เรียนต่อแล้วอะ”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉันได้ปะ” ฐานิตาชักสีหน้าไม่พอใจ เธอไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องของครอบครัว
“ก็ไม่ได้อยากจะยุ่งเท่าไหร่หรอก...แต่แกน่าสงสารอะ”
“ไม่ต้องมาสงสารฉัน” ฐานิตาพูด เธอกำลังจะเดินผ่านหน้าของดรัลพรออกไปเพราะไม่อยากเสียเวลามาคุยให้อารมณ์ไม่ดีไปมากกว่านี้ แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงก่อน เมื่อดรัลพรเอ่ยบางอย่างที่ดึงดูดความสนใจออกมา
“เอาจริง ฉันช่วยให้แกเรียนต่อได้นะ...โดยที่แกไม่ต้องพึ่งแม่แกเลยด้วย” ดรัลพรเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฐานิตา เธอกับฐานิตามองตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ถ้าแกสนใจ...ฉันช่วยแกได้แน่ ๆ แยม”
“ช่วย?” ฐานิตายกยิ้มหยัน เธอไม่อยากจะเชื่อที่ดรัลพรพูดเลยสักคำ คนที่เกลียดหน้ากันยิ่งกว่าอะไร คนที่เจอหน้ากันเป็นต้องแซะกันตลอด จู่ ๆ ก็อยากยื่นมือเข้ามาช่วยเธอเนี่ยนะ...ประหลาด
“แกจะช่วยจ่ายค่าเทอมให้ฉันหรือไง? ถ้าไม่ก็หลีกไป...รำคาญ”
“หึ...ฉันช่วยแกได้มากกว่านั้นอีก” ดรัลพรยกยิ้ม เธอพูดและมองฐานิตาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างมีเลศนัย
“ยังไง” ฐานิตายิ้มถามอย่างไม่เชื่อ ก่อนที่รอยยิ้มของเธอจะค่อย ๆ จากหายไป เมื่อดรัลพรเอ่ยประโยคต่อมา
“มาเป็นเด็กเอ็นกับฉันสิ หน้าสวย ๆ แบบแกฉันรับรองเลย ว่าแกจะอยู่ได้โดยไม่ต้องง้อแม่แกเลยล่ะ”
นี่มันเกิดคาดสุด ๆ ฐานิตาไม่อยากจะเชื่อหูเลยว่าดรัลพรจะกล้าชวนเธอตรง ๆ แบบนี้ แม้ฐานิตาจะแอบรู้มาว่าดรัลพรทำงานอะไร แต่เธอก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้ามาชวนกันแบบนี้
ตอนนั้นฐานิตาไม่รู้เหตุผลของดรัลพรเลย แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอรับปากไปง่าย ๆ แต่ไม่รู้เลยจนกระทั่งหลังจากนั้น
ฐานิตาก็ได้รู้ว่าที่ดรัลพรชวนเธอ ไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอกำลังหาเด็กในสังกัดหรือว่าอะไรอย่างที่คิด แต่มันเป็นเพราะดรัลพรเหมือนเห็นตัวเองอีกคนในคราบของฐานิตาต่างหาก ฐานิตาที่ครอบครัวมีเป็นหาเหมือนกันกับเธอ โลกเหวี่ยงให้พวกเธอสองคนมาเจอกันด้วยวิธีที่ค่อนข้างจะสุดโต่งไปหน่อย
แต่นั่นกลับเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของฐานิตากลับดรัลพรไปตลอดการส่งผลถึงปัจจุบัน จากคนที่ไม่ชอบหน้ากันกลายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้จัก รู้ใจ พึ่งพากันและกันอย่างครอบครัว เพราะครอบครัวจริง ๆ มันดันไม่ได้เรื่องกันเลยสักคน
ดรัลพร เธอเป็นคุณหนูบ้านรวย มีทุกอย่าง แต่ไม่มีความสุข เพราะพอแม่แท้ ๆ แต่งงานใหม่กับสามีชาวต่างชาติ ฝรั่งตาน้ำข้าวที่สนใจเธอมากกว่าแม่ตัวเอง ทำให้แม่ของเธอหึงหวง กล่าวหาว่าลูกสาวตัวเองเรียกร้องความสนใจจากพ่อเลี้ยง ดรัลพรเลยเลือกที่จะประชดแม่ของเธอ ประชดชีวิตหันหน้าเข้าสู่วงการเด็กเอ็นให้แม่ที่ชอบหาว่าเธอขี้อ่อยอกแตกตายจนถึงทุกวันนี้
ส่วนฐานิตาเธอมีครอบครัว มีพ่อ แม่และพี่สาว แต่โชคชะตากลับเล่นตลก แทนที่เธอจะเป็นลูกคนเล็กเป็นน้องสาวที่ทุกคนเอาใจใส่ แต่กลับกลายเป็นเธอที่ทุกคนไม่เคยเอาใจใส่สักนิด พวกเขาบอกว่าเธอเป็นตัวซวย เกิดมาก็ทำให้ครอบครัวตกต่ำ จากที่เคยมีกินมีใช้ก็หมดตัว ไม่มีใครโทษตัวเองแต่โทษเด็กอย่างเธอ
ผิดไปจากพี่สาวของเธอ ที่โชคดีกว่ามาเกิดตอนที่ชีวิตของพวกเขากำลังรุ่งเรือง พ่อกับแม่ให้พี่สาวเป็นที่หนึ่งมาเสมอ อยากได้อะไรไม่เคยขาด ส่วนลูกคนเล็กแบบเธอ...ต้องอยู่แบบเจียมตัว ห้ามเรียกร้อง ชี้นกก็ต้องเป็นนก แต่ฐานิตาไม่ได้หัวอ่อนขนาดนั้น เธอดิ้นรนคว้าไม่ว่าโอกาสอะไรจะเข้ามา ด้วยลึก ๆ แล้วเธอก็ยังต้องการที่จะพิสูจน์
ว่าลูกสาวที่ถูกมองว่าไม่ดีคนนี้ อย่างน้อยก็ยังมีดีพอ ต่อให้จะต้องใช้เงินทำให้กลับไปอยู่ในสายตาของพวกเขาก็ตาม พวกเขา...อยากให้เขาเห็นเธอบ้างสักวันหนึ่ง