บทที่ 14 ข้อเสนอดี ๆ (ของใคร)

1405 Words
“ว่าธุระของเธอมาสิ” ติณณภพพูด ก่อนที่จะนั่งไขว่ห้างลงบนโซฟาผ้าหนังสีดำหรูหราตัวยาว ก่อนจะช้อนสายตามองไปยังฐานิตาที่ยังยืนอยู่หน้าประตู “คุณติณรู้เรื่องหรือยังคะ” ฐานิตาเม้มปากอย่างกังวล เธอสูดหายใจลึกและถามด้วยความคาดหวัง “แล้วเธออยากให้ฉันรู้เรื่องอะไรล่ะ” ติณณภพถามกลับด้วยคำถามเดียวกัน เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะไขข้อข้องใจของฐานิตาด้วยคำถามอีกครั้ง “ใช่เรื่องที่แม่ของฉันขอให้เราสองคนแต่งงานกันหรือเปล่า?” ฐานิตาตกตะลึง เธอตกใจเมื่อพบว่าติณณภพเองก็รู้เรื่องอยู่แล้ว แต่เขากลับดูเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลย “คุณติณรู้อยู่แล้วเหรอคะ?” ฐานิตาถามเพื่อขอคำยืนยัน ขณะมองไปยังคนที่นั่งอยู่ด้วยท่าทางสบายใจ “อืม...รู้แล้ว” ติณณภพตอบตรง ๆ พร้อมกับมองไปที่ฐานิตาอย่างละเอียดฐานิตา ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ ของเธอเริ่มซีดจาง ริมฝีปากเผยออกเล็กน้อย ขณะที่สายตาของเธอสอดส่ายไปมาด้วยความสับสน “เธอคงไม่คิดที่จะยืนคุยกับฉันแบบนี้ต่อไปใช่ไหม?” ติณณภพถาม เรียกสมาธิของฐานิตากลับมาสู่ความเป็นจริง “ขอโทษค่ะ” ฐานิตารีบขอโทษ ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวเล็กที่แยกออกมา อย่างระวังในระยะห่างของเธอกับติณณภพ “คุณติณจะเอายังไงต่อคะ” ฐานิตาถามด้วยความกังวล “แล้วเธออยากแต่งงานกับฉันไหมล่ะ” ติณณภพถาม พร้อมกับมองฐานิตาอย่างตั้งใจ “ไม่ค่ะ! หนูไม่แต่งแน่ค่ะ!” ฐานิตาตอบเสียงดัง แววตาตื่นตระหนก ราวกับว่าคำตอบนี้เตรียมไว้ตั้งแต่แรก ทำให้ติณณภพยิ้มขำกับคำตอบของเธอ “ทำไมล่ะ? แต่งงานกับฉันมันไม่ดีขนาดนั้นเลยหรือไง” “ไม่ใช่ค่ะ! คือว่า...แค่ในกรณีนี้นะคะ คุณกับหนูเราไม่ได้รู้จักกันด้วยซ้ำ คุณติณเป็นลูกค้า...เราแต่งงานกันไม่ได้หรอกค่ะ” ฐานิตาอธิบาย แอบรู้สึกโล่งใจที่ได้ระบายออกมาบ้าง ในขณะที่ติณณภพยังคงยิ้ม รอยยิ้มที่เย็นชาและฟังฐานิตาพูดต่อไป “แถมคุณเองก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงด้วย ถ้าแต่งไปมันคงจะลำบากใจแปลก ๆ เอาด้วยนะคะ” ฐานิตาพูดต่อ ความสบายใจ ทำให้เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเผลอเปิดเผยความรู้สึกออกไป “หมายความว่าถ้าฉันชอบผู้หญิงเธอก็จะแต่งงานกับฉัน ว่างั้น?” ติณณภพถามกลับ สายตาที่เย็นเยียบของเขา สามารถทำให้ฐานิตาเริ่มรู้สึกไม่ดีได้ทันที “ไม่ใช่นะคะ...เอ่อ...ขอโทษด้วยนะคะ” ฐานิตาอยากแก้ตัว แต่ก็พูดไม่ออกเธอเลยขอโทษออกไปแทน พร้อมหลุบตามองมือที่กุมกันแน่นบนตักตัวเอง “ไม่ต้องขอโทษ เธอจะคิดแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่บางทีเธอก็ควรระวังคำพูดบ้าง” ติณณภพอธิบายด้วยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบ “เอาล่ะ...สรุปก็คือว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับฉันใช่ไหม” ติณณภพถาม “เอ่อ ใช่ค่ะ” ฐานิตาตอบเสียงค่อย พยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับลอบมองติณณภพอย่างเงียบ ๆ “ดี” คำตอบสั้น ๆ ที่ติณณภพให้ ทำให้ฐานิตารู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย เธอรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะถามเขาด้วยความสงสัยอีกครั้ง “แล้วคุณติณจะคุยกับคุณแม่ของคุณติณยังไงเหรอคะ เรื่องที่ว่าเราสองคนจะไม่แต่งงานกันแล้ว” “ทำไมต้องคุย” ติณณภพตอบด้วยคำถาม “ก็คุณติณบอกว่า ดี ไม่ใช่เหรอคะ?” ฐานิตามองหน้าติณณภพ ไม่ปิดบังสายตาเหมือนกันตอนแรก ความงุนงงแสดงออกชัดอยู่บนใบหน้าของเธอ “ใช่ ดี...ดีที่เธอพูดกับฉันตรง ๆ ว่าไม่ต้องการแต่งงานกับฉัน มันทำให้ฉันมั่นใจ...” ติณณภพอธิบาย ดวงตาคู่คมมองสำรวจฐานิตา รอยยิ้มคลี่กว้างกว่าเดิม ก่อนจะพูดต่อ “ว่าเธอไม่ได้จ้องจะจับฉันเหมือนกับคนอื่น ๆ” “คะ? คุณติณหมายความว่ายังไง...” ฐานิตาถามด้วยความวิตก แต่ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกตัดบทเสียก่อน “ฉันอยากให้เธอแต่งงานกับฉัน” “อะไรนะคะ! ทะ ทำไม...ไหนคุณติณบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงไงคะ?” ฐานิตาถามเสียงสั่น เธอไม่เข้าใจว่าทำไมติณณภพถึงเสนอให้เธอแต่งงาน “ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าฉัน ‘ชอบ’ หรือ ‘ไม่ชอบ’ อะไร” ติณณภพพูด น้ำเสียงของเขายังคงเรียบเฉย แต่รู้สึกได้ถึงแรงกดดันในจังหวะการพูด “ตอนนี้เรื่องของเราไม่ใช่เรื่องเล็กอีกแล้ว ทุกคนกำลังจับตาดูอยู่ว่าสะใภ้ของชวลิตหิรัญเป็นใคร ซึ่งก็คือเธอ...แยม” ทุกคำที่ติณณภพพูดออกมา ทำเอาฐานิตารู้สึกหูอื้อ เธอไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว ไม่อยากยอมรับว่าจุดเริ่มต้น ที่เกิดขึ้นเพียงเพราะเรื่องหลอกลวงในตอนแรก จะเดินทางมาไกลได้จนถึงขั้นนี้ เธอทำใจยอมรับไม่ได้จริง ๆ “ไม่ค่ะ หนูไม่สามารถที่จะแต่งงานกับคุณติณได้ค่ะ” ฐานิตากล่าวด้วยเสียงที่หนักแน่น เธอยืนกรานที่จะปฏิเสธ ก่อนจะลุกออกจากโซฟา “ขอโทษด้วยนะคะ” เธอพูด พร้อมกับเดินออกไป ท่ามกลางความเงียบ ติณณภพไม่พูดอะไร เขาปล่อยให้ฐานิตาไปได้จนถึงประตู ก่อนที่จะเปล่งข้อความเหมือนเชือกที่ดึงรั้งเธอไว้ “ถ้าฉันจ้างเธอล่ะ...” ดวงตาคู่คมมองแผ่นหลังของคนที่หยุดนิ่ง ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา แต่เอาจริง “เธอจะยอมแต่งงานกับฉันหรือเปล่า” “...หนูไม่รับงานนี้ค่ะ” ฐานิตาปฏิเสธ แม้จะลังเล แต่เมื่อคิดถึงความเสี่ยงที่อาจได้รับ เธอเลือกที่จะไม่เอาด้วย “เดือนละสามหมื่น” เสียงทุ้มดังขึ้น ขณะที่ฐานิตากำลังจะก้าวเท้าออกจากห้อง ความรู้สึกของเธอราวกับถูกสะกดไว้ด้วยคำพูดของติณณภพ ความสับสนและเครียดบังเกิดจนเธอรู้สึกชาไปทั้งตัว “ฉันคิดว่ามันน่าจะเพียงพอสำหรับเธอนะ แลกกับการที่เธอต้องทำงานให้ฉันคนเดียว ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอลูกค้าที่จ้องจะหวังผลอย่างอื่นใน ‘ตัว’ เธออีก” ฐานิตาหยุดกึก ร่างกายของเธอสั่นเทาเล็กน้อย มือที่จับอยู่บนมือจับประตูเหล็กเย็นเยียบเริ่มมีเหงื่อซึม เธอพยายามตั้งสติ ขณะที่หัวใจของเธอเต้นรัวอย่างหนักหน่วง “อีกอย่าง...เงินเดือนขนาดนั้น ก็น่าจะพอให้เธอเอาไปโปะหนี้พนันของพ่อเธอได้นะ” ข้อเสนอสุดท้ายของเขา ทำให้ฐานิตารู้สึกเหมือนหัวใจตกลงไปที่ตาตุ่ม ความเจ็บปวดและความวิตกกังวลท่วมท้น เธอรู้สึกเหมือนกับว่าความเสี่ยงและความจริงที่เธอพยายามซ่อนอยู่ถูกเปิดเผยอย่างสิ้นเชิง “คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง” ฐานิตาถามเสียงสั่น ขณะที่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตะลึงและความหวาดกลัว เรื่องพ่อของเธอที่ติดการพนันและเป็นหนี้ นอกจากคนใกล้ตัวก็ไม่มีใครรู้ เธอแบกรับภาระนี้มาโดยไม่เปิดเผย แต่ติณณภพกลับรู้เรื่องนี้...เขารู้ดีเกินไป ติณณภพเพียงจ้องมองฐานิตาด้วยสายตาที่นิ่งสงบ ราวกับเขาอ่านใจเธอได้ทุกอย่าง พลันรอยยิ้มก็ผุดขึ้นราวกับคนที่ถือไพ่เหนือกว่า “ว่าไงล่ะ เธอจะรับข้อเสนอของฉันไหม?” ฐานิตารู้สึกเหมือนถูกพันธนาการด้วยข้อเสนอของติณณภพ ที่ผูกมัดฐานิตาไว้แน่นยิ่งกว่าข้อเสนอใด ๆ ทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ใน ‘ภาวะจำยอม’ ที่เกิดขึ้นเพราะความต้องการของเขา ซึ่งเป็นความต้องการที่ฐานิตาเลี่ยงได้ยาก...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD