จางเจียวซินมันเป็นใคร!!!

1697 Words
“อื้ออออออ” หนูนิดรู้สึกตัวขึ้น เธอรู้สึกเหมือนตนเองได้นอนหลับจนเต็มอิ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าอันงดงามยังคงหลับตาพริ้มซึมซับความรู้สึกอันแสนสบาย แม้ว่าจะฝันร้ายว่าถูกแผ่นไม้หล่นใส่ เอ๊ะ? แผ่นไม้ แผ่นมะ..ไม้ เดี๋ยวนะ มันไม่ใช่ฝัน เธอเจ็บจริง เจ็บมากๆ ด้วย เมื่อนึกได้ดังนั้นก็ตกใจลืมตาโพลงขึ้นสิ่งแรกที่เธอเห็นคือแผ่นไม้สีน้ำตาล อ่า…นี่ยังไม่มีใครพาเธอไปโรงพยาบาลหรือยังไงทำไมเธอยังเห็นแผ่นไม้บ้านี่อยู่นะ “พระชายา ฮื่อออ…พระชายาฟื้นแล้วเจ้าค่ะท่านหมอ” “พระชายารู้สึกเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ” หนูนิดหันมองไปยังต้นตอของเสียง กลับพบกับชายชรา สวมชุดสีขาวทั้งตัว ด้านหลังเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารัก อายุน่าจะไม่เกิน 20 ปี แต่ตาของเด็ก คนนั้นบวมแดงเหมือนผ่านการร้องไห้มาหลายวัน หนูนิดมองสำรวจไปรอบๆ ห้องที่เธออยู่เป็นห้องที่สร้างจากไม้ เตียงที่เธอนอนก็เป็นไม้ รอบๆ ห้องมีของตกแต่งหรูหรามากมายจนรกหูรกตาไปหมด หนูนิดลองมองลอดออกไปนอกหน้าต่างก็พบแต่ความมืดมิด นี่เธออยู่ที่ไหนกัน สมัยนี้ยังมีโรงพยาบาลที่สร้างมาจากไม้อยู่หรือ “คุณเป็นหมอหรือป่าวคะ แล้วนี่ฉันอยู่โรงพยาบาลที่ไหนคะ” “พระชายา พระองค์ทรงกล่าวสิ่งใดพ่ะย่ะค่ะ” หมอชราขมวดคิ้วแน่น “พระชายา พระชายาอะไรกัน นี่คุณ! ถึงฉันจะชอบนิยายยุคจีนโบราณมาก แต่ตอนนี้ฉันไม่เล่น จะรีบกลับไปปั่นแผนค่ะ รีบทำเรื่องออกให้ฉันตอนนี้! เดี๋ยวนี้เลยยิ่งดี” คำพูดยาวเหยียดของหนูนิด ยิ่งทำให้หมอชราขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นๆ “พระชายาทรงจำคนสนิทของพระองค์ได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” “คน...สนิท” หนูนิดพึมพำออกมา “ฮึก ฮึก พระชายา บ่าวเองเพคะ หนิงเออร์ของพระองค์อย่างไรเพคะ” “หนิงเออร์…” ยังไม่ทันได้ตอบสิ่งใดไป หมอชราก็ได้เอ่ยถามขึ้นมาอีกครา “พระชายาจำชื่อแซ่ของตนเองได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” “จำได้สิ นางสาว คณิต ประดิษฐ์ทรัพย์” คำตอบของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์มิได้ทำให้หมอชราคลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมออกแม้แต่น้อย อาการเช่นนี้มิใช่วิปลาสไปแล้วหรือ “ฮึก มิใช่เพคะ พระชายามีนามว่า จางเจียวซิน เพคะ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ท่านรักษาเร็วเข้าท่านหมอ ฮื่อออ” “จางเจียวซิน…ใครกัน” ตอนนี้หนูนิดได้แต่งง งง แล้วก็งง จางเจียวซินไหนก่อนนน?!! เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเด็กคนนั้นเรียกเธอว่า “พระชายา” แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ที่นี่มันที่ไหนกัน! “เอาหล่ะหนูนิดตั้งสติก่อน ตั้งสติ” หนูนิดพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา ในหัวของเธอเริ่มคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเดินออกจากห้องประชุม...จากนั้นมีแผ่นไม้กระดานตกลงบนศีรษะของเธอซึ่งมันไม่ใช่ฝัน จากนั้นเธอก็ตื่นขึ้นมาที่นี่ พบกับชายชราและเด็กสาวที่คำพูดคำจาแปลกประหลาดเหมือนหลุดมาจากนิยายจีนโบราณที่เธอเคยอ่าน… เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ! อย่าบอกนะ…อย่าบอกน๊าาาา… “ฮืออออ ท่านหมอทำอย่างไรดี ท่านรักษาพระชายาได้หรือไม่เจ้าคะ” “ฉะ- เอ่อ ข้า…ข้าจำอะไรไม่ได้เลย เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ พวกท่านเป็นใครแล้วตัวข้าเป็นผู้ใด” หนูนิดจำใจต้องตามน้ำไปก่อน ขอยืมคำจากนิยายที่เคยอ่านมาใช้เพื่อให้ดูกลมกลืนมากขึ้น ตอนนี้สมองซีกขวากำลังบอกว่าเธอได้ย้อนเวลามาเกิดใหม่ในยุคจีนโบราณแบบนิยายที่เคยอ่าน แต่สมองซีกซ้ายกำลังบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ นักวิทยาศาสตร์หลายคนออกมากล่าวว่าชีวิตหลังการตายไม่มีอยู่จริง! ก่อนที่จะคิดอะไรฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น แอด~ ปรากฎให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงกำยำ กลิ่นอายสูงส่ง ใบหน้าหล่อเหลา คมคาย ผิวกายสีแทนยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูดุดันและแข็งแกร่ง “หล่อ หล่อมาก…” หนูนิดใช้สายตาอันหวานหยดกวดมองไปทั่วใบหน้าและเรือนร่างของผู้มาใหม่ แต่เธอก็ต้องชะงักเพราะสายตาที่คนผู้นี้ใช้มองมาที่เธอ ช่างเป็นสายตาที่เย็นชา ราวกับว่าเธอกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก “นางเป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ” เมื่อสิ้นเสียงชายหนุ่ม หมอชราจึงได้ทำการตรวจอาการของหนูนิดอีกครั้ง หมอชราใช้ปลายนิ้วแตะบนข้อมือของเธออยู่ชั่วครู่ “อาการทางกายมิมีสิ่งใดต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่…เอ่ออ” หมอชราได้แต่อึกอัก เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มซึมออกมาตามไรผม “ชักช้าอันใดอยู่ มีสิ่งใดพูดออกมาให้หมด!” ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงแข็ง สายตาจดจ้องไปที่หมอชราอย่างคาดคั้น “พระชายาทรงมีอาการของคนความจำหดหายพ่ะย่ะค่ะ พระชายาจดจำเหตุการณ์ต่างๆ มิได้เลยพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่บ่าวคนสนิทและตนเองก็ไม่สามารถจำชื่อแซ่ได้พ่ะย่ะค่ะ อาการเช่นนี้พบเจอได้ยากยิ่ง แม้มีทางรักษาให้หายได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีพ่ะย่ะค่ะ” ทุกคนนั่งอึ้ง ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ และก็เป็นชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นที่พูดขึ้น “ท่านหมอตามข้าไปที่ตำหนัก ส่วนเจ้าดูแลนายของเจ้าให้ดี อย่าให้ไปก่อเรื่องเดือดร้อนอีก” ชายหนุ่มพูดกับหนิงเออร์ ก่อนเดินออกไปจากห้อง แต่ยังมิวายส่งสายตาเย็นมาที่หนูนิดจนเธอสดุ้งโหยง อุ้ย! มองเหมือนจะฆ่าจะแกงกัน อะไรวะเนี่ยยย หลังจากที่หมอชราและชายหนุ่มคนนั้นเดินออกไป ในห้องจึงเหลือเพียงหนูนิดและหนิงเออร์ที่ยังนั่งร้องให้อยู่ “เจ้าหยุดร้องไห้ก่อนเถิดหนิงเออร์ แล้วมาพยุงข้าไปนั่งตรงนั้นที” ปลายนิ้วเรียวยาวชี้ไปยังหน้ากระจกบานใหญ่ “อึก เพคะ” สองนายบ่าวพยุงกันไปนั่งหน้ากระจกบานใหญ่ ตากลมกวาดดูใบหน้าและรูปร่างที่สะท้อนให้เห็นในกระจก หนูนิดยกมือขึ้นมาลูบไล้ไปตามโครงหน้าเรียว ไม่ใช่ร่างกายของเธอจริงๆ เธอเข้ามาอยู่ในร่างของคนอื่นจริงๆ และคนอื่นที่ว่าคือ จางเจียวซิน “ต่อจากนี้เราคงต้องเป็นจางเจียวซินแล้วสินะ” คำพูดที่หลุดออกมาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ตากลมกวาดมองพิจารณาภาพที่สะท้อนจากกระจกบานใหญ่อีกครั้ง บอกได้คำเดียวว่าสวย คนผู้นี้สวยมาก ไม่ใช่สวยแบบน่ารักแต่เป็นความสวยที่ดูสง่างามและสูงส่ง “หนิงเออร์ ตอนนี้ข้าจำสิ่งใดไม่ได้เลย เจ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ เริ่มจากข้าเป็นผู้ใด” “ได้เพคะพระชายา” เวลาผ่านไปหลายชั่วยามเสียงเล่าเจื้อยแจ้วก็หยุดลง จากที่หนิงเออร์เล่า จางเจียวซินเป็นบุตรสาวของอดีตแม่ทัพจางฮุ่ยหมิงกับฮูหยินจางเจียวมี่ มีพี่ชาย หนึ่งคนนามว่าจางซีห่าวเป็นแม่ทัพที่บัดนี้กำลังทำสงครามอยู่ทางเหนือของแคว้น ท่านแม่เสียไปตั้งแต่จางเจียวซินยังเป็นเด็กวัย 3 หนาว ท่านพ่อก็พึ่งจะเสียไปเมื่อหนาวที่แล้วเพราะเอาตัวบังคมดาบให้นายเหนือหัวนั้นคือท่านอ๋องสามเฉินเฟยเทียน ซึ่งเป็นคนเดียวกับชายหนุ่มที่เปิดประตูเข้ามาก่อนหน้านี้ เฉินเฟยเทียนเป็นโอรสองค์ที่สามของฮ่องเต้ผู้ปกครองแผ่นดินฮ่องเต้เฉินเฟยหลงที่ประสูติจากฮองเฮาหลี่หนิงเฟิง และการตายของท่านพ่อก็เป็นเหตุผลที่จางเจียวซินผู้นี้ได้รับพระราชทานสมรสเข้ามาเป็นชายาเอกของจวนอ๋องแห่งนี้ เพื่อทำตามคำขอสุดท้ายของอดีตแม่ทัพจางที่คิดว่าบุตรสาวของตนหลงรักท่านอ๋องสาม เจียวซิน ถูกพ่อและพี่ชายเลี้ยงมาอย่างตามใจเนื่องจากขาดแม่แต่เยาว์วัย ไม่ว่าจะอยากได้สิ่งใดพ่อและพี่ชายก็จะหามาให้จนได้ จางเจียวตกหลุมรักท่านอ๋องสามมานาน เมื่อแต่งเข้ามาก็พยายามทำให้ตนเองได้เป็นที่โปรดปรานด้วยวิธีผิดๆ สร้างเรื่องให้จวนอ๋องไม่เว้นแต่ละวัน เรื่องหลักคงเป็นเรื่องหึงหวงสวามี เนื่องจากท่านอ๋องสามผู้นี้มีทั้งชายาเอกนั่นคือจางเจียวซิน ชายารองอีกหนึ่งคน นามว่า อันอ้ายฉิง และมีอนุภรรยาถึงสามคน นามว่า ตงลี่ถัง จ้งลู่เอิน ถังซูเหวิน จึงทำให้เกิดเรื่องตบตี รังแกกันอยู่เป็นประจำ จนท่านอ๋องประกาศลั่นว่าจะถวายฎีกาขอหย่าขาดจากเจียวซิน ด้วยเหตุนี้เจียวซินจึงโดดน้ำหวังปิดชีพของตนเองและเรื่องราวก็เป็นอย่างที่เห็น “เห้ออออ เจ้าจะอยู่เคียงข้างข้าใช่หรือไม่หนิงเออร์” ไม่ว่าจะโลกก่อนหรือโลกนี้ทุกคนล้วนทิ้งนางให้อยู่โดดเดี่ยว ยังดีที่โลกนี้ยังมีหนิงเออร์และพี่ชายที่ไม่พบหน้ากันตั้งแต่ท่านพ่อเสียไป “หนิงเออร์จะอยู่รับใช้พระชายาจนกว่าจะหมดลมหายใจเพคะ ฮึก” “ขอบใจเจ้ามาก มาเถอะ พาข้าไปที่เตียงที วันนี้ข้าขอพักก่อน” พรุ่งนี้ค่อยเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป “เพคะ พระชายา” เจียวซินล้มตัวนอน หนิงเออร์ทำหน้าที่ยกผ้าขึ้นห่มกายให้ผู้เป็นนาย เจียวซินพลิกตัวไปมาไม่นานนางก็เข้าสู่ห้วงนิทรา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD