ขาวดำ

1146 Words
       “ นายศิราชย์ วัชรกิจโยธา ”        เสียงตะโกนก้องที่หน้าแดนคุมขัง จากนั้นร่างสูงล่ำสันของชายหนุ่มหน้าคมเข้มผู้สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนสีดำ       ก็ปรากฏขึ้น มันเป็นชุดเดียวกับวันที่เข้ามาที่นี่ รอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขปรากฏบนใบหน้าคมสันนั้น        “ ออกไปแล้วก็ไม่ต้องคิดถึงกันอีกนะ ไม่ต้องกลับเข้ามาอีก ” ผู้คุมเย้าขัน ๆ พลางส่งยิ้มให้นักโทษชั้นดีที่ทั้งรูปหล่อและนิสัยใช้ได้เบื้องหน้า เขาส่งยิ้มตอบ        “ ครับผม ผมสัญญา ”        “ มีคนมารับหรือเปล่า ”        “ มีครับ ผมส่งจดหมายไปบอกพี่ชายเมื่อสามเดือนก่อนแล้ว ”        “ ถ้างั้นก็ขอให้โชคดีนะ ”        “ ขอบคุณครับผม ”        เขาตอบแล้วเดินออกมาที่ประตูหน้า จุดนั้นมีสวนหย่อมเล็ก ๆ และโต๊ะหินอ่อนสามสี่ชุด เขาหลับตาสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วยิ้มกว้าง        กลิ่นของอิสรภาพมันหอมหวนแบบนี้เอง...        ก่อนเขาจะกวาดสายตามองรอบตัวเพื่อหวังพบหน้า         คนที่จะมารับแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า        พี่คงยังไม่มาถึง... สักพักก็มีรถแล่นเข้ามารับผู้อื่นที่ได้รับอิสระเช่นเขาในวันนี้ จากหนึ่งคัน สองคัน เป็นห้าคัน สิบคัน และอีกหลายคันครอบครัวแล้วครอบครัวเล่า ทั้งหมดยิ้มกว้าง หัวเราะ ร่ำไห้ กอดกัน หอมกัน หลากหลายอารมณ์ผสมเคล้า หากสุดท้ายก็ลงเอยด้วยความสุขแล้วก็จากไป สองชั่วโมงผ่านไป เหลือเพียงเขาที่อยู่ตรงนั้นลำพัง...        ยิ้มขมขื่นปรากฏบนใบหน้าคมสัน ก่อนเขาจะลุกขึ้นยืน หยิบหมวกแก๊ปมาสวมแล้วสะพายกระเป๋าเป้ไว้ที่ไหล่ขวา        แล้วออกเดิน        จะหวังอะไรกับคนที่รู้จักแต่การ ‘ รับ ’ และไม่เคย ‘ ให้ ’ เช่นพี่ชายของเขา        เขาจะไม่หลอกตัวเองว่าอีกฝ่ายลืมหรือติดภารกิจสำคัญจนไม่อาจมารับน้องชายของตัวเองได้หรอก เพราะรู้ดีเหลือเกินว่าเป็นเรื่องจงใจ        แม้ว่าเขาจะทำเพื่ออีกฝ่ายมาทั้งชีวิต แต่คนคนนั้นก็        ไม่เคยเห็นคุณค่าอะไรสักอย่าง        นับจากนี้ จะไม่มีอีกแล้ว...        ณ มหาวิทยาลัยเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่ง ในห้องเรียนคาบวิชาบริหารธุรกิจที่กำลังจะเลิกคลาส        “ ฟ้าใส เลิกเรียนไปกินชาบูกันนะ ”        เสียงชักชวนดังจากปากหญิงสาวร่างตุ้ยนุ้ยนามว่า เปา อันมาจากชื่อเต็มคือซาลาเปา เธอเอนกายไปไถ่ถามสาวสวยหน้าหวานที่เป็นเพื่อนรักซึ่งนั่งเรียนอยู่ข้าง ๆ กัน        “ วันนี้ไม่ได้หรอกเปา ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ ”        “ ทำไม นัดกับพี่เซนไว้เหรอ ”        “ อืม วันนี้วันเกิดพี่เซน ก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่จะซื้อกับข้าวไปกินด้วยกันที่บ้านน่ะจ้ะ ”        “ ขอโทษทำไม ฟ้านี่สมกับชื่อฟ้า เป็นนางฟ้านางสวรรค์มาเกิดจริงจริ๊ง ทั้งสวยทั้งหุ่นดี มีดีกรีเป็นดาวมหา’ลัย เรียนก็เก่ง แถมยังมีแฟนที่ทั้งหล่อทั้งเก่งอีก ”        คำชมของเปาเล่นเอาฟ้าใสยิ้มออกมาเขิน ๆ        “ เปาก็ชมฟ้าเกินไป ไม่ได้ขนาดนั้นซะหน่อย ”        “ มันก็จริงนี่นา เปาโชคดีนะที่มีฟ้าเป็นเพื่อน ว่าแล้วก็เอาเล็คเชอร์วิชาการเงินมาลอกหน่อยสิ ” เปาว่าพลางยิ้ม      ตาหยีอย่างปะเหลาะ อีกฝ่ายส่ายศีรษะอย่างระอาแต่ก็ยังหยิบสิ่งที่เพื่อนต้องการส่งให้        “ ครั้งหน้าฟ้าไม่ยอมให้ลอกแล้วนะ ถ้าเปามัวแต่ลอกฟ้าแบบนี้ เปาจะมีความรู้ได้ยังไง ”        “ ฟ้าก็พูดแบบนี้ร้อยรอบแล้ว แต่สุดท้ายก็ให้เปาลอกอยู่ดี แล้วถึงเปาไม่รู้เรื่อง ฟ้าก็ต้องติวให้เปาก่อนสอบอยู่ดี ฟ้าน่ะใจดีจะตาย ” เปาว่าพลางหัวเราะคิกคัก นั่นทำให้         อีกฝ่ายพลอยขำไปด้วย        ทั้งสองเรียนอยู่ชั้นปีที่สอง คณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง        ฟ้า หรือฟ้าใส เป็นสาวสวยหน้าหวานตาคมหุ่นดี         มีรอยยิ้มตรึงใจผู้ที่ได้พบเห็นทำให้ฟ้าได้รับเลือกให้เป็น     ดาวคณะและต่อด้วยดาวมหาวิทยาลัยในปีนั้น ฟ้าเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวฐานะปานกลางที่อบอุ่น พ่อและแม่ทำงานธนาคารทั้งคู่ เธอมีความประพฤติดี ตั้งใจเรียน ไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง        ส่วนเปาหรือซาลาเปานั้น เตี่ยเป็นคนจีนที่ย้ายมาอยู่เมืองไทยจนได้พบรักกับแม่ของเปา มีร้านอาหารเป็นของตัวเองซึ่งมีติ่มซำเป็นที่เลื่องชื่อ ฐานะทางบ้านก็จัดได้ว่า       ปานกลางค่อนไปทางร่ำรวย เปาอ้วนกลมสมกับชื่อ เพราะเตี่ยและแม่ชอบให้ลูกกินเยอะ ๆ        ทั้งคู่พบกันเมื่อครั้งวันมารายงานตัวที่มหาวิทยาลัย จนกระทั่งถึงกิจกรรมรับน้องก็ได้จับคู่เป็นบัดดี้ นั่นทำให้          สนิทกันและกลายมาเป็นเพื่อนรักในที่สุด        เปานั้นยังคงโสด ส่วนฟ้าใสนั้นพึ่งจะมีรุ่นพี่ปีสี่ ดีกรี           เดือนคณะที่ชื่อ เซน คณะเดียวกันมาจีบและตกลงคบหา       เป็นแฟนกันได้ไม่ทันถึงปี          เซนเป็นคนหน้าตาหล่อเหลา สูงโปร่งถึงเมตรแปดสิบห้า        เป็นผู้ชายสะอาดสะอ้านและดูแลตัวเองอยู่เสมอ เขากำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก ส่วนแม่นั้นเสียชีวิตไปในเหตุการณ์เพลิงไหม้บ้านเมื่อหลายปีก่อนทำให้เซนต้องเติบโตมาเพียงลำพัง และนั่นก็พิสูจน์ได้ว่าเขาเก่งและแกร่งเหลือเกิน เพราะเขาเป็นคนดี     มีความพยายาม มีระเบียบวินัยจนมีผลการเรียนดี เป็นที่รักของครูบาอาจารย์ในคณะ   ผู้คนที่พบเห็นต่างชื่นชมว่าทั้งคู่หล่อสวยเหมาะสม แต่ก็มีหลายเสียงที่เคยเป็นอดีตผู้ใกล้ชิดซุบซิบนินทาว่าเซนนั้นไม่ใช่คนดีอย่างที่หลาย ๆ คนคิด เขาฉลาดและปากหวาน รู้จักใช้คำพูดเพื่อประจบประแจงให้ตัวเองได้สิ่งที่ต้องการ รวมไปถึงการคบหาผู้หญิงมาเป็นคู่รัก ว่ากันว่าเขาเลือกผู้หญิงที่มีผลประโยชน์ก็เท่านั้น  ใครหมดประโยชน์เขาจะเขี่ยทิ้งทันที ซึ่งสิ่งนั้นฟ้าใสก็มองข้ามไปเสีย ปากคนมีสิบปากก็พูด       กันไปสิบเรื่อง ตลอดระยะเวลาที่รู้จักและคบหากันมา       แปดเดือน อย่างน้อยเซนก็เป็นสุภาพบุรุษที่คอยดูแลเธอ     แม้ในระยะหลัง เขามักจะยุ่งกับงานและการเรียนจนแทบจะไม่มีเวลาให้ แต่เธอก็พยายามเข้าใจว่าเขาทำเพื่ออนาคต       ซึ่งอนาคตของเขาก็มีเธออยู่ด้วย ไม่มีใครที่ไหนเพอร์เฟคไปเสียทุกอย่างหรอก ว่าไหม ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD