“หยุดอยู่ตรงนั้น!” พวกทหารมากมายพากันเล็งปืนมาที่พวกเรา พวกเขามีสีหน้าที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก
และมันทำให้ผม…
“ครั้งนี้”
“ให้เธอเป็นคนจัดการ” ผมกล่าวก่อนที่จะยื่นมือไปจับไหล่ของร่างบางเบื้องหน้าของผม ซึ่งทันทีที่ผมกล่าวเช่นนั้น ผมรู้สึกได้ถึงรังสีฆ่าฟันจากเธอ หรือว่ามันเป็นเพราะผมได้ปลุกทักษะติดตัว SEN ขึ้นมา?
“ลดอาวุธ!” ควีนตะโกนดังลั่นพร้อมกับลูกทีมของเธอที่พากันล้อมรอบควีน เพื่อปกป้องเธอ
‘ดูเหมือนฉันจะไม่สามารถพาเธอไปที่อื่นได้…’ ผมคิดในใจเมื่อได้เห็นสถานการณ์ตรงหน้า เพราะถ้าหากผมพาเธอไป ลูกทีมของเธออาจจะขอติดสอยห้อยตามเธอไปด้วย
“พวกแกมีเลือดติดตัวเต็มไปหมด!”
“พวกแกอาจจะติดเชื้อแล้วกลายเป็นพวกมันก็ได้!!” เหล่าทหารตำรวจตะโกนสวนกลับควีน มันทำให้ควีนถึงกับกำหมัดไว้แน่น
‘ฉันล่ะอยากเห็นจริงๆ’
‘ว่าคนในห้องนี้’
‘ใครมีคุณสมบัติพอ?’ ผมคิดในใจก่อนที่จะเปิดใช้ทักษะที่เพิ่งจะได้มา
[เปิดใช้ดวงตาแห่งความจริง]
[คุณสามารถมองไปที่สิ่งมีชีวิตแล้วพูดในใจว่าตรวจสอบ]
วึบ
เกิดประกายแสงสีฟ้าขึ้นที่ดวงตาของมังกร และการอยู่ที่โจ่งแจ้งเช่นนี้มันทำให้หลายคนสังเกตเห็น และเกิดความสงสัยว่าเพราะอะไรกัน? ทำไมดวงตาของชายคนนั้นจึงกลายเป็นสีฟ้า? หรือมันจะเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ?
[!!คำเตือน!!]
[ผู้เล่นได้เปิดใช้ดวงตาแห่งความจริง]
[ดวงตาของผู้เล่นจะกลายเป็นสีฟ้า]
[การใช้ทักษะกับหนึ่งสิ่งมีชีวิตจะเพิ่มเวลาดวงตาสีฟ้า 1 นาที]
[และดวงตาแห่งความจริงจะสิ้นสุดเมื่อผู้เล่นปิดการใช้ทักษะ]
“อึก…” ควีนถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อดวงตาของผมเป็นสีฟ้า
“หยุด!!วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้!!” ควีนตะโกนสั่งอีกครั้ง ซึ่งเธอมีสีหน้าและท่าทางที่จริงจังเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอได้พบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มาแล้ว ถ้าหากดวงตาของมังกรกลายเป็นสีฟ้า มันราวกับพลังของเขาจะเพิ่มขึ้น โหดร้ายขึ้น เพราะในตอนที่พวกเรากำลังมุ่งหน้ากลับมาที่หอประชุม ดวงตาของมังกรกลายเป็นสีฟ้าเพียงครู่นึง แต่ในเวลานั้น มังกรได้ลงมือสังหารพวกซอมบี้นับไม่ถ้วน ทั้งยังเป็นคนทะลวงฟันฝ่าทางเบื้องหน้าอีกด้วย
ฟึบๆๆ
และการกดดันของควีน ทำให้พวกทหารพากันวางอาวุธลงทันที เพราะจากท่าทางของเธอเมื่อเห็นดวงตาของชายคนนั้นกลายเป็นสีฟ้า เธอมีท่าทางที่กลัวเกรงเป็นอย่างมาก และมันพอที่จะทำให้พวกเขากลัวไปด้วยเช่นกัน
‘อะไรกัน?’ ผมคิดในใจ เพราะแม้แต่น้องสาวของผมเองก็ยังคงแสดงท่าทางแปลกๆต่อผม
‘อ่อ…ดวงตาสีฟ้าสินะ’ ผมคิดในใจอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มสังเกตรอบๆ และดูว่าใครจะสามารถทำให้ผมใช้ดวงตาแห่งความจริงได้บ้าง
คลื่นนน
ซึ่งหลังจากที่ผมกวาดสายตามองดูแล้ว ก็มีแต่ทหารทั่วๆไป มันทำให้ผมต้องใช้ดวงตาแห่งความจริงกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ มันราวกับทำให้ผมหลุดเข้าไปในอีกโลกนึง ผมสามารถเห็นหน้าต่างคุณสมบัติของทุกคนในห้องประชุม
[คุณได้ใช้ดวงตาแห่งความจริงกับ 87 สิ่งมีชีวิต]
[เวลาดวงตาสีฟ้าของคุณเพิ่มขึ้นเป็น 87 นาที]
‘ไม่มีใครเลย…’ ผมคิดในใจเมื่อลองดูคุณสมบัติคร่าวๆ ผมต้องการคุณสมบัติหลักๆเพียงแค่อย่างเดียว นั่นคือ ความเชื่อใจ ผมต้องการคนที่จะไม่ทรยศผม ส่วนทักษะอย่างอื่นคงต้องดูอีกครั้งหนึ่ง แต่ในห้องนี้กลับไม่มีใครเลยสักคนที่มีคุณสมบัตินั้น บางคนเก่งให้ตายแต่มีคำกำกับไว้ว่า ‘หลอกลวง’ บางคนมีทักษะที่โดดเด่นและเหมาะสำหรับเป็นผู้เล่นระดับท็อป แต่คนคนนั้นกลับมีคำว่า ‘เห็นแก่ตัว’ แน่นอนว่าผมไม่ต้องการคนประเภทนี้
ต่างเพียงลูกทีมทั้งห้าคนของควีน พวกเขาทั้งห้าคนมีป้ายกำกับไว้ว่า ‘เชื่อฟัง’ ซึ่งมันทำให้ผมไว้วางใจพวกเขาได้ในระดับนึง พวกเขาจะสามารถเป็นกำลังหลักของควีนได้ถ้าหากควีนต้องการ และผมไม่มีความคิดที่จะดึงเธอไปจากที่นี่ มันสมควรที่จะต้องมีผู้นำอย่างเธอ
สเตตัสเริ่มต้น
ผู้เล่น : ควีน
ระดับ : ผู้รอดชีวิต
เลเวล : 19
สถานะปัจจุบัน : มั่นใจ
ทักษะติดตัว : SENSORY , REGENERATION
พละกำลัง : 42/100
ความว่องไว : 60/100
พลังป้องกัน : 38/100
ความฉลาด : 68/100
ศักยภาพการเติบโต : 6
ศักยภาพมานา : ?
ทักษะของผู้เล่น : ความเป็นผู้นำ SS , การต่อสู้ S , ไหวพริบ S , จิต S , เอาชีวิตรอด A
ป้ายกำกับ : เสพติดการต่อสู้
ผมจำได้ขึ้นใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของควีน ผมไม่ทราบว่าระดับทักษะของผู้เล่นนั้นมีถึงระดับไหน แต่จากที่ผมได้เล่นเกมออนไลน์มาพอสมควร ผมมั่นใจได้เลยว่าทักษะของเธออยู่ในระดับ TOP อย่างแน่นอน และจากการที่ผมคิดเกี่ยวกับระดับสูงสุดของทักษะ มันทำให้ผมนึกขึ้นได้เกี่ยวกับระดับของผมเอง ในเมื่อผมย้อนเวลากลับมา ทักษะของผมล่ะ จะอยู่ในระดับไหน?
สเตตัสเริ่มต้น
ผู้เล่น : มังกรบิน
ระดับ : ผู้รอดชีวิต
เลเวล : 55
สถานะปัจจุบัน : อยากรู้อยากเห็น
ทักษะติดตัว : REGENERATION , SENSORY
พละกำลัง : 68/100
ความว่องไว : 77/100
พลังป้องกัน : 67/100
ความฉลาด : 77/100
ศักยภาพการเติบโต : 9
ศักยภาพมานา : สีเทา
ทักษะของผู้เล่น : จิต SSR , การต่อสู้ SSS , ไหวพริบ SS , เอาชีวิตรอด SS , ผู้เชี่ยวชาญมานา SS , ความเป็นผู้นำ S
ป้ายกำกับ : ผู้หวนคืนไร้ปราณี
‘…’ เมื่อผมใช้ดวงตาแห่งความจริงกับตนเอง ปรากฏว่ามันสามารถใช้ได้ และระดับทักษะของผมมันดูน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก ซึ่ง SSR น่าจะเป็นขั้นสูงสุดที่ผมรู้ในตอนนี้ แน่นอนแหละว่าผมที่ผ่านความเป็นความตายมามากมายในชีวิตก่อนจนไม่กลัวตายแม้แต่น้อย ต่างจากควีนที่ยังไม่ได้พบเจอพวกซอมบี้กลายพันธ์ หรือการสูญเสีย มันจึงทำให้ผมเริ่มคิดได้ว่าทักษะของเราจะสามารถพัฒนาได้
แล้วทักษะอย่างอื่นล่ะ? การช่าง? การทำอาหาร? ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งพวกนี้มันจะปรากฏแล้วแต่คนด้วย เพราะเมื่อผมได้ใช้ดวงตาแห่งความจริงกับหงส์ที่เป็นน้องสาวของผม ปรากฏว่าเธอมีทักษะที่แตกต่างออกไปจากผมและควีนเล็กน้อย
สเตตัสเริ่มต้น
ผู้เล่น : หงส์บิน
ระดับ : ผู้รอดชีวิต
เลเวล : 40
สถานะปัจจุบัน : หวาดระแวง
ทักษะติดตัว : SENSORY , REGENERATION
พละกำลัง : 42 /100
ความว่องไว : 58/100
พลังป้องกัน : 38/100
ความฉลาด : 82/100
ศักยภาพการเติบโต : 7
ศักยภาพมานา : สีรุ้ง
ทักษะของผู้เล่น : การรักษา S , ไหวพริบ A+ , การทำอาหาร A+ , การต่อสู้ A , จิต C , เอาชีวิตรอด C
ป้ายกำกับ : ไว้วางใจเพียงครอบครัว
ผมเริ่มคิดเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะในด้านจิตและการเอาชีวิตรอดของหงส์ ถ้าหากเธอมีสองสิ่งนี้ในระดับสูง มันจะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นมากๆ ในระดับที่สามารถปกป้องตนเองได้โดยที่ผมไม่ต้องเป็นกังวล
‘ส่วนในตอนนี้’ ผมแสดงสีหน้าผิดหวังกับผู้คนในห้องประชุมก่อนที่จะเดินไปห้องควบคุม ซึ่งหงส์เองก็เดินตามผมมาติดๆ และการที่ผมเดินออกห่างจากพวกเขา ทำให้ควีนโล่งใจได้ในระดับนึง เพราะหลังจากที่เราได้ทำงานร่วมกันแล้ว มังกร ชายคนนี้เป็นคนที่เด็ดขาดมาก ทั้งโหดและไร้ปราณี ซึ่งถ้าหากเขาต้องการจะต่อสู้กับพวกทหารและตำรวจทั้งห้องประชุมนี้แล้ว มันอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่เกินความสามารถของเขา
ฟึบๆ
เสียงการจุดไฟดังมาจากในห้องควบคุม ซึ่งภายหลังจากที่สถานการณ์ถูกคลี่คลายลง ทุกคนในห้องประชุมใจเย็นลงพอสมควร ควีนจึงตามเข้าไปในห้องควบคุม ซึ่งในครั้งนี้มังกรได้เรียกลูกทีมทั้งห้าคนของควีนเข้ามาด้วย
“ควีน…พูดตามตรงฉันต้องการคนที่จะอยู่ในกิลด์ของฉัน”
“ซึ่งฉันต้องการความสามารถของเธอ” ผมกล่าวออกไประหว่างที่กำลังต้มน้ำสีฟ้า ถึงแม้เราจะมีเยลลี่สีเขียวนับร้อยชิ้น แต่ในตอนนี้หญ้าสีฟ้าเริ่มหมดลงแล้ว โดยที่ผมได้ใช้มันไปทั้งหมดในการผสมครั้งนี้ ซึ่งลูกทีมทั้งห้าคนนั้นยังไม่ได้ปลุกตื่นพลังวิวัฒ ทำให้ผมยังไม่ได้มอบน้ำเพิ่มเลเวลให้พวกเขาดื่ม
“…” ควีนยังคงเงียบเพื่อดูท่าทางของผมไปเรื่อยๆ
“แต่”
“ดูเหมือนที่นี่…กลุ่มผู้รอดชีวิตของจังหวัดนี้ต้องการเธอ” เมื่อผมกล่าวเช่นนี้ออกไป ควีนรับรู้ได้ทันทีว่าเธอจะไม่ได้ไปต่อกับผม
‘ด้วยสีหน้าผิดหวังของเธอ…ผมเข้าใจ’ เพราะการที่เราได้อยู่ใกล้เคียงกับผู้ที่แข็งแกร่ง มันจะทำให้เราได้เรียนรู้ และฝึกฝนรวมถึงจะได้รับการปกป้องจากผู้แข็งแกร่งจนรอดปลอดภัย
“แน่นอนว่าฉันเสียใจ…แต่ในอนาคต”
“เราจะได้เจอกันอย่างแน่นอน”
“เพราะฉะนั้นแล้ว”
“เมื่อเมนูกิลด์ถูกปลดล็อค…ฉันจะมาเชิญเธอด้วยตัวเอง" ผมกล่าวให้คำสัญญาด้วยความจริงใจออกไป ซึ่งมันทำให้สีหน้าของควีนนั้นดีขึ้นมาก
“ฉันตกลง” ควีนกล่าวออกมาในทันที ราวกับเธอเองก็คิดได้ ถ้าหากไม่มีเธออยู่ พวกทหารคงจะใช้อำนาจ ใช้อาวุธ ในการกดขี่ประชาชนที่แข็งแกร่งกว่าพวกตน และมันทำให้เธอต้องประจำการอยู่ที่นี่ และเธอจะต้องกลายเป็นผู้นำของชุมชนผู้รอดชีวิตของจังหวัด
“ดี”
“เอาล่ะ…ถ้าเช่นนั้นแล้วเธอคงต้องการกำลัง”
“ฉันและน้องสาวจะอยู่ที่นี่อีก 3 วัน”
“เราจะช่วยกันจัดระเบียบให้เข้าที่เข้าทาง” ผมกล่าวก่อนที่จะยกชามที่มีน้ำสีฟ้าอ่อนขึ้นมายกซดจนหมดชาม
และในระหว่างนั้นเราก็ได้พูดคุยเกี่ยวกับแผนการในอนาคตกันคร่าวๆ ในเมื่อผมมาพบเจอกับผู้เล่นเอาชีวิตรอดระดับ TOP ชีวิตที่แล้ว มันทำให้แผนของผมเปลี่ยนไปเล็กน้อย และการกำจัดดันเจี้ยนของบริเวณที่ผมพักอาศัยมันทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นเซฟโซนที่ปลอดภัยที่สุดในโลก เพราะซอมบี้ที่เกิดขึ้นที่นี่จะไม่มีเลเวล เว้นเพียงแต่พวกมันจะเคลื่อนที่มาจากจังหวัดอื่น
ผมจึงต้องการคนที่จะกลายเป็นผู้นำของเซฟโซนแห่งนี้ คนคนนั้นจะต้องแข็งแกร่ง รู้จักการเอาชีวิตรอด การให้อภัยหรือความเด็ดขาด? ซึ่งที่สำคัญคือจะต้องไม่มีความคิดที่จะทรยศต่อผม ทำให้ผมเลือกควีนเข้ามาเป็นผู้นำ และผมจะคอยดูแลอยู่เบื้องหลัง เพราะถึงยังไงพวกที่มียศสูงกว่าควีนในเรื่องอาชีพของเธอ มันจะทำให้เธอลำบากใจอยู่บ้าง ผมที่ไม่มีเรื่องเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มคนพวกนั้น จึงสามารถเข้าไปเผชิญหน้าได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งในแผนการของผม ผมจะไม่ปักหลักอยู่ที่นี่ คนที่อยากมีชีวิตรอดก็ให้อยู่ที่นี่ไปเถอะ มันดีกว่าที่พวกเขาจะกลายเป็นซอมบี้ หรือบางทีอาจจะกลายพันธ์? เพราะฉะนั้นความคิดใหม่ของผมคือการรวบรวมเหล่าผู้มีชีวิตรอด และให้ควีนจัดการสิ่งที่พวกเขาต้องทำ ทุกคนจะต้องมีหน้าที่!
ส่วนผม แน่นอนว่าเป้าหมายของผมคือการไปตั้งกิลด์ที่ต้นกำเนิดยารักษาอาการบาดเจ็บและโรคภัย ซึ่งผมจะไปหาเหล่าผู้มีชีวิตรอดที่มีคุณสมบัติเพียงพอ เพราะถ้าหากต้องคิดแล้ว สถานที่ที่จะถูกพวกซอมบี้โจมตีมากที่สุดในอนาคต มันคือสถานที่แช่น้ำออนเซ็นที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะมันคือยารักษา หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญของมนุษย์ ซึ่งพวกมนุษย์ได้คาดการณ์ช้าไป วางกองกำลังป้องกันก็เล็กน้อย เพราะในตอนนั้นเรายังไม่ได้รวมผู้รอดชีวิตจากทุกชาติเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน
ผ่านไป 8 ชั่วโมง
ซึ่งหลังจากที่เราได้ดื่มยาเพิ่มเลเวลกันจนส่วนผสมหมด พวกเราก็ได้นอนพักผ่อนกันพอสมควรและเริ่มเตรียมตัวเพื่อออกไปจากมหาวิทยาลัย โดยที่ควีนได้ติดต่อสื่อสารกับเจมส์เป็นที่เรียบร้อย และเจมส์ก็ได้นำสารนั้นไปแจ้งกับผู้นำค่ายอีกครั้งนึง ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ เนื่องจากผู้ที่มีอำนาจต่างอยู่ที่นี่กันทั้งหมด เขาจึงถูกกดดันให้ส่งทีมเข้ามาช่วยเหลือ
โดยการเข้ามาในมหาลัย พวกทีมช่วยเหลือจะขับรถทหารมา 5 คัน และถึงแม้ว่ามันจะถูกเรียกว่าทีมช่วยเหลือ แต่บุคคลที่มาด้วยนั้นมีเพียงแค่เบาะหน้าสองคนเท่านั้น ซึ่งรถคันนึงสามารถบรรจุคนได้ 10 คน แต่ถ้าหากมีการนั่งบนพื้นรถ จะเพิ่มได้เป็น 15 คน และมันอาจจะยัดเยียดเข้าไปได้อีกราว 1 ถึง 2 คน ซึ่งมันก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี กับจำนวนคน 87 คน ควีนจึงตัดทีมของเธอและตัวเธอออกจากการเคลื่อนย้าย เพราะฉะนั้นจะเหลือเพียง 81 คน ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายคนได้ไปทั้งหมด
แต่ถึงกระนั้นแล้วเพื่อกองกำลังของควีน ผมจึงเสนอการเพิ่มจำนวนบุคคลที่จะเดินทางไปกับเราด้วยเท้าเปล่า เพราะเมื่อเราส่งพวกเขาขึ้นรถเสร็จสิ้น เราก็วิ่งไปแอบและรอพวกซอมบี้ตามรถพวกนั้นไป และไปอีกทางเพื่อปีนออกทางกำแพง ผมจึงเลือกคนที่พอจะเชื่อใจได้แต่ไม่ได้โดดเด่นในเรื่องของทักษะการต่อสู้หรือเอาชีวิตรอดเข้ามาให้ควีนดูแลอีก 5 คน ซึ่งสองในห้านั้นเป็นศาสตราจารย์ พวกเขาจะเป็นบุคคลที่ทุกๆชุมชนของผู้มีชีวิตรอดต้องการ เพราะทั้งสองนั้นเก่งเรื่องการสร้าง ทั้งในคณะของวิศวกรรม และคณะสถาปัตยกรรม
ส่วนอีก 3 คนนั้นเป็นทหาร พวกเขามีความจงรักภักดี แต่เรื่องทักษะยังไม่สามารถเทียบเท่าครึ่งของครึ่งลูกน้องของควีน แต่ถึงยังไง ทักษะมันก็สามารถฝึกฝนกันได้ และมันจะเป็นหน้าที่ของควีนในการเพิ่มขีดจำกัดความสามารถของพวกเขา
“จำเอาไว้ว่าเราจะไม่ใช้ปืน”
“ถ้าหากจำเป็นจริงๆผมจะเป็นคนสั่งเอง”
“ถ้าหากขัดขืนคำสั่ง”
“ผมจะไปจากพวกคุณทันที” ผมกล่าวอย่างจริงจัง เพราะการเคลื่อนย้ายผู้รอดชีวิตในครั้งนี้ ควีนได้มอบหมายให้ผมเป็นคนจัดขบวน เพราะถ้าหากเธอเป็นคนสั่งเอง มันจะดูแปลกๆเนื่องจากผู้มีอำนาจยังอยู่ที่นี่ด้วย ผมที่แข็งแกร่งกว่าเธอ รวมถึงยังเป็นที่หวั่นเกรงของพวกที่คิดจะต่อต้าน
ผมจึงยอมรับคำขอของเธอ ซึ่งในการเคลื่อนย้ายครั้งนี้มันไม่ได้ยากถ้าหากทุกคนทำตามที่ผมสั่ง แน่นอนว่าผมสามารถปกป้องและกำจัดซอมบี้ที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างง่ายดายหลังจากอัพเลเวลมาเยอะมากๆ ควีนและหงส์เองก็เช่นกัน ซึ่งควีนจะคอยจับตามองพวกทหารอยู่กลางๆกลุ่ม ส่วนหงส์จะคอยคุ้มกันพวกเขาจากด้านหลัง
จนในที่สุดภารกิจก็ได้เริ่มขึ้น ฝ่ายของผู้นำค่ายได้ตอบการสื่อสารจากควีนมาเป็นที่เรียบร้อยว่าพร้อมเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งพวกเราเองก็พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายกันลงไปเบื้องล่างหอประชุม มันเป็นพื้นที่โล่ง และเราก็ได้จัดแถวการขึ้นรถทหารไว้แล้วอย่างเป็นระเบียบ เหลือเพียงแค่เคลียร์พื้นที่โดยรอบและอยู่เงียบๆเท่านั้น
ผู้รอดชีวิต
มังกรบิน
เลเวล 87
ผู้รอดชีวิต
หงส์บิน
เลเวล 64
ผู้รอดชีวิต
ควีน
เลเวล 60