คำเตือน
เนื้อหาในตอนนี้มีความรุนแรง
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ฮาสส กรร!!
ซอมบี้จำนวนไม่มากได้เข้าจู่โจมพวกเราในทันทีที่ลงมายังชั้นล่างสุดของหอประชุม ซึ่งพวกมันยังคงหลงเหลือหลังจากที่ผมได้กวาดล้างพวกมันไปครั้งหนึ่งตอนกลับมาจากดันเจี้ยน และถึงแม้มันจะเหลือเพียงน้อยนิด แต่มันก็สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับพวกทหารได้พอสมควร
“ปกป้องพวกเขาไว้ก่อนนะ” ผมกล่าวก่อนที่จะเห็นอะไรที่น่าสนใจ ซึ่งมันทำให้ผมคิดอะไรดีๆได้ทันที
“เขาจะทำอะไรน่ะ?” พวกทหารพากันสงสัยระหว่างที่กำลังจัดขบวนรอขึ้นรถ แต่หัวหน้าการปฏิบัติการในตอนนี้กลับเดินออกไปจากกลุ่ม ซึ่งเขาเดินผ่านพวกซอมบี้ไปอย่างง่ายดายราวกับไม่มีพวกมันอยู่ในสายตา แม้พวกมันจะยื่นหน้าพยายามจะกัดเขาก็ตาม เขาเพียงแค่เดินเอียงซ้ายเอียงขวาเล็กน้อยเท่านั้น
ครืด ครืด
เสียงดังออกมาจากลำโพงที่ติดอยู่รอบๆมหาลัย ซึ่งมันเอาไว้ประกาศข้อความต่างๆผ่านทั่วรั้วมหาลัย และในตอนนี้มันก็ถูกใช้โดยมังกรแล้ว…
“สวัสดี…นักศึกษาหรือผู้รอดชีวิต”
“ถ้าหากพวกคุณอยากรอด”
“คุณต้องทำอะไรกับสถานการณ์ในตอนนี้บ้างแล้ว” ผมกล่าว และมันทำให้เสียงของผมดังสะท้อนไปทั่วมหาลัย ซึ่งพวกซอมบี้ก็ได้เดินเข้าหาต้นเสียงหรือลำโพงพวกนั้นในทันที
“ในอีกสองชั่วโมง”
“ผมจะไปรอที่ลานกว้างกลางมหาลัย”
“คนที่อยากมีชีวิต…จงมาที่ลานกว้าง”
“หรือถ้าไม่สามารถมาได้…ใช้เสียงในการหลอกล่อพวกซอมบี้ที่กำลังล้อมพวกคุณอยู่”
“แล้ววิ่งให้ไว…เพราะพวกมันไม่สามารถวิ่งได้"
“ทำได้เพียงเดินเร็วเท่านั้น” ผมกล่าวผ่านไมค์ ก่อนจะหยุดพูดสักพัก
“ขอให้โชคดี” ก่อนจะกล่าวเป็นครั้งสุดท้ายและเดินออกมาจากห้องประชาสัมพันธ์ แน่นอนว่าในตอนนี้ผมมีทีม และผมมีพลังที่จะสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้แล้ว ซึ่งผมช่วยเหลือพวกเขาเพราะต้องการให้ซอมบี้กลายพันธ์เกิดขึ้นน้อยที่สุด รวมถึงผมจะช่วยควีนในการเคลียร์มหาลัยในอนาคต เพราะถ้าหากที่นี่จะถูกเรียกว่าเซฟโซนจริงๆแล้ว มันจะต้องไม่มีซอมบี้!
ครื้น บรื้นนน
เสียงรถมากมายได้ดังมาจากไกลๆ และมันเข้าใกล้พวกเราขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งพวกเขาขับมาด้วยความเร็วสูง และเมื่อรถทหารได้จอดลง มันทำให้พวกทหารยศใหญ่พากันวิ่งขึ้นรถอย่างทุลักทุเล ไม่สนใจความเป็นระเบียบที่จัดตั้งไว้ตั้งแต่แรก มันทำให้ผมถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างไม่พอใจ
ฮาาส ฉึก ฟึบ
และในขณะที่ผมกำลังเดินกลับไปที่บริเวณจอดรถ ผมก็ได้เดินจัดการซอมบี้ระหว่างทางรวมถึง ผมได้เก็บเยลลี่สีเขียวมาอีกด้วย และเมื่อผู้รอดชีวิตได้ขึ้นรถไปจนครบจำนวน พวกเราที่เหลือก็ได้กลับมารวมกลุ่มในทันทีหลังจากที่ประจำกันอยู่ทุกทิศ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นควีนที่คอยจัดการซอมบี้ ส่วนหงส์เธอไม่ได้ใช้หน้าไม้ เธอใช้เพียงแค่มีดสั้นในการฆ่าพวกมัน
[เปิดปาร์ตี้แชท]
มังกรบิน : หงส์
มังกรบิน : สั่งให้ดราก้อนบินไปดูระเบียงตึกหรือหน้าต่างตึกรอบๆ
และเมื่อผมสั่งงานกับหงส์ เธอก็ได้ทำตามที่ผมบอกในทันที โดยที่มังกรได้เป็นตัวสังเกตุการณ์รอบๆหอประชุมและบอกกล่าวข้อมูลกับหงส์อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งที่ผมสั่งให้หงส์ทำเช่นนั้น เผื่อว่าจะเจอกับพวกนักศึกษาที่น่าสงสาร และถ้าหากผมพอจะช่วยเหลือพวกเขาได้ ผมจะช่วย
“ไป!ไป!ไป!” พวกทหารพากันตะโกนออกมาด้วยความเร่งรีบ ซึ่งพวกเขาก็ไปในทันที และหัวหน้าทีมช่วยเหลือก็ได้วันทยาหัตถ์ให้กับหัวหน้าหน่วยรบพิเศษอย่างควีน ซึ่งควีนก็พยักหน้าให้ก่อนที่หัวหน้าทีมช่วยเหลือจะหันมาจ้องมองผม และด้วยทักษะติดตัว SEN ทำให้ผมสามารถรับรู้การถูกจ้องมองได้ เนื่องจากรถเพิ่งจะผ่านหลังผมไปได้เมื่อครู่
“รวมตัว!” ซึ่งเมื่อควีนสั่งการด้วยการชูมือขึ้นสูงและกำหมัดไว้ ทหารของเธอและศาสตราจารย์ทั้งสองท่าน พวกเขาก็มาอยู่เบื้องหลังของควีนในทันที ซึ่งการจากไปของรถทหาร ทำให้พวกซอมบี้พากันเดินตามรถ และเมื่อพวกเราหยุดนิ่ง ไม่ขยับพวกมันจึงไม่สามารถสัมผัสการมีอยู่ของเราได้ และเดินผ่านพวกเราไป
ฮาาส กรร กรรร
และเมื่อพวกซอมบี้ได้เดินผ่านพวกเราไปจนหมด ควีนก็สั่งการเริ่มเดินไปอย่างช้าๆในทันที เพราะพวกเรายังมีนัดช่วยเหลือเหล่าผู้รอดชีวิตในมหาลัยที่ลานกว้างอีกหนึ่งงาน และงานนี้มันเกิดจากมังกรที่มอบให้เธอ
[ข้อความจากแชทปาร์ตี้]
หงส์ : ดราก้อนบอกว่ามีกลุ่มคนน่าสงสัยที่อาคารเรียนของเชฟ
“…” และเมื่อหงส์พิมพ์มาเช่นนั้น มันทำให้ผมและควีนต่างมองหน้ากันและพยักหน้าให้กัน เป็นการเข้าใจกันว่าผมจะแยกออกไปจากกลุ่มเพื่อไปดูสถานการณ์ที่นั่น ส่วนกองกำลังของเธอจะไปประจำที่จุดนัดผม โดยที่มีหงส์คอยเป็นกำลังเสริม เพราะงานนี้ผมจะไปคนเดียว
ฟึบๆๆ
ผมได้พุ่งและวิ่งไปทางอาคารเรียนของเชฟในทันที ซึ่งมันอยู่ไม่ไกลจากหอประชุม มันเป็นอาคารเล็กๆคล้ายกับร้านอาหาร 3 ชั้น ซึ่งในทันทีที่ผมไปถึง ผมก็ได้เห็นกลุ่มคนที่คุ้นเคย มันคือกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ไม่ดี พวกมันเป็นพวกเห็นแก่ตัวพยายามปล้นและข่มขืน เมื่อผมเห็นเช่นนั้นจึงไม่มีอะไรต้องดูอีก ผมยืนขึ้นจากพุ่มไม้และเดินเข้าหาพวกมันในทันที
“เฮ้ย”
“ถอยไปนะเว้ย!” และเมื่อพวกมันเห็นผมที่มีอาวุธจึงยกมีดทำครัวขึ้นมาขู่ผมในทันที แต่ด้วยความไร้ปราณีของผมทำให้พวกมันต้องเป็นคนถอยไปเอง
ฉึบ ฟุบๆ
และในทันทีที่ผมใกล้จะถึงตัวพวกมัน ผมก็ได้วาดหอกของผมออกไปทันที ปลายหอกได้ฟันคอของพวกมันทั้งสามขาดและหัวของมันก็กระเด็นไปไกล พร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมาจากคอของพวกมันทั้งสาม จนในที่สุดเมื่อผมเข้าไปในอาคาร ร่างของพวกมันก็ทรุดลง
‘เดาว่าที่นี่คงจะไม่มีซอมบี้’
‘แต่มันก็เงียบเกินไป’ ผมคิดในใจพลางหันไปรอบๆบนเพดานจนได้เจอกับกล้องวงจรปิด ผมได้มองเข้าไปในเลนส์กล้องเพียงชั่วครู่ก่อนจะเดินหน้าต่อไป
“บะ…บ้าเอ้ย!?” หนึ่งในกลุ่มผู้รอดชีวิตของพวกนักเลงได้สบถออกมาเมื่อได้รับแรงกดดันจากการมองของผม สายตาของผมบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าจะฆ่าพวกมันให้หมด
“รีบไปบอกหัวหน้าเร็วเข้า!!” ซึ่งเพื่อนของมันเมื่อนึกขึ้นได้ก็ส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือไปยังหัวหน้าของพวกมันในทันที
“อ๊ากกก!" แต่ในทีที่พวกมันส่งข้อความออกไป เสียงร้องของผู้ชายคนนึงก็ดังขึ้นในทันที และมันยังคงดังอยู่อย่างนั้นอีกสักพักใหญ่ราวกับเพิ่งถูกตัดแขนมาสดๆ
ตุบแกร๊กก
จนในที่สุดประตูห้องควบคุมของอาคารเรียนเชฟก็ได้ถูกพังลง มันถูกถีบด้วยคนคนหนึ่งซึ่งก็คือมังกร ประตูได้กระเด็นออกไปจากบริเวณที่มันควรอยู่ในทันที ซึ่งเมื่อมังกรได้เข้ามาในห้อง พวกมันก็รอต้อนรับซะดิบดี ทั้งมีดทำครัวและมีดหั่นขนมปัง รวมถึงไม้เบสบอลได้โจมตีเข้าไปที่มังกร
แกร๊กเคร้ง ฟึบ
ซึ่งมังกรก็ได้วาดปลายหอกออกไปตามสัญชาตญาณ และมันทำให้อาวุธของพวกมันกระเด็นออกไปด้วยความที่พวกมันจับด้ามอาวุธไม่แน่นพอ รวมถึงไม้เบสบอลที่ถูกฟันหักสองท่อน และสุดท้ายคือหัวของพวกมันที่กระเด็นออกไปเหมือนเดิมคล้ายกับพวกยามข้างหน้าทางเข้าอาคาร
‘ถ้าหากช่วยไม่ได้ก็ฆ่าทิ้งซะล่ะกัน’ ผมคิดในใจ ถ้าหากมนุษย์คนไหนไม่สามารถช่วยเหลือได้ เช่นพวกหลอกลวง พวกเลวๆ พวกที่ทำร้ายมนุษย์ด้วยกันเอง พวกมันไม่ควรอยู่ในสังคมผู้รอดชีวิตหรือเซฟโซนในอนาคตแห่งนี้ ควีนที่เป็นทหารอาจจะต้องปล่อยผ่านพวกมันไปบ้าง แต่ผมไม่ใช่ มือผมมันเปื้อนเลือดมาตั้งแต่ชีวิตก่อน และผมไม่มีความสงสารให้กับพวกเลวๆอย่างพวกมัน
เพราะในครั้งหนึ่ง แก็งค์ของพวกมันก็เคยมาดักปล้นผม แต่ดีที่ตอนนั้นเจมส์ผ่านทางมาพอดี เขาช่วยผมและน้องสาว รวมถึงพาผมไปที่ค่ายทหารของจังหวัด และฝึกผมให้แข็งแกร่ง
ฟึบๆๆๆๆ
และเมื่อผมเห็นว่าเหล่านักศึกษารวมตัวกันอยู่ที่ไหน จึงไปที่นั่นในทันที และมันคือห้องบรรยายของตึกเชฟ มันสามารถจุคนได้เกือบร้อยคนเลยทีเดียว และนักศึกษาส่วนใหญก็อยู่ที่นั่น พวกเขานั่งอยู่บนพื้นและจับแยกชายหญิง ส่วนคนที่ยืนอยู่คือพวกเลวๆ และเมื่อผมเดินใกล้จะถึงห้องบรรยาย พวกมันก็ได้ออกมาต้อนรับผมซะเต็มทางเดิม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบางคนน่าจะเป็นคนที่เพิ่งถูกรับเข้ากลุ่มของมัน
วึบ
[เปิดใช้ดวงตาแห่งความจริง]
“พวกแกไม่ได้รับการอภัย”
“เพราะพวกแกได้เลือกเส้นทางนี้แล้ว” ผมกล่าวออกไป ต่อให้พวกมันต้องทำเพื่อความอยู่รอดหรืออะไรก็ตาม คำพวกนั้นไม่สามารถหลอกผมได้ เพราะป้ายกำกับมันบ่งบอกถึงตัวตนของพวกเขาอย่างชัดเจน ‘ทรยศ’ 'ปรสิต' ‘โรคจิต’ คำพวกนี้มีมากมายสำหรับกลุ่มคนที่เต็มทางเดิน และผมไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปหาพวกมันในทันที
ฟึบๆๆๆๆๆ
“…” พวกมันไม่แม้แต่จะร้องออกมา เพียงแค่ผมตวัดหอกออกไป พวกมันเบื้องหลังก็่ได้ถอยเข้าไปในห้องทันที และทำให้พวกมันที่อยู่ตามทางเดินตายไปสิบกว่าคน และมันเกินครึ่งของจำนวนที่มีอยู่
“หยุด!”
“ไม่ว่าแกจะมาจากไหนแต่ผู้…บริ….” ในขณะที่พวกมันกำลังกล่าว และใช้กลุ่มหญิงสาวเป็นตัวประกันในการข่มขู่ผม ผมไม่สนใจและเดินเข้าหาพวกมันต่อไปเรื่อยๆ จนกลุ่มผู้ชายพากันตกใจในการกระทำของผม ซึ่งที่จริงแล้วมันคงเป็นทุกคนในห้อง
“พวกแกไม่กล้าหรอก” ผมกล่าวออกไป ซึ่งแน่นอนว่าพวกมันไม่กล้าฆ่าใครอย่างแน่นอน ยกเว้นแต่พวกกำลังหลักของกลุ่ม ซึ่งพวกมันน่าจะอยู่ที่ห้องอื่น
“อื้อ!อื้อ!!ฮึก!ฮืฮ!ฮือ!” เสียงร้องของหญิงสาวดังออกมาจากห้องข้างๆ และมันทำให้กลุ่มคนที่นั่งอยู่ถึงกับหดหู่ มันทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ฟึบฉึก
ผมไม่รอช้าอีกต่อไป ผมจึงเขวี้ยงมีดสั้นออกไปสองเล่ม เข้าที่หัวของพวกมัน จนร่างของมันทั้งสองทรุดลงพื้นในทันที ซึ่งทำให้เหลือพวกมันเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น และมันไม่เกินความสามารถของผม ซึ่งเมื่อพวกมันได้ตายลง
“กรี๊ด!!!” กลุ่มหญิงสาวพากันร้องออกมาด้วยความกลัวและทำอะไรไม่ถูก
ฟึบๆ ฉึก
“อึก…” ชายคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มคนที่นั่งได้ลุกขึ้นและพุ่งเข้าหาพวกมันที่ใกล้ตัวที่สุด พร้อมกับใช้มีดที่แอบซ่อนไว้แทงเข้าไปที่หน้าท้องของมัน และทำให้มันคนนั้นหงายหลังลงไปพร้อมกับมีดที่ปักอยู่ตรงหน้าท้องข้างขวา ซึ่งสีหน้าของชายคนนั้นราวกับต้องการแก้แค้นอะไรบางอย่างก่อนที่เขาจะรีบวิ่งออกไปจากห้องในทันที
“เหลือ 3” ผมกล่าวก่อนที่จะเล็งบริเวณขาของพวกมัน
ฟึบๆๆ
ซึ่งผมก็ได้พุ่งเข้าไปหาพวกมันและใช้ปลายหอกตัดขาของพวกมันทิ้งอย่างรวดเร็ว ยิ่งพวกมันยืนจับกลุ่มกันอยู่ยิ่งง่ายดายนัก ซึ่งเมื่อพวกมันล้มลง ผมก็ได้เตะมือของพวกมันจนอาวุธในมือได้ปลิวออกไป
“จัดการกันเองล่ะกัน” และในทันทีที่ผมกล่าวออกไปเหล่าผู้ชายก็พากันพุ่งเข้าหาพวกมันทั้งสาม
“อย่า!อย่า!!” แม้ว่าพวกมันจะร้องขอขนาดไหนพวกมันก็ต้องถูกกระทืบโดยเหล่าผู้ล้างแค้น รวมถึงผู้หญิงบางคนที่ช่วยซ้ำเติมพวกมันเช่นกัน สุดท้ายผมก็ได้รีบออกจากห้องและไปยังห้องที่ประตูเปิดอยู่ในทันที
“แก!!!!!!" เสียงผู้ชายคนนึงตะโกนดังลั่นด้วยความเจ็บปวด เพราะหัวใจของเขากำลังถูกย่ำยี เขาโกรธจนตัวสั่นเมื่อผมได้เข้าไปในห้อง
ฟึบฉึกแกร๊กก
และเมื่อผมได้เห็นสถานการณ์ข้างในที่ผู้ชายร่างใหญ่กำลังยิ้มด้วยความสนุก ส่วนเบื้องล่างของมันคือหญิงสาวตัวเล็กที่กำลังร้องไห้ พร้อมกับชุดที่ถูกกระชากออกจนเผยให้เห็นถึงผิวพรรณที่ขาวเนียนในชุดนักศึกษาที่ขาดรุ่งริ่ง ซึ่งผมก็ได้เขวี้ยงหอกของผมออกไปแทงทะลุที่ต้นขาข้างซ้ายของมัน แต่ท่าที่มันกำลังยืนอยู่ทำให้ปลายหอกได้แทงทะลุต้นขาทั้งสองข้าง และด้วยความโกรธของผมทำให้ผมได้เขวี้ยงหอกไปอย่างรุนแรงจนปลายหอกแทบจะเจาะทะลุผนังห้องได้เลยทีเดียว
“แกนะแก!!” ชายที่อยู่เบื้องหน้าผมได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธอีกครั้งและจะพุ่งเข้าหามันที่กำลังนั่งคุกเข่าด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากโดนปลายหอกของผมแทงทะลุต้นขาทั้งสองข้าง และทำให้ร่างของมันถูกตรึงไว้ที่กำแพง
ฟึบ
“ไปดูผู้หญิง” ผมกล่าวและผลักชายคนนั้นออกไปให้พ้นๆทาง และเดินเข้าไปหาชายที่ถูกตรึงไว้พร้อมกับค้นตัวมัน ซึ่งผมค้นไม่พบอาวุธ ซึ่งเมื่อหันกลับไปก็พบว่าหญิงสาวและชายหนุ่มได้กอดกันอย่างแน่น ทั้งคู่ร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง โดยที่ผมเห็นว่าไม่มีอันตรายแล้วจึงลุกขึ้นดึงหอกออกเตะมันให้สลบ และจะเดินออกไปจากห้อง
“มีดอยู่บนโต๊ะอาจารย์" ผมกล่าว ซึ่งมีดอยู่ที่มุมซ้ายห้อง โดยที่พวกเราเข้ามาทางขวา
“แต่ถ้าจะให้ดี…ทรมานมันให้รู้สึกว่าการตายจะดีกว่า” ผมกล่าวพลางเดินออกไปจากห้อง ถึงแม้ผมจะไม่เกี่ยวข้องกับทั้งคู่ แต่ผมรู้สึกเจ็บใจแทนเป็นอย่างมาก รู้สึกแค้น รู้สึกอยากฆ่ามันให้ตายนับไม่ถ้วน
และในครั้งนี้ที่ผมออกจากห้องมา ก็พบกับพวกมันที่เตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับผมแล้ว ทั้งหัวหน้ากลุ่มและสมุนหลัก ซึ่งตัวหลักของพวกมันก็ได้ถูกตรึงไว้แล้วในห้องที่ผมเพิ่งจะออกมา
“ไม่หยุดยิงนะเว้ย!” หัวหน้าของพวกมันตะโกนออกมา ซึ่งถ้าเป็นกลุ่มหลักของพวกมัน ผมมั่นใจว่ามันกล้ายิง กล้าฆ่าคนอย่างแน่นอน ซึ่งผมก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ
ปัง! แกร๊ก
และในทันทีที่มันยิงปืนออกมา ผมได้ใช้ขวานผ่ากลางกระสุนนั้นในทันทีจนกระสุนได้แฉลบไปบริเวณข้างๆทางเดิน ทำให้พวกมันถึงกับอ้าปากค้างแต่ก็ยังคงไม่ลืมสิ่งที่ต้องกระทำในตอนนี้ นั่นก็คือฆ่าผม!
ปังๆๆ แกร๊กๆๆ
ไม่ว่ามันจะยิงมากี่นัด ผมก็สามารถผ่ากระสุนของมันได้ทั้งหมดด้วยความเร็วของผม ในเมื่อพวกมันยังไม่ได้รับการวิวัฒ และเป็นผู้เล่นเอาชีวิตรอด ความเร็วในกระสุนของพวกมันจึงยังเป็นปกติ ต่างจากผมที่มีทักษะติดตัว SEN เข้ามาเสริมนอกจากแต้ม AGI ที่มากมายของผม
“แกเป็นตัวอะไรวะเนี๊ย!?” ซึ่งตั้งแต่ที่ผมใช้ดวงตาแห่งความจริง ผมก็ยังไม่ได้ปิดการใช้งานมัน ทำให้ผมยังคงดูคุณสมบัติทุกๆคนที่ผมเจอ ไม่ว่าจะชายที่ผมใช้หอกตรึงไว้ที่มีสถานะมี 'ความสุข' ราวกับเป็นโรคจิต ส่วนพวกมันเบื้องหน้าผมในตอนนี้ต่างมีสถานะ 'สับสน'
ฉับ!!
ผมวาดหอกออกไปเพียงครั้งเดียว และทำให้พวกมันที่ยืนกันเป็นกลุ่ม ครึ่งตัวบนของพวกมันค่อยๆเอียงและไถลลงไปบนพื้น ระหว่างนั้นผมจึงคิดว่าดีแล้วที่ไม่ให้หงส์มาด้วย มิฉะนั้นเธออาจจะหดหู่กับสถานการณ์นี้ไปหลายวัน และมันดีแล้วที่ผมเป็นคนฆ่าพวกมันด้วยตัวเอง ไม่มีสงสาร ไม่มีเห็นใจ ไม่มีปราณี จนในที่สุดทั้งครึ่งบนและครึ่งล่างของพวกมันได้ฟุบลงสู่พื้น